แล้วเราก็เข้าใจกัน(ตอนที่9)
เรียงร้อยเป็นเรื่องราว
"คุณรู้อะไรไหม!..หลายปีที่คุณไม่เคยมาหาแม่จ๋าเลย
หลายปีนั้นแม่จ๋าก็เฝ้าคอยคุณอยู่ทุกวัน"
"อะไรนะ!" ทัศนัยอุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับร่างที่เซถลาจนแทบล้ม
"มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!"
. . .
"ฉันไม่คิดเลยนะทัศว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ต่อหน้าอย่าง
ลับหลังอีกอย่าง ถามจริงเหอะ! ฉันไปทำอะไรให้คุณนักหนาหรอ
ถึงต้องมาทำกันขนาดนี้ด้วย!"
"เป็นอะไรของคุณไปอีกน่ะปรางค์!"
ชายหนุ่มถามออกมาอย่างคนหัวเสีย ที่จู่ ๆ ก็ถูกปลุกขึ้นมาด้วยเสียงโทรศัพท์ แถมยังโดนแฟนสาวที่ไม่รู้ว่าไปกินรังแตนมาจากไหน มาวีนใส่แต่เช้าขนาดนี้
"คุณเลิกเสแสร้งแกล้งเล่นละครเป็นคนดีได้แล้วทัศนัย!"
"พร่ำอะไรของคุณน่ะปรางค์ เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!"
"อ๋อ! ใช่สิ..ฉันมันบ้า! บ้าไปแล้ว บ้าอย่างเดียวไม่พอ ยังโง่หลงเชื่อคนอย่างคุณอีกด้วย"
น้ำเสียงของหญิงสาวที่พูดกรอกใส่หูโทรศัพท์ มันได้สั่นเครือไปตามแรงอารมณ์ น้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เมื่อรู้สึกถึงความน้อยเนื้อต่ำใจ
"ไหน! คุณบอกฉันเสมอไม่ใช่หรือว่า ฉันแสนดีอย่างนั้นแสนดีอย่างนี้
คุณมีความสุขที่ได้ผู้หญิงที่ทำอะไรเพื่อคุณอย่างฉันมาเป็นแฟน
ถ้ามีความสุข แล้วไปเที่ยวบอกชาวบ้านเขาทำไมล่ะว่า ฉันน่ะ
เป็นผู้หญิงเสแสร้ง ทำทุกอย่างเพื่อหวังอะไรจากคุณ!"
หญิงสาวหยุดพูด สะอึกสะอื้นร้ำไห้ รู้สึกเจ็บแปล๊บขึ้นในอก
"ฉันจะบอกอะไรให้นะ..ไม่มีใครที่ไหนเขาจะทนเสแสร้งได้นาน
เป็นปี ๆ ขนาดนี้หรอก พอกันทีกับคนเลว ๆ อย่างคุณ!!!"
"เดี๋ยว..ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้กล่าวอะไรออกมา ทางนั้นก็วางหูโทรศัพท์ลงเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และหลังจากนั้น.... เขาก็ไม่ได้รับการติดต่อจากเธออีกเลย และเขาเองก็เช่นกัน ที่ตัดสินใจเดินหน้าต่อไปตามเส้นทางของตน แม้ผิดก็ไม่คิดย้อนกลับมาเอ่ยวาจาขอโทษสักครั้ง เพราะยึดมั่นในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันคงต้องเป็นไปตามอย่างที่คิด
. . .
" แม่จ๋าแอบร้องไห้คิดถึงคุณแทบทุกวัน และเกือบทุกคืนที่
แม่จ๋าละเมอเพ้อพกเรียกหาแต่ชื่อคุณโดยที่แม่ไม่ได้รู้สึกตัวสักนิด"
ร่างทั้งร่างของทัศนัยทรุดลงไปคุกเข่ากับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง สติสัมปชัญญะในช่วงเวลานี้หยุดนิ่งไปชั่วขณะ แววตาที่จ้องมองไปยังพื้นเบื้องหน้า ดูมันช่างเวิ้งว้างเหลือเกิน
. . .
"แกไม่ไปหาคุณปรางค์เขามั้งล่ะว่ะ ไหน ๆ คนก็เคยรักกันมาก่อน" พนัศเอ่ยถามออกมาในช่วงเวลาหนึ่ง
"ป่านนี้เขาคงลืมกันไปแล้วมั้ง" ทัศนัยพูดออกมา
"แกรู้ได้ไงว่ะ บางทีเขาอาจยังรักแกอยู่ก็ได้"
"หายไปนานขนาดนี้คงมีคนอื่นไปแล้วล่ะ" คำพูดที่เปล่งออกมา มันอิงแอบไว้ด้วยความรู้สึกที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยาม
. . .
"ปรางค์จะไม่รักใครอีก เพราะตลอดชีวิตปรางค์มีแต่คุณคนเดียวเท่านั้น"
"แล้วสักวันคุณก็จะลืมมัน!" แม้เสียงมันจะดังก้องอยู่ข้างใน แต่แววตาของทัศนัยหาได้ปิดไม่ มันแสดงความดูถูกออกมาอย่างเห็นได้ชัด ถ้านวลปรางค์จะสังเกตเห็นทีสักนิด
. . .
"หนูขอถามอะไรคุณหน่อยได้ไหม"หวานเอ่ยถามออกมา ทัศนัยพยักหน้าให้แทนคำตอบ
"คุณมีความสุขไหมคะที่คิดกับแม่จ๋าอย่างนี้?!"