เพลงรัก เพลงละคร ตอนที่5
เก่งกาจ
ทางด้านเค้กเธอมาที่บ้านโดมเพราะยังไม่มีใครโทรมาบอกว่าเปลี่ยนสถานที่นัดแล้ว
เธอถึงประตูหน้าบ้านโดมกดกริ่งเรียก
ไม่นานโดมก็เดินออกมา ในตอนนี้เค้กยังไม่รู้ว่าโดมคือเด็กชายที่เธอกำลังตามหา หลังจากที่ความทรงจำเธอพึ่งกลับมาไม่นานนี้เอง
โดมเห็นเค้ก พยายามเก็บความรู้สึกเจ็บที่คิดว่าหญิงสาวทำเป็นลืมตน แล้วเอ่ยทักทายตามมารยาท
หวัดดีโดมกล่าว
หวัดดีค่ะเค้กกล่าวทักทายพร้อมยิ้มให้
โดมเปิดประตูให้เค้กเข้าไปในบ้าน เค้กเดินเข้าไปในบ้านรู้สึกว่าที่นี่คุ้น ๆอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เธอรออยู่นี่ก่อนนะ ฉันไปเตรียมของก่อนโดมบอกกับเค้กด้วยสีหน้าเฉยชา และน้ำเสียงเหินห่าง
เค้กพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์เค้กดังขึ้น เค้กจับมันขึ้นมาแล้วรับสาย
ค่ะ พี่กุ๊กเค้กรับสาย
น้องเค้กเหรอจ๊ะ คือพี่จะบอกว่าวันนี้พี่เปลี่ยนสถานที่ทำฉาก มาทำที่ชมรมแทนนะ ฝากบอกทุกคนด้วย"เจ๊กุ๊กกล่าว จากนั้นก็วางสายไป
ค่ะไม่ทันเสียแล้วสายตัดไป
อ้าววางไปเสียแล้ว ไปบอกโดมดีกว่า เค้กบ่นกับตนเอง
เค้กเดินตามหาโดมพร้อมเรียกโดม แต่ไม่มีเสียงขานรับ เพราะโดมออกไปนอกตัวบ้าน
โดม โดมเค้กเรียก
เค้กเดินมาถึงห้อง ๆหนึ่ง เธอคิดว่าโดมน่าจะอยู่
เธอหยุดที่ห้องชั่วครู่ จากนั้นก็ตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป
และแล้วเธอก็ต้องตะลึงกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ในห้องเต็มไปด้วยภาพวาดของเค้กวัยเด็ก ภาพนั้นช่างสวยงามยิ่งนักในความคิดของเธอ มันเป็นภาพทุกอิริยาบถของเค้ก ไม่ว่าจะยามยิ้ม โกรธ หรือร้องไห้ และที่สำคัญภาพวาดตอนเค้กกำลังเล่นเปียโน กับเด็กชายคนหนึ่ง
ภาพเด็กชายคนนั้นเธอจำได้ติดตา หลังจากที่ได้ความทรงจำกลับคือ เขาคือโดม เด็กชายที่เธอตามหานั่นเอง เธอมองภาพนั้นอย่างตื้นตัน อดที่จะร้องไห้ออกมาอย่างซาบซึ้งไม่ได้ บัดนี้เธอบอกกับตัวเองว่าเธอพบคนที่เธอตามหาแล้ว เขาคนนั้นคือโดมนั่นเอง
และแล้วเธอก็รู้สึกว่ามีคนมายืนอยู่ทางด้านหลัง ในใจนึกรู้ว่าต้องเป็นโดมแน่ ๆ
เธอค่อย ๆหันมาเผชิญหน้ากับเขา ชายคนที่เธอตามหา
คือ... พี่กุ๊กให้มาบอกว่าเปลี่ยนสถานที่นัดน่ะเค้กพยายามหาเรื่องพูดเพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกดีใจ
โดม เธอคือโดมใช่ไหมเค้กกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมยิ้มออกมา
หากเป็นเมื่อก่อน เขาเจอเค้ก เขาคงรู้สึกยินดี หากแต่ตอนนี้ เขาไม่อาจลืมคำพูดและการกระทำที่เค้กทำตัวห่างเหินทำตนไม่รู้จัก
เขาทั้งเคือง และน้อยใจ และไม่อยากเข้าใจด้วยว่าเหตุใดหญิงสาวถึงทำกับเขาอย่างนั้น
รู้อย่างเดียวคือหากหญิงสาวกลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกไม่ว่าในสถานะไหน เขาจะเย็นชากับเธอให้ถึงที่สุดให้เท่ากับที่เธอทำกับเขา
โดม เธอจำฉันได้ไหม ฉันเค้กไงเค้กกล่าวอย่างยินดี พร้อมจับมือชายหนุ่มมากุม
หากแต่โดมก็สะบัดมันออกอย่างสุภาพพร้อมพูดว่า
ขอโทษนะ ผมชื่อโดมจริง ๆ แต่คงไม่ใช่คนที่คุณรู้จักจากนั้นเขาก็ผละออกไป ทำเป็นไม่สนใจเค้ก แต่ในใจก็เจ็บที่ทำแบบนั้น แต่ความโกรธและเคืองแค้นมีมากว่า
ใช่สิ เธอคือโดมแน่ ๆ ! !เค้กกล่าวอย่างไม่อยากเชื่อพร้อมเดินตามโดมออกมา
จำผิดคนแล้วละเขาประชดเธอด้วยประโยคที่ไม่ต่างกันกับวันนั้นวันที่เขาพบเค้กอีกครั้งที่บ้านหยี วันนั้นโดมบอกกับตนเองว่า เค้กช่างใจร้ายที่ลืมเขาได้ลง ทั้งที่เขาเฝ้ารอและต้องการพบเธอมาตลอดชีวิต
ไม่ผิด ก็เด็กผู้หญิงที่อยู่ในรูปคือฉันนี่เค้กไม่ละพยายาม ที่จะให้โดมรับความจริง
คุณอาจจะเหมือนผู้หญิงในรูป แต่คุณไม่ใช่เขาโดมกล่าวช้า ๆชัด ๆ ด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่เหินห่างมากขึ้น
โดมเค้กเรียกชื่อเสียงอ่อย น้ำตาไหลริน
ไปเถอะ ป่านนี้พวกพี่กุ๊กรอแย่แล้วโดมตัดบทพร้อมเดินจากไป
เขาไม่ยอมหันหลังมามองเค้กที่ยืนร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่นั่นเอง เธอเข้าใจดีว่าชายหนุ่มโกรธเคืองเธอด้วยเหตุผลใด เธออยากบอกเหลือเกินว่าทำไมเธอจึงไปพบเขาเพื่อรับบทเพลงแห่งความหมายที่เขาตั้งใจจะให้เธอไม่ได้ แต่ก็พูดไม่ออกสักคำ เพราะชายหนุ่มไม่ยอมรับว่าเธอคือเค้ก ผู้หญิงที่เขาเคยให้ความสำคัญ
ทางด้านเจ๊กุ๊ก ที่กำลังคุมคนในชมรมทำฉากอยู่ กลุ่มหนึ่งกำลังสเกตรูปบนผ้าขาวอย่างคร่าว ๆ อีกกลุ่มก็ช่วยกันระบายฉากอยู่
เจ๊กุ๊กคอยดูพี่ได๋ที่กำลังเอาผ้าขาวที่มีการสเกตรูปมาติดบนกระดานที่จัดมาทำฉากอย่างหงุดหงิดเพราะได๋ทำไม่ได้อย่างใจ เดี๋ยวเอียงซ้ายที ขวาที
มันเอียงน่ะไอ้ได๋ แกทำให้มันดี ๆหน่อยสิเจ๊กุ๊กเอ็ดเสียงดัง พร้อมชี้นิ้วว่าควรทำยังไง
แหมเจ๊ อย่าโทษผมคนเดียวสิ เจ๊นั่นแหละดูไม่ดี ผมเลยต้องติดเอียงไปเอียงมาอย่างนี้ได๋ไม่ยอม เสียงดังเหมือนกัน
นี่รำไม่ดี อย่าโทษปี่โทษกลองสิเจ๊กุ๊กแหวใส่ พร้อมเท้าสะเอวอย่างเอาเรื่อง
อุ๊ย เที่ยงแล้วหรือนี่ ป่านนี้สี่คนนั้นยังไม่มาอีกเจ๊กุ๊กกล่าวอย่างอารมณ์เสีย เมื่อเอานาฬิกาขึ้นมาดู
เที่ยงแล้ว ได้เวลาพัก ผมไปแล้วนะพี่ได๋เห็นเป็นโอกาส โดดลงจากกระไดลงมาจะวิ่งหนี แต่เจ๊กุ๊กฉุดมือไว้ ได๋เอนไปตามแรง
อะไรนี่ มาดึงผมไว้ทำไมได๋หันไปถามอย่างหงุดหงิด
ทุกคนไปพักได้ ยกเว้นแกไอ้ได๋เจ๊กุ๊กกล่าวดัง ๆตั้งใจให้ทุกคนได้ยิน พร้อมยิ้มอย่างมีชัย
ทำไมผมไปไม่ได้ได๋หันไปถามอย่างอารมณ์เสีย ที่ไม่ได้ไปพัก เหมือนคนอื่น ๆ
แกไปไหนไม่ได้ทั้งนั้นถ้าแกยังไม่เอาฉากไปติดบนกระดานให้เสร็จเจ๊กุ๊กเสียงเข้ม พร้อมส่งสายตาเอาจริง จนได๋ไม่กล้าขัดขืน ได้แต่สะบัดมือเบา ๆ แล้วลงมือเอาฉากไปติด
แต่ทันใดนั้น หมาตัวหนึ่งก็มากัดปลายผ้าขาวของฉากนั้นไว้ ได๋เห็นดังนั้นจึงตะโกนออกมาอย่างตกใจที่ฉากกำลังจะถูกทำลายเพราะเจ้าวายร้ายตัวนี้
เฮ้ย ไอ้หมาบ้า ปล่อยของฉันเดี๋ยวนี้นะได๋ตะโกนออกพร้อมวิ่งไล่หมา
เจ้าหมาตัวนั้นวิ่งหนีไปด้านหลังของฉากซึ่งเป็นไม้กระดานแผ่นใหญ่
พี่กุ๊ก ไปช่วยกันจับหมาหน่อย เดี๋ยวมันไปกัดฉากเราเสียก่อนได๋หันไปทางเจ๊กุ๊ก พร้อมจะวิ่งออกไป แต่เห็นเจ๊กุ๊กไม่ยอมขยับ
แล้วทำไมต้องเป็นฉันละเจ๊กุ๊กหันไปแหวใส่ ไม่ยอมทำตามได๋สั่ง
เอ้า ก็ที่นี่ มีผมกับพี่สองคน พี่ไม่ช่วยผม และจะให้ใครช่วยล่ะพี่ได๋หันไปพูดพร้อมส่ายหัวในความไม่เข้าท่าของหัวหน้าทีม
เร็วดิพี่ได๋กล่าวพร้อมฉุดเจ๊กุ๊กวิ่งไปทางหลังฉากทันที
ในขณะที่เจ๊กุ๊กกับได๋กำลังไล่หมาอยู่ทางหลังฉากของเวที
กริชกับหยีก็เดินเข้ามาที่เวที ซึ่งเป็นสถานที่ที่พี่กุ๊กนัดมาช่วยกันทำฉากและฝึกซ้อมละคร
โดยทั้งคู่หารู้ไม่ว่าได๋และเจ๊กุ๊ก กำลังแอบฟังคำสนทนาของทั้งคู่อย่างสนใจ ทั้งได๋แ ละเจ๊กุ๊กหลบอยู่หลังฉาก
เดี๋ยวสิหยีกริชเดินตามหยี พร้อมคว้ามือหญิงสาวไว้
หยีสะบัดมือหนีอย่างสุภาพ กริชเห็นดังนั้น
ขอโทษกริชเอ่ยเบา ๆ พร้อมมองหยีด้วยสายตาที่ไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวทำตัวเหินห่างอย่างนี้
ทำไมเธอต้องคอยหลบหน้าฉันด้วยละหยีกริชเอ่ยถามเบา ๆแฝงไว้ด้วยความน้อยใจในการกระทำของหญิงสาว
เปล่านี่หญิงสาวตอบ เรียบ ๆ สายตาเย็นชาใส่เขา ในใจเจ็บลึก ๆที่ต้องแสดงตัวเหินห่างอย่างนี้
โกหก เห็นอยู่ว่าเธอทำเหมือนไม่อยากเจอหน้าฉันกริชเสียงดังขึ้นอย่างไม่พอใจในท่าทีของหญิงสาว
ใช่ ฉันโกหก ฉันยอมโกหกหัวใจของตัวเอง ดีกว่าทำตามที่มันเรียกร้องหยีกล่าวทั้งน้ำตา เธอไม่อาจกลั้นความรู้สึกในใจ เธอเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องมองหน้าชายคนที่เธอไม่อาจรักได้ตามที่หัวใจปรารถนา
อย่าทำอย่างนั้นเลย คนเราโกหกหัวใจตัวเองไม่ได้หรอกกริชเอ่ยเบา แต่ชัดถ้อยชัดคำ เขามองเธอด้วยสายตาที่มีความหมาย
ต่อให้ยากแค่ไหน ฉันก็ต้องทำ เพราะหัวใจของคนที่ฉันรักไม่ได้มีไว้เพื่อฉันหยีกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เธอพยามฝืนกลั้นความเศร้าโศก พลางปาดน้ำตา ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
เขาเลือกรักผู้หญิงคนอื่นไปแล้ว เธอได้ยินไหมหยีกล่าวทั้งน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม เธอมองเขาด้วยสายตาเจ็บปวด ชายคนที่หยีหมายถึงก็คือกริชนั่นเอง
เขาอาจจะเคยเลือกผู้หญิงคนนั้น แต่เขาไม่รู้เลยว่าเขารักผิดคน จนเมื่อมาเจอใครคนหนึ่ง คนที่เขาบอกกับตัวเองมาตลอด ว่ารอมาทั้งชีวิตกริชกล่าวอย่างมีความหมายโดยนัย
ฉันไม่สนใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง แต่ที่รู้คือฉันกับเขารักกันไม่ได้หยีกล่าวเสียงดัง พร้อมส่ายหัวไปมาอย่างต้องการปฏิเสธคำขอร้องเขา ที่ต้องการมาคบหากับเธอแทนเค้ก เธอทำไม่ได้ ที่จะทำร้ายความรู้สึกของเค้กซึ่งเป็นลูกผู้หญิงด้วยกัน
กริชเดินเข้ามาใกล้เธอพร้อมมองเธอด้วยสีหน้าจริงจัง
และถ้าเขาเป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่มีใครนอกจากเด็กผู้หญิงที่เขาต้องการมอบช็อกโกแลตให้ เธอจะรักเขาได้ไหม หยีกริชเน้นประโยคสุดท้าย
ไม่หยีกล่าวสั้นแต่เน้นคำนั้นอย่างไร้เยื่อใยใด ๆทั้งสิ้น เธอทำท่าจะเดินผละชายหนุ่มไป
หากแต่ชายหนุ่มก็คว้าเธอไว้เข้ามาสวมกอดอย่างรวดเร็ว เธอพยายามดิ้นรนจากอ้อมกอดนั้น แต่ยิ่งเธอดิ้นเขาก็รัดเธอแน่น
ปล่อยนะหยีตวาดเสียงดังพร้อมพยายามสะบัดตัวออก แต่ก็ไร้ผล
ฉันรักเธอ หยีกริชกล่าวคำนั้นอย่างชัดถ้อยชัดคำ หยีหยุดดิ้นเธออึ้งกับสิ่งที่ได้รับรู้
แวบแรกเธอยินดีกับคำนั้น แต่ไม่นานเธอก็ต้องสลัดความรู้สึกนั้น เพราะกริชมีเค้กอยู่แล้ว คนที่เขาเลือกไปแล้วนั่นเอง
แต่ฉันเกลียดเธอหยีหันมาเผชิญหน้ากับเขาทั้งน้ำตา แล้วกล่าววาจานี้ด้วยน้ำเสียงที่เชือดเฉือนที่สุด
ไม่จริง เธอโกหกกริชส่ายหน้าไม่อยากเชื่อหู เขาจับมือเธอสองข้างพร้อมพยายามอ้อนวอน
ฉันพูดจริง ๆ จริงที่สุดในชีวิตหยีไม่หยุดพูดจาทำร้ายจิตใจ เธอต้องการให้เขาตัดใจเสีย
เธอฟังฉันนะ คนที่เธอบอกว่าเธอรักเขาไม่ได้ เขาเป็นแค่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีเธอเป็นรักแรก เช่นเดียวกับที่เธอมีไว้เพื่อเขากริชกล่าวเหมือนหาทางยื้อหญิงสาวเอาไว้หากทว่า
ใช่เด็กผู้ชายคนนั้นเป็นรักแรกของฉันก็จริง แต่ฉันยอมทิ้งความรู้สึกนั้นตั้งแต่วันที่เขาเลิกส่งช็อกโกแลตให้ฉัน แล้วไปกับผู้หญิงคนอื่น
เธอกล่าวจบ ก็เดินผละไปทั้งน้ำตา เธอไม่ยอมหันหลังกลับ เธอจึงไม่รู้ว่ากริชยืนอึ้งสนิท ทำอะไรไม่ได้นอกจากน้ำตาที่ไหลรินออกมาด้วยความผิดหวังและเสียใจ
ทั้งคู่ไม่รู้ว่าหลังฉากที่ทั้งคู่อยู่นั้นมี ได๋ และเจ๊กุ๊กคอยฟังคำสนทนาอย่างตั้งใจทุกคำพูด
พี่เห็นเหมือนผมไหมได๋หันไปพูดกับเจ๊กุ๊ก
เห็นสิ เห็นว่ากริชกับหยี เค้ากิ๊กกันเจ๊กุ๊กกล่าว พร้อมยิ้มอย่างมีแผนดีในใจ
พี่คิดเหมือนผมไหมได๋หันมาถาม พร้อมรอฟังคำตอบของเจ๊กุ๊ก
แล้วแกคิดอะไรเจ๊กุ๊กหันไปถามเหมือนต้องการฟังคำตอบของได๋ก่อน
คิดว่าสงสารน้องเค้ก ที่แฟนแอบไปมีกิ๊ก แล้วพี่คิดยังไงได๋เอ่ยอย่างเห็นใจ เพราะเขาแอบปลื้มเค้ก
แต่ฉันคิดว่า การที่หยีกับกริชอินกันนอกบทอย่างนี้ก็ดีเหมือนกัน เพราะเขายิ่งอินเท่าไร เขาก็จะแสดงละครของเราได้ดียิ่งขึ้น และถ้าละครออกมาดี การได้เอวิชาโปรเจคของเราจะไปไหนเสียเจ๊กุ๊กกล่าวพร้อมหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี ที่ตนเองจะผ่านวิชาโปรเจคที่เรียนมาซ้ำซ้อนถึงสามครั้งสามครา
ใช่สิ บ้านพี่เขารอเอาวงมโหรี ไปฉลองให้พี่ในวันรับปริญญาจะแย่ เห็นว่ารอจนหง่าวแล้วนี่ เพราะพี่ไม่ยอมจบเสียทีได๋กล่าวพร้อมหัวเราะออกมากับชะตาชีวิตของเจ๊กุ๊ก
ไอ๋ได๋ หุบปากเจ๊กุ๊กหันไปแหวใส่
แต่ไม่ทันที่ได๋จะกล่าวอะไร เจ๊กุ๊กและได๋ก็เห็นโดมและเค้กเดินเข้ามาบนเวทีด้วยกัน
ซึ่งตรงนั้น ทั้งคู่คิดว่ามีแค่กันสองคน
เจ๊กุ๊กและได๋เงียบไม่กล่าวสิ่งใด เพราะต้องการดูสองคนนี้สนทนา
โดม เดี๋ยวสิเค้กเอ่ยขอร้อง ด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย พร้อมมองโดมด้วยสายตาเปลี่ยนไปมันเต็มไปด้วยความหมาย
มีอะไรอีกล่ะโดมกล่าวพลางเมินหน้าไปทางอื่นเหมือนไม่อยากใส่ใจหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้านัก แต่ก็รู้ว่าในใจรู้สึกตรงข้าม
ทำไมเธอไม่ยอมรับว่าเธอคือโดมที่ฉันรู้จักเค้กเอ่ยเสียงสั่นเครือ เพราะเศร้าใจที่เพื่อนชายที่เธอรักไม่สนใจเธอ
จะให้บอกอีกกี่ทีว่าฉันไม่ใช่ ไอ้โดมนั่นมันตายไปนานแล้วโดมเอ่ยประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
เธอก็เธอน่ะโดม ทำไมเธอต้องปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่เค้กกล่าวเสียงสั่นเครือ และดังเธอเมินหน้าไปทางอื่นและบีบน้ำตาให้ไหลรินออกมา
ฉันจะเป็นไอ้โดมแล้วทำไม เพราะสำหรับเธอ ไอ้โดมคนนี้มันไม่เคยมีความหมายอยู่แล้วนี่โดมเน้นประโยคสุดท้ายเหมือนต้องการกรีดแทงความรู้สึกเค้ก ได้ผลเค้กรู้สึกเจ็บปวดใจเหลือเกินกับประโยคนั้นน้ำตาเธอไหลรินไม่หยุด
มีสิเค้กกล่าวสะอื้นไห้
หากเธอโกรธฉัน ที่ฉันไม่ไปตามนัดเมื่อ สิบปีก่อน ฉันอยากบอกเธอว่า ....ฉันขอโทษประโยคสุดท้ายของเค้กมีกังวานแห่งความรู้สึกผิด เธอไม่สามารถจะเอ่ยสิ่งใดแทนความรู้สึกผิดได้ดีเท่าคำนี้อีกแล้ว และหวังว่าเขาคงอภัย
หากทว่า
ขอโทษอย่างนั้นหรือ เธอคิดว่าฉันเฝ้าคำขอโทษจากเธออย่างนั้นหรือ เธอคิดว่าคำขอโทษของเธอสำคัญกับฉันขนาดนั้นเชียวหรือ รู้ด้วยนะว่าคำขอโทษจากเธอมันลบล้างความทรมานที่ฉันได้รับจากการรอคอยเธอมาสิบปีไม่ได้หรอกเขาเอ่ยเน้นหนักทุกประโยคทุกคำพูด บาดลงไปถึงกลางใจเค้กอย่างแรง ยากที่จะทานทน เค้กสะอื้นไห้ออกมาอย่างอดกลั้น เธอไม่คิดว่าโดมจะโกรธแค้นเธอรุนแรงอย่างนี้
เก็บน้ำตาของเธอไปใช้กับคนอื่นเถอะ ฉันไม่เชื่อคนอย่างเธออีกแล้วโดมกล่าวช้า ๆแต่ชัดเจนทุกคำ พร้อมเดินผละไป ด้วยหัวใจที่เจ็บปวดเหมือนกันที่ต้องทำร้ายความรู้สึกเค้กอย่างนั้น
แต่เขาไม่อยากเจ็บเพราะเชื่อเค้กอีกแล้ว
โดมเดินผละออกไป โดยไม่สนใจเค้กอีกเลย เค้กได้แต่เดินออกไปอีกทางด้วยความปวดร้าวเช่นกัน
ทางด้านเจ๊กุ๊กกับได๋ที่แอบซุ้มดูอยู่เงียบ ๆ ก็วิพากวิจารณ์ทั้งคู่อยู่ในหลังฉากนั้น
พี่คิดเหมือนที่ผมคิดไหมได๋กล่าวกลับเจ๊กุ๊ก พร้อมมองพี่กุ๊กเป็นเชิงขอคำตอบ
ถามอีกแล้ว แล้วแกคิดยังไงละเจ๊กุ๊กหันมาแว้ดใส่ได๋ เพราะได๋มาขัดเวลาเธอกำลังคิดบางอย่างอยู่
สองคนนั่น กิ๊กกันชัวร์ได๋หมายถึงโดมและเค้ก เขาอดอิจฉาโดมไม่ได้ที่ได้เป็นคนพิเศษของเค้ก ถึงแม้จะเป็นแค่กิ๊ก
แล้วพี่คิดยังไงได๋หันไปถามเจ๊ได๋บ้าง
ฉันคิดว่า ละครเรื่องนี้จะสมบูรณ์แบบไม่ได้ ถ้าไม่ได้ไอ้โดมมาเล่นละครให้เราเจ๊กุ๊กกล่าวอย่างมีแผนการ แล้วยิ้มออกมาเหมือนกำลังได้สิ่งที่ตนเองต้องการ
อะไรนะ จะเอาไอ้โดมมาเล่นละครเนี่ยนะ