" บ ท เ รี ย น เ จ้ า ไ ม้ ใ บ น้ อ ย "
**ปราศนาการ
วันนี้แรงลมพัดโบกแลดูกราดเกรี้ยว กัดกร่อนขั้วหัวใจให้หวั่นไหว
ผมกำลังตั้งคำถามว่า...
เจ้าไม้ใบน้อย ที่กำลังลัดเลาะอย่างเคว้งคว้างกลางนภา
แท้จริงเจ้ากำลังเพรียกหา มาซึ่งสิ่งใดกัน
ตอนนี้ที่ข้างนอกนั่น พายุกำลังถาโถม โหมกระหน่ำมิหยุดยั้ง
กิ่งก้านสูงชะลูดแสนชรา ทิ้งเพียงกายาให้ไหวเอน
ลำต้นดูช่างโคลงเคลง โอนเอนเคล้าคลอพะนอเหงา
ซ้องบรรเลงท่วงทำนองสีเทาๆ สีของวันที่ไร้ซึ่งอณูดาษดื่นฟ้า
ดั่งอีกวันที่ปราศจากละอองชีวา ลอยละล่องระรานตา
ไป่ซึ่งจิต ไร้ซึ่งวิญญาณตามหนทาง
เพียงพื้นผิวคอนกรีตหยาบกระด้าง
ทอดกายนอนประกบผืนแผ่นดินแสนอ้างว้าง
ร้างห่างไกลออกไปลิบลับตา
กลับพินิจคิดใคร่ครวญ ใจรัญจวนชวนเพ้อฝัน
ถักทอเถาชูยอดรักสู่ฟากฟ้า สกุณาพาเสสรวลในวันเก่า
หวนรำลึกนึกถึงต้นรากลำเนาไพร ก่อกำเนิดไม้ใบนี้ได้เช่นไร
คำบิดามารดรพร่ำสอนมา...
รากก่อเกิดถิ่นกำเนิดบนโลกกว้าง
ถ้าจะวาดกลีบยอดงาม เจ้าจงนึกตรึกตรองดู
พ่อข้าสอนว่าเส้นใบนั้นแยกแตกเป็นสอง
หาได้เท่า เทียมกันไม่ มีไฉน
แต่จังหวะแสนไพเราะเพราะจับใจ
เจ้านั้นไซร้จงแถลงแจงเอาเอง
ข้าเริ่มวาด รูปไม้ใบ ตอนประถม
แต่ระทม ตรมหทัย เพราะใบเบี้ยว
ดูคล้ายเกลียว เปลี่ยวดวงจิต ปานนั้นเชียว
ใจห่อเหี่ยว เที่ยวถามหา หนทางใหม่
จนปัญญา ผิดไฉน ใคร่อยากรู้
ไยไม้ข้า อาภัพ อับหัวใจ
มิเหมือนดง พงไพร ในป่าใหญ่
ภูเวียงไซร้ ไร้รส พจนา...
.......
...
.
**ปราศนาการ [March 19, 2006]