สลักระเบิดหัวใจ***บทที่2** มาแล้วจ้า///ของความเห็นหน่อยซิ

ภาเกตุ

บทที่ 2 
.......... โป๊ก! โอ๊ย??  (จิรายุทธโดนเข้าซะแล้ว) จิรายุทธยกมือกุมหน้าผากลูบคลำหาร่องรอยที่ถูกผกายดาวใช้หัวโขกเข้าให้
........... สม ฮาฮาห้า ผกายดาวหัวเราะชอบใจกับท่าทางของจิรายุทธ พอๆกับสะใจที่ได้แกล้งชายหนุ่ม ระหว่างนั้นเองตาของผกายกายดาวก็ไปสะดุดเข้ากับร่างของผู้ชายอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก ความมืดของคืนนี้ทำให้เธอต้องเพ่งมองเขา และไม่ช้ารอยยิ้มพิมใจก็ปรากฏตรงนายของหญิงสาว
.......... เก้า เฮ้อ กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่....คิดถึงจังเลย ผกายดาวพูดไปเดินไปก่อนจะโผล่เข้ากอดชายหนุ่มในชุดทหารเรือสีขาวอย่างแนบแน่นโดยที่ชายหนุ่มยังไม่ทันได้ตอบคำถามเลย ต่อจากนั้นถึงคราวที่ผกายดาวใช้สายตาตรวจสอบราชนาวีหนุ่มตั้งแต่หัวจรดเท้า
.......... ดำขึ้นเป็นกองเลย ว้ายไอ้ดำ ผกายดาวเปิดปากล้อ
.......... เจอตัวก็ปากเสียเลยนะ ดำแต่เท่อะเคยเห็นอ่ะป่าว กรเกล้าย้อนกลับทันควัน
......... ไอ้เก้ามันมาเมื่อกี้นี่เอง เราเพิ่งไปรับมันมา ล้วก็มาหาองค์หญิงนี้แหละ จิรายุทธที่ยังใช้มือกุมหน้าผากเดินมาสมทบ
......... อ๋อ ก็เลยมารับเราน่ะนะ ผกายดาวหันไปถามจิรายุทธ
. ถูกต้องนะ ครับ
......... แล้วจะไปไหนต่ออีกอ่ะ ผกายดาวทำหน้าสงสัย
......... แล้วยังขาดใครล่ะ องค์หญิง วันนี้ต้อง ครัวครบรส จิรายุทธใช้ศัพท์แปลกๆเรียกรอบยิ้มให้อีกสองผู้ฟัง ก่อนจะขว้างมือผกายดาวแล้วหันไปพยักหน้าชวนกับกรเกล้าแสดงว่า ไปกันเถอะ
ภาพสามร่างเดินเกาะกลุ่มกันไปหัวเราะกันไป คล้ายภาพวาดในความทรงจำดูแล้วไม่ได้ต่างจากวันวานของพวกเขาเลย หญิงสาวในชุดนักศึกษาดูยังไงก็เรียกได้ว่าน่ารักเหมือนตุ๊กตาผมเป็นลอนสีน้ำตาลอ่อนโบกพลิ้ว ขนาบด้วยหนึ่งชายมาดเท่ในชุดทหารองอาจ และอีกหนึ่งคือชายหน้าตาน่ารักโดดเด่นด้วยลักยิ้มมหาเสน่ห์ที่ยังคงเกาะกุมมือของหญิงสาวไม่ยอมปล่อย
11 สิงหาคม 2548
      วันสุดท้ายของการสอบกลางภาค หอที่ฉันพักอยู่ผู้คนเริ่มบางตาลง เพราะกลับบ้านกันไปหมดแล้ว มีวันหยุดติดต่อกัน4วัน ฉันเองก็อย่างกลับบ้านบ้างจัง แต่กลับไปก็ไม่รู้เพื่ออะไรเพื่อใคร พ่อกับแม่เลี้ยงแล้วยังลูกใหม่อีกตั้งสองคน คงไม่มีใครสนใจฉันหรอก ฉันว่าแค่ฉันขอทุนเรียนได้ด้วยตัวเองพ่อก็คงโล่งอกขึ้นเป็นกองที่ไม่ต้องมารับภาระกับ ลูกนอกคอกคนนี้อีกก็มันลูกหลงนี่ ไม่เคยมีใครรัก........ไม่มีสักคน 
   แต่ก็ยังมีเรื่องดีอยู่บ้างเพราะวันนี้บังเอิญไปเจอพี่หญิงที่นั่งทำหน้าเครียดจัดอยู่ที่ซุ้มต้นไม้หน้าภาควิชา ทีแรกฉันก็ไม่กล้าเข้าไปหรอกเพราะกลัวจะรบกวนพี่เขา พี่หญิงดันเห็นฉันซะก่อนก็เลยเรียกไปคุยเรื่องโน่นเรื่องนี้ ก็เลยรู้ว่าพี่หญิงยังทำโปรเจ็คเดียววิชาภาษาอังกฤษไม่เสร็จ ได้แต่บอกว่าพี่คิดยังไงก็ไม่ออก ฉันก็เลยถามพี่หญิงว่าทำไมไม่ให้เพื่อนช่วย พี่ก็ทำหน้ากระตือรือร้นขึ้นมาทันทีแล้วหันมามองหน้าฉัน สรุปแล้วฉันที่เป็นรุ่นน้องก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยไปในที่สุด 
  สำหรับฉันงานของพี่หญิงก็ไม่ได้ยากมาก ก็แค่ทำบทวิจารณ์หนังสือภาษาอังกฤษเล่มไหนก็ได้สักเล่มแล้วพี่หญิงก็มีอยู่แล้วหลายเล่มด้วย 
.......... พี่หญิง ทำไมไมอ่านสักเรื่องล่ะ อรพิมลถามผกายดาวที่กับพลิกหนังสือภาษาอังกฤษเล่มนั้นทีเล่มนี้ที
.......... โห เล่มนี้ก็อ่านไม่รู้เรื่อง เล่มนี้ก็ศัพท์ยากๆทั้งนั้น อะไรนักวะ ผกายดาวฟาดหนังสือลงกับโต๊ะแล้วก็ลุกขึ้นพรวด  พี่ขอไปพักก่อนนะเหนื่อย ผกายดาวเดินลิ่วไปแล้ว อรพิมลก็งงกับเหตุการณ์บ้าบอของผกายดาวไม่แพ้ใคร จึงได้แต่หยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมาดูลองพลิกอ่านดูไปเรื่อยเป็นเรื่อง THE MERCHANT OF VENICE ของเซกเปียกซ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับชาวยิว การกีดกันเชื้อชาติ
.......... เอ่อ น้องครับ 
เมื่ออรพิมลเงยหน้าขึ้นจากหนังสือ ก็พบกับผู้ชายหน้าตาดีซะเหลือเกินชนิดที่เรียกว่าเป็นดาราหรืออย่างน้อยก็ต้องนายแบบ อรพิมลจ้องมองชายคนนั้นอยางไม่วางตา รู้สึกเมื่อว่าโลกทั้งใบหยุดเวลไว้ให้มีเพียงแค่คนสองคน เธอและเขา				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน