*คำสัญญา...ครั้งสุดท้าย*

mini_pk

19 นาฬิกาเศษๆ
ยังไม่ดึกเท่าไหร่นัก  แต่ท้องฟ้ากลับดูมืดครึ้มจนน่ากลัว
บ่งบอกว่าไม่อีกกี่นาทีพายุฝนก็จะเทลงมาแล้ว
มิรา หญิงสาววัยย่าง 26 พึ่งเลิกจากงานและกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่กิโล
เธอรู้ตัวดีว่าวันนี้ควรรีบกลับบ้านเร็วกว่าปกติ
เพราะฝนกำลังตั้งเค้าบ่งบอกว่าพร้อมจะเทลงมาได้ทุกเมื่อ
และวันนี้ก็เป็นวันสำคัญของเธอด้วย
เธอต้องรีบไปเตรียมข้าวของเพื่อจัดปาร์ตี้วันเกิดและต้อนรับเพื่อนรักของเธอที่กำลัง
เดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อมาฉลองวันเกิดร่วมกับเธอ
แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังคงเดินทางกลับบ้านโดยการเดินเท้าตามปกติเหมือนทุกๆวัน
ริมทางเปลี่ยว
มีเพียงแสงไฟสลัวๆไม่กี่ดวงที่ส่องทางให้มิรารู้สึกอุ่นใจขึ้นเมื่อยามกลับบ้าน
แต่ที่จริงมิราก็ไม่ได้รู้สึกกลัวหรือไม่สบายใจอะไรมากนัก
เพราะถนนเปลี่ยวเส้นนี้เธอเดินไปทำงานและเดินกลับบ้านเป็นประจำ
เพียงแต่บรรยากาศในวันนี้มันชวนให้น่าขนลุกเพียงเท่านั้น
บ้านสีขาวหลังโทรมอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่สิบเมตรเมื่อเธอมองตรงไปข้างหน้า
ติ๊ด ตี่ ดี ติ๊ด ๆๆๆๆ  เมโลดี้ของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น  
โชว์เบอร์สายเรียกเข้า เพลงฟ้า
มิราไม่รอช้าที่จะกดปุ่มรับโทรศัพท์  ถึงแม้ว่าฝนกำลังเริ่มหยดลงมาเม็ดใหญ่
และอีกไม่กี่เมตรก็จะถึงบ้านของเธอแล้ว
เสียงคำรามของฟ้ายังดังสนั่นไม่ขาดสาย
ฮะโหลเพลงฟ้า  ถึงไหนแล้วจ๊ะ
เสียงของหญิงสาวกรอกลงสู่โทรศัพท์ถึงอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน
มิรา  ตอนนี้ชั้นฉันไปไม่ถึงไหนเลย ฝนตกหนักมากจนแทบจะมองไม่เห็นทางเลยแหละ
เสียงของหญิงสาวอีกฝ่ายตอบกลับมา
ไม่เป็นไรนะเพลงฟ้า  ไม่ต้องรีบ  ชั้นรอแกได้  ขับรถดีๆนะจ๊ะ มิราพูด
โอเคจ๊ะ  แกรอชั้นนะมิรา  ชั้นจะไปหาแกให้ได้  ชั้นสัญญา 
ประโยคสุดท้ายที่เพลงฟ้าเพื่อนรักของมิราตอบกลับมาก่อนที่สายจะตัดไปโดยไม่รู้สาเหตุ
เพลงฟ้า คือเพื่อนรักคนเดียวที่มิรามี  และเป็นคนสำคัญคนเดียวที่มิราเหลืออยู่
ดังนั้นจึงไม่แปลกอะไรที่เพลงฟ้าจะยอมเดินทางข้ามจังหวัดฝ่าพายุฝนเพื่อมาฉลองวันเกิดของมิราเพื่อนรักของเธอ
เข็มนาฬิกายังคงเดินบอกเวลาไปเรื่อยๆ
ตี1ตี2ตี3
ผ่านมาหลายชั่วโมงแล้ว  แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของเพลงฟ้าแม้แต่น้อย
มิรานั่งรอเพลงฟ้าอยู่ริมหน้าต่างพร้อมเค้กก้อนโตในบ้าน
จนรุ่งเช้า  มิราเผลอหลับไป
เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความกังวนว่าเพื่อนของเธอจะมาถึงรึยัง
แต่ก็ไม่เห็นแม้วี่แวว  
เธอติดต่อหาเพลงฟ้าไม่ได้  และเพลงฟ้าก็ไม่ติดต่อกลับมาเลยเช่นกัน
บางทีอาจเป็นเพราะเมื่อคืนฝนตกหนัก  จนทำให้เสาสัญญาณล้ม  ไม่สามารถติดต่อกันได้
มิราพยายามคิดในทางที่ดี
วันนี้มิราไม่ไปทำงาน
เธอเอาเค้กไปเก็บไว้ในตู้เย็น  แล้วเดินกลับมานั่งรอเพลงฟ้าที่ริมหน้าต่างเช่นเดิม
ฝนตกอีกแล้ว  สภาพอากาศแบบนี้ยิ่งทำให้เป็นห่วงเพลงฟ้าไปกันใหญ่
และแล้วค่ำคืนนี้ก็ผ่านก็ผ่านพ้นไปอีกคืน
มิรายังไม่ลุกไปไหน
เธอยังคงนั่งรอเพื่อนรักของเธออยู่ที่เดิม
ค่ำแล้ว  ฝนเริ่มตั้งเค้า
มิรากระวนกระวายจนทำอะไรไม่ถูก
นี่มันก็ผ่านมา2วันแล้ว  ทำไมเพลงฟ้ายังมาไม่ถึง
มิราทำได้เพียงภาวนาในใจ  ขอให้อย่าได้เกิดอะไรขึ้นกับเพลงฟ้าเลย
คืนนี้แปลกที่มีเพียงเค้าของฝนและเสียงคำรามของท้องฟ้า  
แต่กลับไม่มีฝนตกลงมาซักเม็ด
มิราหวังให้เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาบ้างสักครั้ง
แต่เสียงฟ้าร้องโครมครามคงเป็นเสียงเดียวที่มิราได้ยิน
ตอนนี้ไม่รู้กี่โมงแล้ว  คงซักประมาณตี2ได้แล้วมั้ง
แต่มิรายังไม่หลับ  ความง่วงไม่สามารถล้มความตั้งใจของเธอได้
เธอยังรอ
อ๊อดดดด. เสียงออดประตูดังขึ้นแทรกเสียงฟ้าร้องอย่างเย็นยะเยือก
มิราไม่รู้ว่าเธอหูฝาดไปหรือเปล่า  
แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่รีรอที่จะมองออกไปนอกหน้าต่าง
ข้างนอกมืดสนิดจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร
แต่ก็ไม่ยากนักที่สายตาของเธอจะจับจ้องเงามือข้างนอกประตูรั้วได้
ร่างหญิงสาวผมยาวยืนอยู่ท่ามกลางลมพายุด้านนอก
มิราไม่รอช้าที่จะวิ่งออกไปเปิดประตู
เธอมั่นใจว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกนั้นคือเพื่อนรักของเธอเอง
ทั้งที่เธอไม่ได้สังเกตเลยว่า  หากเป็นเพื่อนเธอจริง  แล้วรถของเพื่อนเธออยู่ไหน
มิราวิ่งออกไปโดยที่ไม่สนใจว่าเค้าคนนั้นจะใช่เพื่อนเธอจริงหรือเปล่า
ร่างหญิงของสาวผู้นั้นเปียกปอนไปด้วยน้ำและดูโทรมอย่างไม่เหลือสภาพ
เธอคือเพลงฟ้า  เพื่อนรักของมิราจริงๆ
มิราโผเข้ากอดเพลงฟ้าอย่างไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนที่จะเอ่ยปากถาม
ทำไมแกมาช้าจัง  ชั้นรอแกนานมากเลยรู้มั้ย
น้ำตาของมิราไหลมาอย่างฉุดไม่อยู่
ชั้นขอโทษนะมิรา  แกอย่าโกรธชั้นนะ  ชั้นมาตามสัญญาแล้ว
เพลงฟ้าตอบกลับมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลมาไม่ต่างกัน
มิราจูงมือเพลงฟ้าเพื่อนรักของเธอเข้าบ้านก่อนที่ฝนจะเทลงมาครั้งใหญ่
แต่เพียงไม่กี่ก้าวที่มิราและเพลงฟ้าได้เดินเข้ามาในบ้าน
มิราก็ได้รับกลิ่นเหม็นสาปแปลกๆ
มันเหม็นเน่าเหมือนมีอะไรซากอะไรตายอยู่แถวนี้
สงสัยหนูตายมั้งมิรา  ฝนตกหนัก  น้ำอาจขังในท่อ อย่าสนใจเลย
เพลงฟ้าบอกมิราด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งจนแทบจะไม่ได้ยิน
คงงั้นมั้ง  มิราเชื่อตามที่เพลงฟ้าบอกอย่างไม่สงสัย
มิราเอาเค้กที่แช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อรอเพื่อนรักของเธอตั้ง2วันออกมา
รสชาติของเค้กที่เย็นเยือกช่างเข้ากับบรรยากาศอย่างบอกไม่ถูก
แต่ทั้งคู่กลับไม่รู้สึกอะไรนอกจากมีความสุขที่ได้เจอกัน
เพลงฟ้าค่อยๆล้วงมือเข้าไปในเสื้อที่เปียกชุ่มเพื่อหยิบเอากล่องของขวัญกล่องเล็กๆออกมา
สุขสันต์วันเกิดนะยัยมิราเพื่อนรัก  เพลงฟ้าสวมกอดมิราไว้แน่นด้วยความรัก
มิราไม่รอช้าที่จะเอื้อมมือไปคว้ากล่องของขวัญที่มีการ์ดใบเล็กๆที่อยู่ข้างๆมาให้เพลงฟ้าเช่นกัน
ของชั้นกล่องใหญ่กว่าแกตั้งเยอะ  ดูสิ  มิราพูดแกมหยอกเพลงฟ้าด้วยรอยยิ้ม
เพลงฟ้าได้แต่ทำหน้าแปลกใจ
ทั้งที่วันนี้เป็นวันเกิดของมิราแท้ๆ  แต่ทำไมเธอถึงเป็นฝ่ายให้ของขวัญ
แต่เพลงฟ้าก็ไม่อยากถามให้มันมากเรื่อง  เพราะกลัวมิราจะเสียน้ำใจ
แต่วันนี้แกยังเปิดไม่ได้นะ  รอพรุ่งนี้แกตื่นมาค่อยเปิดดูแล้วกัน  ชั้นเขิน
มิราพูดสั่งเพลงฟ้าด้วยน้ำเสียงและใบหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก
ไม่รู้ว่ามิรากำลังดีใจหรือเสียใจกันแน่  
น้ำตาเธอยังคงไหลไม่ขาดสาย  
อาจเป็นเพราะความดีใจที่ไม่สามารถพูดออกมาได้อย่างนั้น
ทั้งคู่นั่งคุยกันจนเผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
วันรุ่งขึ้น
เพลงฟ้าลืมตาตื่นมาอย่างัวเงีย จากเสียงโทรทัศน์ที่ดังกรอกหู
เธอมองไปรอบๆห้องเพื่อหามิราเพื่อนรักของเธอ
แต่บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไป
ที่นี่ไม่ใช่บ้านของมิรา  แต่กลับเป็นห้องสีเหลี่ยมแคบๆ
เพลงฟ้านอนอยู่บนเตียงที่มีเสาน้ำเกลือตั้งอยู่ข้างๆ
สายส่งน้ำเกลือถูกโยงจากถุงน้ำเกลือมายังมือของเธอ
ที่นี่ที่ไหน  ฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง
เพลงฟ้าเอ่ยปากถามด้วยน้ำเสียงที่แหบสนิด
แต่ภายในห้องนั้นไม่มีใครอยู่เลย  นอกจากเธอ
เพลงฟ้ามองไปรอบๆอีกครั้ง
และแล้วสายตาของเพลงฟ้าก็ไปจับจ้องอยู่ที่กล่องของขวัญกล่องหนึ่งที่วางอยู่บนโซฟาข้างๆเตียง
บนกล่องมีการ์ดใบเล็กๆติดอยู่
เพลงฟ้าจำได้ดีว่ากล่องของขวัญกล่องนี้เพื่อนรักของเธอเป็นผู้ให้
เธอพยายามที่จะพยุงตัวเองเดินไปยังโซฟานั้น
ร่างกายของเธอเต็มไปด้วยบาดแผลนับสิบๆแห่ง  
แต่เธอกลับไม่สนใจ
เธอต้องการเพียงเอื้อมมือไปหยิบกล่องของขวัญกล่องนั้นให้ได้
เธอค่อยๆนั่งลงบนโซฟาที่มีกล่องของขวัญนั้นวางอยู่
เสียงโทรทัศน์ที่ดังกรอกหูไม่ได้ทำให้สมาธิของเพลงฟ้าหายไปเลย
เธอค่อยๆบรรจงเปิดกล่องของขวัญอย่างเบามือ
ภายในกล่องนั้นมีเสื้อไหมพรมสีสดพับไว้อย่างเรียบร้อยคู่กับผ้าพันคอ
เธอรู้ดีว่าเสื้อและผ้าพันคอผืนนี้มิราเป็นคนถักเองกับมือ
ใต้เสื้อที่วางอยู่มีรูปถ่ายที่ทั้งสองถ่ายด้วยกันนับร้อยวางไว้
เพลงฟ้ากลั้นรอยยิ้มและน้ำตาไว้ไม่อยู่ด้วยความปลื้มใจ
เธอซาบซึ้งถึงคำว่า เพื่อนรัก
การ์ดใบเล็กที่ติดอยู่หน้ากล่องกำลังถูกเปิดเพื่ออ่านข้อความข้างใน
ชั้นรู้ว่ายังไงแกต้องมา  แกไม่เคยผิดสัญญากับชั้น  เพลงฟ้าชั้นขอบคุณแกจริงๆนะ
ไม่เสียแรงที่ชั้นรอ  แกต้องดูแลตัวเองให้ดีรู้มั้ย  ไม่ต้องห่วงชั้น  แกจำไว้นะว่าแกคือเพื่อนที่ดีที่สุดของชั้น  ชั้นรักแกนะ  จากมิรา
ข้อความเพียงไม่กี่ประโยคบนการ์ดใบนั้น
มันมีพลังมากพอที่จะสั่งให้น้ำตาของเพลงฟ้าไหลลงมาได้ไม่หยุดเพราะความปลื้มใจ
เสียงของโทรทัศน์ยังดังเจี๊ยวจ๊าวไม่หยุด
พบศพนางสาวมิรา  เวชสิน  อายุ 26 ปี  ถูกฝังอยู่ข้างรั้วบ้านของตนเองในซอยเปลี่ยว
สภาพศพเน่าเปื่อยส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ  คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า2วัน  ตำรวจสันนิษฐานว่าสาเหตุอาจเกิดจากฆ่าข่มขืนและชิงทรัพย์ 				
comments powered by Disqus
  • เพียงพลิ้ว

    6 มิถุนายน 2549 08:10 น. - comment id 91088

    จบลงอย่าเศร้าๆนะคะน้อง
    อย่าให้มีใครเจอเรื่องแบบนี้เลยนะคะ
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif
  • โจ้ KPS.เฮ่อๆๆๆๆ

    8 กันยายน 2549 19:53 น. - comment id 92638

    อึ้ง ทึ่ง เสียว (เฮ่อๆ)
  mini_pk

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน