คำขอครั้งสุดท้าย

พัฒนา สุดยาใจ

รถกระบะสีน้ำเงินแล่นผ่านเขื่อนแก่งกระจานไปตามเส้นทางอันขรุขระเต็มไปด้วยดินลูกรังสีน้ำตาลแดงซึ่งทอดยาวไปข้างหน้าอีกสามสิบหกกิโลเมตรสู่เขาพะเนินทุ่งอันเป็นจุดหมายปลายทาง ฉันปิดเครื่องปรับอากาศและเปิดกระจกหน้าต่างแทนที่เพื่อให้สายลมอันเย็นฉ่ำจากการสรรค์สร้างของธรรมชาติพัดโกรกเข้ามา นานหลายเดือนแล้วที่ฉันมิได้สัมผัสสายลมอันบริสุทธิ์เช่นนี้ สองฟากทางร่มครึ้มไปด้วยหมู่แมกไม้ที่เหนี่ยวโน้มเข้าหากันประหนึ่งเป็นหลังคาสีเขียวทอดเป็นแนวยาวไปจรดถึงจุดหมายปลายทาง หากโชคดีอาจได้เห็นค่างแว่นกระโดดโย้กันไปมาระหว่างสองฟากทาง อย่างน้อยก็อาจได้เห็นกระรอกหลากสีเดินวนเวียนหาลูกไม้กินสร้างความสุขให้แก่ผู้แลเห็น
	ฉันหยุดรถนิ่งสนิทที่แค้มป์บ้านกร่างเพื่อลงมาทำกิจกรรมอันแสนโปรดปราน และแน่นอนที่ฉันเตรียมพร้อมเสมอหากใครเห็นก็ต้องเชื่อเมื่ออยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีน้ำตาลเข้มแขนยาว กางเกงลายพรางสวมหมวกมีปีก ที่คอคล้องด้วยกล้องสองตายี่ห้อจากต่างประเทศราคาครึ่งแสน อันที่จริงถ้าจะบอกว่ารถกระบะคันนี้เป็นของฉันก็คงพูดไม่ได้เต็มปากนักเพราะเจ้าของรถกระบะนั้นไม่ได้อยู่ร่วมชีวิตกับฉันแล้ว
	ท้องนภาในจุดบ้านกร่างวันนี้ช่างสดใส ณ จุดนี้เป็นจุดที่มีปริมาณนกมากพอสมควรเช่นเดียวกับปริมาณนักท่องเที่ยวก็มีมากไม่แพ้กันโดยเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์ แก่งกระจานในความรู้สึกของนักดูนกนั้นบ่งบอกว่ามีความเปลี่ยนแปลงไปมาก หวนนึกถึงเมื่อสักสิบปีที่แล้ว ณ อุทยานแห่งนี้มีแต่ความร่มรื่น ต้นไม้ทั้งสองฟากทางโน้มเข้าหากันมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ จุดเปลี่ยนแปลงของทุกสิ่งทุกอย่างถูกเล่ากันปากต่อปากว่าเกิดจากแต่เดิมที่นี่ไม่มีห้องน้ำอำนวยความสะดวกอีกทั้งเส้นทางขึ้นสู่เขาพะเนินทุ่งยังเป็นดินลูกรังฉะนั้นผู้คนจึงไม่นิยมมาเที่ยวที่นี่ แต่เมื่อมีห้องน้ำเกิดขึ้นบนบ้านกร่างนี่แหละจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวายบนผืนป่าแห่งนี้ ผู้ที่เคยสร้างห้องน้ำอุทิศให้อุทยานเคยปรารภว่าเสียใจที่สร้างห้องน้ำเพราะนั่นคือชนวนที่ทำให้ผู้คนทั่วทุกสารทิศแห่แหนกันมาดูทะเลหมอกที่นี่ 
	ฉันคิดว่าเธอผู้ที่สร้างห้องน้ำนั้นไม่ควรจะมาตีโพยตีพายให้เสียเวลาเพราะทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ ถ้าคนเรารู้จักใคร่ครวญถึงผลได้ผลเสียให้ถี่ถ้วนเรื่องราวอันเลวร้ายคงไม่บังเกิดขึ้น
	ขณะยกกล้องสองตาส่องมองไปที่เจ้าสัตว์ปีกตัวน้อยซึ่งมันกำลังกระดกลูกไทรสุกอย่างเอร็ดอร่อยอยู่บนยอดต้นไทรซึ่งลำแสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องให้แลเห็นชัด มันเป็นเจ้านกลำตัวสีเขียวหน้าผากสีแดงโดยมีคอสีฟ้าแจ่มชัด 
	นั่น! นกโพระดกคอสีฟ้า เสียงแหบแห้งของชายดูมีอายุมากที่ฉันรู้สึกคุ้นเคยแว่วมาให้ได้ยิน ฉันหันขวับไปมอง
	อ้าว! คุณเชิด ฉันอุทานด้วยความตกใจ เขาคือเชิดศักดิ์อดีตเจ้าของรถกระบะคันที่ฉันขับขึ้นมานั่นเองแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขามีผมสีดอกเลาผุดขึ้นมากกว่าเดิม และดูผ่ายผอมลง ผิวหนังเหี่ยวย่นตามลำแขนและตามใบหน้าซึ่งคงเป็นไปตามวัย
	เขากระแอมไอ วลัย...สบายดีหรือ
	ค่ะ สบายดี แล้วคุณล่ะ
	หึ หึ คุณก็น่าจะรู้ดีนี่ ผมได้บอกคุณไปแล้ว
	บอกอะไร! ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย ฉันทำสีหน้ามึนตึง
	เอาเถอะ...คุณไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร ว่าแต่คุณจะค้างที่นี่หรือเปล่า
	ฉันจะค้างที่ไหน จะทำอะไร ไม่ใช่ธุระของคุณ ฉันตวัดเสียงโดยไม่เกรงใจเขา ฉันสังเกตเห็นว่าสีหน้าของเขาไม่สู้ดี
	เราพูดกันดี ๆ ไม่ได้หรือ อย่างน้อยก็อยากให้คิดถึงเรื่องที่ดีของเราสองคน เขาพยายามโน้มน้าวความรู้สึก
	ดูนกกันเถอะค่ะ เช้า ๆ อย่างนี้นกดีนะคะ ฉันเห็นนกตัวสีฟ้าครามบินมาเกาะที่ต้นไทรต้นเดียวกับที่นกโพระดกคอสีฟ้าเกาะอยู่ มันค่อย ๆ บินเรี่ยลงและมุดอยู่ในมวลใบไม้สีเขียว โน่นไงคะ นกเขียวคราม เห็นมั้ย
	เขาใช้กล้องกวาดตามคล้ายกับว่ายังไม่เห็น ผมไม่เห็นเลย
	มันอยู่ข้างล่างจากนกโพระดกคอสีฟ้าไงคะ อยู่บนยอดประมาณสิบนาฬิกา เห็นหรือยัง
	อ้อ อ้อ เห็นแล้ว กำลังกินลูกตะขบอย่างเอร็ดอร่อยเชียว
	เมื่อผละจากการดูนกเขียวคราม ฉันไม่วายเหน็บเขา ว่าแต่อรวดีไม่มาด้วยหรือ 
	อรเหรอ...เราหย่าขาดกันแล้ว
	ฉันได้ทียิ้มเยาะ คุณก็อย่างนี้ทุกทีเบื่อผู้หญิงง่าย เห็นผู้หญิงเป็นเสื้อผ้าผลัดเปลี่ยนได้ตลอดเวลา
	เขาเบือนหน้าหันไปมองที่อื่น คุณน่าจะเดาเรื่องออกได้นะ ในเมื่อผมเคยส่งอีเมล์บอกคุณไปแล้ว
	อ้อ! เหรอคะ ไม่ยักรู้
	เขาเอื้อมมือมากุมมือฉัน ผมขอเป็นครั้งสุดท้ายได้ไหมแม้จะเป็นการเสแสร้งก็ตาม ช่วยแสดงการเป็นคู่รักกับผมอีกสักครั้งเถิด
	ฉันสะบัดมือออกอย่างไม่ใยดี เปล่าประโยชน์ค่ะ เรื่องของเรามันจบกันไปตั้งสิบปีแล้ว ไม่ควรจะมารื้อฟื้นอีก คุณยอมรับมั้ยล่ะว่าเป็นฝ่ายผิดที่ไปคว้าอรวดีมานอนกกต่อหน้าฉัน
	เขาน้ำตาซึม ในใจของฉันรู้สึกสั่นสะท้านขึ้นมาบ้างแต่พยายามบอกกับตัวเองว่าอย่าไปใจอ่อน ผมยอมรับว่าเป็นฝ่ายผิด แต่ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปแล้วและผ่านไปแล้ว
	ฉันเห็นนกจาบคาเคราน้ำเงินบินมาเกาะเด่น ๆ อยู่ตรงหน้า อุ้ย! จาบคาเคราน้ำเงิน คุณเห็นเคราสีน้ำเงินมั้ย เด่นมาก ๆ ฉันพยายามเฉไฉเปลี่ยนเรื่องพูด
	เขายกกล้องส่องดูแต่ดูเหมือนว่าความมุ่งมั่นในการดูนกนั้นมีน้อยลง แววตาของเขาแสดงให้เห็นความอ่อนล้าและราวกับมีความในใจซุกซ่อนอยู่ ฉันเองก็เริ่มนึกออกว่า เขาส่งอีเมล์ให้ฉันจริงแต่ฉันมิทันได้ดูหรอกเพราะงานประจำก็ยุ่งเสียเหลือเกินยิ่งเป็นอีเมล์จากเขาก็ยิ่งไม่อยากสนใจ
	เราสองคนเดินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้นจนกระทั่งนกชนิดที่ต้นคอมีสีขาวลำตัวส่วนล่างออกสีส้มมักจะแวะเวียนมาเยือนบ้านเราในช่วงเหมันตฤดูเกาะคอยท่าอยู่บนกิ่งไม้ที่แผ่หราอย่างเด่นสง่าให้เราสองคนเห็น
	เชิด! เห็นกระเบื้องคอขาวมั้ย เกาะเด่น ๆ เลย ฉันชี้ให้เขาดู
	ฉันสังเกตเห็นว่าเขาไม่มีความกระตือรือร้นที่จะดูนกต่อเลย
	ผมขอร้องคุณเป็นครั้งสุดท้ายไม่ได้เชียวหรือ
	ฉันนิ่งงัน ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งที่เขาพูด ขึ้นไปบนเนินแถวบ้านพักดีกว่าค่ะ
	ไม่มีพวกนกพญาปากกว้างเลยนะ เขาเอ่ยขึ้นลอย ๆ
	จะมีได้ไงค่ะ คุณน่าจะรู้นะว่าช่วงหน้าหนาวมันไม่ได้ทำรัง ฉะนั้นยังไงก็ไม่เห็นหรอก คุณดูนกมาก่อนฉันน่าจะรู้ดี ฉันยิ้มเยาะเขา
	เขาถอนใจเฮือกใหญ่อาจเป็นเพราะไม่เคยเห็นฉันพูดจาเย็นชาถึงเพียงนี้
	คุณเปลี่ยนไปมากจริง ๆ แม้แต่คำขอร้องครั้งสุดท้ายของผม คุณก็ยังให้ไม่ได้ เขานั่งคุกเข่าลงกับพื้นหญ้าและร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ 
	พอเถอะค่ะ อายเขา คุณก็อายุมากแล้วนะคะ จะมาร้องไห้แบบเด็ก ๆ ทำไม ฉันยืนพูดเฉย ๆ ไม่ได้แสดงทีท่าปลอบใจเขาเลย ในใจก็รู้สึกสะใจเล็กน้อยที่เขาคุกเข่าร้องไห้แบบนี้ ฉันปฏิญาณตนแล้วว่าจะไม่มีทางใจอ่อนให้เขาเด็ดขาด
	จำได้ไหมตอนที่คุณนำอรเข้ามาในบ้านและยังกอดจูบกันต่อหน้าฉันคุณยังไม่สนใจใยดีต่อคำพูดของฉันเลย ฉันยิ้มเย้ยหยันอย่างพอใจ
	สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นการตัดพ้อฉัน ก็ได้...ในเมื่อผมไม่สามารถขอให้คุณแสดงเป็นคนรักของผมเป็นครั้งสุดท้าย ผมก็ยินดีจะไป
	ฉันปลายตามองเขาอย่างดูถูก หึ ก็เรื่องของคุณซิ จะไปไหนก็เชิญ
	เขาค่อย ๆ เดินลับจากไป ฉันสังเกตเห็นว่าเขาเดินอย่างเชื่องช้าตะกุกตะกัก คลับคล้ายว่าเอามือกุมที่หน้าอก แต่ฉันก็ไม่สนใจที่จะติดตามความเป็นไปของเขา
	เมื่อเขาเดินลับจากไปก็เป็นโอกาสอันดีที่จะส่องดูนกเพียงลำพังอย่างมีความสุข ฉันตั้งปณิธานแน่วแน่แล้วว่าหากหย่าร้างกันแล้วก็ไม่ควรมีอะไรติดค้างกันอีก ฉันบอกกับตัวเองอย่างนี้เสมอ
	นกติ๊ดสุลต่านลำตัวสีดำ ท้องสีเหลือง หงอนสีเหลืองกำลังเคลื่อนไหวไปตามกิ่งไม้อย่างสนุกสนาน นกกลุ่มเขียวก้านตองก็เป็นนกที่ฉันชอบมาก และเห็นเกือบทุกป่า
	ฉันเดินกลับไปที่รถกระบะคู่ชีพ ขณะเปิดประตูรถเพื่อจะหยิบกล้องส่องทางไกลเทเลสโคปก็อดคิดไม่ได้ว่ารถกระบะคันนี้เป็นของเขาต่างหากเพราะฉันไม่ได้ออกเงินแม้แต่บาทเดียว มาใคร่ครวญดูอีกครั้งฉันอาจพูดจารุนแรงเกินไปอย่างน้อยเขาก็ยังมีส่วนดีอยู่บ้าง
	อุปกรณ์ทั้งขาตั้งกล้อง กล้องเทเลสโคปและที่ลืมไม่ได้คือกล้องถ่ายรูปดิจิตอลสำหรับถ่ายรูปนกตัวโปรดถูกวางอยู่ม้านั่งเบาะด้านหลัง ฉันเอี้ยวตัวไปหยิบอย่างชำนาญ
	การถ่ายภาพนกพร้อมกับบันทึกเก็บเข้าไปในแฟ้มคอมพิวเตอร์จากนั้นก็นำไปแต่งในโปรแกรมโฟโต้ชอปและส่งรูปถ่ายเหล่านั้นไปในกระดานสนทนาของเว็บไซต์ดูนกเป็นความสุขอย่างหนึ่งสำหรับนักดูนกในปัจจุบัน
	ฉันเปลี่ยนบรรยากาศขับรถขึ้นไปบนเขาพะเนินทุ่ง หวังจะไปถ่ายภาพนกบนนั้น หลายปีก่อนเคยเห็นนกตั้งล้อเกาะอยู่บนคบไม้อย่างเด่นสง่าหากโชคดีก็อาจได้เห็นอีกครั้ง รถมุ่งหน้าผ่านลำธารสองจุดอันเป็นจุดที่บรรดาผีเสื้อหากินอย่างมีความสุข
	แม้ว่าถนนบางช่วงจะขรุขระไร้ความราบเรียบและสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือการฟุ้งตลบของฝุ่นดินลูกรังแต่ฉันก็ขับรถได้ด้วยความชำนาญจะว่าไปก็เป็นเขาที่สอนฉันขับรถ
	เสียงจิ๊ด จิ๊ดจากบรรดานกเล็ก ๆ แว่วกระทบโสตประสาทให้ฉันเกิดความเพลิดเพลินพลันพานพบเหยี่ยวรุ้งบินวนต้านลมอยู่บนเบื้องฟ้าส่งเสียงวิ้ว วิ้วพอให้ได้ยิน
	เหลือระยะทางอีกไม่ถึงสิบกิโลเมตร เบื้องหน้าเป็นรถกระบะรุ่นเดียวกับรถของฉันแต่คนละสีและไม่พ้นที่ฉันต้องเพ่งสายตามองทะลุกระจกกรองแสงนั้น คลับคล้ายว่าเป็นเขาที่นอนหลับอยู่ เขาคงเหนื่อยด้วยความที่มีอายุมากแล้ว
	ฉันนั่งพักอยู่บนศาลาใหญ่ในละแวกใกล้กับพระตำหนัก แค่เห็นมวลภูเขาอันน้อยใหญ่วางสลับซับซ้อนก็ทำให้ฉันได้รับความสุขแล้ว มันเป็นความสุขที่ซื้อด้วยเงินไม่ได้และมันเป็นความสุขที่เราสามารถดั้นด้นมาได้ทุกเวลา
	แสงแดดเริ่มอ่อนแรง ฉันรีบขับรถลงจากยอดเขา ขณะขับรถกลับลงมารถของเขายังจอดนิ่งสนิทอยู่ที่เดิมไม่เปลี่ยนแปลงและอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือเขายังคงนอนอุตุอยู่ในรถนั้น แต่ลางสังหรณ์บอกว่าฉันควรจะลงไปดูเขาเสียหน่อยแต่ฉันไม่กล้ายิ่งนึกถึงคราวที่เขานำอรวดีมานอนกอดในห้องนอนก็พลันเคียดแค้น ฉันจึงตัดสินใจขับรถเลยผ่านไปอย่างไม่แยแส
	
	คุณเห็นนกกะลิงเขียดหางหนามมั้ย ในเมืองไทยเห็นได้เฉพาะที่แก่งกระจานเท่านั้นนะ
	ไหนคะ ไหน ฉันอยู่แนบชิดเขาพลางยกกล้องสองตากวาดมองตามลำกิ่งไผ่อย่างมีความสุข 
	นี่ไง! อยู่ถัดจากต้นไม้ใหญ่ที่เปลือกลำต้นลอกคราบไปน่ะ มองทะลุไปเลย มันเกาะนิ่ง ๆ อยู่
	ฉันพยายามยกกล้องกวาดไปอย่างไม่มีหลักลอย 
	งั้นเดี๋ยวผมตั้งสโคปให้นะ เขาจัดแจงตั้งกล้องเทเลสโคปส่องหาอย่างทะมัดทะแมง ฉันสังเกตเห็นว่าเขายังหนุ่มแน่นอยู่เลย ผิวหนังบนใบหน้ายังเต่งตึงสดใส เรือนร่างสูงโปร่ง คะเนดูก็น่าจะอยู่วัยสามสิบต้น ๆ 
	ผมจับภาพได้แล้ว รีบ ๆ มาดูเลย เขายิ้มแย้มกระฉับกระเฉง
	ฉันรีบสาวเท้าไปที่กล้องโดยใช้ตาซ้ายจ่อที่เลนส์กล้อง อุ้ย! เห็นแล้ว น่ารักเชียว กำลังเคี้ยวอะไรอยู่เนี่ย เชิด เชิดมาดูเร็ว ฉันกวักมือเรียกเขาขณะที่สายตายังคงจดจ้องอยู่ที่นกกะลิงเขียดตัวนั้น
	เมื่อละสายตาหันขวับไปมองเขา แต่กลับไม่พบเขาอยู่บริเวณนั้น เชิด เชิด คุณไปไหน
	ฉันวิ่งจ้ำตามหาเขาโดยไม่สนใจกล้องเทเลสโคปราคาแพงเลย 
	เชิด เชิด 
	ฉันสะดุ้งเฮือกใหญ่ตื่นขึ้นในเต็นท์โดมกลางดึกพลางกุมศีรษะด้วยความมึนงง ยินเสียงแว่วของนกกลางคืนถี่ ๆ เสียงลมหวีดหวิวทำเอาเต็นท์โดมขยับไหวตามแรงลม ฉันเหลียวซ้ายแลขวาด้วยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว 
	
	ช่วงบ่ายวันสุดท้ายของการดูนก ฉันเดินเตร่อยู่แถวที่ทำการอุทยานส่องดูนกอย่างไม่จริงจังนัก เสียงอันไพเราะแต่ช่างวังเวงของนกกาเหว่าเด่นชัดผ่านหูฉัน ฉันยกกล้องส่องหาเจ้าของเสียง และก็ไม่เกินความพยายาม เจ้านกตัวสีดำปากสีออกเขียวจืด ๆ ม่านตาสีแดงเกาะเด่นสง่าในคบไม้ของต้นก้ามปู มันกำลังส่งเสียงเจื้อยแจ้วราวกับหาคู่ครองของมัน 
	แต่แล้วก็สะดุ้งเฮือกเมื่อฉับพลันปรากฏเป็นใบหน้าของเชิดศักดิ์ สีหน้าและแววตาดูเศร้าสร้อยหันมามองฉันราวกับว่ากำลังตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ฉันรีบละกล้องลงพลางขยี้ตา
	วลัย วลัย วลัย แว่วเสียงแผ่วเบาติดต่อกันเป็นระยะ ๆ พร้อมกับเสียงหอบหายใจถี่ ๆ ฉันสะดุ้งเฮือกใหญ่พลางหันรีหันขวางมองไปทั่วทิศ แต่ไม่พบใครอยู่ในบริเวณนั้นเลย
	มันเป็นความระทมทุกข์ทุกครั้งเมื่อหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้วที่ฉันพบเขาที่นี่ จุดที่แลเห็นนกโพระดกคอสีฟ้าและนกเขียวคราม ทำไมนะ...เพียงแค่การแสดงออกถึงความรักที่มีต่อเขาแบบในอดีตฉันก็ให้เขาไม่ได้แถมยิ้มเยาะและพูดจาดูถูกเพียงแค่ต้องการให้เขามีความทุกข์เพิ่มขึ้น ฉันพยายามค้นหาคำตอบให้แก่ตัวเอง 
	กลับจากดูนกคราวนั้น ฉันเกิดเฉลียวใจขึ้นจึงเปิดดูอีเมล์ฉบับนั้นทั้ง ๆ ที่ไม่เคยคิดที่จะเปิดดูเลย
	ฉันตกใจเมื่อพบว่าเขาเป็นโรคหัวใจขั้นรุนแรง เขาคงรู้ว่าฉันจะมาที่แก่งกระจานจึงขับรถด้วยตัวเองมาพบฉัน ขอให้ฉันกับเขาได้รำลึกถึงความสุขที่ครั้งหนึ่งเคยมีร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายแต่ฉันก็ไม่ให้เขาด้วยเหตุที่ยังคงเก็บความเคืองแค้นฝังใจอยู่ ฉันเชื่อว่าเขาคงเสียชีวิตตั้งแต่อยู่บนรถกระบะคราวที่ฉันเห็นเป็นครั้งสุดท้าย
	แก่งกระจาน ณ วันนี้ยิ่งเปลี่ยนแปลงมากขึ้น มีการแผ้วถางขยายช่องทางรถให้กว้างขวางขึ้น เมื่อชายตามองที่ห้องน้ำหลังนั้น หลังที่เธอผู้ออกเงินสร้างจนเสร็จแล้วบ่นว่าไม่ควรสร้างก็นึกสะท้อนใจบางอย่าง ฉันเคยตำหนิการกระทำของเธอผู้นั้นว่าทำโดยไม่ยั้งคิด แต่บัดนี้สิ่งที่ฉันเคยต่อว่าออกไปกลับกลายเป็นหอกที่ย้อนทิ่มแทงตัวเอง
	ถ้าฉันยอมพูดจากับเขาดี ๆ ยอมแสดงเป็นคนรักกับเขา ฉันก็เชื่อว่าเขาจะมีกำลังใจในการต่อสู้โรคร้ายที่กล้ำกรายเข้ามาได้อย่างกล้าหาญ
	แต่บัดนี้ฉันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกทั้ง ๆ ที่เคยมีโอกาสที่จะทำเช่นนั้นได้				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน