(ตอนที่ 3 ตอนจบ) เสียงหมู่นกเรียกกันกินหมากไม้สุกบนต้นไม้ที่น้ำตกคงติดหูจี๊ดและวงรุ้ง สองสาวพูดคุยกันว่าน่าจะได้มาที่นี่นานแล้ว และกลับไปสำนักงานจะเล่าให้พรรคพวกที่นั่นฟัง จะไปบ้านพี่ชิดกันหรือยังครับ ผมไม่ได้บอกพี่เขาไว้เลย เราน่าจะได้แวะไปที่นั่นช่วงบ่ายโมงเศษ เขาจะได้ไม่ยากลำบากเรื่องอะไรต่าง ๆ เกี่ยวกับพวกเราจนเกินไป ก็ดีค่ะ ไปเหอะจี๊ด สองสาวปีนขึ้นซ้อนท้ายเจ้ายามาฮ่าดีทีคู่ชีพของผมอย่างคุ้นเคย เราออกมาจากผาน้ำตกด้วยความรู้สึกอิ่มเอม รุ้งเคยพักบ้านพี่ชิดแล้วนี่ใช่ไหม ช่าย ก็ตอนมาคราวก่อนไง แฟนพี่ชิดใจดีมากสอนเราทำกับข้าวตั้งหลายอย่าง น้ำพริกงี้เราก็เป็นแล้วนะ แต่คงไม่เก่งอย่างคนข้างหน้ามั้ง เออจริงสินะ ยังจำรสชาติน้ำพริกของเขากับไข่ขมของเธอได้ นี่ ๆ อย่าพูดถึงมันอีกนะ อาย.....อายเจ้าของบ้านเขา คนขับรถเครื่องฟังไปยิ้มไป ครู่เดียวเราก็มาถึงบ้านชาวบ้านที่หญิงสาวสนิทสนมด้วยมากที่สุด เจ้าของบ้านทั้งสองคนนั่งอยู่ที่แคร่ไม้ไผ่ใต้ถุนบ้าน ผมชะลอรถและจอดที่ ใต้ร่มขนุนข้างเรือน หญิงสาวปีนลงแล้วเข้าไปไหว้เจ้าบ้านอย่างคุ้นเคย สวัสดีค่ะพี่ชิด พี่บัวเผื่อน นี่จี๊ดเพื่อนของรุ้งเองค่ะ เขาได้ยินที่รุ้งเล่าให้ฟังแล้วอยากมา รบเร้าให้พามาเยี่ยมหมู่บ้านหลายวันแล้ว เพิ่งสบโอกาสค่ะ อ๋อ คุณรุ้งนั่นเอง จ้า หวัดดีจ้า..เจ้าของบ้านรับไหว้ผู้มาใหม่ เมื่อกี๊พี่ชิดก็กำลังพูดถึงอยู่พอดี มาก็ดีแล้วจะได้พาไปดูปลาและปูที่บ่อ กำลังโตเชียว สายฟ้า เอาข้าวของขึ้นเก็บให้เพื่อนก่อนนะ แล้วเราออกไปที่บ่อปลากัน พี่ชิดบอกผมอย่างคุ้นเคยแบบน้องนุ่ง เดี๋ยวเย็นนี้จะทำปูภูเขาให้กิน คุณรุ้งยังจำรสชาติของปูภูเขาได้ไหม คนถามหันไปทางเพื่อนของจี๊ดที่ตอนนี้สีหน้าแช่มชื่นมาก เยี่ยมยอดมากเลยค่ะพี่ชิด หวาน ๆ เค็ม ๆ กินที่น้ำตกด้วยแหม บรรยากาศส่งให้รสชาติดีเหลือเกิน ผมเชื่อว่าคนได้ยินก็คงเป็นปลื้ม งั้นเราออกไปที่นั่นกันเถอะ วงรุ้งเดินตามพี่ชิดออกไปกลางนา จี๊ดตามวงรุ้ง ส่วนผมเดินปิดท้าย เสียงทั้งสามคนสนทนากันออกรส หัวเราะร่วน โดยเฉพาะเมื่อมีเจตนาจะแซวคนที่เดินรั้งท้ายสุด คร๊าบ เชิญท่านหลังหลายเผาข้าพเจ้าเถิด ท่านหารู้ไม่ว่าข้าพเจ้านั้นมีสุขยิ่ง ๆ แล้ว ในถ้อยนินทานั้น ๆ ฮ่า ๆ ภูมิทัศน์รอบบ่อปลาและบ่อเลี้ยงปู ผมพูดถึงไปแล้วในตอนก่อน ๆ วงรุ้งชี้ให้เพื่อนชมพืชผักและปูกับปลาอย่างกับเป็นเจ้าของพื้นที่นี้เอง เจ้าภาพกล่าวเสริมคำอธิบายของวงรุ้งสอดรับอย่างกับเป็นคู่วิทยากร ไม่น่าเชื่อว่าฝ่ายการเงินที่แต่ละวันยุ่งอยู่กับบัญชีและตัวเลขจะทำหน้าที่อย่างผู้ประสานงานสนามด้วยก็ได้ รู้อย่างนี้ผมชวนมาช่วยผมจัดประชุมผู้นำชุมชนตั้งนานแล้ว พี่ชิดหยิบเอาคันเบ็ดไม้ไผ่ที่ยาวราววาเศษ ๆ มาใส่มือวงรุ้งและว่า หนก่อนผมทึ่งฝีมือตกปลาของคุณรุ้งนะ วันนี้ต้องแสดงฝีมืออีก วงรุ้งยิ้มยินดีรับเบ็ดและถุงเหยื่อไปถือไว้ คุณจี๊ดกลัวไส้เดือนหรือเปล่า พี่ชิดหันมาถามสาวอีกคนที่คงทึ่งในความสามารถของเพื่อนร่วมงานที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน นี่เธอไปหัดมาตั้งแต่เมื่อไหร่จ๊ะรุ้ง ฉันไม่ยักรู้เลยว่าเธอตกปลาได้ ก็เคยตกปลากะเตี่ย พี่สาวรู้เข้า เขาไม่ยอมให้กินข้าวด้วย เราต้องปลาที่ตกได้มาคลุกเกลือเผากินกันสองพ่อลูก นึกถึงตอนเป็นเด็ก ๆ แล้วก็ขำพี่สาว ป่านนี้ไปแต่งงานกับเสี่ยที่บ้านนอก เขาคงพากินปลิงแล้วมั้ง เนี่ยแหละเขาถึงว่า คนเราถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันก็ไม่รู้จักกัน นั่นเป็นถ้อยคำของจี๊ดครับ ปลา ๆ ปลาฮุบเหยื่อ สงสัยโตมาก พี่ชิดช่วยด้วยค่ะ ปลาดึงแรงมาก อุ๊ย ๆ ลื่น จัง โครม.... มือเบ็ดสาวของเราพลาดลื่นลงน้ำครับ แต่ความลาดเทของบ่อปลาไม่มากนัก เธอจึงประคองตัวไม่ให้ลื่นลึกไปมากกว่านั้น ไม่เป็นไรนะครับ ทั้งเจ้าของบ่อและคนขับรถเครื่องขยับเข้าไปจะยื่นมือช่วย แต่คนเก่งของเราเก่งกว่า เธอกลับขึ้นมายืนที่ตลิ่งได้อีกครั้ง เพียงแต่เปียกและมอมแมมบ้างเท่านั้น โอ๊ะโอ๋...เหมือนหมาน้อยตกน้ำเลยเพื่อนเรา จี๊ดทั้งปลอบแซวเพื่อน เหมือนกันเลย เมื่อพี่สาวที่บ้านเลย แทนที่จะปลอบให้กำลังใจก็ว่าเราเป็นหมาน้อยตกน้ำ เดี๋ยวเถอะจะผลักลงน้ำให้สายฟ้าไปช่วยขึ้นมาบ้าง อย่าพูดเล่น ๆ นารุ่ง เป็นจริงขึ้นมาจะทำใจยังไงน่ะเธอ เพื่อนของจี๊ดค้อนแขว็บ ( ไม่ถึงกับขวับ แว้บเดียว ไม่ช่างสังเกต ไม่เห็น) วงรุ้งได้ปลาหลายตัว พอสำหรับมื้อเย็น พี่ชิดกับผมช่วยกันจับปู ที่บ่อเลี้ยงปูข้าง ๆ บ่อปลา เราเด็ดเอายอดบวบ ฟัก และผักอื่น ๆ อีกเพื่อเตรียมทำมื้อเย็น สีหน้าของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความสุขและสดชื่น ผมหยิบกล้องมาเก็บภาพเหล่านั้นไว้ อืม..สองสาวช่างสดใสและสดสวยเป็นธรรมชาติเหลือเกิน วี่แววแบบสาวออฟฟิสผู้หยิ่งยะโสแทบไม่ปรากฏให้เห็นบนวงหน้ากับเสื้อผ้าที่มอมแมมของหญิงสาวคู่นั้นเลย วันนี้สายฟ้าแสดงฝีมือทำกับข้าวนะ พี่ชิดยักคิ้วหลิ่วตา ผมรู้ความหมายว่าพี่เขาอยากให้ผมคำคะแนน ตีตื้น ผมนึกขำในใจ ในความปรารถนาดีนั้น แต่ผมก็ได้บอกพี่บัวเผื่อนไว้แล้วว่า ขอให้ดึงลูกมือสองสาวช่วยทำกับข้าวมื้อเย็นนี้ให้ได้ เหอะน่าพี่ชิด อนาคตจะเป็นอย่างไร ผมไม่ได้คาดหวังมากหรอก ขอมีความสุขกับปัจจุบันก็พอ ผมนึกบอกพี่ชิดอยู่ในใจ เย็นนั้นคนทำกับข้าวมื้อเย็นคือพี่บัวเผื่อนกับสองสาวตามที่ผมแอบแพลน จนเช้าวันใหม่ที่เราออกจากหมู่บ้าน ผมจึงได้รับรู้ว่า สองสาวทั้งอายทั้งเขินที่ไม่ประสีประสาเรื่องชนิดและขนาดของเครื่องปรุงเอาเสียเลย เธอว่า คอยดูเถอะ ถ้าสายฟ้าเข้าเมืองไปเมื่อไหร่จะคิดบัญชีแค้นให้สาสม ผมได้แต่หัวเราะฮา คืนนั้นเราคุยกันอยู่จนดึก พี่ชิดเล่าให้วงรุ้งและจี๊ดฟังว่า ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านเป็นอย่างไรบ้าง สังคมหมู่บ้านเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง พี่บัวเผื่อนก็นั่งฟังอยู่ด้วย จนดึก สองสาวบอกเจ้าของบ้านว่าดีใจมาก ๆ ที่ได้แวะเข้ามาในหมู่บ้านในหุบเขา ประทับใจเกือบทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ วันข้างหน้าถ้ามีโอกาสจะกลับมาเยี่ยมอีก เราออกจากหมู่บ้านตอนสาย ๆ เมื่อธนาเอารถมารับ เป็นไงจ๊ะสองสาว นอนที่บ้านชาวบ้านสบายใจไหม สบายมากจ้ะ คุยกันอยู่จนดึก พอล้มตัวลงนอนก็หลับเป็นตาย เออนี่ พี่ได้ทราบจากรองผู้อำนวยการนะว่าเธอทั้งสองคนได้งานใหม่ที่สถานทูตอเมริกันประจำประเทศไทย ไม่เห็นบอกกันเลย หญิงสาวทั้งคู่อึ้ง พยายามจะอธิบาย แต่คนมารับก็ชิงตัดบท ไม่เป็นไรหรอก น้อง ๆ ได้งานที่ดีกว่าพวกพี่ก็ดีใจด้วย ผมอึ้ง ..ต่อสิ่งที่ได้ยินชัดเต็มสองหู ขับรถเครื่องไปหัวใจก็แทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัว สายฟ้าคงไม่โกรธนะคะ ที่เหมือนเราปกปิดอะไรบางอย่าง แต่อยากจะบอกให้รู้ว่า รุ้งชอบคุณมาก ประทับใจ ประทับใจชาวบ้าน ประทับใจงานของคุณ วันข้างหน้ารุ้งหวังว่าจะได้กลับมาเยี่ยมคุณและหมู่บ้านอีก 3 ปีที่ผมทำงานในหมู่บ้าน ไม่เคยมีเช้าไหนที่เหงาหงอยอย่างเช้านี้อีกเลย เมื่อกลับไปถึงสำนักงานสนาม รถโฟร์วีลล์จากสำนักงานใหญ่ก็จอดรอยู่ตรงนั้นแล้ว พนักงานขับรถบอกว่า ผู้อำนวยการสั่งเขาให้มารับสองสาว ขอบคุณครับ วงรุ้งที่มาวาดฟ้าให้ผมฝัน ผมจะจดจำยิ้ม น้ำเสียงและถ้อยคำของคุณไว้ตราบเท่าที่หัวใจของผมยังคิดฝัน
2 พฤษภาคม 2550 12:49 น. - comment id 96045
สวัสดีครับมิตรของผม ผมติดธุระต่างจังหวัด ไม่ได้เข้ามาเขียนหลายวันนะครับ
2 พฤษภาคม 2550 13:13 น. - comment id 96046
....สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์ แวะมายิ้มยามสายๆค่ะ อ่านแรกๆก็อมยิ้มหรอกคะ ยิ่งตอนที่ตกเบ็ดในบ่อ แล้วขำ คิดถึงตัวเองสมัยเด็กๆ ที่ไปจับไส้เดือนมาเป็นเหยื่อ จนพี่สาวด่าไม่ให้กินข้าวด้วย อ่านแล้วขำ หัวเราะออกมาเลยคะ .....แต่สุดท้ายก็เศร้าค่ะ วงร้งไม่น่าจากชนบทไปเลย เสียดาย ถ้าฉางน้อยเป็นวงรุ้งคนนั้นจริงๆคงไม่ไปไหนหรอก อยู่กับชาวบ้าน อยู่กับคนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้กับเรา แต่ก็ทราบคะ คนเราต่างก็มีเหตุผลการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันไป...... ........ชอบ คำพูดของสายฟ้าจังค่ะ ที่บอกว่า... ..อนาคตนั้นจะเป็นอย่างไร ช่างเถอะ ขอมีความสุขกับสิ่งที่เป็นปัจจุบัน... อ่านแล้วคิดตามคะ เฮ้ออออออ..สงสารคุณสายฟ้า อิอิ .........ขอบคุณมากๆกับเรื่องราวที่ดีๆที่นำมาเขียนให้อ่านค่ะ ประทับใจมากไม่ว่าบท ฉาก ภูเขา ลำธาร ตัวละครต่างๆที่สื่อคำพูดออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ..........ก็คาดคิดอยู่แล้วคะ ว่าคุณต้องผ่านประสบาการณ์จริงมาบ้างพอสมควร เขียนได้เป็นธรรมชาติมากๆ ....ขอบคุณๆๆค่ะ
2 พฤษภาคม 2550 13:22 น. - comment id 96047
....อ่านแล้วน้ำตาซึมนิดๆ สงสารคุณสายฟ้า กับคำพูดที่เขาพูดว่า... "..ขอบคุณ คุณวงรุ้งที่ วาดฟ้ามาให้ผมฝัน.." ........ประโยคนี้ น่าคิดนะคะที่คุณสายฟ้าพูด.. .................................................................... เหมือนใครสักคน ที่เขาหยิบยื่นไมตรี เขาหยิบยื่นความรู้สึกดีๆมาให้เรา เราก็ยอมรับไว้ด้วยความเต็มใจ แต่ในสุดท้าย เขาก็ห่างหายไป อ้างเหตุผลต่างๆนาๆเพื่อจากเราไป..... เหมือนเขาให้เรารอ เราก็รออย่างมีความหวัง แม้ว่า ..เป็นแค่ความหลังแบบลมๆแล้งๆก็ตาม ก็เต็มใจรอ เนอะ .........อ๊าวววววว พูดเรื่องไรเนี่ยะ ผ่านๆๆๆ... 5555555555
2 พฤษภาคม 2550 18:16 น. - comment id 96049
สวัสดีค่ะ คุณก่อพงษ์ อยากอ่านต่ออีกอ่ะ ทำไมจบซะงั้น ตอนแรกก่อนที่คุณจะเขียนน่ะ จำได้ว่า คุณบอกว่าให้นางเอกพระเอกได้สมหวัง มารักกันตอน 70 ดีมั้ย... งั้นแสดงว่ามีภาคสอง (ไม่ได้บังคับแต่อยากอ่านค่ะอิอิ) ชอบอะค่ะ อ่านจบแล้วรู้สึกว่ามันมีชีวิตชีวา ในตัวหนังสือที่คุณเขียนออกมา อยากไปสัมผัสบรรยากาศแบบนั้น ไม่เคยเห็น ไม่เคยพบ...ไม่เคยเจอ อยากได้รับความรู้สึกแบบนั้นบ้างจัง :-( อิ่มกับความรู้สึก ความฝัน ความทรงจำ ที่เกิดขึ้นค่ะ^____^ ... คห.3 สวัสดีค่ะ คุณฉางน้อย คุณก่อพงษ์ไม่อยู่หลายวัน ขออนุญาตมาคุยด้วยได้มั้ยคะ ^^ ได้ไม่ได้ไม่รู้ล่ะ...จะคุย555(ด้านเข้าไว้ เอิ๊กกก) รอ...นานตราบหัวใจอยากจะรอ รู้สึก...นานตราบหัวใจอยากจะรู้สึก หวัง...นานตราบหัวใจอยากจะหวัง รัก...นานตราบหัวใจอยากจะรัก จำติดหัวใจอยู่ข้างใน มันบอกว่า...ให้เฝ้ารอ...อยู่ที่เดิม ถึงจะเป็นความหลังลมๆ แล้งๆ แต่ครั้งนึงมันก็เคยชุ่มชื่นหัวใจ ถึงสุดท้ายจะเหลือเพียงความว่างเปล่า แต่บางทีการเต็มใจตามหาบางสิ่ง...ทั้งที่รู้ว่า จะอย่างไร...ก็ไม่มีวันเหมือนเดิม มันก็ทำให้เราได้เรียนรู้นะคะว่า บางสิ่งบางอย่าง "ไม่หวานชื่น...แต่สวยงาม" บางสิ่งบางอย่าง "ไม่จบที่ความสุข...แต่เป็นทุกความทรงจำอันล้ำค่า" บางที..ไม่ได้เป็นคนรัก แต่ก็เป็คนที่เคยรัก..และอาจยังรัก ((นั่นสิ เราพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย555))
2 พฤษภาคม 2550 18:32 น. - comment id 96050
4.....สวัสดีค่ะ คุณตุ๊กตาไล่ฝนคะ .....ด้วยความยินดี และ ดีใจ อย่างมากมายค่ะ ที่คุณบอกว่า แม้ว่าคุณก่อพงษ์จะไม่อยู่แต่คุณก็ยังอยากมาคุยกับฉางน้อย ดีใจนะคะที่คุณมีมิตรภาพดีๆให้กัน ดีใจที่คุณพูดแบบนี้ ( แสดงว่าคุณยังเห็นฉางน้อยยังน่ารักน่าคบ 555555555) อ้าวววววว.......เพื่อนมาหาที่บ้านคะ เดี๋ยวๆมาคุยต่อนะคะ....
7 พฤษภาคม 2550 11:31 น. - comment id 96079
สวัสดีค่ะคุณก่อพงษ์ ติดตามทั้งเรื่องแล้วประทับใจมากค่ะ จิตรำพัน มีความฝันอยากแต่งเรื่องสั้นแล้วสามารถเขียนบรรยายให้เห็นภาพได้แบบนี้บ้างค่ะ (กำลังพยายามอยู่ค่ะ) ตอนจบ เป็นเรื่องราวของความรู้สึกที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงของหลาย ๆ คน รวมทั้ง จิตรำพัน ด้วย ขอบคุณนะคะที่แต่งเรื่องดี ๆ มาให้อ่านค่ะ ถ้าหากมีโครงการบริจาคหนังสือให้ห้องสมุดของโรงเรียนในต่างจังหวัด จิตรำพันขอความอนุเคราะห์ด้วยได้ไหมคะ สวัสดีคุณฉางน้อย และคุณตุ๊กตาไล่ฝนด้วยนะคะ เห็นติดตามผลงานของคุณก่อพงษ์ ตลอดเลย เป็นแฟนผลงานที่ดีมากเลยค่ะ
7 พฤษภาคม 2550 15:20 น. - comment id 96080
สวัสดีครับมิตรของผม ผมเพิ่งกลับจากต่างจังหวัดเมื่อวานครับ วันนี้ตอนเช้าได้ไปถวายสังฆทานกับน้องและครอบครัว สายๆได้ไปไหว้พระธาตุพนมที่อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตอนบ่ายๆ ไปส่งน้องสาวที่มาแวะเยี่ยม รำลึกถึงทุกท่านนะครับ ทั้งคุณฉางน้อย คุณตุ๊กตาไล่ฝน มิตรใหม่คุณจิตรำพัน และมิตรนักอ่านนักเขียนทุกท่านด้วย วานซืนคงมีฝนแถวๆ สกลนคร ผมกลับมาบ้านเห็นดินเปียกชุ่มก็ดีใจ จะได้ปลูกพืชผักหมากไว้เก็บกินสบายอกสบายใจ พูดคุยทักทายกับคุณจิตรำพันอีกนิดนึงครับ ผมเป็นเพียงนักเรียนรู้นะครับ ค้นหาแนวทางของตัวเอง ยังไม่แก่กล้าอันดอกดอกนะครับ เขียนเหมือนพูดคุยให้เพื่อนฟัง สรรพนามก็ยังเป็นบุรุษที่ 1 เกือบทุกเรื่อง อาศัยว่าเขียนง่าย เพราะถ้าพูดในมุมของเรา มันสะดวกที่จะอ้างว่าเรารู้ เราอยู่ในเหตุการณ์ อาจไม่สะดวกบ้างในเรื่องความคิดของคนอื่น ๆ แต่ผมก็ใช้วิธีบอกไปตรง ๆ ว่าผมเดาว่าเขาหรือเธอน่าจะคิดแบบนั้น คิดอย่างนั้น ยินดีมากครับที่ได้พูดคุยด้วยกับคุณจิตรำพัน คงได้ทักทายกันอีกครับผม