"ตำข้าวสารกรอกหม้อ" ตอนที่ 1.
น้ำผึ้งเดือนห้า
แป้ง ทำไมไม่กินข้าวให้หมดล่ะลูก เหลือตั้งเยอะแน่ะ
ก็อิ่มแล้วนี่แม่ แป้งกินขนมไปตั้งเยอะ
แม่บอกแล้วไง ก่อนกินข้าวห้ามกินขนม พอกินขนมก่อนข้าวก็กินได้น้อย แล้วพอดึกๆก็บ่นหิว ฉันบ่นลูกพร้อมกับมองหน้า ลูกก็ไม่สนใจ ลุกขึ้นนำจานข้าวไปเทใส่ถังขยะ
"นี่ถ้าอยู่ที่บ้านต่างจังหวัดล่ะก็ เจ้าก้อนก็คงอ้วนเชียวล่ะ เพราะลูกฉันชอบกินแต่ขนม ไม่ค่อยกินข้าว" ฉันคิด
หลังจากกินอิ่มแล้ว ฉันก็เก็บกับข้าวมาใส่ตู้ พร้อมกับเหลือบตามองข้าวที่เหลือจากการกินของลูกสาว ซึ่งบัดนี้มาอยู่ในถังขยะแล้ว น่าเสียดายจังฉันคิด และแว่บหนึ่งของความทรงจำในอดีตก็ผุดขึ้นมา
แม่ แม่ ข้าวสารจะหมดแล้วนะ เหลือพอหุงแค่เย็นวันนี้ กับพรุ่งนี้เช้านะแม่
เออ เออ แล้วแม่จะไปหาให้
อีกแล้ว ฉันคิดในใจ แม่คงต้องไปยืมจากร้านค้าอีกแน่เลย คิดได้แค่นั้น ฉันก็รีบแต่งตัวไปโรงเรียน
ตอนนี้ ฉันเรียนอยู่ชั้น ม.1 แล้ว กว่าจะได้เรียนก็แทบแย่ เพราะแม่ไม่ให้เรียน แม่บอกว่า เราไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อข้าวกิน แล้วจะไปเรียนได้ยังไงล่ะลูก แต่ด้วยความที่ฉันอยากเรียน ฉันก็ไปสืบเสาะหาโรงเรียนที่จะเรียนโดยไม่ต้องเสียค่าเทอมได้ ที่โรงเรียนนี้เป็นสาขาของโรงเรียนใหญ่ ผู้อำนวยการของโรงเรียนท่านมีวัตถุประสงค์ในการให้เด็กที่อยู่ไกลได้รับการศึกษา โดยที่ไม่ต้องเสียค่าเทอมหรือค่าวัสดุอุปกรณ์อะไรเลย หนังสือเรียนก็มีให้ยืม สมุด ปากกาก็มีมาแจก คงเหลือแต่ชุดนักเรียนที่ฉันจะต้องหาเอง ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะฉันมีเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่เขาโตเร็วมาก ทำให้เขาต้องซื้อชุดนักเรียนบ่อยๆ เขาก็เลยให้ฉันมาสองชุด ทีนี้ก็เหลือว่าจะเดินทางไปเรียนยังไง เพราะระยะทางก็เกือบห้ากิโลเมตร ที่จริงก็เหมือนโชคเข้าข้างฉันเหมือนกันนะ เพราะมีเพื่อนคนหนึ่งที่บ้านเขาค่อนข้างจะมีฐานะกว่าฉัน แม่เขาให้ไปเรียนที่เดียวกับฉันเพราะว่าใกล้บ้านที่สุด (ขนาดห้ากิโลเมตรนะเนี่ย) ฉันก็เลยได้อาศัยจักรยานของเพื่อนฉันที่แม่เขาซื้อให้ ไปโรงเรียนทุกวัน
กริ๊ง กริ๊ง... เสียงกริ่งจักรยานดังขึ้น แม่หนูไปโรงเรียนแล้วนะ ฉันบอกแม่
เออ...ไปเถอะลูก กลับมาแล้วไปหาแม่ที่นาตาป่านนะลูก แม่จะไปเก็บลูกข้าว แม่บอก
จ้ะแม่ ฉันรับคำพร้อมกับหยิบเงิน 3 บาทไปด้วยเพื่อเป็นค่าอาหารกลางวัน ใครๆอาจคิดว่าเงิน 3 บาทจะไปซื้ออะไรได้ แต่สำหรับฉัน มันทำให้ฉันอิ่มท้องได้สบายกับก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้านป้านอม เวลาฉันไปซื้อ ป้าเขาจะใส่น้ำกับผักให้ฉันเยอะๆ เวลากินก็เติมถั่วงอกสดได้อีก ทำให้อิ่มท้องมากๆ ป้านอมแกใจดีกับเด็กทุกคนเลย
เลิกเรียนบ่ายสามโมงครึ่ง กว่าจะถึงบ้านก็ 4 โมงกว่า พอฉันกลับมาถึงบ้านแล้วก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้า หุงข้าว ทำกับข้าวไว้ก่อน เพราะยังมีหลานๆของฉันอีก 5 คน พร้อมกับยายที่อยู่บ้านด้วยกัน ที่จริงบ้านฉันจะเรียกว่าเป็นครอบครัวใหญ่ก็ได้ เพราะแม่มีลูกหลายคน แต่ทุกคนไปทำงานที่อื่นกันหมดเลย พอมีลูกก็ส่งกลับบ้านมาให้แม่เลี้ยง เงินก็ส่งให้บ้างไม่ส่งให้บ้าง ฉันก็คิดนะ ว่าทำไมแม่ต้องรับภาระด้วย ตัวเองก็จะเอาไม่รอด แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก เพราะสงสารหลานอยู่เหมือนกัน ตอนนี้ก็เรียนอยู่ ป.1 ป.2 เอง จะใช้ให้ช่วยอะไรก็ไม่ได้ ภาระก็เลยตกอยู่ที่ฉันกับแม่
ยาย ยาย หนูทำกับข้าวเสร็จแล้วนะ ยายดูให้เด็กๆกินกันด้วย หนูจะไปหาแม่ที่นาตาป่าน มืดโน่นแหละกว่าจะกลับ ให้มันกางมุ้งกันเองนะ
เออ เออ... ยายรับคำ อย่ากลับมืดนักนะลูก งูเงี้ยวเขี้ยวขอมันเยอะ เดินไปก็เอาไม้ยาวๆเคาะทางนำหน้าไปก่อน ถ้ามีงูมันจะได้หนีไป
จ้ะ ยาย ฉันรับคำแล้วก็รีบเดินไปนาตาป่านตามที่แม่บอก ฉันมองเห็นลิบๆว่ามีคนก้มๆเงยๆอยู่ ฉันก็รีบเดินจ้ำอ้าวๆไป แม่ แม่ หนูมาแล้ว
เออ มาก็ดีแล้ว เดี๋ยวเก็บข้าวตรงนาแปลงโน้นนะ แม่เห็นข้าวกำลังแก่เลย มีเยอะด้วย ถุงปุ๋ยอยู่นี่นะ