ที่บ้านในสวนของคุณยาย คุณยายขา ทุกวันนี้ หนูยังรู้สึกอยู่เสมอเลยว่า คุณยายยังอยู่ที่นี่ แม้คุณยายจะไปจากที่นี่นานแล้ว หนูไม่รู้ว่าจะไปค้นหาคุณยายที่ไหนจึงจะพบ ได้แต่ส่งความคิดถึงฝากสายลม แสงดาว ฝากไปหาคุณยายในถิ่นที่ที่คุณยายได้ไปอยู่ ที่นั่นคงสงบร่มเย็นและสวยงาม มีสวนดอกไม้หอมละไมเหมือนๆ ที่คุณยายชอบปลูกดอกไม้ และทำสวนดอกไม้ หนูจำได้ว่า คุณยายเคยเล่านิทานให้หนูฟังทุกคืน ที่บ้านหลังนี้ ต้นลำพูข้างๆ บ้านนั่นมีเมล็ดพันธุ์แสงดาวที่ระยิบระยับ เมล็ดพันธุ์แสงดาว เป็นชื่อของเจ้าตัว หิ่งห้อย ที่หนูตั้งสมญานามให้ เพราะหนูรู้สึกว่า ดวงดาวมีชีวิต ดวงดาวอยู่ไกลโพ้นฟ้า แต่ดวงดาวก็หว่านเมล็ดพันธุ์ชีวิตมาเป็นแมลงหิ่งห้อยให้เราพบเห็น เงียบงันกับเสียงยามค่ำคืน ท่ามความเงียบนั้นมิใช่โดดเดี่ยวเดียวดาย ยังมีเสียงจักจั่น เรไร ส่งเสียงราวกับบรรเลงดนตรี ฟังแล้วรู้สึกสงบอย่างประหลาด กลางฟ้ายามคืนเพ็ญในวันก่อนเก่า เคยเห็นดวงจันทร์ส่องแสงนวลสาดลงมาราวกับโคมในค่ำคืน กระต่ายอยู่ในดวงจันทร์ใช่ไหม? ใช่ไหมคะ คุณยาย รอยเงากระต่าย --- ยายเคยเล่าให้ฟังว่า กระต่ายที่ทำคุณงามความดีจะมีอนุสรณ์อยู่บนดวงจันทร์ เพื่อให้ใครๆ ได้ระลึกถึงและเจริญรอยตามความดีงามของกระต่ายตัวนั้น เหมือนดาวบนฟ้า ที่ยายบอกว่า ดาวเป็นนางฟ้าคอยเฝ้ามองเราอยู่ ถ้าเราทำความดี นางฟ้าดาวก็จะให้พรกับเราให้พบกับผลของความดีนั้นๆ เราปรารถนาอะไร อธิษฐานถึงนางฟ้าดาว นางฟ้าก็จะเสกสิ่งที่เหมาะสมกับเรามาให้ ถ้าเราตั้งใจทำความดี ยายลูบหัวหนู บอกว่า หนูต้องหมั่นทำความดีสะสมคะแนน ถ้าคะแนนความดีถูกสะสมมากเพียงพอ นางฟ้าดาวจะประทานสิ่งที่วิเศษสุดมาให้หนู หนูจึงคิดถึงดวงดาว เชื่อมั่นว่า บนดวงดาวมีนางฟ้าจริงๆ นางฟ้าที่จะช่วยบันดาลให้หนูทำความดีได้สัมฤทธิผลลุล่วง หนูคิดถึงคุณยายจังเลยค่ะ ป่านนี้คุณยายอยู่ที่ไหน? จำได้เพียงว่า ครั้งสุดท้ายที่หนูพบกับคุณยาย คุณยายนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง ทุกๆ คนร้องไห้ หนูก็ไม่เข้าใจ หนูเข้าไปปลุกคุณยาย คุณยายขา คุณยายตื่นเถอะ คุณยายมาเล่านิทานให้หนูฟัง แต่คุณยายก็ยังนอนหลับอย่างสงบ จวบคนนำคุณยายเข้าไปอยู่ในกล่องใบหนึ่งขนาดเท่าๆ กับคุณยาย แล้วนำมาวางไว้ที่ศาลาในวัด มีดอกไม้ประดับเยอะแยะเลย คุณยายนอนอยู่ในกล่องนั้น คุณยายหายใจออกไหมหนอ คุณยายไม่ได้เห็นหนู หนูไม่เห็นหน้าคุณยายเลย คุณยาย อยู่ในกล่องนานหลายวัน แล้วเขาก็เอาคุณยายไปไหนก็ไม่รู้ ตั้งแต่นั้นมา หนูก็ไม่ได้เห็นคุณยายอีกต่อไป แต่หนูก็คิดว่า คุณยายคงไปอยู่บนฟ้า เป็นดวงดาวดวงนั้น นางฟ้าดาว ที่คอยอวยพรให้หนูพบกับสิ่งดีๆ ด้วยความดีงามของหนูเอง คุณยายขา หนูมานั่งเขียนจดหมายที่บ้านคุณยายอีกครั้ง ณ วันนี้ ต้นลำพูถูกตัดทิ้งเหี้ยนหายไป ยามค่ำคืนมีเพียงดวงไฟจากถนนหนทางที่ถูกตัดเข้ามา มีเสียงรถยนต์วิ่งผ่านไปมาแทนเสียงจักจั่น เรไร ดาวบนฟ้าถูกกลบมิดเลย หนูมองฟ้าหาดาว มองหานางฟ้าดาว -- นางฟ้าคุณยาย คุณยายเลือนลาง คุณยายกำลังเฝ้าดูแลอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าคะ? ไม่มีคนรู้จักนิทานของคุณยายอีกต่อไป คุณยายอยู่ที่ไหน นางฟ้าดาวเจ้าขา หนูขออธิษฐานพรดวงดาว ขอให้สิ่งงดงามในวันก่อนเก่า ก่อนที่คุณยายของหนูจะจากหนูไป ได้กลับมาเหมือนเดิม ขอให้คุณยายยังอยู่ที่บ้านแห่งนี้เหมือนเดิม ก่อนที่ บ้านหลังนี้จะถูกรื้อทิ้ง เพราะเขาขายที่ดินให้กับนายทุน เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศ เพื่อกอบโกยเงินทองจากผืนดินที่คุณยายเคยพักอยู่ และสวนดอกไม้ของคุณยายจะถูกตกแต่งใหม่ไม่เหมือนที่ยายเคยปลูกเอาไว้ และ หนูจะสามารถมองท้องฟ้าได้เต็มตาหรือเปล่า ในเมื่อผืนดินที่เคยยืนอยู่ยังมีคนเก็บเงินค่ายืน แล้วท้องฟ้าละ จะมีเจ้าของครอบครองด้วยหรือเปล่า เขียนจดหมายถึงคุณยายมาถึงบรรทัดนี้แล้ว น้ำตาของหนูก็เอ่อนอง หนูพูดอะไรถึงคุณยายไม่ออกแล้วค่ะ หนูอยากให้คุณยายกลับมา หนูอยากให้กาลเวลาย้อนคืนมา ซึ่งเป็นไปได้ยากเต็มที คุณยายยังอยู่ในใจของหนูเสมอนะคะ ไม่ว่าคุณยายจะอยู่ในที่แห่งใดก็ตาม หนูจะคิดถึงนางฟ้าดาวของคุณยายค่ะ กราบเรียนมาด้วยความเคารพรักคุณยาย หยาดอรุณ
4 มิถุนายน 2549 22:08 น. - comment id 91053
มีอยู่วันหนึ่ง ปู่นอนบนเตียงชั้นล่างของบ้าน ใส่ชุดประหลาด ดูไปแล้ว เหมือนชุดผีก๋อยในหนังจีน เต็มยศเชียว เราเข้าไปเรียกปู่ ปู่ทำเป็นไม่สนใจ ตอนนั้น เราได้แต่งอนปู่ที่เรียกแล้วไม่ขาน จนไม่สังเกตุว่า โดยรอบ มีญาติเต็มไปหมด ต่างก็ร้องไห้ ในช่วงที่มีงานศพของปู่ ภาพที่เราย้อนดูตอนหลัง เราน่าจะอายุไม่เกิน 5 ขวบ นึกภาพไม่ชัดเจนนัก สะดุด ลืมไปบ้าง นึกไม่ออกบ้าง พี่สาวอุ้มเราข้ามถนน เพื่อจะไปวัด ใคร ๆ ก็อยู่ที่วัดกันหมดแล้ว อยู่ในช่วงงานศพวันที่ 2 กระมัง รถชน พี่สาวสลบ ส่วนเราร้องไห้ บาดเจ็บตรงไหนจำไม่ได้ แต่ไม่น่าจะมีอะไรหัก เลือดออกปากและจมูก ที่ร้องไห้ เพราะร่วงจากที่พี่อุ้มไว้ แม่เล่าให้ฟังว่า คนวิ่งเข้ามาบอกที่วัด ชุลมุนกันมากในตอนนั้น ต่างก็ใจหาย คิดว่า ปู่มารับหลานทั้งสองคนไปแล้ว แต่เราก็ออกจากโรงพยาบาลมาทันพิธีศพวันสุดท้าย หลานคนเล็ก เดินรั้งท้าย ต้องเดินตัวแอ่น ๆ ไปข้างหน้า เพราะกลัวผี ในพิธีกงเต็ก เขาจะเอาเสื้อของปู่แขวนไว้กับโคม แล้วก็พากันเดินไป วนไปกะวนมา ข้ามสะพานด้วยนะ สนุกดี แต่พอหลายวันที่ไม่เห็นหน้าปู่ ชักอารมณ์เสียอีกแล้ว ปู่หายไปไหน ทำไมไม่ลงมาเล่นกับเราอย่างเคย ไปหาที่ห้องปู่ ก็ไม่เจอปู่ ไปถามย่า ย่าก็ร้องไห้ เพิ่งจะรู้ว่า การตายจากกัน เป็นการจากอย่างถาวร
4 มิถุนายน 2549 22:12 น. - comment id 91054
คุณยายท่านไปสบายแล้วเนาะ คนที่เหลืออยู่นี้สิต้องพบกับการเปลี่ยนแปลง และต้องยืนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงให้รอด ทุกอย่างเปลี่ยนแม้แต่ใจคนเราก็เปลี่ยนแปลงกันได้ง่ายๆ คิดถึงยายเหมือนกันยายชอบร้องเพลงให้ฟังมานั้งถักผมเปียก่อนไปโรงเรียน
4 มิถุนายน 2549 23:02 น. - comment id 91055
vอ่านแลวคิดถึงคุณพ่อค่ะ.คิดถึงท่านมากๆๆ
4 มิถุนายน 2549 23:23 น. - comment id 91056
ตัวเหมียวก็ไม่เหลือแล้วคุณยาย คุณปู่ คุณย่าท่านไปสบายกันหมดแล้ว แต่คุณตาคนเดียวคะ รักท่านทุกคนเลย
4 มิถุนายน 2549 23:45 น. - comment id 91057
... คิดถึง คุณ ยาย จังเลย ครับ อ่านแล้ว ^ ^
5 มิถุนายน 2549 11:23 น. - comment id 91062
นั่นสิ.. อ่านแล้วคิดถึงยาย..เพราะพี่ก็อยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กเหมือนกัน แวะมาทักรุ่ง เมื่อวานไม่ได้โทรกลับนะ กลับมาดึกแล้ว.. ไปร้านหมูกระทะกันมาด้วยล่ะ.. อิอิ ขอโทษที่ไม่ได้ชวน อืมม.. จะบอกอย่างไรดีล่ะ.. เอาเป็นว่าเพิ่งเติมเงินโทรศัพท์ไปเมื่อกี้นี่อ่ะนะ.. นะ วันนี้มีไปเก็บเช็ค (ไม่รู้จะได้ไหม แต่ก็นัดกันระดับหนึ่งแล้วล่ะ) กลับมาค่อยคุยกันนะ คิดถึง
5 มิถุนายน 2549 11:24 น. - comment id 91063
\" คนดี สำคัญกว่าทุกสิ่ง! \" ท่านพุทธทาส กล่าวไว้อย่างนั้น ของับ ที่คุณยายสอนหลานไว้นั้นก้อถูกที่สุดเช่นกัน ขอให้ทุกคนยึดมั่นในความดี ของับ ถึงตัวตาย ความดีก้อจะยังคงอยู่ตลอดชั่วกัลปาวสาน ของับ
5 มิถุนายน 2549 21:42 น. - comment id 91080
อ่านแล้วทำให้คิดถึงคุณยายมากๆ เลยค่ะ..
16 ธันวาคม 2554 15:26 น. - comment id 127938
ดินที่เคยเหยียบยืน ก้อมีเจ้าของ ...ท้องฟ้าละ ต้องเสียเงินค่ามองท้องฟ้า มองนางฟ้า มองยายด้วยหรือเปล่า...