19.49 น. จำได้ว่าวันนี้ไม่ได้กินข้าวมาตั้งแต่เช้า ปวดหัวมากแต่ก็ไม่ยอมกินยา เหมือนจะบอกกับตัวเองว่า แค่นี้เองทนให้ได้สิ ชีวิตมีเรื่องเลวร้ายมากกว่านี้... แต่แล้วเพราะคำเตือนของผู้หญิงคนหนึ่งที่หัวใจบอกว่ามีความสำคัญกับเรามากๆ เลยแวะร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทาง มองไปหน้าตู้กระจกเห็นเขียนว่า ก๋วยเตี๋ยว ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ความคิดตอนนั้น นึกขึ้นมาได้ว่าลองแหกกฎสังคมดูบ้างจะเป็นไร......"พี่ครับ เอาบะหมี่เกี๊ยวใส่ไข่ ใส่หมูแดง ใส่หมูกรอบ จะคิดตังเท่าไหร่ก็ได้" สั่งคนขายไปแบบนั้นจริงๆ .....ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ นอกจากแววตาแปลกๆที่มองกลับมาคล้ายกับจะบอกว่า "มึงบ้าเหรอ" แต่ด้วยความที่เป็นคนค้าขายเลยไม่พูดออกมา สั่งเสร็จแล้วผมก็เดินเข้าร้านเซ่เว่นที่อยู่ติดกัน เดินไปด้วยความรู้สึกเคยชินว่าต้องเข้าโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะซื้ออะไร นี่ล่ะนะคนเราอยู่กับความเคยชินเดิมๆ แต่แล้วก็มีเสียงสั่งจากจิตใต้สำนึกขึ้นมาว่าลองทำอะไรที่มันขัดกับ "กมลสันดาน" ดูบ้าง คิด..คิด อ่อนึกออกแล้ว ที่ห้องยาสีฟันหมด ถ้าวันนี้น้ำไหลคงได้แปลงฟัน เมื่อคิดได้ว่า ต้องซื้อยาสีฟันก็เดินไปทันที...หยิบยาสีฟันใกล้ชิดกล่องสีเขียว ....ไม่ครับไม่เอา อันนี้ใช้ประจำอยู่แล้ว มันต้องเปลี่ยนดูบ้าง เอาสีน้ำเงินดีกว่าไม่เคยใช้แหกกฎตัวเองบ้างสิ ... เดินไปที่เคาน์เตอร์ ...จ่ายตังค์ ....เดินออกมานั่งร้านก๋วยเตี๋ยว .....เห็นคนขายกำลังทำท่า งงๆ กับ"บะหมี่เกี๊ยว ใส่ไข่ ใส่หมูแดง ใส่หมูกรอบ" แต่ก็ยังตั้งใจทำเต็มที่ ลวก.. เขย่าๆ.. เอาใส่ชาม..ใส่กระเทียมเจียว ยกมาให้ พร้อมมองหน้าตาอันหล่อเหลาของเรา ยิ้มเล็กๆที่มุมปากประมาณว่าคิดในใจ "ไงล่ะมึงกินเข้าไปให้หมดนะ" ผมค่อยๆเทเครื่องปรุงบรรดามีในพวงเครื่องปรุง แน่นอนว่าวันนี้ไม่เหมือนเก่า จากเดิมที่ต้องเริ่มต้นการปรุงรสด้วย น้ำส้ม น้ำตาล พริกป่น น้ำปลา วันนี้มันต้อง "ฉีก" ครับ ไล่จากหลังสุดมาหน้าสุด (เรียงเองนะครับ) บอกแล้วไงครับว่าวันนี้มันต้องแหกกฎดูบ้าง คำแรกที่ตักเข้าปากบอกได้เลยว่า "สุดยอด" โอวว..ซาร่า ผมเกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เพิ่งรู้ว่ารสชาดของการทำอะไรที่ต่างไปจากเดิมมันเป็นแบบนี้นี่เองถึงรสจะแปลกไปหน่อยแต่อร่อยใช่หยอก จริงๆนะครับ ใครไม่เคยลองทำดู .....กำลังชื่นชมกับรสชาด เลิศรสอร่อยล้ำที่ตัวเองเป็นคนสร้างสรรค์ขึ้นมา...ทันใดนั้น.....เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเล่นเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวกับหมูกรอบแทบหลุดจากปากรูปกระจับได้รูปของตัวเอง "ปล่อยพระ(ขายพระ)ให้เอามั๊ย" พอเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องสลดใจ เมื่อเห็นสีหน้าหมองคล้ำของผู้หญิงคนนึงกับลูกสาวตัวเล็กๆ อายุประมาณ 4 ขวบน่าจะได้ "ไม่ครับ" ผมตอบไปแบบนั้นคิดในใจ อย่ามายุ่งกับผม กำลังภูมิใจในผลงานตัวเอง ... แต่แล้ว ...คำว่าฉีกกฎ ก็แวบเข้ามาในสมอง.... "พี่ครับ" สองแม่ลูกหยุดเดิน หลังจากที่ตอนแรกสิ้นหวังกำลังจะเดินไปขาย(ตาย)เอาดาบหน้า "นี่ครับ" แบงค์ 50 ที่ทอนมาจากเซ่เว่น ถูกหยิบยื่นให้ผู้เป็นแม่ ...แน่นอนเป็นอีกครั้งที่ถูกมองด้วยสายตาแปลกๆ แต่ครั้งนี้เป็นสายตาที่แสดงถึงความขอบคุณโดยไม่ต้องพูดอะไร ภาษากายบางครั้งก็เข้าใจง่ายๆ ...สองแม่ลูกเดินจากไปแล้ว ทิ้งผมไว้กับชามก๋วยเตี๋ยวชามเดิม และความรู้สึกสงสัยในตัวเอง "นี่กูเป็นไรไปเนี่ย" ถามตัวเองแบบนั้นจริงๆ ความรู้สึกมันตื้นตันปนสงสัย ถ้าเป็นวันก่อนๆคงจะปฏิเสธโดยไร้ซึ่งเยื่อใย แต่วันนี้ ผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง(ที่หัวใจโตเหลือเกิน) สอนให้ผมรู้ว่าการช่วยเหลือใครสักคนไม่ต้องถามเหตุผล ไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทน ช่วยเพราะอยากช่วย ...เขียนมาถึงตอนนี้มือสั่น ..ปากสั่น ...อยากจะร้องไห้ ...วันนี้รู้สึกเข้าใจแล้วว่าบางครั้งการที่เราแหกกฎสังคมบ้างในเรื่องเดิมๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองออกจากรูปแบบชีวิตเดิมๆบ้าง ตัวเราเองอาจจะเป็นคนสร้างสรรค์ประโยคที่ว่า "โลกใบนี้น่าอยู่จัง" ขึ้นมาก็ได้ ป.ล. ฝากไปถึงผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้นว่าตอนนี้คงมีคนอยากรู้แล้วว่าเธอเป็นใคร เรื่องนี้คงต้องมาเล่ากันต่อในโอกาสต่อไปแล้วล่ะ อดใจรอนะครับ
30 เมษายน 2550 13:00 น. - comment id 96004
..... แวะมาอ่าน ผ่านมาฉีก....ด้วยคนน่ะ อิอิ แต่ของฉางน้อย กลับกลายเป็นว่า ฉีกซองมาม่าอ่ะค่ะ 555555555
5 พฤษภาคม 2550 12:08 น. - comment id 96063
อ่านแล้วก้อได้อารมณ์ ........ ศิลปินคนเก่ง เขียนต่อไปเรื่อย ๆ นะ จะเป็นกำลังใจให้ ไม่มีใครก้อมีฉันที่ คอยใส่ใจเธอไง.......