เรื่อง มณีดาว ( ออกแนวเน่านิด ๆ )
น้ำนมราชสีห์
ความเงียบเข้าคืบคลานมายึดพื้นที่ห้องพักครูเสียหมด ทุกสิ่งหยุดนิ่งศิโรราบต่อความเงียบ ไม่มีสิ่งใดคิดจะแข็งข้อ เว้นแต่เจ้านาฬิกาคร่ำคร่า ผู้ผยองว่าตนเป็นเวลาสากลของโรงเรียนเท่านั้น ที่กล้าส่งเสียงต๊อก ๆ ๆ ไม่ยอมหยุด ราวกับว่ามันไม่แยแสกับความเงียบที่ผิดปกตินั้นเลย
มณีดาวนอนฟุบอยู่กับโต๊ะ นัยน์ตารื้นชุ่ม เธอพยายามสะกดความปวดร้าวที่รุกเร้าจิตใจ แต่ยิ่งพยายาม เธอกลับพ่ายแพ้อย่างไม่เป็นท่า โรงงานผลิตน้ำตาที่พักกิจการไปนานกลับแข็งขันราวกลับว่าดีใจที่ได้มีโอกาสผลิตน้ำตาอีกครั้ง พร้อมกับภาพของคู่รักที่ลอยวนเวียนอยู่ในสมองของเธอตลอดเวลา เธอคงจะไม่โศกเศร้าขนาดนี้หากเขาเป็นฝ่ายนอกใจเธอ ตรงกันข้ามเธอต่างหากที่เป็นฝ่ายทำร้ายจิตใจเขาอย่างไม่ใยดี
ฉันรักคุณนะคะนพพล แต่ฉันรักหน้าที่ของฉันมากกว่า เธอเม้มริมฝีปากเล็กน้อย ขอบตารื้นฉ่ำ
นพพลสูดหายใจเข้าเติมลมให้เต็มปอดราวกับว่าประโยคที่จะพูดนั้นมันมีความกลัวมาอุดอยู่ที่ลำคอเสียแน่น แล้วคุณอยากให้ผมอยู่กับคุณมั้ย
ไม่ค่ะ สายตาแข็งกร้าว ของเธอเชือดเฉือนหัวใจของเขาออกเป็นเสี่ยง ๆ
ครับ ... ถ้าคุณต้องการอย่างนั้น
กริ๊ง .......ง เสียงกริ่งบอกว่าถึงเวลาที่มณีดาวจะต้องรับบทบาทแม่พิมพ์แล้ว เธอพยายามบอกกับตนเองว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะต้องมาเสียใจเรื่องของตัวเอง เพราะยังมีต้นกล้าน้อย ๆ ที่คอยให้เธอไปชโลมความรู้เพื่อให้แข็งแกร่งและเจริญเติบโตอยู่
...................................................................................................
สามปีแล้วที่มณีดาวต้องรับภาระหลาย ๆ อย่างในโรงเรียน โรงเรียนที่แทบจะไม่มีบุคลากรเลย นอกจากเธอแล้วก็เหลือเพียงครูสมใจกับลุงปุ่นที่ไม่ได้อยู่ที่นี่เพราะความจำใจ ส่วนที่เหลือก็อยู่ไปก็เพื่อรอย้าย ทุกอย่างที่นี่ไม่ได้แร้นแค้นเหมือนแต่ก่อน แต่กลับมีความอันตรายเข้ามาคุกคามตามกระหน่ำอีก จะว่าไปก็ไม่ใช่แต่ครูเท่านั้น นักเรียนเองก็ลาออกไปเยอะ เพราะว่าครูและนักเรียนที่นี่ไม่มีใครอยากดังเหมือนกับคุณครูในหนังสือพิมพ์หน้าหนึ่ง ที่ร่วงระบัดราวใบไม้ปลายฤดูหนาว
ครูครับ ครูไม่ไปกับเขาบ้างเหรอครับ ลุงปุ่นถามมณีดาวทั้งยังก้มเก็บขยะที่พื้นห้อง เหมือนกับไม่ต้องการคำตอบ
ทำไมหรือคะ สายตาที่เฉียบคมของเธอส่งคำตอบถึงลุงปุ่น
ผมเห็นบางคนที่ใกล้เกษียณแล้ว เขายังย้ายกันเลย มีแต่ครูสมใจกะ... ลุงปุ่นยังพูดไม่ทันจบมณีดาวก็ชิงตอบเสียก่อน
เพราะความกลัวมั้งคะ หนูกลัวนักเรียนของหนูไม่มีครูสอนค่ะ และอีกอย่างเหตุการณ์ที่นี่ก็ไม่ได้ร้ายแรงเหมือนอำเภอข้าง ๆ
ผมก็ไม่ได้อยากให้ครูไปนะครับ แต่คิดมาคิดไปถ้าครูมาเป็นอะไรเสียที่นี่ผมก็เสียดายครูดี ๆ อย่างครูเหมือนกัน ลุงปุ่นจ้องหน้าครูมณีดาวนิ่ง
ขอบคุณค่ะลุง หนูน่ะดวงแข็ง รับรองหนูได้เกษียณอายุราชการแน่ค่ะ มณีดาวยกมือไหว้ลาลุงปุ่น กอดการบ้านกระชับกับอก
หนูไปละนะคะลุง
ครับ ครู ลุงปุ่นยกมือไหว้มณีดาว ทั้ง ๆ ที่เธอเคยห้ามหลายครั้งแล้ว
............................................................................................................
มณีดาวนั่งสู้รบกับการบ้านเด็กและงานอื่น ๆ มาตั้งแต่เย็นแล้ว บ้านเรือนรอบ ๆ ถูกความมืดครอบคลุมเสียสนิท ทุกบ้านคงมีความสุข
บิงโก ... ฉันเป็นสาวน้อยมหัศจรรย์จริง ๆ หล่อนออกปากชมตัวเองหลังจากลุยงานสามร้อยแปดสิบห้าอย่างที่เกินกว่าหน้าที่พึงกระทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ผู้ก่อการร้ายคุกคามจังหวัดที่เธอทำงาน เธอก็ได้ทำหน้าที่ครูแนะแนว แม่ครัวของโรงเรียน ครูบรรณารักษ์ และอีกร้อยแปดพันประการ เธอเองไม่เคยคิดว่าหน้าที่เหล่านี้จะบ่อนทอนหน้าที่ครูของเธอไปได้เลย มันกลับทำให้เธอมีไฟมากขึ้นอีกเสียด้วยซ้ำ ใช่สิพรุ่งนี้เธอต้องไปเยี่ยมบ้าน คอดีเยาะ นักเรียนชั้นป.3
นอนดีกว่านะแม่สาวน้อยมหัศจรรย์ มณีดาวพูดกับตัวเองพร้อมกับเก็บโต๊ะทำงาน พลันสายตาเธอก็เหลือบไปเห็นจดหมายที่ได้รับเมื่อสามวันก่อน
นพพล ชื่อเจ้าของจดหมายหลุดออกมาโดยไม่ทั้งได้ยั้งคิด มือที่หยิบกลับสั่นเทา ทั้ง ๆ ที่เธอรู้สึกดีใจ หัวใจมั่นเต้นไม่เป็นส่ำและพยายามยั่วยุให้เปิดแต่พอจะเปิดก็แกล้งทำเป็นไม่กล้า...จะเอาอย่างไรกันแน่หัวใจจ๋า
15 มีนาคม 2550
ถึงมณีดาวยอดรักของผม
พอผมทราบข่าวว่ามีการลอบวางระเบิดโรงเรียนของคุณ ผมแทบบ้า เพราะทางนี้ไม่สามารถให้รายละเอียดข่าวใด ๆ ได้เลย อีกทั้งทางรัฐบาลโบลิเลียก็ระงับสายการบินทุกสายที่บินเข้าประเทศไทย แต่ผมจะไปหาคุณให้ได้ เพราะหากผมอยู่ที่นี่ต่อไปผมต้องหัวใจสลายเพราะความห่วงใย ที่ผมไม่รู้ว่าความห่วงใยมันหลั่งไหลมาจากไหนมากมาย ผมได้เพียงแต่ภาวนาให้คุณปลอดภัย และผมเชื่อว่าคุณต้องปลอดภัย
รอผมนะมณีดาว ผมจะไปหาคุณ
ป.ล. โรมิโอห่วงหาจูเลียตเทาไหร่ผมไม่รู้ แต่ที่รู้ ๆ ผมรักคุณไม่แพ้
โรมิโอที่รักจูเลียตนะ
รัก
Flankest Nope Poul ( นพพล )
ใบหน้าของมณีดาวมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่ แต่บนจดหมายกลับมีฝนน้ำตาร่วงลงเผาะ ๆ เธอไม่รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไรกับแน่ เพราะในใจเธอมีทั้งความดีใจและปวดร้าวระคนกันจนเธอเองสับสน ถ้านพพลมา แน่นอนเธอจะมีความสุข แต่ความสุขที่อยู่บนความกลัว ไม่สู้มีดีกว่า ความปวดร้าวที่ต้องไล่นพพลไปจากชีวิตอีกครั้งคงไม่เจ็บสักเท่าไหร่ หากว่าเธอนึกถึงเขาเมื่อไหร่ เธอจะแน่ใจได้ทันทีว่าเขาปลอดภัยกว่าอยู่ที่นี่แน่
ตีสามแล้ว แมลงกลางคืนยังไม่เลิกแข่งเสียงแก้ว มณีดาวเองก็ยังลืมตาแข่งกับความมืด หลังจากที่เธอเขียนจดหมายยับยั้งไม่ให้นพพลมาหาแล้ว เธอก็ข่มตาหลับไม่สำเร็จ สมองของเธอหลุดลอยไปในอากาศ น้ำตาของนพพลกรีดหัวใจมณีดาวจนแทบกระอักน้ำตา ความเจ็บปวดประเดประดังมารังแกหัวใจอีกแล้ว
เสียงกรอบแกรบของใบไม้แห้งกระซิบบอกให้มณีดาวระวังตัว แมลงที่กรีดเสียงแข่งขันพร้อมใจกันเงียบกริบ อะไรกันแน่ สุนัขเหรอ? หรือคนร้าย? ... คนร้ายเหรอ
ความกลัวไล่ความฟุ้งซ่านของมณีดาวหายไปหมด เธอค่อย ๆ ลุกจากเตียง ค่อย ๆ แตะเท้าลงบนแผ่นกระดาน เธอย่องไปหลบที่ข้างตู้เสื้อผ้า หลืบข้างตู้เสื้อผ้าเป็นช่องแคบ ๆ เพียงคืบ แต่ตอนนี้มณีดาวกลับอยากให้มันแคบลงกว่านี้อีก
บึ้ม....ม เสียงกัมปนาทนี้มาพร้อมกับบ้านพักครูที่สะเทือนไปทั้งหลัง มณีดาวหวีดร้องจนสุดเสียง เธอสิ้นเรี่ยวแรงที่จะหนีออกจากบ้านพักครูที่กลายเป็นเชื้อไฟอย่างดีเสียแล้ว เธอยังนอนอยู่ที่หลืบตู้เสื้อผ้าแคบ ๆ ที่ไม่สามารถอำพรางเธอจากไฟที่กำลังลุกโชนจากหลังบ้านได้ ตอนนี้เธอได้ยินเสียงตะโกนของลุงปุ่นที่แว่วมากับสายลม แต่เสียดายเธอหมดสติเสียก่อนที่จะรับรู้ว่า ลุงปุ่นพยามเรียกให้เธอออกมาจากบ้านพักที่กลายเป็นบ้านเพลิงไปเสียแล้ว
..........................................................................................................
มณีดาวค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ข้างหน้าเธอมาชายคนหนึ่งนั่งน้ำตาซึมอยู่ เธอเองก็ไม่รู้ว่าจะทักทายชายที่นั่งตรงหน้าอย่างไรดี นอกจากใช้น้ำตาแทนคำพูด
ครูเป็นอย่างไรบ้างครับ ลุงปุ่นปาดน้ำตา ทำท่าจะลุกออกจากห้องไป
ไม่เป็นไรค่ะ แล้ว... ป้าสมใจล่ะคะ ป้าเป็นอย่างไรบ้าง มณีดาวรีบถามถึงครูสาวผู้ร่วมอุดมการณ์
ครูสมใจอยู่ที่วัดน่ะครับ เธอสบายแล้ว ลุงปุ่นรีบเดินออกไป ทิ้งคำตอบไว้ให้มณีดาวเสียใจอยู่เพียงผู้เดียว ลุงปุ่นคงรีบเอาน้ำตาไปเททิ้ง
โถ่...ป้า มณีดาวปาดน้ำตาเหมือนไม่มีความเสียใจสักนิด สำหรับเธอเหตุการณ์แบบนี้ก็คงเหมือนว่าครูสมใจ แค่จากไปรอเธออยู่ในดินแดนแห่งอุดมการณ์ก่อน เพื่อรอให้เธอตามไปทีหลัง ก็แค่นั้นเอง
ขณะที่มณีดาวกำลังนั่งนิ่งอยู่บนเตียงนั้น ประตูห้องพยาบาลก็เผยออก เธอหันไปตามเสียงประตู พลันน้ำตาก็ร่วงพรูราวทำนบแตก
นพพล เธอเอ่ยชื่อเจ้าของร่างตรงหน้าอย่างยากลำบาก หลายสิ่งหลายอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ เธออยากจะแผดเสียงร้องไห้ให้เขารู้ไปเลยว่า เธออึดอัดแค่ไหน แต่ภาพชายลูกครึ่งร่างบางผมสีอ่อนที่กำลังสะอื้นจนไหล่สั่นนั้น ทำให้เธอได้แต่มองหน้าเขาแล้วปล่อยให้น้ำตาร่วงอยู่อย่างนั้น
นพพลค่อย ๆ เดินตรงเขามาหาหล่อน เขาคุกเข่าลงตรงหน้าหล่อน ตาสีน้ำผึ้งของเขารื้นใส ริมฝีปากเล็กเรื่อของเขาค่อย ๆ เผยคำออกมา
คุณรู้ไหมว่าโรมิโอรักจูเลียตมากขนาดไหน มณีดาวไม่รอคำตอบจากใครหรืออะไรทั้งสิ้น หล่อนโผเข้ากอดนพพลแน่น หล่อนปล่อยโฮมีแต่เสียงสะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอด นพพลเองก็ได้แต่เพียงเก็บความหวานชื่นที่ปวดร้าวในวันนั้น
...................................................................................
บรรยากาศในห้องพักครูตึงเครียดเหมือนวันนั้น วันที่มณีดาวขอร้องให้นพพลไปจากที่นี่
ทำไมคุณไม่ให้ผมอยู่ล่ะ นพพลลูบปากถ้วยกาแฟ นัยน์ตาแดงก่ำ
ฉันรักคุณนะคะนพพล
ผมก็รักคุณ แต่คุณไม่เคยยอมให้ผมได้ตัดสินใจบ้างเลยมณีดาว สายตาของนพพลเย็นชา ทำให้มณีดาวเย็นวาบไปทั้งตัว
คุณก็เห็นนี่คะ ว่าที่นี่มันอันตรายแค่ไหน มณีดาวหลบตา
คราวที่แล้วคุณไล่ผมสำเร็จ คราวนี้คุณไล่ผมไม่สำเร็จหรอก นพพลเอนหลังพิงพนักเก้าอี้
ดาวอยู่ที่นี่ เพราะหน้าที่นะคะ
ผิด ! คุณอยู่ที่นี่เพราะความรักต่างหาก ถ้าผมจะอยู่ที่นี่เพราะความรักบ้างจะเป็นไรไปล่ะ
เราคงคุยกันไม่รู้เรื่องแล้วล่ะค่ะ มณีดาวทำท่าจะเดินหนีนพพล นพพลจึงรวบตัวมณีดาวไว้ในอ้อมกอดทันที
ดาวครับ ถ้าคุณไม่สนใจว่าการที่ผลักไสผมไปจากคุณ ว่าจะทำให้คุณเจ็บปวดแค่ไหน แต่คุณก็ควรเห็นใจผมบ้าง ที่ต้องทนทุกข์เพราะต้องปล่อยให้หัวใจของผมเสี่ยงอยู่ในดงอันตรายอย่างนี้ นพพลปล่อยมณีดาวออกจากอ้อมกอด น้ำตาของหล่อนร่วงออกมาเป็นสาย นพพลเองก็ได้แต่กุมขมับอยู่บนเก้าอี้
ความเงียบงันแวะกลับมาที่ห้องพักครูอีกครั้ง เหมือนครั้งที่นพพลจากไป
เดี๋ยวดาวไปสอนก่อนนะคะ แล้วเราไปจดทะเบียนกัน มณีดาวอมยิ้มแก้มเรื่อ คว้าหนังสือจะเดินจากห้อง ส่วนนพพลทำท่าดีใจอ้าปากจะวิ่งตาม มณีดาวก็หันขวับกลับมาชี้นิ้ว
ถ้าอยากเป็นฝั่งเป็นฝา ก็นั่งเงียบ ๆ อยู่บนเก้าอีกตัวนี้ ห้ามไปไหนนะพ่อหนุ่ม ห้ามตามมา ไม่งั้นเธอได้เป็นโสดแน่ มณีดาวตีหน้ายักษ์หยอก นพพลเองก็วิ่งปรู๊ดไปนั่งบนเก้าอี้ตัวเก่าอย่างว่าง่าย แต่ยังยิ้มแป้นไม่หุบ
นาฬิกาตัวเก่าคร่ำคร่าบนผนังห้องพักครู เดินเสียงดังต๊อก ๆ แกล้งให้นพพลร้อนใจเล่น เขาผุดลุกผุดนั่งคอยให้เสียงกริ่งหมดเวลาดังเสียที จะหยิบหนังสือมาอ่านก็ไม่มีแก่ใจอ่าน เพราะมันร้อนรนไปหมด คนอยากแต่งงานก็อย่างนี้ ใจร้อนเป็นธรรมดา
กริ๊ง...............................ง
นพพลผุดลุกขึ้นยิ้มอย่างมีชัย เดินไปที่ประตูห้องพักครู เห็นหญิงสาวร่างบาง หน้าตาหมดจดผู้เป็นที่รักเดินมา เขาก็รีบวิ่งกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเก่า ในใจก็นับถอยหลังให้เธอก้าวมาถึงเขาไว ๆ น่าแปลกนะ เขาตื่นเต้นยิ่งกว่านัดเดทครั้งแรกเสียอีก
เสียงมณีดาวลาลุงปุ่นก่อนกลับบ้านดังอยู่หน้าอาคาร อีกไม่ก็ก้าว เจ้าสาวก็จะมาถึง หัวใจของนพพลสั่นระทึก จนแทบหายใจไม่ทัน เขานึกในใจ
ถ้าอีก 10 วินาทียังไม่เดินมา พ่อจะเดินไปอุ้มเองเลย 10 9 8 - 7 6 5 4
3 2 - 1 -
เมื่อประจวบจังหวะนับศูนย์เสียงสนทนาระหว่างมณีดาวและลุงปุ่นก็เงียบลงพอดี แต่นพพลก็ไม่สนใจอะไรแล้ว ผุดลุกหัดไปยืนอยู่หน้าประตูพร้อมกับใจนับศูนย์ จักรยานยนต์สีดำคันใหญ่ก็ปาดมาจอดข้างมณีดาวราวกับว่าทุกเหตุการณ์ถูกจับวางไว้พร้อมกัน ชายร่างใหญ่สวมแจ็กเก็ตสีดำลั่นไก ร่างของมณีดาวหมุนคว้างร่วงลงฟุบกับพื้น นพพลแผดเสียงลั่นวิ่งไปหาหัวใจที่หล่นร่วง แต่ก็ไม่ทันที่จะรั้งมณีดาวไว้จากทูตมรณะเสียแล้ว
ลุงปุ่นปิดประตูห้องพักครู ล้วงเอาแม่กุญแจในย่ามออกมาเตรียมลงกลอน แกถอนหายใจแรง ๆ ครั้งหนึ่ง ครูสมใจครับ ครูมณีดาวครับ กลับมาสอนที่โรงเรียนมีนดาเซะอีกครั้งนะครับ ผมสงสารเด็ก ๆ
คลิ๊ก ... เสียงแม่กุญแจลั่นล็อค ลุงปุ่นเด็นจากห้องพักครูไปแล้ว คงมีแต่ฝุ่นละอองที่ลอยมาพำนักที่พื้นห้องเท่านั้น ที่จะอยู่ที่นี่ กับความทรงจำของโรงเรียนนี้ กับครูมณีดาว..............
จบ
อุทิศให้ดวงใจทุกดวงที่มีรัก