"สองคนผัวเมียนักศึกษา" กับคำถามของสังคมวันนี้ (ยังอยู่) ... " มีความคิดเห็น มีเหตุผลอย่างไรเมื่อต้องมาอยู่กินกันในหอพัก หรือ อพาทต์เมนท์ ฉันฑ์ สามี-ภรรยา เพียงสองต่อสองโดยลำพัง ในขณะที่ยังศึกษาอยู่ " คำตอบที่น่าฟัง จากลูกหลานของเราวันนี้ ... เราเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง ที่ต้องเข้ามาศึกษาต่อที่กรุงเทพ ไม่มีญาติ ไม่มีเพื่อน ฐานะทางบ้านก็ค่อนข้างยากจน พ่อกับแม่ทำงานหาเช้ากินค่ำ หาเงินส่งให้เรียนแทบไม่พอ แต่ต้องทน เพียงเพื่อต้องการให้ได้เรียน อยู่นี่ ต้องทน ... เพราะไม่มีใครเลยจริงๆ ทุกอย่างต้องใช้เงิน ไม่มีเงินก็อดตาย ใหนจะค่าหอพัก ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ จิปาถะ ต้องใช้ความอดทนอย่างสูงในการดิ้นรนเพื่อให้ได้อยู่ ได้เรียน อยู่กินกันแบบปากกัด ตีนถีบ ไม่มีใครเลยจริงๆ เจ็บป่วยทีก็ไม่รู้จะหันหน้าไปทางใหน จะเลิกเรียนไปเลยก็สงสารพ่อแม่ ... แต่บังเอิญได้เจอผู้ชายแสนดีคนหนึ่ง เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เขาเป็นทั้งเพื่อน ทั้งพี่ เป็นคนรัก ช่วยในส่วนขาด เราอยู่กันด้วยความรัก ช่วยกันแชร์ค่าห้อง ค่าอยู่ค่ากินในแต่ละมื้อ ต้องเลือกหรือที่จะต้องเป็นคนดีที่สุด ในขณะที่เราหมดทางเลือก และไปใหนต่อไม่ไหว เราเลือกที่จะเรียนต่อเพื่อความหวังของพ่อแม่ และอนาคตของตัวเราเอง ถึงทางเลือกของเราคือความชั่วร้าย ของสังคมก็จริง แต่นั่นมันคือหนทางแห่งความสำเร็จของการศึกษา ที่รออยู่สำหรับเราข้างหน้า "เราอยู่กันที่นี่ด้วยความรัก และความเข้าใจ" ... ... อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร ?
16 พฤษภาคม 2550 15:43 น. - comment id 96181
ดีจ้า คุณเพลง-ทิชากร.... ก็นับว่าเป็นเรื่องที่พบเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน เจนก้อไม่เคยอยู่หออ่ะจ้า แต่ก้อมีคนเคยเล่าให้ฟังว่า ส่วนใหญ่จะอยู่กะแฟนหรือไม่ก้ออยู่กะเพื่อน เค้าก้อว่าชีวิตมันไม่ได้สวยงามเสมอไป แม้จะบอกว่าอยู่กันด้วยความรักความเข้าใจ แต่จริงๆมันคงต้องคิดถึงอะไรที่มากกว่านั้น ถ้าพ่อแม่รู้เค้าจะรู้สึกอย่างไร เสียใจไหม เจนว่าเค้าคงไม่ยอมให้ลูกต้องมาแลกอะไรแบบนี้ (ถ้าพ่อกะแม่เค้ารู้แต่ส่วนใหญ่มักไม่รู้เนี่ยดิ)..... แต่ก้อไม่ได้ว่าพวกเค้าจะเป็นคนไม่ดีอะไร....ก้อล้านคนล้านเหตุผล....ถ้าทำแล้วมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนเสียใจก้อทำไป รับผิดชอบตัวเองและผลที่ตามมาได้ ก้อพอแล้วหล่ะ
16 พฤษภาคม 2550 16:27 น. - comment id 96182
lสวัสดีคะ คุณเพลง-ทิชากร ทราบมาว่าลูกคุณจะเข้ามหาลัย คงเป็นห่วงน่าดูนะคะ พ่อแม่หนูก็เช่นกัน หนูเคยไปอ่าเจอในหนังสือพิมพ์ค่ะ เค้าไปสัมพาด นักศึกษา ชายหญิงที่อยู้ด้วยกันค่ะ เค้าก้อถามฝ่ายหญิงที่อยู่กับแฟนว่า รู้สึกยังที่อยู่กะแฟนตัวเองขณะที่เรียน ผู้หญิงตอบว่า ก้อดีที่มีคนคอยดูแลปกป้องเรา อะไรอีกก็ไม่รุค่ะจำไม่ได้ แต่พอถามมฝ่ายชาย กลับบอกว่า ก็ดีที่มีคนซักเสื้อผ้ารีดผ้าให้ ช่วยทำงานส่งครู ตอนที่อ่านอึ้งเลยคะ อยากให้นักศึกษาหญิงที่อยู่กับแฟนมาอ่านเจอจังค่ะ เค้าคงจะคิดได้(มั้งคะ)
17 พฤษภาคม 2550 11:29 น. - comment id 96190
เหตุผลที่ว่ามาก้น่าเห็นใจครับ... แต่คงไม่ใช่ทุกคนหรอก..พวกรักสนุกก็มีมาก ถึงอย่างไร..ผมก็ยังหัวโบราณกับเรื่องทำนองนี้...ไม่เคยเห็นดีเห็นงามด้วยเลยครับ...
19 พฤษภาคม 2550 11:54 น. - comment id 96213
สวัสดีค่ะ ฉันก็เป็นอีกคนที่หัวโบราณและไม่เห็นด้วย แต่ก็ยังมีใจอีกด้านที่ยังรับฟังเหตุผลค่ะ ที่จริงแล้วการอยู่ด้วยกัน พึ่งพาอาศัยกันก็เป็นเรื่องที่ดี ถ้าทั้งสองคนทำในสิ่งที่ดีเช่น ช่วยเหลือกันทั้งด้านเงิน ด้านการเรียน ด้านความเป็นอยู่และการวางตัว ถึงลำบากก็ยอมเพื่อที่จะได้เรียน ถึงจะอยู่ด้วยกันก็น่ายกย่องมากกว่า เด็กบางคนที่เห็นการอยู่ด้วยกันเป็นเรื่องสนุก เป็นแฟชั่น เด็กที่มองแบบนี้มันจะมองเห็นเรื่องของความสุขมากกว่าจะคำนึงถึงความทุกข์เลยมักจะทำแต่เรื่องสนุก เช่น เที่ยว กิน ไม่สนใจเรียน อะไรที่ลำบากก็ไม่ยอมทำ ใช้เงินอย่างสนุก บางคนพ่อแม่ส่งเงินมาให้แบบที่อยู่คนเดียวก็ได้อย่างสบาย แต่ก็ยังไม่พอใจ ก็ต้องหาคนอยู่ด้วยเพื่อนำงานส่วนที่เหลือไปใช้ส่วนที่ฟุ่มเฟือย เพราะฉะนั้น บางคนดี บางคนก็ไม่ดี พ่อแม่ต้องมาดูลูกบ่อยๆ อย่าวางใจ เพราะเด็กก็คือเด็ก ความคิดและสติปัญญาเขายังไม่โตพอที่จะคิดว่าอะไรควรไม่ควร อย่าไว้ใจเขามากไป แต่ก็ไม่ได้ให้ระแวงจนน่าเกลียด เอาเป็นว่า เดินทางสายกลางนะคะ
19 พฤษภาคม 2550 13:30 น. - comment id 96215
คุณเพลง-ทิชากร แพรวก็อยู่หอพักค่ะ เลือกที่จะอยู่คนเดียว เพราะพอที่จะจ่ายค่าหอคนเดียวได้ แถวนั้นมีบ้านญาติอยู่เยอะด้วยค่ะ ก็เลยไม่ค่อยลำบากอะไร มีเพื่อนหลายคนค่ะ ที่อยู่กันแบบสามี ภรรยา เพื่อนแพรวก้เยอะค่ะ โดยมากแล้ว พ่อแม่จะไม่รู้ หรือที่รู้ก็มี แต่น้อยค่ะ เหตุผลอย่างอื่นก้ไม่รู้ค่ะ ที่รู้ก้คือ เค้าบอกว่า "ก็รักกันอยุ่ด้วยกันไม่เห็นแปลก " แค่นี้ค่ะ ที่เคยถาม แล้วได้คำตอบ จากนั้นก้ไม่เคยละลาบละล้วงอะไรอีก แต่บางทีเราต้องรับกรรมนะคะ เป็นบาปที่น่าละอายค่ะที่ต้องช่วยแก้ตัวให้เพื่อน และหลอกพ่อแม่ของพวกเค้า แย่จังเลย แต่จะไม่ช่วยก็ไม่ได้ คบกันมานาน ได้แต่คอยเลี่ยงๆค่ะ แต่บางทีก็ไม่พ้น เอาเป็นว่าต่างคนต่างความคิด อยู่ด้วยกันแล้วดีก็อยู่ไปค่ะ ถ้าไม่ทำให้เสียอนาคต ไม่เสียการเรียน และก็ไม่เสียแรงที่พอแม่อุตส่าห์ส่ง แต่ก้ไม่ได้สนับสนุนนะคะ เอาชนะใจตัวเองได้ นั้นหล่ะดี
21 พฤษภาคม 2550 00:32 น. - comment id 96245
ผู้หญิงมีแต่เสียกับเสีย คิดดีแล้วหรือที่ทำแบบนั้น ผู้หญิงคือเพศแม่ที่ควรได้รับการเชิดชู และจรรโลงโลกให้เป็นไปด้วยปกติสุข ผู้หญิงเปรียบเหมือนที่ที่อบอุ่นของลูกๆ การที่คุณไม่รักนวลสงวนตัว โดยเอาเหตุผลแบบนี้มาอ้าง ทั้งๆที่ มีหนทางอีกเป็นร้อยเป็นพันที่จะแก้ปัญหา ที่คุณเป็นอยู่ได้ อย่าได้เอาความทนทุกข์ ของพ่อแม่มาอ้าง หรือความยากจนมาอ้างเลย มันเป็นการดูถูกคนที่เขาไม่มีแบบคุณแต่เขาไม่คิดจะทำแบบคุณ เสียดาย ที่เกิดมาเป็นหญิง แต่ไม่รู้จักรักษาคุณค่า ของความเป็นผู้หญิง
28 พฤษภาคม 2550 20:47 น. - comment id 96365
มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วสำหรับสังคมไทยที่ยอมรับวัฒนธรรมตะวันตกมากจนเกินไป และมัวเมาแต่วัตถุนิยม สิ่งที่บรรพบุรุษเค้าเคยปฏิบัติมา นับวันเริ่มเลือนหาย หาว่าเชย ไม่ทันสมัย ไม่เชื่อดูการแต่งเนื้อแต่งตัวของนักศึกษาปัจจุบันก็ยังมีให้เห็นอยู่ แล้วจะไม่ให้นักเรียนนักศึกษาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร