บ้าน

บุญสิตา

ปีพุทธศักราช 2530
ลมหนาวพัดมาเอื้อยๆ ท้องทุ่งเวิ้งว่างเงียบเหงา มีเพียงเสียงจิ้งหรีดเรไรที่ส่ง
เสียงกรีดร้องพอให้รำคาญ ท้องฟ้าวันนี้มืดมนไร้เหงาจากแสงจันทร์ มีเพียงแสงจากดาวดวงน้อยใหญ่แย่งกันเปล่งประกายระยิบระยับเต็มท้องฟ้า 
ในบางครั้ง ฉันเคยคิด  ถ้าหากท้องฟ้าไม่มีดาว ท้องฟ้าจะมีดอกไม้สักกี่ร้อยกี่พันดอกกันนะถึงจะสวยได้แบบนี้
ฟากโน้น คือ กลุ่มดาวลูกไก่ จำได้ว่าตอนยังเด็กๆ ฉันมักจะเรียกดาวไก่น้อยเสมอ แล้วโน้น ดาวคันไถ่ แม่บอกว่าถ้าตื่นแต่เช้าจะได้เห็นดาวศุกร์ดวงกลมโตใสสว่างเรื่องรอง "อยากเห็นต้องตื่นแต่เช้าให้ได้  เอาละพรุ่งนี้ฉันต้องได้เจอเธอแน่ๆ ดาวศุกร์จ้า" ฉันแหนงหน้าบอกกับท้องฟ้าแบบนั้น
ดึกแล้วอากาศเริ่มเย็น เย็นจนถึงกระดูก ซุกตัวกับผ้าห่มผืนโตฝีมือเย็บของแม่ หนาวนักพ่อก็ไล่ให้เข้าไปนอนในเพิงที่เราช่วยกันทำขึ้นจากฟางข้าวที่ได้จากการนวดข้าวเมื่อกลางวัน ปีนี้นาเราให้ข้าวได้มากถึงแม้จะไม่ได้มากมายอะไรนักแต่ก็มากพอที่จะเก็บไว้กินได้ตลอดทั้งปี เพียงเท่านี้ เราก็มีความสุขแล้ว พ่อเคยเล่าให้ฟังเสมอๆว่า "เมื่อสมัยที่พ่อยังเด็กๆพ่อลำบากมาก ถ้าหากปีไหนนาให้ข้าวนอน ย่าจะต้องออกไปเก็บเมล็ดข้าวจากนาอื่นๆที่ร่วงอยู่ตามท้องนา เป็นเม็ดข้าวที่เจ้าของนาเค้าไม่เอาแล้ว เก็บทีละเม็ดเก็บจากส่วนที่ร่วงจากร่วงข้าวเท่านั่น ได้มาก็ต้องแบกหามไปแลกพริกแลกเกลือจากหมู่บ้านอื่นๆหรืออาจจะข้ามไปอีกอำเภอเลยที่เดียว"
ปีนี้เป็นครั้งแรกที่แม่อนุญาตให้ตามพี่ๆไปเอาขี้ควายมาทำลานสำหรับนวดข้าว และแล้วการเตรียมตัวสำหรับการ ล่ากองขี้ควายก็เกิดขึ้น แม่ให้เราเตรียมรถเข็นที่ปกติแล้วเราจะมีไว้สำหรับเข็นน้ำจากบ่อน้ำท้ายหมู่บ้านมาไว้สำหรับทั้งอาบและดื่มกิน
แต่ตอนนี้มันโดนเราแต่งตัวให้ใหม่ ด้วยสังกะสีเก่าๆ มีสนิมติดอยู่เขรอะเอามารองรับขี้ควายที่เราต้องการบางส่วนเราจะใช้กระสอบข้าวสารและเย็บให้ติดกับรถเข็นน้ำด้วยลวดและเชือกแล้วแต่จะหาได้ 
ขาออกจากบ้านพี่ๆให้ฉันนั่งบนรถพร้อมอุปกรณ์ นั้นก็ คือ เสียบและถังสำหรับตักอึ หรือขี้ควาย บ่อยครั้งที่พี่จะวิ่งเร็วๆและโยกรถไปมาน่าหวาดเสียว และเรื่องเจ็บตัวของฉันก็มักจะมาพร้อมกับเสียงหัวเราะของพี่ๆเสมอๆ
แม่เดินตามมาห่างๆไม่รีบร้อนนัก บ่อยครั้งที่แม่จะหยุดทักทาย พ่อเฒ่า แม่เฒ่า ที่ออกมานั่งผิงแดดยามเช้า
พ่อยืนยิ้มรออยู่แล้วเมื่อพวกเราช่วยกันเข็นรถเข็นที่ตอนนี้เต็มไปด้วยขี้ควาย
ลานโล่งเตียนที่พ่อเพิ่งจะถางหญ้าและตอข้าวออกซะเรียบตอนนี้มันพร้อมแล้วที่จะได้ทาหน้าด้วยขี้ควาย
พ่อสอนให้ฉันย่ำขี้ควายที่ผสมกับน้ำเรียบร้อยแล้ว ย่ำไปย่ำมาจนตัวเขียวอี้ทั้งคนทาลานและลาน   พ่อใช้ไม่ที่เตรียมไว้สำหรับเกรี่ยงขี้ควายให้เรียบ เหลือเพียงรอให้ขี้ควายแห้งติดกับลานดินเพียงเท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นแม่ไล่ให้พวกเราไปล้างตัวที่สระน้ำใกล้ๆนั้น   
ในสระเต็มใบด้วยกอบัวที่มีดอกบานสะพลั้ง พวกเราช่วยกันเก็บสายบัวไปให้แม่ ทำแกงสายบัวกินเป็นมื้อเที่ยงนี้ด้วย ฉันชอบแกงสายบัวใส่ปลาทูฝีมือแม่ที่สุดเลย
กลับมาคราวนี้เห็นยายกำลังทำพิธีอะไรซักอย่างบนลานข้าว แม่บอกว่า ยายกำลังไหว้พระแม่โพสกอยู่  " แล้วแม่โดพสกคืออะไรละจ๊ะแม่" แม่บอกอะไรฉันอีกยาวเหยียด ฉันก็ได้แต่ฟังและยังคงไม่เข้าใจ ถึงตอนนี้ฉันถึงรู้ววว่าพระแม่โพสกคือผู้ที่มีบุญคุณกับเราชาวนาชาวไร่  เหมือน แม่คงคาที่ปกปักรักษาแม่น้ำนั้นแหละ 
ยายของฉันเป็นเป็นคุฯยายที่มีร่างท้วมหน่อยๆเหมือนกับแม่ของฉันเลยแต่ท่านจะมีผมที่เป็นสีดอกเลาแล้ว   ปีนนี้ยายอายยุ 60 ปี   แต่ยังขยันมากๆยายมักกจะตื่นแต่เช้า มือถือเสียบพร้อมด้วยเสี้ยนหมาก ปากและฟันของยายจะแดงอยู่ตลอดเวลาเพราะว่ายาย ชอบเคี้ยวหมากมากๆๆ  ยายเคยบอกว่า ไม่ได้กินข้าวไม่เป็นไร แต่ถ้าไม่ได้เคี้ยวหมากกละก็  "  หมดแรง  " 
ฉันเคยคิดว่าจะจัดพวกหมากพลูให้เป็นยาเสพติดอยู่พักหนึ่ง สาเหตุก็มาจายายของฉันนี้แหละไม่ใช่ใครที่ไหนหรอก
คืนนี้พ่อต้องมานอนเฝ้าลานข้าวที่ตอนนี้มีข้าวกองออยู่เต็มแล้ว พ่ออนุญาตให้ฉันกับพี่ชายมานอนด้วยได้หลังจากที่กินข้าวเย็นเสร็จ เราช่วยกันแบกผ้าห่มผืนโตกับเสื่อที่ฉันกับแม่ช่วยกันทอตั้งแต่ปปลายปีที่แล้ว  ตอนนี้มันโดนมอดกัดขาดแหว่งบ้างแล้ว แม่ไม่ยอมให้เราเอาผืนดีๆๆมาหรอกกลัวว่าเราจะทำมันพังนะสิ  เพราะบางทีเราก็ลืมมันทิ้งไว้จนแม่โมโหหลายต่อหลายครั้งแล้ว
เราช่วยกันทำเพิงในกองฟางข้างในอุ่นมากๆ พ่อเอากระสอบข้าวสารปูรอบด้านกันฟางบาดตัวและกันลมจากด้านนอกอีกชั้นด้วย
เรานอนเรียงกันดูดาวหน้าเพิง มีคนเดินผ่านไปมาทักทายกัน
ดึกแล้ว นิทานของพ่อจบไปหลายเรื่อง
พ่อไล่เราเข้านอนเพราะอากาศเริ่มหนาวมากแล้ว
ตอนนี้ฉันจำนิทานขอองพ่อไม่ได้แล้ว  แต่สิ่งหนึ่งที่ยังจำได้เสมอว่าตอนนั้นพ่อรักฉันมากแค่ไหน				
				
comments powered by Disqus
  • 545

    21 มีนาคม 2555 15:55 น. - comment id 128359

    16.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน