::ถึง-ถึงกว่า-ถึงที่สุด:: ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์ 12 เมษายน 2550 ผมเป็นชนชั้นหาเช้าแล้วกินค่ำครับ แม้อาชีพของผมไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยถึงกับต้องแบก หาบ คอน หาม แต่ก็อยู่ในสังกัดของคนไม่ค่อยมีอันจะกินเหมือนกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ของขายที่ผมเอาไปตลาดทุกวันเป็นพวกดอกกระเจียว ไข่มดแดง แมงแคง จักจั่น กุ๊ดจี่ อีนูน กะปอม แย้ และผักป่า ของพวกนี้ยังมีหามาขายได้ทุกวันครับ ลูกค้าขาประจำของผมมีทุกระดับ ตั้งแต่ปลัด อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู ตำรวจ และแม่บ้าน ผมจ่ายค่าแผงขายของวันละ 2 บาททุกวัน ทุกคนที่เอาของมาขายจ่ายเท่ากันหมดสำหรับเนื้อที่ 1 ตารางเมตรเท่ากัน ผมไม่คิดฝันมาก่อนว่าจะเป็นพ่อค้า แต่เหตุการณ์ก็ผลักและดันให้ผมเปลี่ยนเส้นทางจากชาวนาธรรมดามาเป็นนักขายเมื่อผมโชคดีได้คาถาวิเศษมาจากชีปะขาวตนหนึ่ง ทำให้ผมเก่งทั้งค้าขายหงายมือและหาของมาขาย เมียของผมเป็นผู้จัดการนะครับ เธอจัดแต่งข้าวของที่ผมหามาได้ลงในถุงใส รัดร้อยด้วยหนังยางหรือไม่ก็ห่อใบตอง แล้วจัดลงตะกร้าให้ผมใส่ท้ายรถเครื่องไปตลาด เงินคำกำแก้วที่เป็นผลจากการค้าเธอเป็นคนเก็บเอง ของใช้จำเป็นอันใดที่ต้องซื้อเธอบอกค่อยเบิกเอาจากเธอ ตั้งแต่แต่งงานกันมาผมไม่เคยเบิกเลย เพราะทุกครั้งที่เบิกเธอบอกว่า ใช้อันเก่าไปก่อน ผมนุ่งสวมกางเกงเก่า ๆ เสื้อผ้าปะผุจนชินเสียแล้วครับ ไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ เป็นคนหาเช้ากินค่ำแล้วหล่อ เดี๋ยวเสียยี่ห้อคนชั้นล่าง อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงจะงงล่ะซีครับ ว่าชั้นล่างอะไรแวะ ใช้คำสูง ๆ ทั้งนั้น ผมมันเป็นประเภทอ่านดะไงครับ หนังสือพิมพ์ห่อของไม่มีฉบับไหนผ่านมือผมไปเฉย ๆ ต้องเสร็จสายตาของผมแล้วทั้งนั้น บางคนเรียกผมว่าพ่อค้านักอ่าน ก็แปลกดีครับ พูดมาตั้งนานผมยังไม่เข้าเรื่อง "ถึง-ฯลฯ " นั่นเลย ตลาดสดประจำอำเภอเป็นสถานที่ที่จอกแจกจอแจกว่าทุกที่ ที่นั่นมีคนขายมากกว่าคนซื้อ บางครั้งพ่อค้าแม่ค้าก็ซื้อของกันและกันใกล้เคียงกับการค้าขายแบบโบราณในหนังเกาหลี พ่อค้าแม่ขายขาประจำก็มาก ขาจรก็ไม่น้อย มาจากต่างถิ่นเลยก็มี ล่าสุดนี่มาจากธนาคารใหญ่ครับ การค้าของเขานี่แปลกจริง ๆ ขณะที่พวกผมขายของเป็นชิ้นเป็นอัน พวกนั้นขายกระดาษครับ พูดให้ตรงหน่อยก็คือขายใบเสร็จ ใบเสร็จที่เขาขายให้พ่อค้าแม่ค้าฉีกออกมาจากเล่มเดียวกันนั่นแหละแต่ราคาไม่เท่ากัน บางคนซื้อ 50 บาท บางคนซื้อเป็นร้อยสองร้อย มากกว่านั้นก็มีคนซื้อครับ รถธนาคามาจอดหน้าตลาดสดครับ แล้วคนธนาคารก็ลงมาหาพวกเราอย่างเป็นกันเอง แหมเข้าถึงจริง ๆ ธนาคารของผมนี่มารับใช้ใกล้ชิดพ่อแม่พี่น้องครับ เรามาตั้งเอทีเอ็มไว้นี่ ในตลาดนี่เอง อยากถอนเมื่อไรก็ได้ ค่ำมืดดึกดื่นก็ไม่มีปัญหาครับ ทุกคนมองตามมืออวบอูมที่เขาผายไปยังปั๊มน้ำมันที่อยู่ไม่ไกลจากตลาดสดนัก ผมเอาเครื่องทำสมุดฝากและทำบัตรเอทีเอ็มมาบริการด้วย ทำตอนนี้ ฝากได้ตอนนี้ ถอนได้ตอนนี้ รถโมบายของเราทำได้ทุกอย่างทั้งฝากและถอน ก็เหมือนกับในธนาคารทุกอย่าง แต่ผมจะเป็นออกมารับเงินจากท่านเองทุกวันพฤหัสบดี ถ้าเอารถคันนี้ออกมาด้วยก็เช็คยอดได้เลย แต่ถ้าผมออกมาเองผมก็จะออกใบเสร็จให้ทันที เช็คยอดได้ที่ตู้เอทีเอ็มตรงนั้นได้เลย ผมอ้าปากหวองงงันกับธุรกิจธนาคารถึงลูกถึงคนนี้ ก็ไม่รู้ว่ามีหน้าม้าหรือเปล่า แต่แม่ค้าในตลาดสมัครเป็นลูกค้าของธนาคารที่มีโลโก้ห้าห่วงนั้นไปแล้วครึ่งตลาด ทุกคนได้บัตรเอทีเอ็มฟรี กดดูยอดเงินที่ฝากได้จริง ๆ ด้วย ดังนั้นทุกวันพฤหัสผมจึงได้เห็นพ่อค้าฉีกใบเสร็จเดินเก็บเงินคนนั้นคนนี้ในตลาดคนละมากบ้างน้อยบ้าง อย่างชินตา อย่างที่ผมพูดไปแล้ว แหมค้าขายสบายกว่ากูเยอะเลย ผมคิด เฮีย ไม่สมัครหรือผมทำบัตรเอทีเอ็มให้ฟรีนะ พ่อค้าใบเสร็จตื๊อผมทุกครั้งที่เจอกันวันพฤหัสบดี ถ้ายอดเงินฝากของเฮียสูงถึงเพดาน ผมทำบัตรเครดิตให้ฟรีอีก คราวนี้เฮียมีเงินหมุนเยอะขึ้นเลยนะ จะทำมาค้าขายอะไรก็มีช่องทางง่ายดายหมดแหละ ผมใจแข็งไม่ยอมสมัครเหมือนคนอื่น ๆ เหตุผลก็คือเมียเป็นหมดใดทุกอย่างของผมแล้วทั้งธนาคารที่ฝากได้แต่เบิกไม่ได้ เป็นเอทีเอ็มที่คอยกดขี่ข่มเหงผมไม่ใช่ให้ผมกดและอื่น ๆ ดังนั้นผมจึงยังไม่มีทั้งเอทีเอ็มและบัตรเครดิตเหมือนเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าในตลาด พวกนั้นมีเงินที่จะหมุนทำการค้าได้อีกตั้งหลายตั้งค์เพราะธนาคารทำบัตรเครดิตให้จริง โดยพ่อค้าใบเสร็จอธิบายเหตุผลรองรับว่าทุกคนมีวินัยทางเงินยอดเยี่ยม ฝากเงินสม่ำเสมอ ธนาคารเชื่อมั่นในเครดิตนั้นจึงให้สินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกัน ทิดมีน่าจะทำนะ เอาเงินมาหมุนค้าขายได้ตั้งแยะ ยายเพ็งที่ทำบัตรเอทีเอ็มกับคนขายใบเสร็จเป็นคนแรกเชียร์ผมให้สมัครบัตรเครดิต จารย์เภาแกบยังออกรถได้เลยจากการรูดบัตรง่ายบัตรนี้ ผมได้ยินแล้วก็หัวเราะ เพราะหัวสมองของผมนึกไม่ออกดอกว่าจะขี่รถคันโก้ไปหาขุดแย้ตรงไหนมาขายเพิ่มขึ้น และคนที่จะกินแย้ของผมจะเพิ่มขึ้นจะผุดขึ้นมาจากตรงไหน ผมขอสละสิทธิ์เน้อ เมียไม่อนุญาต นั่นเป็นทางออกง่าย ๆ ที่ใช้ได้ดี ที่ต่อให้มาตื๊อกันกี่คน ตื๊อถี่อย่างไรก็เปลี่ยนแปลงเมียผมไม่ได้ เพราะเธอไม่ได้มาตลาด (ฮา) เวลาผ่านไปไม่ถึงปีดี ธนาคารที่ผมพูดถึงก็ได้ลูกค้าพวกแม่ค้าพ่อค้าไปหมดตลาดยกเว้นยายแก่ ๆ กับทิดหัวทึ่มอย่างผมเท่านั้น ทุกวันพฤหัสบดี รถธนาคารก็จะออกมาเก็บเงินจากแม่ค้าพ่อค้าในตลาดสด ขนเงินออกไปเป็นถุงเป็นถุง ผมคิดในใจว่า ชาติหน้าหรือชาติไหนวะข้าพเจ้าจึงจะมีวาสนาขายกระดาษเป็นเงินเป็นทองแบบนี้ แต่ผมก็คิดไปอย่างนั้นแหละครับ เพราะไม่เคยมีใครกลับมาบอกได้ซักคนว่าชาติหน้าของเขาแต่ละคนที่ตายไปนั้นชีวิตพวกเขาเป็นอย่างไรจริง ๆ ยังจนหรือมั่งมีกันหมด หรือว่าพรรคพวกที่นั่งขายอยู่ในตลาดตอนนี้คือพวกที่อดีตชาติเคยอธิษฐานให้เป็นคนมีเงินมีทอง ก็พวกเขามีบัตรเครดิตให้รูดคนละใบสองใบกันทั้งนั้น แถมมีรถใหม่คันโก้นั่งไปซื้อของจากในเมืองมาขายไม่ต้องอาศัยรถประจำทางแออัดเบียดเสียดยัดเยียดอีกต่อไป ทำไมมึงโง่แท้อ้ายทิด เงินที่มึงขายของได้ก็แบ่งเอาไว้ซี อยากจะทำบ่งทำบัตรอะไรมึงก็ทำได้หมดแหละ ตลาดสดบ้านอื่นเมืองอื่น ตำบลอำเภออื่นเขาก็ทำกันหมดแล้ว ยายเพ็งคงจะหมดความอดทนต่อความเขลาและไม่ทันสมัยของผมที่แกดันแล้วไม่ได้ผล ปล่อยผมเถอะครับย้าย ผมเป็นคนเกิดมาไม่มีวาสนาที่จะเป็นคนมีเครดิตแบบคนอื่น ๆ เขา เชื่อไหมครับ ตอนนี้บริษัทรถเครื่อง รถจักรยาน รถยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าเขาเข้าถึงคนระดับพวกผมด้วยวิธีการแบบเดียวกัน หรือคล้ายกันนี้จนพรุนไปทั้งอำเภอ ตำบล หมู่บ้านแล้วนะครับ เราเป็นพลเมืองเงินผ่อน ผ่อนส่งเงินต้นของตนเองเกือบทุกคน แล้วถึงที่สุดประเทศเราจะเต็มไปด้วยพลเมืองแบบกู้เงินตัวเองใช้และส่งดอกเงินต้นของตัวเองหรือเปล่าครับเนี่ย หรือมันจะเป็นแบบไหน ไหน ใครเป็น มหาบัณฑิตมาตอบคำถาม ป.4 อย่างผมหน่อยซีครับ
17 เมษายน 2550 10:16 น. - comment id 95682
หวัดดีงับคุณก่อพงษ์ เรื่องหาเช้าเพื่อกินค่ำเทียบกับกินเช้าก่อนแล้วทำงานใช้ไปจนค่ำนี่ มองได้หลาายแง่ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือ ความสามารถในการบริหารจัดการ แค่นั้นเองคับ หมุนเงินเก่งเงินก็งอก ไม่เก่งก็เจ๊ง ใส่ตุ่มฝังดินวันละบาทชัวร์กว่า แต่ถึงจะเก็บไปชั่วชีวิตก็ย่อมมีลิมิต เก็บได้มากไปคนก็นินทา อิๆ เรื่องความสามารถในการบริหารนี้เรียนรู้กันได้ คนมีความสามารถควรใช้ความสามารถ คนไม่มีก็อย่า แต่อย่างน้อยต้องให้โอกาส อย่าปิดโอกาส ส่วนเครดิตนี่คือการกลับสู่ธรรมชาตินะ อนาคตของอนาคตคนจะทำงานเพื่อตัวเลขในธนาคาร ใช้บัตรเครดิตซื้อของยังชีพและคุณภาพชีวิตโดยหักเงินจากตัวเลขในธนาคาร เงินเหลือก็เหลือเป็นตัวเลขที่ธนาคาร เงินขาดติดตัวแดงก็จะบอกเขาว่า ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรายได้ที่มากขึ้น หรือลดการใช้จ่ายลงในเดือนหน้าและเดือนต่อๆไป เพื่อใช้หนี้จนหมดตัวแดง ทั้งหมดทั้งสิ้นไม่จำเป็นต้องถือเหรียญหรือธนบัตรมากองชื่นชม มานับแก้เหงา หรือมานึ่งตากและหลงใหลฯลฯ จึงเหมือนกับการกลับไปสู่ยุคที่มนุษย์เอาสินค้ามาแลกกันอะคับ ทำงานเพื่อใช้หนี้ที่เรากินเราใช้แหละ แต่ไม่เหมือนซะหมดกันหรอกนะ ระบบทำให้ง่ายและรวดเร็วขึ้น มีมาตรฐานยุติธรรมขึ้น ยังไงธรรมชาติก็คือธรรมชาติ ไม่ว่าจะสมมุติอะไรขึ้นมา สักวันความจริงก็ต้องเป็นความจริง ไปทางไหนและหลักการยังไงแค่นั้น อย่ากลัวทุนนิยมเลยคับ
17 เมษายน 2550 10:39 น. - comment id 95683
ฮ่า ๆ ชอบใจคำตอบของคุณม้าลายครับ ขอบคุณครับผม