โลกนี้น่าอยู่จังเลยครับ

สายน้ำแห่งรัก

19.49 น. คือเวลาที่เดินเตร็ดเตร่อยู่แถวห้างสรรพสินค้ากลางใจเมืองเล็กๆแห่งหนึ่ง จิตใจตอนนี้กำลังสับสนว่าจะเข้าไปดูหนังในห้างดี หรือว่ากลับห้องพักไปมีโลกส่วนตัวอยู่คนเดียว หากถามว่าอยากดูหนังหรือเปล่าก็อยากดูนะเพราะว่าหนังเรื่องนี้ชื่อว่า "อีกนิยามรัก"หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า sad movie (แต่ดันเป็นหนังเกาหลี) รอดูมานานมากจนหนังมาเข้าฉายที่โรงหนังชั้น 2 เมืองเล็กๆแบบนี้ก็ได้รับกระแสทางวัตถุไม่ต่างกับเมืองใหญ่ๆคือ เมื่อมีโรงหนังดีๆเข้ามาเปิดใหม่ ถึงแม้ราคาจะสูงยังไงคนก็จะแห่กันไปดู โรงหนังเก่าที่เคยมีอยู่เมื่อความนิยมลดลงก็พยายามดิ้นเอาตัวรอดโดยฉายหนังควบ 2 เรื่อง ลดราคาค่าดูลง แล้วในที่สุดก็คงไปไม่รอดเหมือนกับที่อื่นๆ ต้องปิดตัวไปในที่สุด .....ทำไมผมถึงสับสนน่ะเหรอว่าจะดูหนังที่ตัวเองรอดูมานานหรือกลับไปมีโลกส่วนตัวที่ห้องดี ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนว่าวันนี้ไปเจอเรื่องดีดีที่อยากเล่าให้ฟังมาก...ก็วันนี้ตั้งใจว่าจะไปตัดผมเพราะทนเห็นสภาพตัวเองในกระจกไม่ไหว(เป็นศิลปินไม่จำเป็นต้องผมยาวใช่มั๊ยครับ) หาร้านอยู่นานมากจนในที่สุดก็มาหยุดที่ร้านหนึ่งด้วยความรู้สึกลุ้นอยู่ในใจว่า "จะได้เรื่องมั๊ยวะ" ลองนึกภาพตามนะครับ ผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่ง เดินเข้าไปในร้านตัดผม ที่มีผู้หญิงกำลังตัดผมอยู่ ทำหน้างงๆ "กูเข้าร้านผิดป่าววะเนี่ย" แต่ก็ต้องนั่งลงเพราะคำพูดที่ว่า "นั่งรอก่อนนะคะ" ไอ้เราก็ทนต่อคำขอร้องไม่ได้ซะด้วย(โดยเฉพาะกับสาวๆ) นั่งรอนานมาก...ก...กก.....ประมาณเกือบหนึ่งชั่วโมง ถึงมีผู้ชายที่คิดว่าคงเป็นช่างผม(ไม่ใช่ช่าง..ผมนะ งงมั๊ยครับ) เดินออกมาจากหลังร้าน แว๊บแรกที่เห็นบอกกับตัวเองว่า..."หล่อแน่ๆเราวันนี้" ทำไมน่ะเหรอครับ ผมรู้สึกคุ้มค่ากับการรอคอยทันทีเมื่อเห็นท่าทาง การแต่งกายของช่างคนนี้ ทรงผมของช่างบอกได้ว่าใส่ใจกับตัวเองกับงานที่ทำคืองานเกี่ยวกับเส้นผม ผมที่จัดทรงเรียบร้อย เหมาะสมกับวัย เหมาะสมกับน่าตาเจ้าของ ทำให้เราอุ่นใจมากขึ้น รวมไปถึงด้านข้างลำตัวยังมีกระเป๋าหนังไปเล็กๆใส่เครื่องมือทำงานไว้ครบ จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ.. "เชิญครับพี่" แค่นั้นล่ะผมเหมือนโดนสะกดเดินไปนั่งบนเก้าอี้ยังเหม่อลอย(ขนาดนั้นจริงๆ) สัมผัสแรกที่มือของช่างจับลงบนเส้นผมรู้สึกอุ่นใจทันทีว่าคงไม่ผิดหวัง......หนึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมพาตัวเองออกมาจากร้านตัดผมแห่งนั้นส่วนทรงผมของผมนั้น...............(นั่นแน่อย่าอยากรู้จนข้ามไปอ่านตอนจบนะครับ) กลับมาเรื่องที่เล่าข้างไว้ก่อนที่สับสนว่าจะดูหนังหรือเปล่าก็เพราะว่าอยากกลับไปห้องเพื่อรอโทรศัพท์จากใครสักคน แน่นอนว่าเป็นคนสำคัญกับเรามากๆ แม้ไม่แน่ใจว่าเธอจะโทรมาอีกหรือเปล่าหลังจากวางสายไปแล้วแต่ก็อยากกลับไปรอ สุดท้ายเหรอครับผมตัดสินใจที่จะซื้อตั๋วเข้าไปดูหนังที่รอคอย เพราะคิดได้ว่าถ้าเธอรู้เธอคงอยากให้ผมทำในสิ่งที่เป็นตัวของตัวเองบ้างไม่ใช่ผูกติดกับเธอจนเกินไป "หากเธอคนนั้นได้อ่านเรื่องที่ผมเล่าอยากบอกว่าผมคิดแบบนี้จริงๆไม่ว่ามันจะผิดหรือถูก" ........หนังจบแล้วพร้อมด้วยคราบน้ำตาของผู้ชายอ่อนไหวคนหนึ่งที่เข้าไปนั่งดูหนังคนเดียวในโรงหนัง บอกได้แค่ว่าเป็นอีกครั้งที่ไม่ผิดหวังกับการรอคอย แค่ประโยคๆเดียวที่จำจนขึ้นใจก็คุ้มแล้ว.."หากเราเดินตามรอยเท้าของคนอื่น แล้วเราจะมีรอยเท้าเป็นของตัวเองได้ยังไง"... ประโยคที่ก้องอยู่ในสองหูเมื่อเดินออกมาจากโรงหนัง คราบน้ำตาที่ไหลออกมาไม่เพียงเพราะซาบซึ้งในตัวหนังที่สื่ออารมณ์ออกมาได้ดีในแบบหนังเกาหลี แต่ยังรวมถึงน้ำตาแห่งความปีติกับประโยคที่ช่างมีพลังเหลือเกิน...วันนี้เป็นอีกวันที่ชีวิตช่างมีความสุขซะเหลือเกินกับอะไรเล็กๆน้อยในชีวิต "โลกนี้น่าอยู่จัง" 
      24.05 น. ...ผมกลับมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์เล่าเรื่องนี้ให้คุณได้อ่านกันด้วยเหตุผลว่าถึงแม้ตัวเองจะไม่สามารถแบ่งปันอะไรให้ใครได้มากนักแต่เรื่องนี้ก็อาจจรรโลงใจใครหลายๆคนได้ วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่า ความรักไม่ได้หมายความถึงการเอาอกเอาใจคนรักจนเกินไป แล้วก็ไม่ได้หมายถึงต้องให้คนรักมาเอาใจหรือติดแจอยู่กับเราตลอดเวลา แต่มันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความห่วงใยและความห่วงหากัน ......วันนี้ผมได้เรียนรู้ว่าการดูหนังสักเรื่องแล้วได้ข้อคิดดีดีแค่ประโยคหนึ่งกลับบ้านก็คุ้มค่าแล้ว...และท้ายที่สุดผมได้เรียนรู้ว่าความเป็นมืออาชีพสัมผัสได้ด้วยความรู้สึกแค่เพียงวูบแรกที่เราเห็น...แน่นอนครับผมพอใจเหลือเกินกับทรงผมทรงใหม่ที่ถือเป็นการ "สร้างรอยเท้าของตัวเอง โดยไม่ต้องเดินตามรอยเท้าของคนอื่น" ศิลปินไม่จำเป็นต้องผมยาว...... 
ป.ล.ขณะเขียนเรื่องนี้ผมยังไม่วายคิดถึงเธอคนนั้นก็เลยเปิดเพลงที่สัญญากันว่าเพลงนี้คือ "เพลงของเรา" แต่เราก็อยากให้คุณได้ฟังด้วยนะครับ เพลงนี้ชื่อว่า Because You Love Me ฟังกันได้ที่นี่เลยครับ http://imusic.teenee.com/2/frame/2855.php				
comments powered by Disqus
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 12:58 น. - comment id 95909

    ..... แวะมาทักทาย จองที่ 1 ก่อนนะคะ
    
    555555  แล้วมาอ่านอีกรอบ 
    
    ขอตื่นก่อน อิอิ ตอนนี้กะลังละเมอ อ่ะค่ะ
    
    55555555  ...เดี๋ยวมาๆๆๆค่ะ46.gif46.gif
  • ภัคสิตาพิชญ์

    28 เมษายน 2550 15:01 น. - comment id 95921

    6.gif36.gif6.gif
    
    ชอบผู้ชายไว้ผมยาวด้วยจิ.....
    
    6.gif36.gif6.gif
  • ฉางน้อย

    28 เมษายน 2550 15:14 น. - comment id 95923

    ..... แวะมาอ่านรอบสองตามคำสัญญา อิอิ
    
     น่ารักคะ อ่านแล้ว ดีจัง ภาษาเรียบง่าย เป็นตัวของตัวเองดี
    
     คำว่า รัก เราไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครสักคน
    
    คำว่า รัก ขอเพียงเราปรับปรุงตัวเรา เพื่อให้พูดจากกันได้ทุกเรื่อง 
    
    เหมือนกับการที่เราจูนคลื่นความถี่เข้าหากัน
    
    ไม่ใช่ว่า ยิ่งจูนยิ่งห่างนะคะ 5555
    
    (สมัยหนึ่ง เคยชอบผู้ชายผมยาว เพราะเท่ดี 5555
    
    แต่เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแระ ม่ะบอก 5555)46.gif46.gif
  • เพียงแพรว

    28 เมษายน 2550 15:20 น. - comment id 95924

    เจ็บปวดเพราะผู้ชายผมยาวค่ะ พี่น้ำแต่ยังไม่เข็ด 
    เพราะชอบคนเถื่อนๆ 5555+

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน