อาซิ้มในชุดสีดำ

judas


บนถนนเต็มไปด้วยรถ บนฟุตปาทเต็มไปด้วยผู้คน 
สายหมอกในยามเช้าของต้นฤดูหนาว ถูกกลบด้วยควันท่อไอเสีย 
ตรงซอกตึก ตรงมุมมืด ใครบางคนยืนอยู่ตรงนั้น 
อาซิ้มแก่ๆ สวมชุดสีดำทั้งชุด 
....................................... 
ตั้งแต่ผมย้ายที่พักมาอยู่กับแฟนแถวใจกลางเมือง ผมต้องตื่นแต่เช้ากว่าปกติเพื่อออกไปทำงานให้ทันเวลา 
ทั้งระยะทางที่ไกลกว่าเดิม ทั้งการจราจรที่ติดขัดกว่าเดิม 
วันแรกที่ผมต้องออกมายืนรอรถเมล์แต่เช้ามืดผมก็เห็นอาซิ้มชุดดำแกยืนอยู่ตรงมุมตึกนี่แล้ว 
อาซิ้มในชุดสีดำทั้งชุด ใบหน้าเหี่ยวย่น ขาวซีด.. 
แกยืนของแกอยู่เงียบๆอย่างนั้นทุกวัน 
ยืนเหมือนไม่สนใจใคร และที่สำคัญไม่มีใครสนใจแก 
บางครั้งผมเห็นแกไอเหมือนจะเป็นจะตาย ไอเหมือนว่าปอดเหี่ยวๆของแกจะหลุดออกมาข้างนอก 
สาวในชุดทำงานแบบยูนิฟอร์ม หนุ่มหิ้วกระเป๋าเอกสารผูกไทด์ นักเรียน ม.ปลายแว่นหนาแบกเป้ใบโต ไม่มีสักคนที่สนใจจะหันมาดู 
จนผมนึกสงสัย ว่าพวกเขามองเห็นแกเหมือนที่ผมเห็นหรือเปล่า 
บางวัน แกนับเงินในมือ เหมือนว่าเงินในมือแกจะไม่พอ 
แกเอื้อมมือเหมือนว่าจะสะกิดคนที่เดินผ่านไปมา 
แต่ไม่มีใครสักคนหยุดมอง 
ไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำว่าแกกำลังทำอะไร
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน ? 
มีอยู่วันหนึ่งเหมือนว่าแกจะปวดท้อง ลงไปนั่งกุมท้องอยู่ตรงซอกตึกมืดมุมนั้น 
ผู้คนก็ยังคงเดินผ่านแกไปเช่นเดิม 
ไม่มีใครสักคนเลยหรือที่มองเห็นแก ? 
ผมตัดสินใจขยับจะเข้าไปหาเพื่อถามไถ่ รถเมล์คันที่รออยู่ก็มาพอดี 
ผมชั่งใจอยู่แวบหนึ่ง ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกวิ่งขึ้นรถเมล์ 
ผมไม่อยากไปทำงานสาย 
แล้ววันรุ่งขึ้น แกก็กลับมายืนอยู่ที่เดิม 
ใส่ชุดสีดำของแกเหมือนเดิม 
......................................... 
ผมเล่าเรื่องอาซิ้มในชุดดำที่ผมเห็น แต่เหมือนไม่มีใครเห็น ให้เพื่อนที่ทำงานฟัง 
ผีหรือเปล่า ระวังนะเว้ย คำพูดนั้นล้อเล่น แต่ทำเอาผมวูบเข้าไปในใจ.. 
หรือว่าแกจะเป็นผี.. 
นึกถึงเรื่องของเพื่อนคนหนึ่งซึ่งเป็นดีเจ ที่เล่าว่าเขามองเห็นผีหัวขาดยืนอยู่หน้าสถานีทุกวันก่อนเข้าทำงาน 
นึกถึงประสบการณ์จากเพื่อนร่วมห้องสมัยมหาลัย ที่เคยเจอกับตัวเอง และยืนยันกับผมว่า เราสามารถเห็นผีได้แม้กลางวันแสกๆ เดินปะปนไปมาอยู่รอบๆตัวเรา 
คิดมาถึงตรงนี้ ผมเย็นวาบไปตลอดหลัง 
นี่ผมโดนผีอาซิ้มหลอกมากี่วันแล้วเนี่ย.. 
......................................... 
ตั้งแต่นั้นมา ทุกเช้า ผมพยายามไม่มองไปยังซอกตึกที่แกมักจะยืนอยู่ 
แต่คนเรา ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งพยายามไม่สนใจอะไร ความสนใจเราก็มักจะจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้น.. 
ผมเหลือบไปดูผีอาซิ้มในชุดดำบ่อยๆ 
เพิ่งสังเกตเห็น ว่าหน้าแกซีด ตาแกลึก ดูอิดโรย 
บางครั้งไอเหมือนบ้า บางครั้งถ่มเสลดลงพื้น บางครั้งก็ปวดท้องจนต้องทรุดกายนั่งเอามือข้างหนึ่งยันกำแพงตึกเอาไว้.. 
ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่มีใครสักคนที่เห็นแก 
มีเพียงผมคนเดียวที่เห็น ทั้งๆที่พยายามทำเป็นไม่เห็น 
แกรอรถสายอะไรนะ.. ? 
ถึงได้มารออยู่ตรงนี้ทุกวัน 
ผมยังไม่เห็นแกขึ้นรถเมล์คันไหนเลยสักคัน 
เหมือนกับว่าแกรอคอยรถที่ไม่มีวันมาถึง.. 
ทุกครั้งที่แกไอ 
หลายครั้งที่แกโก่งคอเหมือนจะอาเจียน 
ผมได้แต่นึกสงสัยในใจ ว่าแกเป็นอะไรตาย 
และทำไมดวงวิญญาณของแกถึงได้มาวนเวียนอยู่แถวนี้ 
........................................ 
แล้ววันหนึ่ง คำตอบทั้งหมดก็กระจ่าง 
วันนั้น ผมตื่นสาย เพราะแฮงค์จากการกินเหล้ากับเพื่อนเก่าสมัยมหาลัย 
เกือบสองโมงเช้าแล้ว ผมตาลีตาเหลือกวิ่งมาที่ป้ายรถเมล์ วันนี้คงไปทำงานสายแน่ๆ 
อาซิ้มชุดดำยังคงยืนอยู่ที่เดิม ไม่เลือนหายไปตามแสงแดดที่แรงขึ้น 
วันนี้แกยังคงไอเหมือนเดิม.. 
เสียงรถยนต์บนถนน ดังกลบเสียงไอของดวงวิญญาณ.. 
แล้วรถเมล์คันหนึ่งก็เคลื่อนเข้า่ป้าย 
รถสายนี้มีไม่ถี่นัก นานๆผมจะเห็นผ่านมาสักคัน ผิดกับสายที่ผมนั่งที่มาถี่กว่ากันมาก 
อาซิ้มเดินออกมาจากมุมตึกที่มืดมิด 
ผมมองตาม กลั้นหายใจ 
รู้สึกเหมือนจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น 
แกไม่เคยออกจากมุมตึกนั้นมาก่อน 
อาซิ้มเดินตรงมาที่ป้ายรถเมล์ 
แล้วเหรียญสิบบาทก็หล่นกลิ้งจากมือแก 
กลิ้งลงถนน 
แกรีบวิ่งตาม เร็วเท่าที่สังขารจะพออำนวย 
เหรียญไปกลางถนนแล้ว 
แท็กซี่ปาดหน้ารถเมล์มาอย่างเร็ว เพื่อมารับผู้โดยสารคนหนึ่งที่ยกมือโบก 
อาซิ้มชุดดำถูกชนอย่างจัง กระเด็นล้ม หัวฟาดฟุตปาท เลือดไหลนอง 
รถยนต์อีกคันเหยียบเหรียญสิบบาทของแกให้แน่นิ่งอยู่บนพื้นถนน 
ผมตะลึงกับภาพตรงหน้า 
ในที่สุด ผมก็รู้แล้วว่าแกเป็นอะไรตาย.. 
เสียงกรีดร้องลั่นป้ายรถเมล์ 
ผู้คนเริ่มมุงเข้าไป 
กลิ่นเลือดคลุ้งปนในอากาศ 
เค้าเห็นกันด้วยหรือ ? 
คนอื่นๆนอกจากผม เห็นเหตุการณ์การตายของแกกันด้วยหรือ ? 
ผมแปลกใจ.. 
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังเซ็งแซ่ 
ชายหนุ่มผูกไทด์ขยับเข้าไปมุง หญิงสาวในชุดทำงานชะเง้อดูอยู่ห่างๆ เด็กหนุ่มในชุดนักเรียนม.ปลายพยายามเบียดคนเข้าไปดู 
เหมือนกับว่าทุกคนเพิ่งมองเห็นแก 
รถปอเต๊กตึ๊งมายกศพแกขึ้นรถ 
ร่วมกตัญญูมาช้ากว่า ได้แต่สบถด้วยความผิดหวัง 
ตากล้องจากหนังสือพิมพ์เข้าถ่ายภาพ ตำรวจเข้ามาซักถามว่าใครบ้างที่รู้ว่าอาซิ้มคนนี้เป็นใคร 
ไม่มีใครรู้.. 
เพราะแกไม่เคยมีตัวตนมาก่อน 
แกเพิ่งมีตัวตนหลังจากที่แกโดนรถชนตาย 
...................................... 
ท่ามกลางผู้คนขวักไขว่ การจราจรบนถนนวุ่นวาย 
ผมรู้สึกปวดท้องอย่างรุนแรง ทรุดตัวไปนั่งตรงข้างป้ายรถเมล์ 
ไม่มีใครสนใจ.. 
เหมือนไม่มีใครสักคนที่มองเห็น 
......................................				
comments powered by Disqus
  • ☆•:*`*:•.☆.....นางฟ้า ...แสนซน.....☆.•:*`*:•.☆

    13 ตุลาคม 2549 19:04 น. - comment id 92997

    47ttkr4.jpg
  • ก้าวที่...กล้า

    14 ตุลาคม 2549 14:22 น. - comment id 93000

    อาซิ้มในชุดสีดำ 
    ที่มักยืนอยู่ที่ซอกตึก คงไม่อยากเรียกร้องหรือให้ใครมาสนใจ  
    แม้วาระสุดท้ายก็ตาม   36.gif
  • ละอองน้ำ

    14 ตุลาคม 2549 22:53 น. - comment id 93006

    อ่านงานแบบนี้แล้วนึกถึงสรจักรขึ้นมา
    อันนี้คงเป็น ศพข้างถนน  สินะ 
    
    อิอิ 
    20.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน