กระจกส่องกรรม
ธราญา
*** เมืองมนุษย์ ทำผิด อาจปิดบัง
ไม่ถูกขัง ถูกทำโทษ รอดชีวัน
แล้วโทษทัณฑ์ จะลงใคร โลกไร้ธรรม
เมืองโลกันตร์ ยุติธรรม ไม่เอนเอียง
มีชายแก่ผู้หนึ่ง เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่สมัยหนุ่มๆ มีอาชีพปล้น ลักทรัพย์ชาวบ้านไปทั่ว
อยู่มาคืนหนึ่งขณะที่เขาปีนหน้าต่างเข้าไปบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งมีสามีภรรยาวัยกลางคนคู่หนึ่งนอนหลับอยู่ เขาปีนเข้าไปเปิดตู้ เปิดหีบ ซึ่งมีทรัพย์สมบัติอยู่จำนวนหนึ่ง มันมากพอที่เขาจะตั้งตัวได้เลยถ้าเขาได้มันทั้งหมด
เขาตั้งใจไว้ว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะปล้นลักทรัพย์ชาวบ้าน แต่คืนนั้นชายวันกลางคนเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมากลางดึกพอดี เขาตกใจที่เห็นโจรหนุ่มขึ้นบ้านร้องเสียงดังลั่นสนั่น
ส่วนโจรหนุ่มด้วยความตกใจและกลัวเสียงของเจ้าของบ้านจะทำให้คนแถวบ้านตื่นกันหมด เขารีบชักมีดสั้นออกมาแทงแล้วเอามือปิดปากเจ้าของบ้าน เลือดสาดเต็มตัวชายวัยกลางคนตายคาที่
จากนั้นโจรหนุ่มก็หนีไปได้โดยปลอดภัย น่าแปลกที่เขารอดจากตำรวจได้อย่างสบายๆ ใช้ชีวิตอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาพยายามปฏิบัติตนเป็นคนดี เลิกอาชีพลักขโมยไปเลย
และทำบุญกุศลให้กับชายเจ้าของบ้านที่เขาฆ่าไปนั้น โดยหวังว่าบุญกุศลที่ทำจะสามารถลบล้างบาปกรรมที่เขาทำได้
เขาดำเนินชีวิตปกติเหมือนกับคนอื่นๆ ทั่วไป และตายด้วยโรคชราในที่สุด
วิญญาณบาป เมื่อตายลง มิรอดเล็ด
หอวิเศษ กระจกส่อง กรรมอดีต
ปรากฏชัด การกระทำ ครั้งมีชีวิต
มิอาจปิด ต้องรับทัณฑ์ พึงสังวร
พอชายแก่ตาย วิญญาณก็ลงสู่นรก ท่านนายพลคุมนรกก็ให้ชายแก่ผู้นี้มายืนที่หน้ากระจกบานหนึ่ง ซึ่งถ้าคนธรรมดาเห็นก็คงคิดว่าเป็นกระจกวิเศษอย่างแน่นอน เพราะสามารถเห็นความผิดของชายแก่ที่ทำไว้ในตอนมีชีวิตอยู่
แต่ในความเป็นจริงแล้วชาวโลกจากวัยเด็กถึงวัยแก่ ในชีวิตของตนสร้างบาปหนักหนา แต่มนุษย์นั้นเป็นสัตว์ประเสริฐ การกระทำของตนเองย่อมรู้จิตใจของตัวเอง ก็คือกล้องถ่ายรูปกล้องหนึ่ง เก็บเอาการกระทำต่างๆ ในขณะที่อยู่ในโลกมนุษย์เอาไว้ นี่แหละ คือ กระจกใจ
ถึงแม้ว่าชาวโลกแอบกระทำความผิด โดยผู้อื่นไม่สามารถรู้เห็น แต่ทุกคนถามใจตัวเอง ตัวเองย่อมรู้ การใช้มือเท้า การเดินเหิน ก็ไม่อาจพ้นจากการบัญชาของหัวใจ
ดังคำที่คำพุทธท่านกล่าว กฏทุกกฏล้วนเกิดจากใจ ดังนั้นผู้ที่ทำบาปก็จะได้รับกรรมที่ตนได้ทำไว้ทุกประการ
ชายผู้นี้ถูกลงโทษให้เอามีดแทงตัวเองเลือดสาดเต็มกระจก ตัดมือตัวเองด้วยเพราะไปลักทรัพย์ผู้อื่น เขาได้รับความเจ็บปวด และความทรมานที่ตนเองได้ก่อไว้กับผู้อื่น
เปรียบได้ดังสุภาษิตที่ว่า กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนอง