ตลาดเช้า รากเหง้า และสาวไอที

จันทร์เพ็ญ จันทนา

เช้าวันหยุดแท้ๆ ตามปกติ ไม่ว่าใครก็ชอบที่จะนอนสบายๆ อยู่กับเตียงนุ่มๆ ใช้เวลาอ้อยอิ่งให้ความเกียจคร้านเป็นฝ่ายชนะหน้าที่และความรับผิดชอบกันบ้าง อันที่จริงแล้ว เช้าวัหยุดส่วนใหญ่ของฉันก็เป็นเช่นนั้น... ยกเว้น เช้าวันนี้
หลังจากที่เมื่อคืนฉันเข้าอินเทอร์เน็ต ไปโพสท์บทกวีที่แต่งหมาดๆ ไว้ที่เว็บบอร์ดของเว็บไซต์หนึ่ง กว่าจะหาภาพประกอบที่ลงตัวเพื่อให้บทกวีมีรสมีชาติก็แทบแย่ ถึงแม้จะดึกไปหน่อย แต่จากเนื้อหาบทกวีที่ขึ้นจากส่วนหนึงของเนื้อชีวิตฉันจริงๆ เช้านี้ เลยมีแรงบันดาลใจบางอย่าง... ที่ทำให้ฉันอยากจะตื่นเช้า
ฉันตั้งชื่อบทกวีชิ้นนี้ว่า ของฝาก  คำฝาก เขียนด้วยภาษาง่ายๆ เหมือนภาษาพูด อาจไม่พริ้งเพริศด้วยลีลาสัมผัสของคำ แต่สำหรับฉัน บทกวีชิ้นเล็กๆ ชิ้นนี้มีคุณค่าอยู่ที่การ สัมผัสใจ เพราะความรัก ความห่วงใยของแม่ อยู่ที่เรื่องราวเหล่านี้
ของฝาก...คำฝาก
อาบน้ำ-แต่งตัวเสร็จ แล้วหรือจ๊ะ
มามะ ดูของฝาก แม่เตรียมให้
นานนาน มาบ้านที แม่ดีใจ
เลยเตรียมของยกใหญ่ให้แก้วตา
มะม่วงเปรี้ยว มะม่วงสุก มะม่วงมัน
แม่ใส่ถุงรวมกันสองโลกว่า
มะม่วงเราปลอดภัย ไม่ฉีดยา
เอาไว้กิน ยามเหนื่อยล้า จากทำงาน
น้ำพริกเผา ต้มยำ เพิ่งตำเสร็จ
ทั้งแกงเผ็ด แกงส้ม ผสมผสาน
ใส่ตู้เย็น เอาไว้ กินได้นาน
ได้ลองลิ้มขี้คร้าน จะติดใจ
ยามจะกิน ก็ง่ายง่าย ใส่เนื้อ-ผัก
น้ำแกงเดือดพลั่กพลั่กแล้วค่อยใส่
ซดร้อนร้อน คล่องคอ อย่าบอกใคร
นะลูกนะ กินได้ ตั้งหลายมื้อ
กล้วยน้ำว้า ก็มี หวีใหญ่ใหญ่
อย่าอายเลย นะทรามวัย ที่จะถือ
พริกขี้หนูสดใหม่สองกำมือ
เรามีของ ไม่ต้องซื้อ เขาแพงแพง
นี่ขนุนจำปาดะเนื้อดี๊ดี
อาจจะหนักไปหน่อยนี่ แม่เฉือนแบ่ง
มะละกอแขกดำ เนื้อแด๊งแดง
แม่จัดแจงใส่กระเป๋า เจ้าแล้วนะ
อาจจะถือพะรุงพะรังบ้างนิดหน่อย
ถึงกรุงเทพฯ ก็อร่อย ทั้งนั้นหละ
ทั้งอาหาร เสื้อผ้า สัมภาระ
ถือดีดีนะลูกนะ ให้ระวัง
ทั้งรถราก็มากมายอย่าประมาท
ลูกพลั้งพลาด แม่คงช้ำ น้ำตาหลั่ง
รักษาเนื้อ รักษาตัว สะตุ้งสะตังค์
แม่นี้อยู่ข้างหลัง จะอวยชัย
จะสวดมนต์ภาวนา จิตแน่วแน่
ให้ลูกแม่ อนาคต สุขสดใส
ให้แคล้วคลาดโดยตลอด ให้ปลอดภัย
ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ให้คนรัก
คุณธรรมความดีเป็นที่ยึด
ความประพฤติทั้งหลายให้แน่นหนัก
อยู่กรุงเทพฯ ไกลแท้ แม่ห่วงนัก
ไกลจากอกแม่ปกปักยากเต็มที
นี่หลวงพ่อองค์น้อย ห้อยคอเถิด
ชีวิตลูกจะประเสริฐสมศักดิ์ศรี
เป็นคนดี นะลูกนะ เป็นคนดี
ทั้งกายใจ ไร้ราคี พระคุ้มครอง
เป็นคนดี นะลูกนะ เป็นคนดี
จำเริญจำเริญ ขวัญชีวีแม่คุ้มครอง!
คำตอบของการตื่นเช้าในวันหยุดของฉันวันนี้ก็คือ ฉันจะไปเดินตลาดสด เพื่อซื้อผักปลามาใส่แกงส้มที่แม่ฉันตำน้ำพริกแกงไว้ให้เมื่อคราวกลับไปเยี่ยมบ้านครั้งล่าสุด นานเต็มที ที่ชีวิตในเมืองหลวงของฉัน เหินห่างจากตลาดเช้า ซึ่งเป็นเสน่ห์ของวิถีชีวิตที่ติดดินแบบวิถีไทยดั้งเดิม ความเร่งรีบในชีวิตเมือง บางทีก็ทำให้เราฝากท้องและโภชนาการไว้กับร้านอาหารนอกบ้าน จนลืมการเข้าครัว ทำอาหารแบบไทยๆ ที่อร่อยเหลือใจและดีต่อสุขภาพ
คว้าโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงินและกุญแจบ้านใส่ในถุงผ้าที่พิมพ์ลายเป็นชื่อเว็บไซต์ที่ฉันเคยเป็นเว็บมาสเตอร์ เดินทอดน่องไปตลาด ระยะทางราวๆ ห้าหกร้อยเมตรแค่นี้นับว่าเป็นเรื่องเล็ก ถ้าเทียบกับเมื่อคราวลาพักร้อนครั้งก่อน ที่ฉันพักชีวิตชาวเน็ตไปเป็นชาวดอย เดินขึ้นลงภูเขาวันหนึ่งตั้งหลายกิโลเมตร จะว่าไป การไปเที่ยวดอยครั้งนั้น เหมือนเป็นสิ่งเน้นย้ำ ที่ทำให้ฉันยิ่งเชื่อมั่นว่า ชีวิตสมัยใหม่ ที่รายล้อมไปด้วยวัตถุและเทคโนโลยีไฮเทค ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทำให้เรารู้จักจัดสรรเวลาในการพาตัวเองเข้าไปหาและกลมกลืนกับธรรมชาติ ตราบใดที่หัวใจเราเรียนรู้ว่า อะไรคือความสุขพอดีที่เราต้องการ
ที่ตลาดฝั่งโขง ตลาดสดขนาดใหญ่ของดอนเมือง พ่อค้าแม่ขายมากหน้าหลายตามีอาหารสดสารพัดมาวางขาย ทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ และยังพ่วงท้ายด้วยของแห้งคู่ครัวต่างๆ ฉันได้ผักหลายชนิดและกุ้งสดที่จะทำให้แกงส้มมื้อพิเศษอร่อยเด็ดเหลือใจ ดอกขจรเอาไปผัดไข่ ปลาอินทรีเค็มเอาไปทอด ตั้งใจว่าจะหาผลไม้ติดไว้ซักหน่อย เป็นแอปเปิ้ลก็คงดี สุภาษิตฝรั่งว่าไว้ กินแอปเปิ้ลแค่วันละผล ก็พ้นจากการไปหาหมอ ฉันซื้อมาก กินมาก สุขภาพจะดีมากตามไปด้วยมั้ยนะ
ยังไม่ทันถึงแผงร้านผลไม้ ฉันก็ต้องสะดุดกึกเหมือนต้องมนต์สะกด ตรงพื้นฟุตบาท กระจาดสองใบ ที่มีกล้วยน้ำว้า ตำลึงและผักบุ้งท้องนา พร้อมป้าคนขาย และเด็กผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ทำให้ฉันต้องหยุดมองและพูดคุยสองสามคำ...ท้ายที่สุด ฉันยื่นแบงค์ร้อยให้น้องไป แล้วฉันก็ได้กล้วยน้ำว้ามาสองหวี ตำลึงและผักบุ้งอีกอย่างละสี่กำ...
ฉันเดินกลับมาบ้าน จัดการทำแกงส้มผักรวม ดอกขจรผัดไข่ และปลาอินทรีเค็มทอด ทำเสร็จ  ก็ดูโทรทัศน์ไป กินไป ผักบุ้งและตำลึงที่อยู่ในตู้เย็น คงจะเป็นอาหารสำหรับพรุ่งนี้...ฉันก็ไม่แน่ใจหรอกว่าถึงพรุ่งนี้ ผักพื้นบ้านทั้งสองอย่าง จะยังสดอร่อยอยู่หรือเปล่า แต่จะเป็นไรไป ในเมื่อฉันไม่ได้ซื้อแค่ผักหรืออาหารนี่นา...ความรู้สึกฉันบอกเช่นนั้น
ถ้าคุณเป็นฉัน...เด็กผู้หญิงตัวผอมๆ ดำๆ หัวฟูๆ ที่เกิดและเติบโตมากับธรรมชาติและวิถีชนบท เลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ อยู่กับท้องไร่ท้องนา พายเรือมาหลายคลอง หาปลามาหลายหนอง ปะเหมาะเคราะห์ดี ที่เป็นเด็กเรียนดี มีครูดี เพื่อนดี และชีวิตส่วนใหญ่ก็พบเจอแต่คนดีๆ ทำให้ มีโอกาสได้เป็นนักเรียนทุนในมหาวิทยาลัยอันทรงเกียรติ ได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานรางวัลต่างๆ มากมายจากพระบรมวงศานุวงศ์และบุคคลสำคัญ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปดูงานด้านสื่ออินเทอร์เน็ตที่ต่างประเทศ และได้งานที่แม้จะไม่โก้หรูล้ำเลิศแต่ก็เป็นงานที่ทำให้ชีวิตมีความสุขในทุกวัน... คุณจะเข้าใจ ที่สำคัญ สิบกว่าปีที่แล้วนั้น ฉันก็เคยนั่งกับพื้นฟุตบาท ช่วยแม่ขายของในตลาดแบบน้องคนนี้ คำว่า รากเหง้า และ เบ้าหลอม มีอิทธิพลอย่างนี้นี่เอง 
ฉันไม่ได้ซื้อแค่ผัก แต่ฉันซื้อภาพความทรงจำและความสุขในอดีตของตัวเองมาไว้ดื่มด่ำ  ฉันไม่ได้ให้แค่เงินทองแลกของซื้อขายกับน้องคนนั้น แต่ฉันให้โอกาสเล็กๆ กับเธอ เหมือนที่ฉันเคยได้มาอย่างสม่ำเสมอในชีวิต ที่สำคัญ ถ้าฉันกินอาหารที่ซื้อมากจากป้าและลูกสาว ฉันคงไม่ได้อิ่มแค่กาย...แต่อิ่มไปถึงหัวใจ อย่างแน่นอน
เพื่อนคนสนิท ส่งข้อความผ่านมือถือมาหา ชวนฉันไปพักผ่อนที่ทะเลระยองในวันหยุดอาทิตย์หน้า  ฉันตอบตกลงทันที เพราะจะได้มีโอกาสแวะไปเยี่ยมแม่ด้วย แต่สำหรับอาทิตย์นี้ ฉันยังมีภารกิจต้องไปดูหนังเรื่องนึงก่อนที่จะลาโรง หนังฝรั่งชั้นดีที่ซ่อนปรัชญาตะวันออกไว้อย่างแนบเนียน ตบท้ายด้วยการแวะร้านต้นไม้ หาตะบองเพชร และพลูด่างสวยๆ มาตั้งข้างๆ คอมพิวเตอร์ที่บ้าน 
แม้ใครจะบอกว่า การที่เราอยู่ในเมืองใหญ่ มีชีวิตสมัยใหม่ แล้วจะทำให้หัวใจเราเป็นเครื่องจักรเครื่องกลไปด้วย ฉันขอปฏิเสธอย่างที่สุด เทคโนโลยียังสามารถไปกันได้ดีกับธรรมชาติ พอๆ กับที่เราสามารถพัฒนาคุณภาพของชีวิตควบคู่กับการพัฒนาคุณธรรมของจิตใจได้ หลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตและสังคมของเรา ยังสามารถที่จะปรับปรน และกลมกลืนได้อย่างลงตัว...เพียงแต่เรารู้ว่า วันนี้ พรุ่งนี้ และวันต่อๆ ไป คุณค่าและความสุขที่แท้จริงของชีวิตเรา...อยู่ที่ตรงไหน
ท้ายที่สุด เพียงอยากจะบอกว่า ทุกตัวอักษรที่ฉันเขียนขึ้นนี้ เป็นความจริงทั้งหมด อาจจะเรียบๆ ง่ายๆ... อาจจะไม่ได้สูงส่งงดงาม แต่ฉันก็ทำด้วยความตั้งใจและสุขใจ ขอบคุณคอมพิวเตอร์ ตัวแทนความสมัยใหม่ ที่ช่วยให้ฉันได้ถ่ายทอดเรื่องราวเล็กๆ ของชีวิตคนธรรมดาๆ สู่สายตาและสู่หัวใจของใครๆ อีกหลายคน...				
				
				
comments powered by Disqus
  • กีกี้

    19 ตุลาคม 2549 17:28 น. - comment id 93069

    ยุคสมัยเปลี่ยนแปลง
    สิ่งใหม่เพิ่มขึ้น คู่กับสิ่งเก่าที่เร้าอารมณ์ดิบในตัวตนคนได้เสมอ
    
    การยอมรับสิ่งใหม่ 
    มิใช่การถูกกลืนกินโดยมัน
    เพราะรากเหง้าและเบ้าหลอมที่หล่อรวมความเป็นตัวตนของเรายังไม่เปลี่ยนแปลง
    หากเพียงแต่กระเถิบชิดเข้าไปในพื้นเพนิสัย 
    เพื่อมีที่ว่างพอให้เรารับสิ่งใหม่เข้ามาในชีวิต
    
    หลายต่อหลายคนที่ปฎิเสธนวัตกรรมอันทันสมัย
    ไม่ยอมรับ ..
    อาจเป็นเพราะกลัวการถูกกลืนกินตัวตน
    หรืออาจเป็นเพราะอยากยืนยันความเป็นตัวตน .. อัตตา .. 
    หรือเรียกให้ดูดีหน่อยก็ .. อีโก้ .. 
    (แปลกนะ ทำไมไม่เป็น ไอ้โก้ ก็ไม่รู้เน๊อะ ..)
    
    ไม่ว่าจะยุคไหน
    สิ่งอมตะที่ได้ยินมาแต่โบราณในทุกคำสอนยังคงเป็นจริงเสมอ ..
    
    นั่นก็คือ ..
    ความเปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดร์ .. 
    
    ปล. ชอบงานเขียนคุณนะ .. อ่านแล้วรู้สึกสบายๆ 
    ยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่มันก็ถูกจัดให้เข้ากันได้อย่างลงตัว .. 
    
    .. 36.gif
  • ..สีน้ำฟ้า..

    19 ตุลาคม 2549 20:40 น. - comment id 93070

    ไปเป็นสาวดอยนี่เอง ถึงได้เงียบหายไปนานอยู่ช่วงหนึ่ง
    
    พักนี้เห็นโพสงานอยู่บ้าง ตามไปอ่านนะคะ
    แต่ไม่ค่อยได้ลงคอมเม้นท์ไว้ให้ เพราะมีปัญหาสุขภาพ
    และการใช้คอมพ์ นิดหน่อยค่ะไม่มาก
    
    ส่วนใหญ่แจมจะตามอ่านงานไม่คอมเม้นท์
    หรือบางทีก็หายไปนาน ๆ ไม่ใช้คอมพ์เลยก็มี
    
    เห็นคุณโพสเรื่องสั้น ตามมาอ่าน
    รู้สึกดีที่ได้อ่านค่ะ
    
    คิดถึงนะคะ
    
    และจะคอยติดตามงานเรื่อย ๆ ก็แล้วกัน
    
    36.gif36.gif36.gif
  • จันทร์เพ็ญ จันทนา

    19 ตุลาคม 2549 22:14 น. - comment id 93071

    คุณกีกี้คะ
    
    ขอบคุณมากๆ ค่า ที่มาร่วมแสดงความคิดเห็นกัน อ่านความเห็นแล้วทำให้คิดถึงหนังไทยเรื่องโหมโรงจังเลย... ต้นไม้ใหญ่ และราก1.gif36.gif
  • จันทร์เพ็ญ จันทนา

    19 ตุลาคม 2549 22:15 น. - comment id 93072

    คุณ ..สีน้ำฟ้า.. 
    
    ขอบคุณที่ติดตามกันนะคะ ชื่นใจจัง
    
    รักษาสุขภาพด้วยนะคะ 36.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน