พระเอกอินเตอเนชันแนล....บทที่๑ ถึง จบ

prarat

พระเอกอินเตอร์เนชันแนล
พระเอกกระบี่เย้ยยุทธจักร ขณะกำลังนั่งโซ้ยสุรานารีแดง ก็บังเอิญให้เหลือบแลเห็นเจ้ามังฉงายผ่านมา ก็เลยทักเข้าว่า ไงท่านเกลอมังฉงายจะรีบร้อนไปไหนหรือท่าน 
เจ้าจะเด็ดผู้ชนะสิบทิศ ก็ทักทายตอบว่า เออเกลอเรา เรากำลังจะหลบเจ้าสอพินยาจากตองอู 
เหล็งฮู้ชง ก็เลยเชิญเจ้ามังฉงายมานั่งร่ำสุรานารีแดง
เจ้าจะเด็ดความจริงไม่ชอบดื่ม ชอบแต่หลีอย่างเดียว บอกปัดน่าเกลียดจึงยอมทนอยู่ แต่ก็ระแวงว่า ไอ้คนคู่แค้นจะตามมา
จอมยุทธเหล็ง เห็นก็หัวเราะว่า ท่านมัง ท่านจะไปกังวลทำไม ผู้ไม่มีหัวใจเขาเขียนเรื่องนี้ขึ้น ให้ชื่อว่า เรื่องราวของพระเอกนานาชาติ ดังนั้นไม่มีตัวร้ายหรอก
เจ้าจะเด็ดรับฟังก็หันหน้าขึ้นมาถามคนไม่มีหัวใจๆก็ตอบว่า เป็นอย่างนั้นจริงๆ เจ้าจะเด็ดเลยยกเหล้าให้แก่ผู้ไม่มีหัวใจจอกหนึ่ง 
ผู้ไม่มีหัวใจ กล่าวขอบคุณและพิมพ์เรื่องของพวกเขาต่อไป 
ทั้งสองจึงกลับเข้าสู่เรื่องของมันต่อไป
จะเด็ดเริ่มคุยว่า ได้ข่าวว่า ท่านรักแล้วศิษย์น้องท่านไม่รัก ท่านจึงต้องเสพสุราจนเมามาย
เหล็งฮู้ชงตอนนี้เมามายแล้ว หลี่ตาพยักหน้าแล้วส่งเสียงอ้อแอ้ว่า จริงอยู่นะท่าน วันนี้ท่านมาก็ดีแล้ว ท่านจงบรรยายให้ข้าฟังหน่อยว่าท่านทำอย่างไร ถึงมีสาวๆหลงท่านเต็มแดนพุกามประเทศ
เจ้าจะเด็ดหัวร่อ งอหาย แล้วว่า ปู้ดโธ่ ไม่ใช่เรื่องยากอะไร แล้วจะเด็ดก็สาธยายไปเรื่อยๆจนกระทั่ง 
จอมยุทธจีน ยกมือว่า เดี๋ยวๆท่าน ข้าว่าท่านอย่ายกแม่น้ำทั้งห้า จนยาวยืดเลย เอาแบบสรุปๆได้ไหม เพราะตอนนี้ข้าฟังแล้วเวียนหัวมาก
จะเด็ดก็ว่า อะไม่ได้ซิท่าน ลีลาของจะเด็ดก็เป็นอย่างนี้แหละ น้ำท่วมทุ่ง จนคนฟังงง แล้วก็เคลิ้มตามเองแบบงง 
จอมยุทธกระโดดขึ้น สุดตัว ตะโกนร้องว่า ไอซี ๆ แล้วก็วิ่งจากไป
เจ้าจะเด็ดส่ายหน้าแล้วบ่นว่า กูว่าแล้วมันต้องมาแบบนี้อีกแล้ว ไอ้พวกจอมยุทธ กินแล้วชอบชักดาบ ว่าแล้วเจ้าจะเด็ดก็จ่ายค่าเหล้าแล้วเดินออกจากร้านมา
เดินมาได้สักพัก เอาละวะเจอเข้าแล้ว พระเอกจากเรื่องเจาะเวลาหาจิ๋นซี เซียงเส้าหลง ไอ้นี่ก็จอมยุทธเหมือนกัน ดังนั้นต้องระวังมันจะชักดาบเอาอีก
 ว่าไงท่านเส้า ดูท่าท่านจะรีบร้อนยังไงยังไงอยู่นา
อ้า ท่านจะเด็ด ไม่เจอนานคิดถึงจัง
จะเด็ดก็เอามือลูบหนวดแล้วก็หัวเราะฮาๆ แล้วกล่าวว่า ข้าคิดว่าเจ้านะยิ่งกว่าข้าที่ได้ชื่อว่าผู้ชนะสิบทิศอีก
เซี่ยงเส้าหลง ทำท่าทางไม่รู้เท่า  แล้วว่าแก่จะเด็ดว่า ข้าคงจะอยู่คุยกับเจ้ามากไม่ได้จะต้องรีบไปรับเด็กใหม่
อื้อฮือ ท่านเส้าหลง ข้านับถือด้วยความจริงใจ
ท่านก็กล่าวเกินไป ว่าแล้วก็ใช้วิชาตัวเบากระโดดสามวูบก็หายสาบสูญไป
ว่าแล้วเจ้ามังฉงายก็เริ่มไปวางแผนบุกประเทศไทยต่อไป
กล่าวถึง เจ้าเสมา เรื่องขุนศึก ณ ตอนนั้นหลังจากที่ได้ย่องออกจากห้องของแม่หญิงเรไรแล้วก็ค่อยๆเดินกลับบ้าน ท่าทางจะกระปกกระเปลี้ยอยู่บ้าง ก็พอดีพบกับ เซียวฮื้อยี้ และ บ่อข่วย นั่งก๊งสุราอยู่
 เจ้าเสมาก็เลยเข้าไปถามว่า เอ้าพี่ท่านสบายดีเหรอ 
ทั้งสองพี่น้องเห็นไอ้เจ้าเสมาทักทายก็ทักทายตอบ ว่า มาๆเชิญนั่งท่านเสมา ไปไหนมาหละ 
เสมาก็อึกอักๆแต่ยังไม่ยอมตอบ สองพี่น้องเห็นก็หัวเราะงอหายแล้วกล่าวว่า ไม่ต้องอายพวกเราหรอกพี่เสมา พวกเราสองพี่น้องรู้ดีว่าพี่ไปทำไรมา มาๆพี่มาซดกันซักจอกสองจอกก่อน
แต่เสมาเนื่องจากวันรุ่งขึ้นต้องไปออกศึก ดังนั้นจึงขออนุญาต กลับบ้านก่อน 
ทั้งสองจอมยุทธเห็นดังนั้นก็ไม่ว่าอะไร วิถึคิดของคนแต่ละคนยากหยั่ง แต่ละคนมีอุดมการณ์ ใยต้องขัดขวางกัน ทั้งสองจอมยุทธกล่าวว่า พบกันใหม่ก็แล้วกันนะพี่ท่าน
เจ้าเสมา ก็ยิ้มแล้วโบกมือ วิ่งหายไปในความมืด
เซียวฮิ้ยยี้ คุยกับบ่อข่วยต่อว่า เอพี่เรื่องนี้นี่ไม่ค่อยมีสาระเลยนะพี่
บ่อข่วยว่า เออ ข้าก็คิดแบบเดียวกะเอ็งเหมือนกันละว่ะ
เอไอ้เจ้าคนเขียนเนี่ยะ วันๆมันคิดแต่เรื่องนี้อย่างเดียวจริงๆหรือ
ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงของผู้ไม่มีหัวใจ ตอบว่า ตอนนี้มันเกริ่นนำโว้ย เข้าใจไหม เข้าใจไหม 
ทั้งสองจอมยุทธได้ยินดังนั้น ก็เริ่มรู้แล้วว่า ผู้ไม่มีหัวใจ เริ่มฉุน แล้วดังนั้นขยิบตาแล้วตีลังกากลางอากาศหลบหนีไป
บทที่ 1 การละเลงเพลงดาบ
พวกเรานักอ่านทั้งหลายก็รู้อยู่ว่าพระเอกของเราแต่ละคนนั้นมีฝีมือดาบชั้นพระกาฬเรียกพี่ทุกท่าน และในวันนี้เราจะได้มาชมกันว่าเพลงดาบของใครมันจะเจ๋งมากกว่ากัน ผู้ไม่มีหัวใจได้รับเชิญมาเป็นกรรมการตัดสินในวันนี้ ผู้ไม่มีหัวใจแต่งกายด้วยสูทอย่างดี หวีผมเรียบ ก้าวเดินออกไป บนเวทีแล้วเริ่มกราบเรียนต่อท่านผู้ชมว่า 
ท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษครับ ณ บัดนี้เราจะได้พบกับการต่อสู้ของพระเอกจอมยุทธ ในวันนี้ 2 ท่าน ท่านแรก ท่านเป็นนักดาบจอมเมามาย ท่านเหล็งฮู้ชง แห่งสำนักหัวซาน 
ว่าแล้ว ท่านเหล็งฮู้ชง ก็เดินเซซัดโซออกมาจากทางออกนักกีฬา เสียงคนที่ชอบอ่านเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร ก็ตบมือกันสนั่นเกรียวกราว พระเอกของเราหัวเราะในใจว่าแล้วก็กระโดดตีลังกา 3 รอบ ใส่เกลียวอีก  ครึ่งเกลียวแล้วลงมายืนอย่างมั่นคงบนเวที บรรดาผู้ชมต่างเงียบกริบเนื่องจากรอผลการให้คะแนนจากกรรมการริมเวที เมื่อกรรมการทุกท่านได้ชูป้ายคะแนน ปรากฏว่าทุกท่านให้ 10 หมดเลย คนดูก็ตบมือเป่าปากแสดงความยินดีกันลั่นเวที และแล้วผู้ไม่มีหัวใจก็กระแอมไออยู่หลายครั้ง จนกระทั่งคนดูเงียบ ทุกคนเผ้าฟังว่าคู่ต่อสู้ของเหล็งฮู้ชงจะเป็นใครด้วยใจจดจ่อ 
เรียนท่านผู้ชม ต่อไป เป็นคู่ต่อสู้ที่น่าจะเหมาะสมด้วยกันทั้งปวง นั่นก็คือ ท่านขุนศึก หรือ ท่านเสมา 
เมื่อผู้ชมได้ยิน ดังนั้น ด้วยความรู้สึกรักชาติอย่างรุนแรง ก็เลยตบมือกันจนกระทั่งพลังเสียงที่ตบทำให้คนชมเกือบจะทนทานไม่ได้ ทันใดนั้นเองท่านเสมาก็แต่งตัวออกมาในชุดของยอดขุนศึกไทย ดาบคู่ที่สพายอยู่กลางหลังนั้นอันเบ้อเริ่ม แม้จะไม่มีกำลังภายในแบบพระเอกในนวนิยายจีนแต่เสมาก็ยังมีอาคมอยู่ คนดูต่างพากันปรบมือจนกระทั่งท่านเสมาได้ขึ้นเวทีเรียบร้อย
ยกที่ 1 เริ่มแล้วครับ
เหล็งฮู้ชงชักกระบี่ของมันออก ปลายชี้เฉียงลงเบื้องล่าง ปลายกระบี่ยังคงแน่วนิ่งไม่สั่นไหว 
ฝ่ายเจ้าเสมา ใช้มือทั้งสองข้าง ชักดาบที่สพายกลางหลังออกมาอย่างรวดเร็วและสวยงาม เสียงลมเมื่อวาดดาบมาตั้งท่าคุมนั้นดังหวีดหวิว ทำให้คนดูพลอยรู้สึกเสียวสยิวไปทุกรูขุมขน และแล้วเจ้าเสมาก็กล่าวว่า ท่านเหล็งเชิญ เหล็งฮู้ชง ผงกหัวนิดเดียวแล้วก็เริ่มท่าแรกในเพลง กระบี่หัวซาน ฝ่ายเจ้าเสมาก็กระโดดเข้าไปในเงาร่างของเจ้าเหล็งฮู้ชง ในม่านเงาพร่าพรายของท่าร่างของคนทั้งสองดูไป คลับคล้ายกับลมบ้าหมู 2 ลูกที่หมุนบิดไขวัไปมา เสียงดาบที่ประทะกันดังเช้งช้าง ประกายไฟพุ่งมาดังกับหม้อดอกไม้ไฟที่พวยพุ่งออกรอบข้าง ฝ่ายคนดูทีแรกก็ตั้งใจดู แต่เนื่องจากความเร็วของทั้งสอง จึงทำให้ดูไม่ทันแต่ก็นั้งลุ้นนิ่งเงียบหมดทั้งเวที เมื่อผ่านไปได้ราวสัก 30 นาที เงาร่างของคนทั้งสองก็เริ่มปรากฏแล้ว เหล็งฮู้ชงยืนเหมือนท่าตอนแรกแต่ทว่าขาสั่นเล็กน้อย ขณะที่เจ้าเสมา เหงื่อกาฬไหลถะถั่งออกจากใบหน้าและแขน เหมือนกับอาบน้ำแต่ไม่มีอาการหอบ จากนั้นเจ้าเสมาจึงกล่าวต่อท่านเหล็งฮู้ชงว่า เพลงกระบี่หัวซาน 13 ท่าอันยอดเยี่ยมนัก ฝ่ายเล่งฮู้ชงก็เอื้อนเอ่ยออกมาบ้างว่า เพลงดาบสำนักพุทธไธสวรรค์ของท่าน ไม่เสียทีที่เลื่องลือวันนี้ได้เปิดหูเปิดตามากแล้ว ละแล้วทั้งคู่ก็เก็บดาบกระบี่เข้าฝักและรอผลการตัดสิน เนื่องจากรายการนี้มันคล้ายกับรายการ เดอะสตาร์ ดังนั้นจึงต้องให้ท่านผู้อ่านได้กรุณาช่วยกันตัดสินว่าจะให้ใครชนะ ซึ่งผู้ไม่มีหัวใจจะได้ประกาศให้ทราบก่อนที่จะเริ่มการเข่งขันคู่ที่สองต่อไป การแข่งขันคู่ที่สองใครจะแข่งกับใคร และจะมันเร้าใจแค่ไหนโปรดติดตามด้วยความระทึกใจต่อไป ไม่นาน
บทที่ 2 น่าฉงนกับพระเอกนักรัก
     เมื่อคราวที่แล้ว ผลการต่อสู้ปรากฏว่าท่านเสมาขุนศึกเป็นฝ่ายได้ชัยชนะ เนื่องจากบรรดาคนดูส่วนมากจะเป็นคนไทยกัน ก็เลยทำให้ท่านเหล็งฮู้ต้องพ่ายแพ้ไป แต่ไม่เป็นไรครับ แพ้เป็นหลวงจีน 
ชนะเป็นพรรคมาร         โฆษกสนามประกาศว่า  สวัสดีพี่น้องชาวไทยทุกท่าน วันนี้นะครับเราจะได้ชมคู่ต่อสู้ที่มีลีลาสูสี อายุก็สูสี มีเมียมากก็สูสี ก็จะได้รู้กับไปสักทีว่าใครจะแน่กว่าใคร
นักสู้คนแรก เป็นนักสู้สมัยศตวรรษที่ 21 แต่มาดังในสมัยจิ๋นซีฯ ผู้หญิงที่ผ่านทางหรือพบหน้า เมื่อได้เห็นหน้าเขา หุ่นเขา ลีลาการพูดการจาของเขาแล้ว มักจะเสร็จเขาเสมอๆ และที่สำคัญ
เพลงกระบี่ม๊อจื๊อ ของเขา 13 เพลงทำให้เขาได้ผงาดในยุคจิ๋น เขาก็คือ ท่านเซี่ยงเส้าหลงๆ ใช้วิชาตัวเบา ออกมายืนยิ้มอยู่บนเวที  ขอให้ทุกคนปรบมือด้วยครับว่าแล้วคนดูและตัวท่านผู้อ่านก็ปรบมือเกรียวกราว บางท่านยังมีความป่าเถื่อนอยู่ก็ใช้การโห่ฮาป่า และแล้วพิธีกร ก็ชูมือเป็นสัญญลักษณ์ให้ทุกคนเงียบ นักสู้คนต่อไป เป็นศิษย์เอกแห่งกุโสดอ และ ตาคะยีครูดาบ หน้าตาสุดหล่อ คารมคมคาย และสาวๆเพียบ เขาก็คือ จะเด็ด ผู้ชนะสิบทิศ ทันใดนั้นเองผู้ชนะสิบทิศก็ขึ้น บรรดาผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ ก็พร้อมใจกันร้องเพลงทุงยาบาเลนี้ ทำให้ในสนามประลองนั้นสนุกครึ๊กครื้นยิ่ง เจ้าจะเด็ดตัวสำคัญ ก็โพกผ้า ถือดาบออก มาอย่างสง่าผ่าเผยจนกระทั่งขึ้นมาบนเวที
       นักสู้ทั้งสองต่างมองหน้ากัน แล้วแต่ละคนก็ชักดาบอย่างพร้อมเพรียง แต่ทว่าคนดูทั้งหมดจะเห็นได้ว่า ขาทั้งสองข้างของทั้งสองคน นั้นสั่นอยู่พั่บๆ นั่นย่อมแสดงว่าผู้กล้าทั้งสองไม่เห็นความ
ตายเป็นอย่างไร คือเห็นการตายเหมือนการกับสู่มาตุภูมิ แต่ผมว่านั่นคือคนที่คิดมองโลกในแง่ดี แต่ถ้ามองโลกในแง่ร้ายบ้าบอแล้วจะเห็นได้ว่า ทั้งสองนี้เป็นตัวเอาจริงๆ แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว
ก็ขอยอมเสียวก่อนที่จะมาเสี่ยงกัน เอาละครับไม่พูดแล้ว ขอเชิญจวกกันได้แล้วครับ ว่าแล้วทั้งสองก็วิ่งเข้าใส่กัน แต่อนิจจาครับทั้งสองคนสะดุดผืนผ้าบนเวทีล้มลงพร้อมๆกัน กรรมการมองหน้ากรรมการใหญ่ แล้วก็เรียกกรรมการบนเวทีเข้าไปหารือ แล้วก็พยักหน้า กรรมการ
บนเวทีก็เลยมาถือไมค์ประกาศดังต่อไปนี้
      กราบเรียนท่านพี่น้องที่เคารพ การต่อสู้ระหว่าง ท่านเซี่ยง กับ ท่านมังฉงาย นี้ทางสนามไม่สามารถตัดสินได้ เนื่องจากทั้งสอง ต่อสู้ไม่สมศักดิ์ศรี ทั้งคู่ไม่สามารถจะเอื้อนเอ่ยวาจา ใดออกมาได้ก็ก้มหน้าตัดใจลงเวทีไป แต่ในใจของเขาทั้งสองมีความในยากที่จะเอ่ยวาจาได้ แต่กับคนดูรอบสนามต่างพากันนึกว่า การที่มีเมียมากแล้วไม่บันยะบันยังบ้าง ก็ทำให้เสียชื่อเสียเสียง เสียโอกาส เสียแรง และเสียอื่นๆอีกมากมาย เมื่อยุทธจักรคิดเช่นนี้เสียแล้วมีใครบ้างที่จะสามารถลบมลทินให้แก่เขาทั้งสองได้ แต่สักวันหนึ่งจะต้องมีแน่
บทที่ 3 การก่อวินาศกรรมซ้อน
เมื่อบรรดาพวกเหล่าร้ายคือตัวร้ายทุกเรื่องของนานาชาติทราบว่า มีเรื่องราวของเหล่าพระเอกออกเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต จึงได้ก่อตั้งชมรมลับชมรมหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า ชมรมผู้ร้ายนานาชาติ ขึ้น ปัจจุบันนี้ไม่มีใครทราบว่าใครเป็นหัวหน้าขบวนการนี้
  	ที่สมาคมพระเอกนานาชาติ 
บรรดาเหล่าพระเอกได้แจกเทียบเชิญออกไปทั่วยุทธภพแล้ว เพื่อเชิญเหล่าพระเอกทั่วโลกมาชุมนุมเลือกประมุขยุทธภพ ทุกเครื่องบินจะต้องมีพระเอกอย่างน้อย 2 ถึง 3 ท่านที่บินมาลง
เมืองไทยเพื่อเข้าประชุมในครั้งนี้ เมื่อถึงในวันประชุม เจ้าเสมาโฆษกได้ประกาศ ขอเชิญท่านสมาชิกสมาคมพระเอกนานาชาติเสนอชื่อ ผู้ที่เหมาะสมจะเป็นประมุขยุทธภพได้แล้วขอรับ เมื่อเสียงประกาศร้องตะโกนก้องออกไป เจมส์บอนด์ ลุกขึ้นยืนกล่าวว่า จากการสืบทราบมาจากพวกตัวโกงนานาชาติ ได้มีการจัดประชุมขึ้นจริง และมีแนวโน้มว่าจะใช้การก่อการร้ายมาโจมตีพวกเราเหล่าพระเอก แต่ไม่ต้องกลัวครับ ในขั้นต้นนี้ ผมดำเนินการไปบ้างบางส่วนแล้ว
มินจุงโฮ พระเอกแห่งจอมนางแห่งวังหลวง ก็ลุกขึ้นและอาสาไปสืบข่าวตัวโกงมาให้ พระเอกหลายร้อยคนต่างก็แลไปแลมาผมมองดูคุณ คณมองดูผม ไม่มีใครออกเสียงแสดงความคิดเห็นเลย และแล้วอาโนลชาวากเซเนเกอร์ ก็ลุกขึ้นยืน ในนามของพระเอกเรื่องคนเหล็ก ผมขออาสาเป็นผู้นำต่อสู้กับพรรคตัวร้ายเอง บรรดาพระเอกในสมาคมต่างก็เห็นชอบด้วยเพราะว่าพระเอกคนเหล็กของเรานั้นยังมีตำแหน่งใหญ่โตทางการเมืองในประเทศอเมริกา ดังนั้น เสียงของพระเอกทั้งหมดจึงให้พระเอกคนเหล็ก เป็นประมุขพรรค
อาโนล เมื่อได้รับฉันทานุมัติ แล้วก็เดินอาดๆขึ้นไปบนเวที และไปยืนที่โพเดี้ยม ได้กล่าวให้วิสัยทัศน์ และแผนกลยุทธในการทำงาน เพื่อมอบให้กับเหล่าพระเอกได้ออกไปปฏิบัติ และคาดว่า ผลการปฏิบัติของทุกคนจะมีส่วนเอื้อให้วัตถุประสงค์ใหญ่ประสบผลสำเร็จ ที่ประชุมขณะกำลังจะออกจากห้องประชุมนั้น ก็มีเสียงกึกก้องกัมปนาท แสงสว่างจาดจ้าตาจนต้องหลับตา แรงกระแทกที่รุนแรงยิ่งกว่าทอนาโด ฝุ่นผงที่คละคลุ้งอบอวลไปหมด เสียงร้องระงมของพระเอกดังก้องไปทั่ว ไม่มีใครรู้เกิดอะไรขึ้น ตอนเช้าหนังุสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ได้ลงข้อความพาดหัวว่า บึมพระเอกเละเป็นโจ๊ก หามเข้าโรงพยาบาลนับร้อย จากเสียงอาโนล ประมุขพรรค กล่าวว่า มันเป็นความแค้น เราจะต้องล้างแค้น แล้วจะได้เห็นดีกัน ไอ้พวกตัวโกงทั้งหลาย ว่าแล้วก็เดินเขย่งๆหันหน้าไปหาหมอเพื่อรักษาตัวต่อไป
   	ฝ่ายพวกผู้ร้าย ได้ประชุมกัน และตบมือให้กับท่านบินหลา ว่าสามารถทำงานได้ดีมีผลเกินคาด ซึ่งจะเริ่มแผนสองต่อไป ในที่ประชุมนั้นเอง เจมส์บอนด์ ได้ปลอมตัวเป็นสลัดนามว่า ขุนโจรเคราดำ นั้งฟังอยู่ และพอทราบว่าพวกของตัวถูกทำร้ายก็รู้สึกตกใจ แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความเป็นเจมส์บอนด์ ก็ได้วางแผนการตอบโต้ไว้แล้วอีก ห้านาทีต่อมา เสียงระเบิดกึกก้องได้ดังขึ้น
 	ชาวบ้านยังคงนึกว่า พระเอกคงโดนอีกแล้ว แต่ทว่าความจริงแล้วนี่แหละเป็นฝีมือของหน่วยราชการลับตัวเอ้ และตอบกลับได้อย่างทันการและสาสม รุ่งขึ้นในที่ทำการสมาคมพระเอกแห่งใหม่ เสียงปรบมือดังกึกก้อง ให้กับชายหนุ่ม จอมหลีคนนี้ที่ได้ทำผลงานยอดเยี่ยมแก่สมาคม นับว่า ทั้งฝ่ายพระเอก และฝ่ายผู้ร้าย เสมอกันแล้วในตอนนี้ 
บทที่ 4 มหันตภัยร้ายของโลกเริ่มเกิดแล้ว
	ณ บัดนี้ฝ่ายตัวร้ายได้เริ่มทำการก่อการร้ายไปทั่วโลกแล้ว ประชาชนโลกต่างได้รับผลกระทบแทบจะทุกประเทศ ประชาชนทั่วโลกต่างก็เดินขบวนเรียกร้องให้พรรคพระเอกอินเตอร์ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งอย่างรีบด่วน 
	ณ ที่ประชุมพระเอก อาโนลคนเหล็ก กล่าวว่า ท่านทั้งหลาย ณ บัดนี้ โลกต้องตกอยู่ในภาวะคับขัน จากการกระทำของพวกตัวร้ายทั้งปวง พวกเราได้รับการเรียกร้องจากประชาชนทั่วโลกให้ดำเนินการปราบปรามอย่างเร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตามนี่มันเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป ในเรื่องทั่วไปพระเอกอาจชนะตัวร้ายได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงพระเอกอาจพ่ายแพ้แก่ตัวร้ายอย่างหมดรูปก็เป็นไปได้ ทันใดนั้น ซุปเปอร์แมน ก็รีบวิ่งตาตื่นออกมาแจ้งกับประธานว่า ข้าพเจ้าเห็นมิสซายลูกหนึ่งกำลังตรงดิ่งมาทางนี้ ว่าแล้วเจ้าซุปเปอร์แมนก็รีบเหาะไรปแก้ไขปัญหาทันที
	ประธานอาโนลคนเหล็ก กล่าวต่อว่า ในช่วงนี้ ข้าพเจ้าขอให้พวกพระเอกที่ลือชื่อทั้งหลายในเรื่องนักรักให้ระมัดระวังตัวอาจจะถูกตัวร้ายหลอกเอาได้โดยเฉพาะในเรื่องของผู้หญิง และท่านประธานได้ขอให้พระเอกทุกคนได้ออกปฏิบัติการ	เมื่อซุปเปอร์แมนได้เหาะกลับมาถึงก็ได้เข้ามารายงานผลการทำงานให้ประธานอาโนลทราบว่า จรวดดังกล่าวติดคริปโตไนต์ไว้ ทำให้ต้องทำลายอย่างเดียว ส่งผลให้กัมมันตภาพรังสีได้แพร่ออกไปอย่างรวดเร็วและโลกวิกฤตหนักขึ้นแล้ว
	ประธานอาโนลได้ฟัง ก็ทรุดนั่งที่เก้าอี้ประธานและครุ่นคิดหาวิธีรับมือพวกมันซึ่งฉลาดและไม่ต้องบอกว่าแกมโกงอย่างชั่วร้าย จะปราบปรามพวกมันอย่างไรดีให้ราบคาบได้ ทุกคนเหลืออยู่ในพรรคต่างก็หนักอกหนักใจในภารกิจดังกล่าวนี้ แต่แล้วก็มีพระเอกคนหนึ่งชื่อว่า เห้งเจีย ได้กล่าวว่า จะต้องหาพระเอกที่ฉลาดที่สุดมาเป็นกุนซือให้ได้ ซึ่งในพรรคของพระเอกทุกคนต่างก็เห็นด้วย แต่ทว่าใครหนอจะเป็นพระเอกที่ฉลาดที่สุดละ แต่อย่างไรก็ตามในห้วงนี้ก็ขอให้ฝ่ายพระเอกทั้งหลายได้ทำการปราบปรามเหล่าร้ายตามเรื่องราวที่ทุกคนพอจะทำได้ไปก่อน
	ในห้วงนี้เหล่าประชาชนต่างอกสั่นขวัญแขวนไม่สามารถมีความสงบสุขได้ ฝ่ายนาจา ลูกศิษย์ของเจ้าแม่กวนอิมก็ได้กราบทูลต่อเจ้าแม่ถึงภัยร้ายแรงของโลกซึ่งท่านก็รับทราบแล้วไม่ได้ว่าอะไร นาจาก็แอบหนีลงมาโลกมนุษย์แต่ก็ต้องมาเจอมังกรร้ายหลายตัวก่อกวนโลกอยู่ก็เข้าทำการปราบ
	จะเห็นได้ว่า พระเอกแต่ละคนเหนื่อยทุกคนเนื่องจากต้องทำการปราบปรามตัวร้ายที่เกี่ยวข้องกับตนเองจนไม่มีเวลาจะไปช่วยคนอื่น และโดยเฉพาะตัวร้ายของพวกซีรีย์ยาวๆด้วยแล้วยิ่งมีเยอะใหญ่ โชคดีที่มี  หมอโฮจุน มาช่วยทำการรักษาพยาบาล
	ฝ่ายตัวร้ายทั้งปวงเริ่มเป็นฝ่ายมีเปรียบเนื่องจากบรรดาฮีโร่ในโลกมีจำนวนจำกัด แต่จำนวนตัวร้ายมีมากกว่าหลายเท่าและมารุมเร้าพร้อมๆกันยิ่งทำให้กดดันพวกพระเอกหนักยิ่งขึ้นไปอีก หากเราชนะตัวเอกทั้งหลายได้ ต่อไปในหนังสือทุกเล่มจะมีพวกเราเป็นตัวเอกบ้าง นี่สินะเขาเรียกว่าแพ้เป็นพระชนะเป็นโจร ห้า ห้า ห้า ฮ่า ฮ่า ฮ่าๆๆๆๆ	เจ้าพวกตัวโกงมีความรู้สึกสนุกสนานยิ่งนัก ในขณะที่ตัวพระเอกทั้งหลายเริ่มเป็นรองแล้ว
	ใครจะแพ้ใครจะชนะกันแน่ จริงหรือที่ธรรมะต้องชนะอธรรม 
บทที่ 5 หัวหน้ามารร้ายปรากฏโฉม
	ขณะที่ฝ่ายพระเอกกำลังเลือกหาเสนาธิการอยู่นั้น ก็เห็นอุ้ยเซียวป้อ เดินอาดๆเข้ามา คารวะท่านอาโนล ๆก็พยักหน้ารับ พระเอกทุกคนได้มองหน้ากันแล้วก็ยิ้มได้ เพราะว่าบุรุษจอมยุทธผู้นี้แหละที่นับได้ว่าฉลาดหาได้ยากยิ่งในแผ่นดิน และเสนาธิการอุ้ยก็เริ่มวางแผนการรบทันที
	ฝ่ายพวกมารร้ายโฉดชั่วก็ได้รวมตัวกันอีกครั้งอย่างเป็นความลับที่สุด และทุกคนเพิ่งจะทราบเหมือนกันว่าที่แท้จริงแล้วหัวขบวนของฝ่ายมารก็คือ ขุนช้าง ของเรานี่เอง ขุนช้างขึ้นนั่งเก้าอี้ประธานพรรคมารและสั่งการให้ดำเนินการตามแผนดังนี้ แผนแรกลอบทำร้ายพระเอกแต่ละคน สองรวบรวมกำลังมารถล่มพรรคพระเอก ฝ่ายตัวร้ายทั้งปวงก็รับคำสั่งแล้วไปจัดเตรียมการตามแผน
ที่ประธานช้างได้สั่ง
	ขณะนั้นเอง ที่โต๊ะด้านหลังของหอประชุมพรรคมาร มีตัวร้ายตัวหนึ่งเป็นตัวร้ายเรื่องเล็ก ค่อยๆเดินออกจากที่ประชุมพรรคมาร และพอพ้นเขตเขาก็กลับมาสู่ร่างเดิมของเขาไซมอน เทมปลา พระเอกแห่งเรื่องสิงห์สำอางค์นั่นเอง สิงห์สำอางค์ก็รีบไปรายงานให้เสนาอุ้ยได้ทราบแผนการร้ายของพวกมาร	
ฝ่ายเสนาอุ้ยเมื่อได้รับทราบแผนการร้ายของพวกมารแล้วก็รีบจัดกำลังเข้ารับมือกับพวกมารทันที และย้ำว่าจับโจรก็ต้องจับหัวหน้า เนื่องจากมันเหมือนกับการเล่นหมากรุกหากฝ่ายใดสามารถกินขุนของฝ่ายตรงข้ามได้ก็ถือว่าชนะสมศักดิ์ศรี แผนการของท่านอุ้ยก็เป็นดังนี้ไม่รู้ว่าจะเข้าท่าเข้าทางหรือเปล่า ฝ่ายพระเอกก็เตรียมการรับมือกัน
	ดังนั้น เสนาอุ้ยจึงเสนอให้ขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์เป็นแม่ทัพ ขุนแผนจึงให้ ซุปเปอร์แมน เป็นแม่ทัพหน้า เห้งเจียเป็นปีกขวา หนุมานปีกซ้าย และให้ต้วนอี้เป็นเกียกกาย กองทัพของฝ่ายพระเอกรีบยกไปอย่างรวดเร็ว 
	ฝ่ายกองทัพตัวโกง เมื่อได้ทราบว่าฝ่ายพระเอกได้ยกทัพมาแล้วก็ได้จัดทัพมาตั้งรับ มี ขุนช้าง เป็นแม่ทัพหลวง ตงฟางปุ๊ป้าย เป็นแม่ทัพหน้า มนุษย์เจ้าปัญหาเป็นปีกขวา ทศกัณฐ์เป็นปีกซ้าย และผีเสื้อสมุทรเป็นกองหลัง
	ฝ่ายกองทัพทั้งสองฝ่ายมาประจันหน้ากันที่สนามบินสุวรรณภูมิซึ่งตอนนี้รกร้างว่างเปล่ามานานแล้ว กำลังของฝ่ายพระเอกนั้นมีน้อยกว่าฝ่ายผู้ร้ายหลายเท่า ฝ่ายพระเอกหลายคนกลืนน้ำลายไม่ค่อยจะลงคอ ในตอนนั้นเองตงฟางปุ๊ป้ายก็เหาะมาหน้ากองทัพแล้วเริ่มกล่าวท้ารบว่า
	ไอ้พวกพระเอกใจเสาะใครใจถึงก็ขอให้มารบกับเรา เดิมทีซุปเปอร์แมนจะให้เห้งเจียออกไปก็เกรงว่าจะเสียทีจึงให้เหล็งฮู้ชงทหารเอกออกไปแทน เมื่อตงฟางเห็นดังนั้นก็ร้องได้คำเดียวก็พุ่งโผเข้าหาเหล็งฮู้ทันที ฝ่ายเหล็งฮู้ก็รู้ในทีก็ขยับกายออกไปปะทะด้วยความรวดเร็วแต่ทว่าทั้งสองคล้ายยังมีความนัย ทั้งสองจึงได้วิ่งออกไปไกลจนลับสายตาจากสมรภูมิ
	ฝ่ายผู้ร้ายก็ส่งทหารเอกออกไปอีก ฝ่ายพระเอกก็ส่งออกไปอีกเหตุการณ์ก็เป็นดังเดิมอีก ในที่สุดระหว่างที่สองฝ่ายกำลังเผลอ ขุนแผนก็รีบหายตัวไปล๊อกคอขุนช้างไว้แล้วเอาดาบฟ้าฟื้นจ่อคอหอยแล้วบีบบังคับให้ตัวร้ายวางอาวุธยอมแพ้ ฝ่ายพวกตัวร้ายเมื่อตัวหัวหน้าใหญ่โดนจับได้อย่างนี้มันก็หมายความว่า ได้รับการพ่ายแพ้แล้ว จึงยอมวางอาวุธแต่โดยดี ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสันติภาพสงบศึกอย่างถาวร
	เหตุการณ์ระหว่างเหล่าพระเอกและผู้ร้ายก็สงบมาตั้งแต่บัดนั้น
บทที่ 6  ยอดหญิงปรากฏกาย
	ธรรมชาติของเหล่าพระเอกย่อมต้องมีเจ้าชู้ประตูดิน เมื่อทั้งหลายต่างคนต่างเป็นพระเอกและต่างคนต่างมาเจอนางเอกของเรื่องนี้แล้วอะไรจะเกิดขึ้น
	วันหนึ่ง ที่สยามดิสคอพเวอรี่ หญิงสาวแรกรุ่นนางหนึ่งก้าวชดช้อยออกมาด้วยหน้าตาสดสวยเต่งตั่งแห่งวัยสาว ดวงตาที่หยาดแย้มแวววาวตังแสงดวงดาวในยามราตรี รูปร่างที่สมส่วนยั่วยวนใจ อีกทั้งกลิ่นกายสาวที่หอมกลุ่นกระตุ้นจิตใจ พระเอกคนแรกที่พบเห็นก่อนก็คือ ไซมอนเทมปล้า สิงห์สำอางค์ เมื่อเห็นเข้าก็มึนงงตกหลุมรักทันที ต่อมาก็น้าเจมส์บอนด์ ต่อมาก็อาโนล ต่อมาก็เหล็งฮู้ชง ต่อมาก็ขุนแผน ต่อมาก็หนุมาน รวมแล้วพระเอกทั้งหมดตกหลุมรักทันที ทุกคนต่างอยู่ในภวังค์แห่งความรัก ต่างคนต่างเขียนจดหมายรัก บ้างก็ขอแช็ท บ้างก็จะขอแคมฟร๊อก บ้างก็ส่งเอสเอ็มเอส เพื่อจะขอนัดพบกับสาวเจ้าที่มีสิริโฉมอันเลิศเลอกว่าสตรีใดในสามโลก แต่ก็เหมือนว่า ตัวเธอเอง ดังจะเป็นผู้ที่ไม่รู้จักกับคำว่ารัก หรือผู้ที่มีเกราะแก้วคุ้มครองกายให้พ้นจากวิถีของศรกามเทพได้ฉันนั้น หรือไม่ก็เป็นเพราะว่าพระธาตรีได้กำเนิดเธอเพื่อจะเพียงแค่ได้ยั่วยวนใจชายในโลกให้ถึงซึ่งวิบัติแห่งความไม่สมหวังเท่านั้น 
	มารยาหญิงมีหลายร้อยเล่มเกวียน แต่บรรดาชายก็มีลูกตื้อ เคล็ดวิชามากมาย และตื้อเท่านั้นที่ครองโลก ด้วยบริบทเก่าๆแก่ๆอย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าเหล่าพระเอกจะสามารถบรรลุเป้าหมายของแต่ละคนได้ไหม ยกตัวอย่างเช่น ฝ่ายขุนแผนกำลังจัดเตรียมน้ำมันพรายเพื่อไปดีดใส่ แต่พอจะดีดใส่เจ้าซุปเปอร์แมนก็ไม่รู้โผล่มาจากไหนไปบังให้ เจ้าซุปเปอร์แมนได้รับคำขอบคุณจากหญิงสาว ทำให้เจ้าขุนแผนของเราโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ส่วนฝ่ายเจ้าจะเด็ดนั้นพอมีโอกาสจีบก็ร่ายยาวจนกระทั่งจับความไม่ได้งงในตัวเองว่าได้พูดอะไรไปบ้างส่วนนางเอกของเรานั้นเฉยๆเพราะในรูหุของเธอนั้นมีหูฟังเสียบกับเอ็มพีโฟอยู่นั่นเอง เมื่อเหล็งฮู้ชงมาสาวเจ้าก็เอามือปิดจมูกเนื่องจากเหม็นกลิ่นเหล้า น้าอุ้ยเซียวป้อมาหญิงสาวก็ไม่ชอบและบอกวาไม่ชอบชายหัวเถิก เพราะหัวเถิกข้างหน้าเป็นคนคิดมาก เถิกข้างหลังเอามาก เถิกทั้งหน้าทั้งหลังเนี่ยคิดจะเอาอย่างเดียว หนุมานเล่ากว่าจะเข้าใกล้ชิดได้รำไปรำมาตีลังกาไปตีลังกามาเกาแล้วเกาอีกจนฝายหญิงก็เบื่อสุด ฝ่ายพระเอกของเราก็ผลัดกันเข้าไปสีนางเอกกันถ้วนหน้าแต่ทว่าต่างคนต่างก๊อกหักออกมาอย่างยับเยิน
	ที่ประชุมพระเอกนานาชาติ ได้มีการเรียกประชุมด่วนเพื่อหาทางแก้วิกฤตของพระเอกหลายท่านที่มีอาการไม่สู้จะดีเนื่องจากนางเอกไม่สนใจ แต่ที่ประชุมไม่ได้ข้อสรุปว่าจะให้ทำอย่างไร คงให้หมอโฮจุนดำเนินการรักษาอาการให้กับพระเอกต่างๆไปพลางๆก่อน
	เมื่อชอลิ่วเฮียงปรากฏตัวขึ้น บรรดาเหล่าพระเอกต่างๆก็วิพากษ์กันอย่างกว้างขวางแต่อย่างไรก็ตามทุกพระเอกมีสิทธิ์
	ณ ร้านเทอเรซ ริมน้ำเจ้าพระยา ชอลิ่วเฮียง และนางเอกของเราได้เจอกัน 
แม่นางมีนามว่ากระไร ชอลิ่วเฮียง เค้นเสียงหล่อถาม
ข้ามีนามว่า นกน้อยลอยล่องเมฆ ฝ่ายหญิงก็พูดตอบด้วยท่าทางคล้ายๆกับจะยอมต่อชอเฮียงส่วย (ขุนพลหอมแซ่ชอ) อย่างง่ายๆทำให้เหล่าพระเอกต่างๆที่เฝ้ามองจอมอนิเตอร์อยู่อย่างหงุดหงิดหงุดเงี้ยว
มิทราบว่า แม่นางอยากไปท่องเที่ยวเรือที่กางใบสีขาว   ตัวเรือแคบยาว   แคล่วคล่องว่องไว   ดาดฟ้าเรียบลื่นดั่งกระจก   มักจอดอยู่ชายฝั่งทะเล   กราบเรือด้านล่างแขวนเหล้าองุ่นจากเปอร์เซียขวดหนึ่ง   ปล่อยให้น้ำทะเลแช่จนเย็นได้ระดับพอดี หรือไม่กะข้า
แม่นางเงยหน้ามองชอลิ่วเฮียงด้วยความซึ้ง ไม่ผิดเลยที่มีคำกล่าวว่า หากชอลิ่วเฮียงจะขโมยสิ่งใดย่อมจะได้มาโดยมิยากเย็น
ชอลิ่วเฮียงมองหน้านาง แล้วเริ่มหัวเราะแล้ว 
หลายคนรู้ว่าเมื่อชอลิ่วเฮียงหัวเราะย่อมไม่ใช่เรื่องธรรมดาแล้ว มีเพียงแต่มันหากพบสถานการณ์ลำบากยากมากแล้วจึงหัวเราะสักครั้ง ไม่มีใครรู้ในใจของมันเลยหรือว่า ณ บัดนี้ มันต้องตกไปในวังวนแห่งความรักที่มันยากที่จะถอนตัวขึ้นได้อีกแล้ว
	เมื่อทั้งสองได้ล่องลอยเรือใบจากไปแล้ว เซียวจับอิดนึ้ง  เม่งแชฮุ้นแห่งเพชฌฆาตดาวตก และเหล็งฮู้ชงก็กอดคอเดินไปเข้าผับหาเหล้าดื่มแก้เซ็งกันต่อไป
	แม้ว่า ชอลิ่วเฮียง จะได้พาตัวนางนกน้อยลอยล่องเมฆ จากไปไกลแล้วก็ตาม แม้จะทิ้งเหล่าพระเอกตาดำๆเอาไว้ข้างหลัง แต่ก็มิได้หมายความว่าเรื่องราวมันจะจบง่ายๆอย่างนี้ ไม่มีวันซะละ
บทที่7 ศึกชิงจ้าวยุทธภพ
	เมื่อสถานการณ์ที่รุกรานต่อโลกสงบลง เหล่าพระเอกนานาชาติก็เริ่มแข่งขันกันเพื่อชิงกันเป็นเจ้ายุทธภพ กันต่อ ยามศึกเรารบ ยามสงบเรารบกันเอง
ณ สนามกีฬาแห่งชาติสยาม วันนี้จะเป็นวันแข่งขันฟุตบอลระหว่าง ทีมพระเอกหนังจีน กับทีมพระเอกหนังไทย กรรมการจัดจากพระเอกหนังฝรั่ง
ขณะนี้ผู้ชมทั่วโลกได้ขี่คอกันซื้อบัตรเพื่อมาเข้าชมการแข่งขันนัดน่าพิศวงนัดหนึ่งของโลก สนามกีฬานี้จุผู้ชมได้ ห้าหมื่นคน แต่บัดนี้ได้เต็มแน่นไปหมดแล้ว ขณะนี้ครับนักกีฬาของทีมพระเอกหนังจีนได้ลงสนามแล้วครับ ประชาชนได้ปรบมือกึกก้องสนาม และก็ยิ่งดังหนักขึ้นไปอีกเมื่อพระเอกของไทยได้ลงสนาม กรรมการอาโนลได้เรียกนักเตะทั้งสองฝ่ายมาเล่นปั่นแปะกัน ปรากฏว่า ฝ่ายไทยได้เลือกก่อน เมื่อถึงเวลาแข่งแล้ว กรรมการอาโนลได้เป่าเริ่มการเล่น ฝ่ายจีนเป็นฝ่ายเขี่ยลูกก่อน อุ้ยเซียวป้อ ได้เขี่ยลูกให้กับเซียวฮื้อยี้ จอมแพรวพราว เซียวฮื้อยี้ได้โยนลูกออกไปทางปีกขวาให้กับ เม่งแชฮุ้นแห่งเพชฌฆาตดาวตกซึ่งมีความรวดเร็วสูง แล้วก็โยนลูกไปด้านหน้าของผู้รักษาประตูซึ่งฝ่ายไทยมี ขุนแผนเจ้าเมืองกาญจน์เป็นโก ฝ่ายอุ้ยเซียวป้อได้ลูกหมุนตัวโยกหลอกทางซ้ายแล้วซัดตูมลูกบอกวิ่งอย่างรวดเร็วเข้าเสียบสามเหลี่ยมบน แต่เหลือเชื่อครับท่านผู้ชม ลูกมันกลับกระดอนออกมาเฉยๆซะยังงั้น ยังผลให้กองเชียร์ชาติไทยได้เฮกระหึ่มจนสนามเกือบแตก แล้วขุนแผนก็วิ่งไปหยิบลูก แล้วประนมมือภาวนาราวๆ๓วินาทีแล้วก็เตะบอลลอยละลิ่วออกไปไกลเกินครึ่งสนาม ฝ่ายเงาะป่าวันนี้ใส่รูปเงาะเป็นปีกขวารับลูกได้ก็เลี้ยงลูกไปพอดีเหลือบเห็นเจ้าไกรทองก็เลยส่งลูกยัดใส่พานให้ แต่ทว่าเจ้าไกรทองไม่สามารถยิงได้สักทีเพราะว่า ถูกเฉียวฟงอดีตหัวหน้าพรรคกระยาจกประกบ เจ้าไกรทองไม่รู้ทำอย่างไรจึงใช้ลูกส้นตอกกลับมาข้างหลัง ปรากฏว่าพระอภัยมณีเติมมาพอดีพอจับลูกได้ ก็เป่าปี่ปรากฏว่าทีมฝ่ายจีนพอได้ยินเสียงปี่ของพระอภัยก็ส่งผลให้หลับหมดทั้งทีมจีนและทีมชาติไทย วันนั้นแม้พระอภัยจะยิงเข้าประตู แต่อนิจจากลับไม่มีใครเห็นแม้กระทั่งกรรมการ การแข่งขันฟุตบอลวันนั้นต้องหยุดเพียงแค่นั้นเพราะไม่รู้จะแข่งต่ออย่างไร
บทที่ 8 สมาคมบอลโลกลงโทษทีมชาติไทย
	ทางสมาคมบอลโลกได้ทำการเปิดประชุมหารือด่วนเกี่ยวกับการใช้เครื่องดนตรีในการแข่งขันของพระอภัยมณีทำให้การจัดการแข่งขันต้องล้มเหลว จึงมีมติให้แบนพระอภัยเป็นเวลา ๓ เดือน แล้วก็เริ่มต้นแข่งขันกันใหม่ ผลของการแข่งขันปรากฏว่าทีมชาติไทยเป็นฝ่ายชนะเพราะว่า ทีมชาติไทยได้ซิโก้ มาเป็นศูนย์หน้า ซึ่งก็ไม่ผิดหวังทำให้ทีมชาติพระเอกจีนต้องชีช้ำกระหล่ำปลีกลับบ้านไป และนัดที่สองทีมพระเอกไทยก็จะไปพบกับทีมชาติพระเอกเกาหลี ในนัดที่เจอกับเกาหลีนั้น พระเอกเกาหลีเช่น มินจุนโฮ โฮจุน อาชาง ต่างก็ต้องเจอกับ ๓ กองหน้าฝีมือดีของไทยนั่นก็คือ เจ้าเสมา ซึ่งมีเรี่ยวแรงดังขุนเขา เจ้าไกรทองซึ่งก็นิยมปล้ำกับจรเข้ และก็เงาะสังข์ทอง ทั้งสามได้ฟาดแข้งกับพระเอกเกาหลีอย่างสุดใจขาดดิ้น แม้ตอนหลังจะเอาพระเอกเรนลงมาแต่ก็ไม่สามารถทานแรงควายของศูนย์หน้าทั้งสามของทีมชาติพระเอกไทยได้ ละแล้วหลังจากผ่านด่านพระเอกชาติต่างๆมาแล้วนับไม่ถ้วน ทางฝ่ายพระเอกของไทยก็ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ แต่ทว่าอาถรรพ์จะเป็นจริงหรือไม่ เนื่องจากว่าทุกครั้งที่คนไทยจะเกิดกระแสฟีเวอร์บอลไทยขึ้นมาเมื่อใดก็ตาม พอไทยแข่งก็จะต้องพ่ายแพ้เสมอจนทำให้ฟีเวอร์ดับมอดลง และครั้งนี้ก็เช่นกันจะเกิดเหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ทางโค๊ชของฝ่ายพระเอกไทยได้ให้สัมภาษณ์ว่า เรียนพี่น้องประชาชนไทยที่รักทุกท่านครับ ครั้งนี้เรารับประกันว่า แม้ทีมพระเอกชาติฝรั่งจะเจ๋งแค่ไหน ก็จะต้องแพ้ทีมไทยแน่ เนื่องจากในการเตะครั้งนี้ฝ่ายไทยมีการปรับแผนใหม่คาดว่าฝ่ายทีมฝรั่งจะต้องตั้งรับไม่ติดอย่างแน่นอน และจะนำแชมป์มาให้ประเทศไทยให้จงได้ ขอเพียงแต่ให้ประชาชนไปเชียร์ให้กำลังใจนักกีฬากันเยอะๆก็แล้วกันประชาชนไทยต่างก็ตั้งใจรอวันแข่งขัน แม้กระทั่งวันซื้อบัตรยังต้องไปนั่งรอซื้อบัตรตั้งแต่ตอนตีสามตีสี่ทีเดียว
 	เมื่อวันแข่งขันมาถึง เสียงโห่ร้องทำเวพกันครึกครื้น เมื่อผู้ประกาศได้ประกาศรายชื่อนักกีฬาพระเอกไทยออกมาก็ทำให้กองเชียร์ไทยเฮกันสนั่น ศูนย์หน้าทีมชาติไทย  หนุมานชาญสมร เมื่อหนุมานได้มองไปทางทีมฝ่ายตรงข้ามก็เห็นเจ้าซุปเปอร์แมน แสยะยิ้มอยู่ ปีกขวาไทยได้ เสมามาเล่น แต่ก็ต้องเจอกับปีกซ้ายฝ่ายฝรั่งนั่นก็คือโรนัลดิลโย่ ปีกซ้ายไทยส่งสุธีลงไป แต่ก็ต้องหนักใจเมื่อเจอกับปีกขวาฝ่ายฝรั่งนั่นก็คือ หน้ากากเทวดา เอาละครับบัดนี้เสียงนกหวีดของกรรมการดังขึ้นแล้ว ฝ่ายฝรั่งเขี่ยลูกก่อนเมื่อลูกถูกส่งไปให้กับหน้ากากเทวดา ๆมัวแต่เลี้ยงด้วยความเร็วกลับไปกลับมาไม่ยิงสักที ฝ่ายพระเอกไทยความจริงก็หมดปัญญาแล้วแต่ทว่าเนื่องจากความขี้เล่นของหน้ากากเทวดาครับจึงหยอกไปหยอกมา ละแล้วหน้ากากเทวดาก็ตัดสินใจยิงแล้วแต่ทว่าลูกที่ยิงมันเร็วมากเกินไปจนกระทั่งมองไม่เห็น แต่กรรมการก็ยังคงให้ฝ่ายฝรั่งนำไทย หนึ่งประตู ฝ่ายซุปเปอร์แมนทนไม่ไหวเข้าไปต่อว่าหน้ากากเทวดาๆก็ยียวนกวนประสาทในที่สุดผลักกันไปผลักกันมา จนกรรมการต้องเข้าไปห้าม เอ้าการแข่งขันเริ่มดำเนินต่อไป ฝ่ายหนุมานได้ลูกมาจากสุธี ก็หาวเป็นดาวเป็นเดือนและวอลเล่ย์ลูกเข้าประตูไป ก็เป็นว่าเสมอกันแล้วหนึ่งต่อหนึ่ง พอต่างฝ่ายต่างจับทางกันถูกแล้วก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างผลัดกันรับและรุกอย่างน่าดูชม แต่ทว่าในท้ายที่สุดต่อเวลาในครึ่งหลังในนาทีที่เก้าสิบเอ็ด โรนัลดิลโย เปิดลูกมาตกตรงกลาง ซุปเปอร์แมนได้ทีได้เลี้ยงลูกเลี้ยงชนกองหลังและผู้รักษาประตูทะลุโกออกไป เมื่อเวลาการแข่งขันจบลง ทีมพระเอกไทยก็เป็นฝ่ายแพ้เหมือนเคย
บทที่ ๙ อามาเกดอน
	การแข่งขันเชื่อมความสามัคคีและชิงความเป็นเจ้ายุทธภพได้จบลงแล้ว แต่ทว่าบัดนี้ โลกร้อนขึ้นทำให้ภูมิอากาศแปรปรวนไป เหล่าพระเอกจึงจัดสัมมนาหารือกันว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้
	ฝ่ายหนุมานเสนอให้ใช้การเหาะ หรือใช้แรงลมแก้ปัญหาการใช้น้ำมัน
	ฝ่ายซุปเปอร์แมนเสนอให้ใช้ โลกใบใหม่โดยการที่เขาจะบินวนรอบโลกเร็วๆแล้วจะทำให้โลกกลับไปมีสภาพเหมือนเดิมในอดีต
	ฝ่ายขุนแผนเสนอให้ใช้สัตว์พาหนะเช่น ม้า อีกเหมือนเดิม
	ฝ่ายโดราเอมอนให้ใช้คอปเตอร์ไม้ไผ่
	เมื่อต่างฝ่ายต่างเสนอวิธีการออกมาแล้วก็เห็นว่าไปคนละทิศละทางไม่สามารถจะบูรณาการได้จึงได้ให้จัดคณะทำงานขึ้น คณะทำงานก็ไปจัดคณะอนุกรรมการ ศึกษาหาวิธีโดยการเบรนสตอมมิ่งกันแล้วอีกประมาณ ๓ วันเจอกัน
	เมื่อวันนั้นมาถึง ทุกคนรวมทั้งชาวโลกต่างก็เปิดทีวีรับฟังการถ่ายทอดสดการประชุมหาทางแก้ไขภาวะโลกร้อน ยิ่งฟังไปก็ยิ่งเศร้าสรดใจเนื่องจากว่าที่ผ่านมาแม้จะมีคนคอยเตือนให้ระวังภาวะเรือนกระจกแต่คนส่วนใหญ่ยังไม่สนใจ จนกระทั่งปัจจุบันได้เกิดภัยธรรมชาติรุนแรงยิ่ง ซึ่งอิเหนาเองก็โดนประจำจนกระทั่งไม่มีเวลาจะมาร่วมกิจกรรมกับสมาคมพระเอกได้ 
	ขงเบ้งเสนอให้ตั้งเหมาไถสูงเจ็ดชั้นกระทำพิธีทำให้โลกเย็น ซุปเปอร์แมนเสนอไปเป่าลมเย็นที่ขั้วโลกทำให้ขั้วโลกมีน้ำแข็งเท่าเดิม ประธานที่ประชุมได้ฟังก็สรุปให้ชาวโลกฟังพร้อมๆกันทั่วโลกดังนี้
	จากผลการกระทำของชาวโลกได้ก่อให้เกิดมลภาวะมากมายในปัจจุบัน จากมลภาวะไปสู่ภัยธรรมชาติซึ่งเหมือนกับว่าจะขอชดใช้และจะเป็นผู้จัดให้กลับไปเหมือนเดิมเอง ดังนั้นทุกคนต้องหยุดใช้น้ำมัน หยุดใช้สารเคมีที่ทำให้ บรรยากาศของโลกเบาบางลง และหันมาร่วมใจกันใช้สิ่งที่ไม่ต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆเพื่อให้เวลากับธรรมชาติปรับตัวให้เข้าสู่ความสมบูรณ์แบบเดิม ที่ประชุมฝ่ายพระเอกเห็นพ้องกัน แล้วต่างก็แยกย้ายกันไป สำหรับเจมส์บอนด์เองก็ยังขับสปอร์ตคันงามควันโขมงโฉงเฉงกลับบ้านตามเดิม
บทที่ 10 อวสาน
	เมื่อต่างฝ่ายต่างก็พูดออกมาว่าจะร่วมกันแก้ปัญหา แต่พอลับหลังเข้าก็ทำเหมือนเดิมด้วยความเห็นแก่ตัว หรือหลอกให้คนอื่นทำทั้งๆที่ตนเองก็ยังทำไม่ได้ เมื่อมีผู้อื่นเห็นความปลิ้นปล้อนของแต่ละคนเข้า พฤติกรรมของคนดีก็เบี่ยงเบนออกไปเพราะกลัวเขาหาว่าโง่งมไม่ฉลาดไม่เท่าทัน โลกก็ต้องตกอยู่ในภาวะลำบาก เนื่องจากความละโมภ ความโกรธ ความหลงของมนุษย์นี่เอง เมื่ออะไรต่างๆมันถึงพร้อมเข้า โลกก็ล่ม ไม่มีพระเอกอีกเนื่องจากไม่มีคนจะสร้างเรื่องสร้างราวได้อีก				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน