** วันที่รอคอย ** ท้องฟ้ามืดครึ้ม ลมพัดกระโชกค่อนข้างแรงต้นไม้ไหวเอนลู่ ยามต้องลมที่พัดผ่าน เสียงครืนๆดังแผ่วแว่วมาเป็นระยะๆ อากาศแปรปรวนบนท้องฟ้า ปลายขอบฟ้ามืดทะมึนสลับประกาย แสงแปลบปลาบน่ากลัวของฟ้าดุจดังพิโรธ เสียงดังใกล้เข้ามาๆ เพ้อฝัน....สาวบ้านนาในชุดผ้าถุงสลับลายใส่เสื้อคอกระเช้ารัดรูป รูปร่างค่อนข้างจะออกท้วมเล็กน้อย กำลังยืนเหม่อมองท้องฟ้าที่ห่างไกล ด้วยใบหน้าที่หม่นหมอง สายตานางเพียรจ้องมองไปยังปลายท้องนา แลมองเห็นตะคลุ่มๆไกลลิบๆครอบคลุมไปด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ แต่ทว่า มีต้นไม้คู่หนึ่งที่ยืนสูงตระหง่านเหนือเหล่าไม้ทั้งปวงอยู่ใกล้เนินภูเขาเตี้ยๆ ฝนเริ่มโปรยเม็ดตามกระแสลมที่พัดผ่านมาปะทะใบหน้าร่างกายหล่อน ที่ปล่อยอารมณ์อย่างตั้งใจหาได้สนใจต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อย่างกะทันหันของสายลมเริ่มพัดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ พัดจนเสื้อผ้า นางพลิ้วไสวดังจะปลิวหลุดลอยแทบออกจากร่างหล่อนก็มิปาน ฝนเริ่มหนาหนักขึ้นแต่ก็หาได้ทำให้หล่อนเคลื่อนที่ออกจากที่ หล่อนยืนก็หาไม่จนเสื้อผ้าร่างกายเปียกโชกไปหมด กลับสร้างภาพตระการตายิ่ง จนกระทั่งเสียงๆหนึ่งดังขึ้นหล่อนจึงหันไปมองเป็นเสียงของเด็กหญิงเล็กๆ กำลังเรียกหาหล่อนอย่างกระวนกระวาย ถึงแม้จะทำให้หล่อน เกิดอาการหงุดหงิดขึ้นบ้าง เมื่อหันมามองก็อดที่จะยิ้มเสียมิได้รีบผวาเข้าไป หาเด็กน้อยกลัวว่าจะวิ่งฝ่าสายฝนมาหาหล่อน อะไรหรือ...ลูก? หล่อนถาม..พร้อมทั้งดันตัวเด็กน้อยที่กำลังจะออกมา นูคิกถึงแม๋...เหงแม่เปียกฝง..กัวไม่บาย เด็กน้อยตอบพร้อมจ้องมองหล่อน ด้วยสายตาแปลกใจ ดวงตาที่กลมโตสายตาที่บริสุทธิ์ปราศจากสิ่งเคลือบแฝงใดๆ ของเด็กผู้หญิง ใบหน้ากลมรูปร่างออกจากท้วมๆตามประสาการเลี้ยงดูที่ดีๆ ไม่เป็นไรหรอกลูก..แม่ร้อนอยากตากฝนจ๊ะ หล่อนเสแสร้งตอบเลี่ยงความในใจ ที่หวนคิดย้อนถึงใครคนหนึ่ง ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมานานแสนนานแล้วก็ตามที เข้าไปข้างในเถอะลูก ตากฝนเดี๋ยวไม่สบายนะจ๊ะ พร้อมทั้งหล่อนรีบอุ้มเด็กน้อย เดินเข้าไปในบ้านหลบเลี่ยงฝนที่กำลังสาดมา หนูทำไมไม่อยู่เป็นเพื่อนพ่อล่ะจ๊ะ พูดถึงพ่อเด็กน้อย...หล่อนเกิดอาการ ใบหน้าหม่นหมองอย่างเห็นได้ชัด....ช่างเถอะหล่อนนึกในใจ พร้อมสะบัดศีรษะจะว่าการ สะบัดนี้เพื่อให้คลายจากละอองน้ำก็หาไม่ เพียงเพื่อจะไล่บางสิ่งบางอย่างให้หลุดจาก ความนึกคิดที่ซุกซ่อนอยู่ภายในเท่านั้น ทำให้หวนนึกถึงอดีต นับตั้งแต่เหตุการณ์ร้ายๆผ่านพ้นไปถึงแม้ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ ไม่ควรทำก็ตาม หล่อนรู้ว่าชายคนนี้รักและเทิดทูนหล่อน เสมอมานับตั้งแต่ครั้งยังเด็กๆ เขายอมเป็นผู้ตามในทุกๆสิ่งทุกอย่าง ไม่เคยเลยที่จะเอาชนะหล่อน หักหาญน้ำใจหล่อน จนเราทั้งสองเติบใหญ่เป็นหนุ่มสาว แต่ว่าจิตใจหล่อนเพียงมองเขาเป็นเพื่อนที่หล่อนรัก มากเท่านั้น หาได้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ จนกระทั่งหล่อนมาพบผู้ที่หล่อนปรารถนาในหัวใจ ในงานบ้านเชียงของ เป็นงานที่ ทั้งให้ความสุขและความทุกข์มาจนกระทั่งบัดนี้ ชายที่ค่อนข้างมีอายุมากกว่าหล่อนมาก แต่ทว่าเหมือนมีสิ่งหนึ่งกระตุ้นภายในใจให้เกิดความสนใจ แปลกใจ และใบหน้าที่จะมี ประกายการยิ้มที่ทรงพลานุภาพยิ่งนัก นัยน์ตาที่วางเฉยๆราวปราศจากสิ่งใดๆในสายตา มิได้สนใจต่อสิ่งใดๆ เพียงเดินชมวัตถุโบราณแต่เพียงผู้เดียว สนใจแต่ของโบราณหาได้ สนใจต่อสิ่งแวดล้อม จะมีบ้างที่เฝ้าจ้องมองดูการกระทำของเขาและบ้างก็ยิ้มให้เขา แต่ทว่าหาได้ทำให้เขาสนใจมากไปกว่านี้หล่อนก็เป็นหนึ่งในกลุ่มสาวๆนั้นที่เฝ้ามองด้วย ความสงสัย จะเป็นคนแปลกถิ่นต่างภาคก็หาไม่บางครั้งเขาสนทนาสอบถามก็เป็นคนในภาค เดียวกัน เพียงแต่ว่าหาใช่คนในหมู่บ้านหล่อน เหมือนจะท้าทายดุจดังฟ้ากำหนดวางขอบเขตเอาไว้ ความดื้อรั้น ความที่เคยเป็น ผู้ชนะมาตั้งแต่เด็ก ความต้องการในส่วนลึกซึ่งไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไรต่อชายหนุ่มคนนี้ สร้างกระแสความกล้าบ้าบิ่นให้หล่อน กูจะเอาชนะคนๆนี้ให้ได้ พวกมึงดูนะ หล่อนหันไปกล่าวกับเพื่อนสาวที่มาด้วยกัน จะบ้าหรือเพ้อ....? เพื่อนสาวท้วงติง...เพราะทราบนิสัยใจคอดีว่า เพื่อนคนนี้บ้าบิ่นเสมอๆ ปล่อยเขาไปเถอะ...แก่ก็แก่ด้วยโว้ย....มีแต่รูปร่างน่าตาดีเท่านั้น..ไม่เห็นน่าสนใจเลย กูอยากลองว๊ะ ทำเต๊ะท่าขรึมดีนัก...หล่อนตอบพลางแยกตัวเดินเข้าไปหาชายหนุ่ม พร้อมทิ้งตัวชนใส่ร่างที่หล่อนต้องการลองดี ว้าย...!!!คนผีทะเล หล่อนแสร้งร้องลั่น...พร้อมร่างที่ทรุดลงไป โอ้ย????....ขอโทษครับๆ...ขอโทษ. เขาอุทานพร้อมทรุดตัวลงไปประคองหญิงสาว เจ็บไหมครับ...เป็นอะไรหรือเปล่า?... ชายหนุ่มรีบถามด้วยความเป็นห่วงใย นิดหน่อยค่ะ แต่ไม่เป็นไรหรอก หญิงสาวตอบ พร้อมหันหน้าไปแอบซ่อนยิ้มไว้ โถ..โธ่ๆๆ...ความผิดผมเอง...มัวแต่มองไหโบราณที่เก่าแก่มากครับ... ขอโทษอีกทีครับ ชายหนุ่มรีบตอบพร้อมทั้งนวดแถวบริเวณหัวไหล่ ที่เขาคิดว่าหล่อนคงเจ็บบริเวณนั้น หญิงสาวรีบปัดมือทันที นิดหน่อยเท่านั้น....ไม่เป็นไรหรอกค่ะ... หล่อนตอบ โอ้..ขอบคุณครับ...เอ๊ะนี่เที่ยงแล้ว ผมขอชดใช้ความผิดเลี้ยงอาหารมื้อนี้ได้ไหมครับ ชายหนุ่มยิ้มและกล่าวคำเชื้อชวน หล่อนสะอึกในคำพูดของเขา ไม่นึกเลยว่าการแกล้งของหล่อนกลับไม่สร้างปัญหาใดๆ แต่ กลับได้รับความเห็นอกเห็นใจจากเขา ซึ่งผิดแผกแตกต่างกับหนุ่มในบ้านเดียวกันเสียอีก ดูซิ...การยิ้มและนัยน์ตาของเขา...ช่างละมุนละมัยเสียนี่กระไร... บ่งบอกถึงความใสซื่อบริสุทธิ์ปราศจากสิ่งแอบแฝงใดๆในร่างหล่อนก็หาไม่ ต่างจากคนบางคนที่หล่อนประสบหวังเพียงแค่ต้องการตีสนิทกับหล่อน พร้อมด้วยอาการเชิงเจ้าชู้ กระลิ้มกระเรี่ย ว๊อกแวก โลเล เพียงแค่หวังบางสิ่งบางอย่างในตัวหล่อน ไม่เป็นไรหรอกค่ะ...นิดหน่อย...อ้อดิฉันมากับเพื่อนหลายๆคน น๊ะ หล่อนตอบในเชิงปฏิเสธและไม่ปฏิเสธ หรือครับ...ไม่เป็นไรครับมาทั้งหมดก็ได้...ดีเสียอีกซิครับจะได้ไม่น่าเกลียด ใครเขาจะไม่นินทาว่ากล่าว หากเราไปกันแค่สองคน ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ พร้อมมองสายตาไปรอบๆข้าง เพื่อค้นหาเพื่อนสาวคนนี้ แลเห็นสาวกลุ่มหนึ่งกำลังปิดปากหัวร่อ ยืนจับกลุ่มอยู่ไม่ห่างไกลมากนัก เชิญเลยครับ...เชิญทุกๆคนด้วย คงจะเป็นคนกลุ่มนั้นใช่ไหมครับ?.. ชายหนุ่มถาม ค่ะ หล่อนตอบสั้นๆ...พร้อมชายตาไปพยักพะเยิบกับเพื่อนสาวของหล่อน อ้าว!!...แล้วคุณไม่ดูของต่อหรือค่ะ หล่อนเลี่ยงถาม ไม่เป็นไรครับ วันหน้าก็มีอีก แต่ขอชดใช้ความผิดก่อนครับ พร้อมหรือยังล่ะครับ นี่ก็เลยเที่ยงแล้วนะ เดี๋ยวท้องไส้เสีย ชายหนุ่มรีบเร่ง ค่ะ..ยินดี..ค่ะ. หล่อนตอบพร้อมกวักมือเรียกเพื่อนสาวๆให้มาร่วมกลุ่มกัน เพื่อออกเดินทางไปหาร้านอาหารทาน...........ตามร้านต่างๆที่วางขายทั่วไป เหตุการณ์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเสมือนฟ้าประทานให้โอกาส แก่ชายหนุ่มหญิงสาวทั้งสอง เกิดความถูกอัธยาศัยในการสนทนา พาเข้าสู่ความสัมพันธ์อันลึกซึ้งตรึงใจ...จวบจนการแปรผัน ระหว่างความสัมพันธ์อันไม่น่าที่จะเกิดขึ้นได้ จวบจนกระทั่งบัดนี้ ...หล่อนรำพึงเบาๆ ถึงแม้สิ่งต่างๆนั้นจะผ่านไปนานแสนนาน เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นล้วน แต่ความระลึกทรงจำยังมิได้จางหายไปจากหล่อนความรักอันหนักแน่น... ก็ยังฝังจำไว้เสมอๆ แต่ทว่าหล่อนก็ไม่สามารถปลีกตัวไปหาเขาได้ ความสงสารบุคคลที่เข้ามากีดกั้นแทรกซ้อนชีวิตหล่อนด้วยความซื่อสัตย์และรักของเขา.. ถึงแม้ว่าจะผิดไปในตอนแรกแต่ก็ยังถูกต้องในขนบประเพณีในภายหลัง... ยินยอมทำทุกๆสิ่งๆทุกอย่างหากด้วยอำนาจรักที่เขามีต่อหล่อนอันฝังลึกตลอดกาล ถึงแม้กระนั้นหล่อนอาจจะไม่รัก แต่อดีตก็เคยผ่านรักมาเช่นเดียวกัน... คือรักในความเป็นเพื่อนที่แนบสนิทยิ่ง ผิดแผกกับความรัก ที่หล่อนมอบให้แก่ชายคนนั้นต่างกันเสียสิ้นเชิงและหมดหัวใจ...... ช่างเถอะเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ไหนๆก็ควรปล่อยเลยตามเลย บัดนี้เขาจะรอหล่อนอยู่หรือเปล่าไหมหนอ หล่อนรำพึงภายในใจ จนกระทั่งได้ยินเสียงพลิกตัวไปมาของชายที่ได้ชื่อว่าสามี หล่อนจึงรีบเข้าไปผลัดเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวให้พ้นจากความเปียกชื้น แล้วรีบออกมาดูสามีหรือเพื่อนรัก...ที่นอนยาวเหยียดทอดร่าง จากอาการเป็นอัมพาตด้วยรูปร่างที่ผอมเกร็งปราศจากเนื้อ ประหนึ่งหนังหุ้มกระดูกเพียงแต่คอยเวลารอที่จะพ้นจากโรคร้ายนี้ไป ความรักที่แท้จริงของเขานี่เองที่พยายามปกป้องหล่อนให้พ้นจากคนเมา.. ที่ลวนลามหล่อนเพื่อหวังฉุดหล่อนไปข่มขืนของคนกลุ่มหนึ่งต่างหมู่บ้าน เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นเข้าต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์เอาชนะช่วยหล่อนให้พ้นภัยไปได้ แต่สิ่งที่ตอบแทนผลเขาได้รับคือรอยแผลที่ถูกฟัน รอยถูกทุบตีที่ศีรษะ ใบหน้าและรอยฟกช้ำตามร่างกายหลายต่อหลายแห่งแม้กระนั้นเขายังยิ้ม บอกว่าไม่เป็นไรจ๊ะเพ้อ....จนกระทั่งเขาผล็อยหลับไปหล่อนและลูกน้องได้รีบ นำส่งสถานีอนามัยทันที คุณหมออนามัยก็ได้ช่วยเหลือรักษาจนสุดความสามารถ แต่อนิจจา....ภายหลังการรักษาหายดีมาอยู่บ้านช่วยเหลืองานบ้านอย่างขะมักเขม้น เพียงไม่เท่าไหร่ต้องล้มป่วยขึ้นอีกและเขาต้องกลายเป็นอัมพาตไป หล่อนน้ำตาซึมเมื่อนึกถึงความรักอันแท้จริงของสามีที่มิได้ระแวงใดๆทั้งสิ้น ว่าในหัวใจของหล่อนนั้นมิได้มอบให้แก่เขาเลย แต่กลับไปมอบให้แก่ชายอื่น สิ่งนี้แหละที่ทำให้หล่อนต้องอยู่เพื่อทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างสนองความรักเขา ถึงแม้ว่าภายในใจอันแท้จริงจะยังมั่นคงต่อรักนั้น ด้วยความเป็นหน้าที่ของความเป็นภรรยาตลอดจนลูกน้อยทำให้หล่อน ต้องเก็บสิ่งที่ซ่อนเร้นภายในมิให้ล้นออกมาได้เกินขอบเขต ระหว่างความรักกับหน้าที่ของลูกผู้หญิง ที่ได้ขึ้นชื่อว่า....เมีย แน่ล่ะ..ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่ได้เป็นเมียแก้วที่เลิศประเสริฐดังหนังสือไว้ แต่หล่อนก็สามารถใกล้เคียงสิ่งนั้น ย่อมเป็นเมียที่ดี ปฏิบัติไม่เคยบกพร่อง ซื่อสัตย์ต่อผัวและลูกเสมอ ทั้งๆที่ความรักภายในเรียกร้องมากก็ตามใน บางครั้งมันพุ่งขึ้นมาจนหล่อนต้องระงับด้วยการทำสมาธิไหว้พระคุ้มครอง เพื่อกดสิ่งเหล่านี้มิให้กำเริบจนเป็นสาเหตุทำให้หล่อนกลายเป็นหญิงใจง่าย เสื่อมเสียความเป็นลูกผู้หญิงไป ถูกตราหน้าให้เสียหายต่างๆนาๆ....จากคนอื่น เพ้อๆๆๆๆ...ขอน้ำหน่อย...หิวเหลือเกิน. เสียงของชายสามีร้องขอจากร่าง ที่นอนทอดกายบนเสื่อที่ปูไว้ใกล้หน้าต่างของเรือนที่ถูกปล่อยว่างไว้ จ๊ะ...พี่ หล่อนรีบขานรับปล่อยทิ้งอารมณ์ที่ย้อนความหลังเสียสิ้น รีบเข้าไปประคองแล้วเอาขันน้ำเล็กๆตักน้ำในโถตุ่มดินเผาสีค่อนข้างแดง ที่วางไว้ใกล้ เสากลางบ้านใกล้ๆกับสามีวางจ่อตรงริมผีปากพลางกล่าว.... ค่อยๆดื่มนะพี่...เดี๋ยวสำลักจ๊ะ หล่อนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นพอรับน้ำได้ สงสัยพี่จะอยู่กับเพ้อได้ไม่นานหรอก..... เมื่อกี้นี้ฝันว่าแม่มารับไปจ๊ะ ชายคนเจ็บกล่าว แต่แปลกนะ......พี่กลับสามารถเดินเหินได้ดี ตามแม่ไปเพียงแต่เป็นห่วง เพ้อและลูก จึงได้ขอตัวกลับก่อนจะไปกับแม่ แม่บอกว่าจะมารับจ๊ะ เสียงนั้นหยุดชะงัก เงียบหายไปสักพัก....จึงกล่าวต่อ หากพี่เป็นอะไรไป..เพ้อ..ดูแลลูกให้ดีด้วยนะ เสียงเงียบไปอีก สัญญากับพี่ได้ไหมเพ้อ...ว่าให้ลูกโตกว่านี้สักหน่อยจนพึ่งตัวเองได้...แล้วเพ้อ ค่อยจะหาผัวใหม่....พี่จะได้สบายใจนะ ชายคนเจ็บขอสัญญาเมียรัก จ๊ะ..พี่..เพ้อให้สัญญา จ๊ะ หล่อนกล่าวกับสามี พร้อมน้ำตาไหลซึมจากเบ้า ชายผู้เป็นสามียิ้มน้อยๆ และจ้องมองหน้าเมียรัก คล้ายอ้อนวอนคล้ายพ้อ ด้วยดวงตาที่ปราศจากน้ำเลี้ยงแววตา พร้อมทั้งกล่าวลอยๆขึ้นอีกว่า พี่ทราบดีนะเพ้อ...อ๋า...ว่าเพ้อไม่ได้รักพี่หรอก..แต่ไปรักชิดชัย หนุ่มทุ่งหัวโค้ง เสียงชายผู้สามีกล่าวพร้อมไอถี่เล็กน้อย พี่ขอโทษเพ้อ...แม้ว่าพี่รู้ว่าเพ้อรักพี่อย่างเพื่อน...แต่ๆๆๆๆพี่หมดสิ้นหนทางจริงๆ รักที่พี่มอบให้เพ้อมันทำให้พี่ต้องทำผิดทำนองคลองธรรมไป...อภัยพี่เถอะนะ.... อ้อ...อีกอย่างพี่เกือบลืมบอกไป...เงินทองพี่เก็บซ่อนเอาไว้ในกระบอกไม้ไผ่ ในห้องพร้อมโฉนดที่ดินใต้กระดานแผ่นไม้ใต้เตียงนะ ชายคนเจ็บกล่าว พี่สบายใจแล้วล่ะ ที่เพ้อให้สัญญากับพี่ กล่าวจบชายสามีก็พริ้มหลับตา พี่ไม่ต้องห่วงหรอกจ้า...พี่ไม่เป็นอะไรมากหรอก ...ยังอยู่กับเพ้อนานๆจ๊ะ ชายผู้สามีเผยอเปลือกตาขึ้นอีกครั้งพร้อมยิ้มและกล่าวว่า พี่ก็อยากเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน...แต่พี่รู้อาการพี่ดี...คงอยู่ได้ไม่นานหรอก สัญญาต้องเป็นสัญญานะเพ้อ...พี่รักเพ้อมากจริงๆหมดทั้งกายและใจ พร้อมทั้งพริ้มหลับตาอีกครั้ง หล่อนสะอื้นในอกน้ำตาซึม...ยกมือขึ้นปาดน้ำตาบนใบหน้า ดูเหมือนจะเป็น ลางสังหรณ์กระมัง ...หล่อนรู้ว่า ทัด เป็นคนเข้มแข็ง อดทน หากไม่เหลือ บ่ากว่าแรงน้อยครั้งนักจะพูดให้เมียต้องกังวลเสียใจเป็นอันขาด เวลาผ่านไปเขาคงหลับตาหายใจแผ่วเบา บางครั้งโกรน หล่อนคิด สามีอาจจะคงต้องการพักผ่อนมากๆ นี่ใกล้เย็นแล้วต้องไปเตรียมหาอาหาร เผื่อมื้อเย็นผัวและลูก หล่อนค่อยๆยกผ้าห่มคลุมร่างสามี แล้วเปิดพัดลมเบาๆให้ส่ายไปมา ค่อยๆย่องเข้าไปในครัวจัดเตรียมอาหารต่อไป อดไม่วายหันมาสั่งลูกให้ดูแลพ่อด้วย หากตื่นมามีอะไรให้เรียกแม่ในครัว แม่จะได้รีบมาดูแล...และอย่าไปเล่นที่ไหนอีกเสียล่ะ จ๊ะแม่ เด็กหญิงน้อยวัยน่ารักตอบแม่ พร้อมนั่งลงข้างๆพ่อของเขา หลังจากอาหารมื้อเย็นผ่านพ้นไปเลยค่ำ จัดการธุระเสร็จสรรพแล้ว หล่อนกางมุ้งให้สามีและนำลูกไปนอนในห้อง ส่วนตัวเองออกมาอาบน้ำเพื่อจะได้ ไหว้พระอันเป็นกิจวัตรประจำวันของหล่อนเสมอมา นับตั้งแต่มีครอบครัวไม่เคยขาด อรุณสางเริ่มต้นวันใหม่ เสียงไก่ขันกังวานแว่ว หล่อนรีบกระวีกระวาดลุกขึ้น เข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา จัดหาอาหารเพื่อใส่บาตรพระ ที่มักจะผ่านมาเสมอๆ ปล่อยให้สามีนอนต่อไป เพียงแต่ไปดูแลลูกและหันมามองสามีคิดว่าให้นอนต่อเถอะ สายๆหน่อยจะเก็บมุ้งทำความสะอาดร่างกายสามีจัดหาอาหารให้ทาน หลังจากใส่บาตรพระเรียบร้อย หล่อนเดินขึ้นบนเรือน บอกลูกให้ไปอาบน้ำ เพื่อทานอาหาร แล้วเลยเลยไปปลุกสามีเพื่อทำความสะอาดร่างกายเคยเป็นประจำ เมื่อจับโดนร่างสามี...ทำไมร่างกายเย็นเฉียบและไม่อ่อนนุ่มดังเคย หันไปมองหน้า เห็นยังหลับตาพริ้มรอยยิ้มปรากฏอยู่ ความไม่แน่ใจจึงเอาหูแนบที่หน้าอก กลับไม่มีอาการตอบสนองของการเต้นหัวใจ หล่อนตะลึงพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ยังเอามือจ่อที่ปลายจมูกก็ปราศจากลมหายใจ จึงทราบว่าสามีได้จากไปเสียแล้ว หล่อนร้องไห้โฮ...เรียกลูกมากอดแน่น...น้ำตาไหลพราก..วางลูกไว้ข้างๆถลาเข้าไป กอดร่างที่ไร้วิญญาณพลางพรมจูบไปบนใบหน้าก็หาได้มีความรังเกียจใดๆไม่ พี่ทัด..พี่ทัด...พี่ทิ้งเพ้อไปเสียแล้ว..ฮือๆๆ หล่อนคร่ำครวญด้วยน้ำตาที่หลั่งมาจาก น้ำใสใจจริง ร่างนี้มิใช่หรือที่ให้ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างแก่หล่อน จนมีฐานะไม่ต่ำกว่าใคร ใช่ก่อนหน้านี้หล่อนไม่เคยคิดมอบความรักจริงใจให้เขา...แต่ทว่ามาบัดนี้...อนิจจา.. มันสายไปเสียแล้วที่หล่อนจะบอกว่า...ตอนนี้หล่อนหัวใจหล่อนแทบจะแตกสลายตามไป ด้วยความดี....ความรักอันมั่นคงซื่อสัตย์ต่อหล่อนเสมอต้นเสมอปลายมิเคยเปลี่ยนแปลง ฉันก็รักพี่ทัด...และจะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ สัญญาจ๊ะสัญญา...เพ้อจะไม่ทำให้พี่ผิดหวังเป็นอันขาด พร้อมร่างที่ฟุบไปบน ทรวงอกที่ปราศจากวิญญาณของชายผู้เป็นสามีอย่างคร่ำครวญอาลัยเปี่ยมใจจะขาด ในปลายฤดูฝนหลายปีต่อมาอากาศเริ่มร้อน ท้องทุ่งนาที่เคยชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ ก็จะเริ่มจะแตกระแหง การทำนาหยุดชะงักบางครัวเรือนก็หันมาปลูกผักอื่นเสริม ตามโครงการของรัฐบาลที่เข้ามาดูแลแนะนำด้านเกษตรเพื่อใช้ในการดำรงเลี้ยงชีพ ทดแทนการปลูกข้าวที่ไม่สามารถทำได้จนกว่าจะถึงฤดูการทำนา เพ้อฝัน...ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นที่หันมาทำการด้านเกษตรครัวเรือน และอาชีพ การทอผ้าไหมอันสร้างชื่อเสียงให้แก่ตำบลจนขึ้นชื่อลือชาว่าเป็นผ้าไหมชั้นดี ไหมหมี่ขิด จนสามารถเลี้ยงชีพได้เป็นอย่างดีพร้อมคนงานมากที่ต่างมาช่วยกันทำงานให้แก่หล่อน ขยายกิจการได้เจริญรุ่งเรืองจนมีชื่อเสียงดังไปถึงอำเภอได้รับประกาศนียบัตรคนดีเด่น ประจำตำบลนั้น แน่ล่ะความโดดเด่นโด่งดัง...ขจรขจายไปยังตำบลต่างๆถึงความสามารถ ของแม่ม่ายสาวลูกติดจนเป็นที่ใฝ่ปองของหนุ่มและไม่หนุ่มทั้งหลาย พยายามที่จะเข้ามา สร้างสัมพันธ์ไมตรีกับหล่อน แต่ก็หาได้มีหนุ่มใดพิชิตใจหล่อนลงได้ เพราะหัวใจหล่อนนั้นได้ปิดสนิทเสียแล้วจะมีก็เพียงลูกสาวคนเดียวของหล่อนที่กำลัง ศึกษาเล่าเรียนเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยประจำภาค ในส่วนลึกๆนั้นความรักหล่อนยังคุกรุ่น ถึงชายอันเป็นที่รักและชายอันเป็นที่เกาะกุมหัวใจหล่อนไว้อย่างที่มิมีวันเสื่อคลายไปได้ บางครั้งหล่อนนั่งคิดย้อนอดีตความหลังเผลอไผลอุทานออกมา ชิดชัยๆ... อยู่ที่ไหนหรือ...คงมีลูกเมียแล้วนะ ออกมาจนลูกสาวต้องสงสัยย้อนถาม ใครหรือแม่...ชิดชัย...นะ ไม่มีอะไรหรอกลูก...เพื่อนเก่าแม่เองแหละ ไม่ได้เจอกันตั้งนานหายเงียบไปจ๊ะ หล่อนตอบ แต่ภายในซิหาได้เป็นดังคำพูดไม่ นึกถึงเรื่องเก่าๆก็เลยสงสัย ก่อนเขากับแม่สนิทกันมาก หล่อนตอบต่อ แล้วเขาไม่เคยมาเลยอีกหรือแม่ หนูไม่เคยเห็น อ้อ..ได้ข่าวว่าเขาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อก่อนก็เป็นคนบ้านเรา แต่อยู่คนละตำบลนะ อย่างนี้แม่ก็ไปตามหาเขาซิแม่ ลูกสาวเย้า หล่อนอึ้งต่อคำพูดของลูกสาว ซึ่งหารู้ไม่ว่ามันเปิดประตูห้องหัวใจของหล่อนขึ้นอีก วาระหนึ่ง ทั้งๆที่มันปิดไปตั้งนานนับแต่พ่อของลูกได้ตายไปแล้ว หล่อนยังรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับพ่อเด็กเสมอ แม้จะมีเหตุการณ์บางอย่าง เข้ามาเร่งเร้าตามวัยของผู้ที่ยังไม่ถึงกับเรียกว่าแก่เฒ่า แม่...เมื่อวานหนูไปเที่ยวกับเพื่อนแถวเนินเขาน้อย...สวยและอากาศดีจัง เห็นต้นไม้สูงใหญ่สองต้นคู่กันจ๊ะ...เอ๊ะแปลกนะแม่..ทั้งสูงและใหญ่มาก ใหญ่และสูงกว่าต้นอื่นๆมากๆเลย...แต่ไม่ยักมีใครไปตัดนะ หนูไม่กล้าไปใกล้ๆ เพราะมีคนนอนหลับอยู่ที่โคนไม้จ๊ะ ลูกสาวกล่าว ต้นรังคู่ริมเนินเขา??....โอ้เราลืมไปเสียสนิทเพราะมัวหมกมุ่นอยู่กับการทำงาน หล่อนรำพึงเบาๆ เห็นจะต้องแวะไปดูสักหน่อยไม่ได้แวะไปนานแล้ว สภาพเดิมๆจะเปลี่ยนไปหรือเปล่าหนอ ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ๆเราเคยสัญญา ว่าจะรักกันอย่างมิมีวันเปลี่ยนใจกันและกัน โอ้..ไม่เคยคิดว่าจะแปรผัน จนไม่สามารถจะพบหน้ากัน....หล่อนรำพึง พร้อมถอนใจยาวๆ แล้วเป็นหญิงหรือชายล่ะลูก หล่อนย้อนถามลูกสาว ผู้ชายจ๊ะแม่...แต่งตัวไม่เหมือนคนแถวบ้านเรา ลูกสาวบอก ลางสังหรณ์บางอย่างทำให้หล่อนนึกไปถึงชายคนหนึ่ง เอ๋..แต่ว่าเขาไปอยู่ ที่กรุงเทพฯนี่นา...คงไม่ใช่มั๊ง.....หล่อนคิด จ๊ะลูก...เมื่อแม่วัยเท่าแก่นี่แหละชอบไปเที่ยวแถวนั้นเสมอๆ ด้วยเพราะ เป็นสถานที่ร่มรื่นมีไม้ดอกมากมายและธารน้ำไหลเอื่อยๆสวยมากจ๊ะ นั่นซิแม่...เพื่อนๆหนูติดใจและชักชวนกันว่าจะไปพักผ่อนอีกและ หาอาหารไปรับทานกันแบบเที่ยวปิกนิกไงล่ะแม่ ลูกสาวกล่าว จ๊ะ...ตามสบายเถอะ ยังไงๆก็อย่าให้มืดค่ำมากๆนะ มันเปลี่ยว ผู้เป็นแม่กล่าว ด้วยความเป็นห่วงเป็นใย หนูคิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ เพราะ น้าทองกับน้านวลก็อยู่แถวๆนั้น วันนั้นหนูกับเพื่อนยังไปขอน้ำมาทานกันเลย ลูกสาวกล่าวอ้างญาตของหล่อน ถ้าอย่างงั้นแม่ก็ไม่ต้องห่วง ได้ข่าวเหมือนกันว่าเขาไปปลูกกระต๊อบใกล้ๆที่นั่น เพื่อปลูกถั่วฝักยาวและผักด้วย...อย่างไรหากมีอะไรๆก็รีบไปหาน้าเขานะ. จ๊ะแม่....หนูไปก่อนนะไปติววิชากับเพื่อนๆหน่อยนแม่ ลูกสาวกล่าวแล้ว ผลุนผลันออกไปพร้อมหนังสือเรียน อย่ากลับมืดล่ะ...แล้วมาทานข้าวด้วยกัน จ๊ะแม่...ไม่เย็นมากหรอก ได้ยินเสียงแต่ไกล อืมม.. ช่างเถอะพรุ่งนี้ว่าง...เห็นจะไปลองแวะไปดูสักหน่อย...หล่อนคิด ตอนสายของวันรุ่งขึ้นท้องฟ้าแจ่มใส อากาศไม่ร้อนเกินไปเนื่องจากมี หมู่เมฆมากมาบดบังแสงอาทิตย์ ทำให้การเดินทางของหญิงที่มีความตั้งใจ จะไปยังสถานที่เมื่อครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ให้ความสุขแก่หล่อนเป็นอย่างยิ่ง พอพ้นแมกไม้กลุ่มนั้นก็จะถึงแล้ว....หล่อนคิด...พร้อมถือของพะรุงพะรังที่ ติดตัวมาตั้งใจว่าจะไปสักการะต้นไม้คู่นั้นพร้อมเอาแพรไหมที่นางเองทอ หลายหลากสีไปผูกไว้เพื่อระลึกถึงความหลังครั้งที่หล่อนกับเขารักกันสัญญากัน ใน ณ สถานที่นี้......ป่านฉะนี้เขาจะคิดเหมือนเราหรือเปล่าหนอ........ พ้นจากกลุ่มไม้จะเป็นคันทางเดินเล็กๆมีต้นหญ้าปกคลุมแต่ก็ยังมองเห็น เป็นทางใช้สำหรับเดินได้อยู่ หล่อนก้าวไปยังบริเวณใต้โคนต้น แปลกจริงบริเวณใต้ต้นไม้ทำไมสะอาดสะอ้านไม่มีสิ่งรกรุงรังเช่นใบไม้เลย หรือพวกเด็กๆที่มาเที่ยวจะทำความสะอาด แต่เอ๊ะ...ก็หลายวันแล้วนี่นา น่าที่จะมีเศษใบไม้หลงเหลือบ้างซิ.....หล่อนรำพึง พลางนางหันซ้ายแลขวาด้วยความสงสัย....สายตาก็เหลือบไปเห็นผ้าขาวม้า ปูวางไว้ระหว่างกลางต้นรังคู่นั้น แต่ผ้าผืนนี้นางคุ้นตานางยิ่งนัก ถึงแม้ว่ามันจะเก่า และสีซีดๆแต่ทว่าความเป็นผ้าไหมก็ยังรักษาเนื้อผ้าไว้เป็นอย่างดี นางรีบตรงเข้าไป หยิบผ้าผืนนั้นขึ้นมาพิจารณา พลัน....ร่างนางสะท้านทั้งร่างใจเต้นระรัว มือไม้สั่น เพราะนางจำได้ว่าผ้าขาวม้าผืนนี้ เป็นผืนพิเศษผิดกับผ้าอื่นๆที่นางทอขาย ด้วยชายผ้ายังมีรูปหัวใจคู่ที่ริมชายทั้งสองข้าง เป็นผ้าที่นางตั้งใจทำเป็นพิเศษ มอบให้เฉพาะคนที่นางรักเท่านั้น มีคนเดียวเท่านั้นที่ได้รับผ้าน้อยผืนนี้ไป นางโอบผ้าผืนน้อยไว้ระหว่างอก...พร้อมทั้งหันซ้ายหันขวาเหมือนจะมอง หาใครคนหนึ่ง แต่เงียบ...โอ้เขาเป็นอะไรไปแล้วหรือ...นึกเท่านั้นใจหายวูบ คล้ายๆจะเป็นลมต้องทรุดร่างลงนั่งข้างโคนต้นไม้ ....ตัวสั่นระรัว...โอ้ๆๆๆ... รีบแหงนหน้ามองยอดไม้คู่นั้นเหมือนจะหาใครคนหนึ่ง...แต่ว่างเปล่าไร้วี่แวว ทำให้นึกย้อนอดีตรักที่เคยผ่านมา หรือว่าเขามาแล้วแต่ๆๆๆนำของรักมาวางไว้ เพื่อส่งคืนเราหรือ.....ความคิดหล่อนแผ่ฟุ้งซ่านไปต่างๆนานา ฉับพลันร่างนางก็ต้องสะดุ้งสุดตัว...เพราะมีมือใครมาจับหัวไหล่นาง ว๊าย.ๆๆ...ตาเถรตกกระได....เสียงอุทานดังลั่น พร้อมหันหลังกลับมอง ทันใดนั้นร่างก็สะท้าน ตกตลึงพรึงเพริด..นัยน์ตาพร่า.......พอแลเห็นใบหน้า น้ำตาหล่อนก็พร่างพรูออกมาอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว...คุณๆๆๆ....ชิดชัย...... คุณๆๆๆ....เพ้อฝัน...ใช่...เพ้อฝัน..จริงๆแหละ...เสียงอุทานดังลั่น ผมรอคอยคุณมานานนัปนาน...ตั้งแต่ทราบข่าวคุณ...เพียงๆ...แต่..ไม่กล้า เข้าไปหาคุณ...ผมกลัวจะทำให้ครอบครัวคุณแตกแยก...และเป็นที่ครหานินทา ของคนทั่วๆไป....ทุกๆปี ณ เวลานี้ผมจะมาพักผ่อนทวนย้อนอดีตถึงเราทั้งสอง ใต้ต้นไม้คู่นี้หลายๆวันเสมอมา.....คุณสบายดีหรือครับ....เสียงกล่าวถามด้วย น้ำเสียงกระท่อนกระแท่น ยังจำได้ไหมเพ้อ...เราเคยสัญญากันไว้ว่าถึงอย่างไรก็ตาม.. เราจะมาที่นี่กันทุกๆปี แต่...แต่ๆๆ....ผมรอคอยหวังพบหน้าคุณ.. มิได้มีเจตนาอื่นใด...เพียงเพื่อสอบถามคุณ ถึงความทุกข์...สุขดิบ... มีอะไรบ้างที่ผมจะช่วยได้..........เพราะที่นี้พ้นหูพ้นตาคนอื่นๆ.... คงจะไม่เสียหายแก่คุณ ชายสูงอายุกล่าว ค่ะ...ค่ะๆ...เพ้อจำได้ดีเสมอและไม่มีวันลืมไปจากใจเพ้อได้...แต่ทว่า..... น้ำเสียง...หล่อนขาดหายไป... เพียงแต่ไม่สามารถจะมาที่นี่ได้ตามคำสัญญา.. เพราะเขานั้น ดีเกินไป...ดีเสียจนเพ้อละอายใจและละอายต่อบาป..หากทำลงไป อีกอย่างหนึ่งต้องคอยระวังดูแลลูกอยู่..ค่ะ หล่อนตอบปนเสียงสะอื้นน้อยๆ ครับผมเข้าใจและมองคนไม่ผิดหรอกครับ...คิดว่าเป็นเวรกรรมของเราทั้งสอง ก็แล้วกันครับ...อ่าๆๆ...เขาสบายดีหรือครับสามีคุณ...ลูกคุณ เสียงถามสั่นน้อยๆ พี่ทัดเขาจากไปหลายปีแล้วค่ะ...ส่วนลูกปีหน้าคงจะได้เข้ามหาวิทยาลัย..ค่ะ หล่อนตอบ...พร้อมหันหน้ากลับมองเจ้าของเสียงที่กุมหัวใจหล่อนไว้ เสียใจด้วยนะครับ.....แล้วมาทำอะไรที่นี่หรือครับ..... ก็เหมือนคุณแหละค่ะ...วันนี้ว่างเลยมาดูสถานที่นี้ คิดว่าจะเอาผ้าไหมมาผูกกับต้นไม้ด้วย พร้อมเงยหน้ามองชายคนที่รักยืนอยู่... แต่ก็รีบหลบสายตาที่อ่อนละมุนคู่นั้นทันที ไม่เปลี่ยนแปลงเลยนะสำหรับเขา เพียงแต่ซูบไปเล็กน้อยเท่านั้น.... แล้วก็...ผมก็ขาวขึ้นอีกเยอะ...หล่อนคิด แล้วครอบครัวคุณล่ะ..คุณชัย...มีลูกกี่คนแล้วล่ะ...หล่อนถามบ้าง ผมยังไม่ได้แต่งงานเลยครับ...อ่าๆๆๆ...คิดถึงคุณเลยไม่มีกะใจหาคนอื่น หล่อนเงยสบตาเขาอีกครั้งหนึ่ง...โอ๋ๆๆ...ช่างรักเดียวใจเดียวจริงหนอ...หล่อนคิด คอยทำไมหรือ..ในเมื่อเพ้อเอง..ก็มีครอบครัวแล้วนี่นา....หล่อนติง ใช่แล้วครับ...แต่ทว่าหาใช่ความผิดของคุณก็หาไม่...เพียงแต่... น้ำเสียงหยุดชะงัก ช่างเถอะครับ...อดีตผ่านพ้นไปแล้วเพียงเราไม่ลืมกัน...อยู่ในฐานะเพื่อนก็ได้ครับ เพื่อนๆๆๆ...หล่อนสะอึก...แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดทำให้หล่อนเผลอกล่าวขึ้น อ๋าๆๆมากกว่าเพื่อนก็ได้ค่ะ...เพราะ..เพ้อ...พ้นพันธะสัญญาแล้วคุณ สัญญา...อึๆๆ...สัญญาอะไรหรือครับ เขาถามด้วยความสงสัย สัญญาที่เพ้อให้กับพี่ทัดค่ะ...ว่าหากลูกโตพอจะรับผิดชอบตัวเองได้แล้ว สามารถรักษาตัวได้แล้ว...เพ้อ..ก็ๆ...จะทำตามใจของเพ้อเองค่ะ...หล่อนก้มหน้าตอบ ชายหนุ่มนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ...พลางย่อตัวลงแล้วจับหัวไหล่สาวเจ้า..แล้วประคองหน้า ให้เงยขึ้น...พลางบรรจงจูบที่หน้าผากหล่อน...สาวเจ้าสะท้านทั้งร่างแต่ไม่หลบหลีก ปิดป้องแต่ประการใด...กลับผวาเข้าสวมกอดพร้อมทั้งร้องไห้รำพันถึงความหลัง... เพ้อครับ...ต่อไปนี้ผมจะปกป้องคุณเอง...และจะดูแลลูกคุณเสมือนหนึ่งลูกผม พร้อมทั้งจะทำตามใจคุณทุกประการ อีกอย่างหนึ่งทำให้ถูกต้องตามประเพณีเราด้วย ผมจะกลับมาอีกครั้งหนึ่ง...พร้อมพิธีที่จะแต่งงานกับคุณ...รอผมด้วยนะครับ หล่อนเงยหน้ายิ้มรับคำกล่าวของชายอันเป็นที่รัก ค่ะ...เพ้อจะรอคุณ...ถึงแม้โลกจะแตกดับ...เพ้อ..ก็จะรอคุณ...รอคุณเพียงคนเดียวค่ะ เหตุการณ์ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างย่อมมีการเปลี่ยนแปลง...มีมืดก็ย่อมมีสว่างฉันท์ใด...ฟ้าย่อม จักเปลี่ยนสีฉันท์นั้น...ความรักมีทุกข์ก็ย่อมมีสุข...การเพียบพร้อมสมบูรณ์ต่อทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมไม่มีในโลกนี้......... ทั้งสองซึ่งมีรักอันมั่นคงภายใต้สัญญาใต้ต้นรังคู่...ต่างพร่ำพรอดเล่าสู่เหตุการณ์เบื้องหลัง บางครั้งจะได้ยินเสียงหัวร่อ...ระริกกัน...บางครั้งก็เงียบงัน...ปนเสียงสะอื้นน้อยๆ แต่ทุกอย่าง ก็จบลงได้ด้วยความสุขสมบูรณ์......... สายลมพัดแผ่วโชยปะทะร่างทั้งสอง แว่วเสียงใบไม้ดังสอดแทรกผ่านเข้าหูคนทั้งสองจนเกิด อุปทานคล้ายเสียงแสดงความยินดีต่อความรักอันบริสุทธิ์และน้ำเสียงแสดงความยินดีอวยพร สุขเถิดลูกทั้งสอง...ร้ายๆผ่านพ้นไปแล้ว...เจ้าจะมีแต่ความสุข...ตามคำที่แม่พ่อเคยพูดไว้ ให้เจ้าฟัง...ผ่านล่องลอยแล้วเงียบหายไป นอกจากเสียงนกบางชนิดร่ำร้องเปรียบสนองความรักของหนุ่มสาวเจ้า มาดแม้นจะต่างวัยก็ตามทีหาใช่เหตุอันใดไม่ที่จะขวางกั้นเป็นอุปสรรคแก่ เขาทั้งสองตราบชั่วอายุขัยสิ้นกาลนานเทอญ จบบริบูรณ์ *** แก้วประเสริฐ. ***
7 กรกฎาคม 2549 14:59 น. - comment id 91513
โหย.......ยาวเชียว
11 กรกฎาคม 2549 18:49 น. - comment id 91534
อ่านแล้ว....มาร่วมชื่นชมผลงานครับผม
12 กรกฎาคม 2549 06:44 น. - comment id 91542
............
12 กรกฎาคม 2549 10:45 น. - comment id 91548
คุณ คนบ้า 555 ครับความจริงเรื่องสั้นๆนั้นจะมิได้กล่าวถึง บทสนทนากันแค่เพียงบรรยายสภาพสิ่งต่างๆ เพื่อสร้างมโนภาพให้ผู้อ่านได้เห็นเด่นชัด แต่ทว่าผมเองเขียนในแนวเรื่องสั้นกึ่งนิยาย ก็เลยต้องยาวๆหน่อยครับ ที่จริงจะเขียนให้ยาว กว่านี้ก็เกรงว่าผู้อ่านจะท้อถอดใจเสียก่อนครับ ขอบคุณมากครับ แก้วประเสริฐ.
12 กรกฎาคม 2549 10:48 น. - comment id 91549
คุณ มนต์กวี เสียงเพลงที่สดใสซาบซ่าส์พาจิตที่รัญจวนของ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ตรึงสภาพการสนทนาหยุดชะงัก ราวต้องมนต์ของคุณมนต์กวีที่สมนามจริงๆครับ ขอบคุณครับ แก้วประเสริฐ.
12 กรกฎาคม 2549 10:51 น. - comment id 91550
คุณ แสงไร้เงา ดอกไม้พร้อมด้วยหัวใจที่มอบให้ด้วยกระแสร์ แห่งความยินดีรักในเพื่อนเสมือนดังหนึ่งประทีป ที่ส่องนำทางในการร่ายวรรณกรรมอันเพียงแต่ จะเริ่มต้นเพื่อดิ้นรนสู่แนวทางของนักเขียนอัน แท้จริงในอนาคตกาลข้างหน้า ด้วยน้ำใจอันดีงาม ผมขอขอบคุณด้วยความซึ้งใจครับผ๊ม แก้วประเสริฐ.