ลมหนาว... อ่อนแรงลงทุกที ทุกที.. คำภาวนาของฉันดูเหมือนจะไร้ผล... ฉันปลอบใจตัวเองว่า ... แม้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆ แต่ฉันก็ยังได้มีโอกาสสัมผัสถึงความอบอุ่นแห่งสายลมหนาวนี้นี่นา แม้ว่าจากนี้.. จะได้แต่รอเวลา และหวังว่า.. ลมหนาว.. จะมาเยือนฉันอีกครั้ง..ในเร็ววัน.. วันนี้... ฉันปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปถึงใครต่อใครอีกแล้ว คุณเป็นอะไร.. / ..ไม่สบายใจเรื่องอะไร มีคนถามฉันเมื่อคืนนี้ เปล่า.. ไม่ได้เป็นอะไร แค่รู้สึก.. เหมือนตรงนี้ไม่มีใคร.. แค่รู้สึก.. ว่ า ง เ ป ล่ า และ ห ด หู่ (ประโยคนี้.. ฉันได้แต่นึกอยู่ในใจน่ะ ) จริง ๆ แล้ว มีความรู้สึกมากมายที่ฉันอยากบอกเล่าให้ใครนั้นได้รับรู้.. แต่เมื่อฉันตอบตัวเองไม่ได้ว่า เพื่ออะไร.. ฉันจึงได้แต่เก็บมันไว้ ..ข้างใน.. เพราะบางอย่างถึงพูดไป.. เขาก็คง .. ไม่ได้ยิน .. .. ผู้หญิงช่างรู้สึก... ฉันชอบเรียกตัวเองอย่างนี้... เพราะดูเหมือนความละเอียดอ่อนของความรู้สึก มันระริกไหวอยู่ในสายเลือดฉันอยู่ตลอดเวลา จนอดนึกระอาตัวเองไม่ได้.. .. ผู้หญิงช่างคิดเล็กคิดน้อย .. แต่กลับมีบางคนชอบเรียกฉันอย่างนั้น... และฉันก็ ช่ า ง เ ป็ น อย่างที่เค้าเรียกจริง ๆ เสียด้วยสิ.. ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบนัก แต่ฉันว่า.. มันฟังดูดีกว่าคำว่า ฟุ้งซ่าน มากเลยนะ .. ฉันนึกไปถึงคำสนทนาของค่ำหนึ่ง... เมื่อครั้งนึกอยากให้ใครบางคนที่ทำให้ฉันรู้สึกวุ่นวายใจ.. หายไปจากชีวิต.. คุณต้องการให้เขาหายไปจากชีวิตคุณแบบไหน? ไม่รู้.. หายไป.. เหมือนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยใกล้ชิด... เหมือนคนแปลกหน้า ฉันไม่รู้หรอกว่า... ถ้าใครคนนั้น หรือคนอื่น.. หายไปจากชีวิตของฉันจริง ๆ ฉันจะมีความสุขและสบายใจกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้หรือไม่ หรือฉันอาจจะต้องเสียใจ.. ทุกข์ทรมานใจยิ่งไปกว่าเดิม ที่สำคัญกว่านั้น.. คือฉันไม่รู้ว่า อย่างใดกันแน่.. ที่ฉันต้องการ และเพราะเจ้าความไม่รู้ทั้งหลายนี่เอง ที่ทำให้ฉันยังคงว้าวุ่น.. สามวันดีสี่วันป่วยอยู่อย่างนี้ หรือว่า.. ฉันต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายเดินออกไปจากชีวิตใคร ๆ อย่าเป็นแบบนี้บ่อยนะ คำที่ฉันฟังจนชินหู.. และอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงว่าคนที่พูดกับฉันแบบนี้ก็คงจะชินปากไปแล้วเหมือนกัน * ...จนเวลานี้ยังไม่เข้าใจตัวเองว่าจริง ๆ แล้วรู้สึกอย่างไร บางครั้งเหมือนความสุขวิ่งเข้ามาเต็มหัวใจยามที่อยู่ใกล้ ๆ บางครั้งก็เหมือนเหนื่อยหน่ายที่จะรู้สึกอะไร... .. บางวันเหมือนไม่รู้สึกอะไรสักนิด แต่ยามจากมา กลับรู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับถม เต็มล้น หนักอื้งอยู่ข้างใน อยากหวนคืนกลับไปพูดคุยด้วย อยากไปซุกตัวใกล้ ๆ ... .. แต่ทุกครั้งที่รู้สึกอย่างนี้ สิ่งที่ตามติดมาด้วยเสมอ ๆ คือ.. ก า ร เ จ็ บ ลึ ก ... * ฉันหยิบเอาอารมณ์ ..คนชื่อขลุ่ยเขียน.. มาวางแทนความรู้สึกตัวเอง เอาน่า.. ฉันยังหวัง... ความอบอุ่นแห่งสายลมหนาว คงจะมาเยือนฉันอีกครั้ง ในเร็ววัน..
6 มกราคม 2550 16:16 น. - comment id 94594
เพียงเพี้ยน เพี้ยนเพราะอากาศหนาวหรือน้ำค้างกันน้า อิอิ
7 มกราคม 2550 03:40 น. - comment id 94611
กับอะไรที่เป้นอยุ่ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งนานวันก็ยิ่งแย่ลง มีแต่ความเบื่อหน่าย พยายามไปแล้วได้อะไร ต้องอยู่กับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ เรื่อยไปงั้นเหรอ เพื่ออะไร......
7 มกราคม 2550 08:37 น. - comment id 94612
.. คุณเพียงพลิ้ว .. ม่ายช่ายทั้งสองอย่าง.. เมาแดดตะหาก.. อิ..อิ.. ตรุษจีนเจอกั๊น..น.. ขอบคุณค่ะ .. คุณ a_mind.. กับอะไรที่เป็นอยู่ ไม่เคยพยายาม.. ไม่เคยหวัง... ไม่เคยทำอะไรเลย.. จริง ๆ นะ .. .. และสิ่งที่ต้องการ.. คือความสงบ เงียบ เรียบง่าย.. จริง ๆ นะอีกที (กลัวไม่เชื่อ) ขอบคุณค่ะ
8 มกราคม 2550 10:03 น. - comment id 94622
แม้ลมหนาวจะมา แต่ก็อุ่นในความรู้สึก... ในรู้สึกส่วนลึกยังนึกถึง...
8 มกราคม 2550 14:06 น. - comment id 94637
ในรู้สึกนั้น บางทีก็เป็นเพียงวาบวินาทีระหว่างวัน ผ่านเข้ามารวดเร็ว แต่จากไปอย่างเนิ่นช้า... ความสุขเลยทำได้แค่มาทายทัก แต่ความทุกข์กลับเป็นสหายที่มักคุ้น... บ่อย จนชิน และชาในอารมณ์... ในรู้สึก
3 สิงหาคม 2550 16:01 น. - comment id 97116
ถ้าพยายามแล้ว และก็คิดว่าทำดีที่สุดแล้วล่ะ เรื่องบางเรื่อแม้มันจะไปได้แค่ครึ่งทาง ถ้ามัน ฝึนไปต่อแล้วต้องตายก่นอถึงปลายทางก้จำเป้นต้องถอยนะ