วันปีใหม่ 2548 พี่ชาย, ฉันคิดอยู่นานทีเดียว กว่าจะตกลงใจบอกแกในเรื่องต่อไปนี้ ก่อนอื่นฉันอยากจะบอกแกว่า กว่าที่แกจะได้อ่านจอมอฉบับนี้ ฉันก็คงเปิดตูดแน่บไปจากโลกของแกแล้ว แกไม่ต้องห่วงฉันนะ ฉันไม่ได้เอาเห็ดหรือดอกไม้ไปเลยแม้แต่ดอกเดียว แกไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น อันที่จริงแกคงไม่ทุกข์ร้อนอะไรอยู่แล้วนี่ อืมม์ ... อันที่จริงไม่มีฉัน แกก็แค่เหนื่อยขึ้นกว่าเดิมอีกเล็กน้อยเท่านั้น นอกนั้นชีวิตของแกก็แทบจะไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมนี่หว่า อีกอย่างฉันว่ามาริโอ เลือดนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ อย่างแกน่ะ เรื่องจิ๊บจ๊อยแค่นี้ไม่สะเทือนขนหน้าแข้งหรือแม้แต่หนวดเชยๆ ของแกหรอก (และขอโทษนะ...พี่ชาย ฉันโกนหนวดอันแสนทุเรศนั้นออกแล้วว่ะ) แกอาจสงสัยว่าทำไมจู่ๆ ฉันถึงทิ้งแกไป หรือถ้าพูดให้จริงจังแบบที่แกชอบพูดนั้นก็ต้องบอกว่า ทำไมฉันถึงทิ้งอุดมการณ์ของพวกเราพี่น้องไป ใช่ไหมล่ะ? พี่ชายหน้าโง่ของฉันเอ๋ย ตื่นเสียที่เถอะ เมื่อไหร่แกจะตาสว่างพอที่จะมองเห็นเสียทีวะว่า อุดมการณ์และภารกิจห่าเหวอะไรนั่นมันของปลอมทั้งเพ เราถูกหลอกมาตั้งแต่แรก ... ใช่!!! แกอ่านถูกแล้ว ... เรา ถูก หลอก .. (จำใส่หัวแกไว้ซะ) ฉันไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคน (หรืออาจจะไม่เป็นคน) หลอกเรา บางทีอาจเป็นเพราะพระเจ้าบางองค์ หรืออาจจะเป็นคนบางคนที่เสือกอยากเป็นพระเจ้าก็ได้ ข้อนี้ฉันไม่รู้ แต่ที่ฉันรู้ ... พี่ชาย ... เราสองศรีพี่น้องถูกหลอกให้ต่อสู้อยู่ในโลกสมมติใบนี้มาเกือบยี่สิบปี นานเท่าอายุของแกและฉันเลยทีเดียว เราถูกหลอกให้ต่อสู้เพื่อภารกิจอะไรไม่รู้ เราถูกหลอกให้เชื่อว่าภารกิจของเรานั้นยิ่งใหญ่พอๆ กับการกอบกู้เอกราชก็ไม่ปาน และเราก็หลงภาคภูมิใจกับภารกิจที่เราได้รับมอบหมายนั้นเสียเต็มประดา หลงคิดไปว่า เราได้ทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เฮ้! พี่ชาย ฉันว่านายดู สไปเดอร์แมน มากไปหน่อยนะ มันไม่มีอย่างในหนังหรอกที่ว่า พลังที่ยิ่งใหญ่มาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่น่ะ และหากมันจะมี ฉันก็เชื่อว่าไอ้ภารกิจช่วยชีวิตเจ้าหญิงบ้าบออะไรของเรานั่นก็คงไม่ใช่ ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ หรอก มันเป็นแค่อะไรบางอย่างที่เราเองก็ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร หรือเพื่อใครต่างหาก.. ฉันถามแกหน่อยเหอะว่า ไอ้การที่เราบุกบั่นตะลุยฝ่าอันตรายไปในแต่ละด่านน่ะ แกทำไปเพื่ออะไรกันฮึ? จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้แกเฝ้าบอกฉันว่าใครต่อใครมอบความหวังในการช่วยชีวิตเจ้าหญิงไว้ที่พี่น้องอย่างเรา ฉันก็เชื่อแก และยอมเสี่ยงอันตรายทุกๆ อย่างไปกับแก อิฐกี่หมื่นก้อนที่เราใช้หัวพุ่งชนจนแตกเป็นจุณ หุบเหวกี่แห่งที่เราพลัดตกลงไป กี่ครั้งที่เราไม่รอดเงื้อมปากของต้นไม้ตะกละ ไหนจะระเบิดเต่าโรคจิต ปลาหมึกพ่นพิษ เมฆประหลาดที่ชอบพ่นเม่นขนพิษมาใส่เรา มังกรยักษ์พ่นไฟ อะไรต่อมิอะไรต่างๆ นานาที่เราต้องฝ่าไปในแต่ละครั้งอีกเล่า เราได้สิ่งใดตอบแทนกลับคืนมา ไอ้พี่ชายเอ๋ย .. แกช่วยตอบฉันหน่อยเถิด .. แกอาจเถียงฉันได้ว่านอกจาก ความภูมิใจ ในฐานะผู้รักษาความหวังของคนกลุ่มหนึ่งแล้ว เรายังเป็นตัวแทนเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ต่อให้เราล้มตายไปอีกกี่ร้อยครั้งเราก็จะกลับฟื้นลุกขึ้นมาสู้ใหม่ได้อีกครา (แกชอบพูดใช่ไหม? ไอ้คำประเภท ตายสิบจะเกิดแสน น่ะ) พี่ชายเอ๋ย ฉันล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมถึงมีพี่ชายที่โง่งมบัดซบขนาดนี้ ฉันว่าแกอ่านงานวรรณกรรมที่เคร่งขรึม ออกแนวขลังๆ มากไปหน่อยนะ หรือไม่แกก็อาจหลงคิดไปว่า ตัวเองเป็นผู้ปลดปล่อยอย่าง เดอะ วัน ในหนังเดอะ เมทริกซ์ จึงสำคัญตนเองผิดขนาดนั้น มาริโอผู้น่าสงสารเอ๋ย ฉันจะบอกให้ว่า เราน่ะเป็นแค่ตัวตลกที่ถูกสร้างมาให้เด็กๆ หัวร่อเท่านั้น ถ้าไม่เชื่อแกลองส่องกระจกดูตัวเองสิ น่าขันไหมล่ะ? เขาสร้างให้เราเป็นตัวประหลาดหน้าเป็นเด็ก ตางี้ใสแป๋วเลย แต่เสือกให้ไว้หนวดเสียเฟิ้มแบบ เล็ก คาราบาว (แกรู้จักไหม พี่เล็กบาวเนี่ย อยู่แต่ในกะลาจอแก้วก็เงี้ยแหละ) มือไม้ก็กลมๆ เป็นดุ้นๆ เหมือนโดราเอมอน แต่งเนื้อแต่งตัวก็เฉิ่มเชยฉิบหาย ฮ่าๆ ที่ทุเรศที่สุดก็คงจะเป็นชุดเอี๊ยมที่เราสวมใส่ แหม! ยังกะน้องพลับแน่ะ (พนันกันไหมว่า แกก็คงไม่รู้จักน้องพลับอีกเช่นเคย ) ตอนที่เห็นตัวเองครั้งแรก ฉันก็ได้แต่กลุ้มใจปนสมเพชตัวเอง ไม่รู้ว่าเราเป็นเด็กที่หน้าแก่ หรือเป็นผู้ใหญ่ร่างกายเด็กกันแน่ นี่หรือวะสารรูปของผู้ปลดปล่อยอย่างที่แกเชื่อ ฉันไม่เห็นว่ามันเท่และน่าเชื่อถือพอที่จะปลดปล่อยอะไรได้ ไม่เห็นเหมือนมาดเท่ๆ ของ คีอานู รีฟส์ ใน เดอะ เมทริกซ์ ขนาดพี่เขาเล่นได้แข็งเป็นเสาประตูฟุตบอลอย่างนั้นก็ยังเท่โซคูลเลย แล้วแกย้อนดูตัวเราสิ ไอ้ชุดแดงของแก ชุดเขียวของฉัน นี่มันโซคูลตรงไหนวะ ถ้ามีชุดเหลืองอีกคนก็คงเป็นตู้ไฟจราจรได้เลย แต่อะไรก็ไม่น่าละเหี่ยเพลียหัวใจเท่าภารกิจบ้าบอที่เราทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ตื่นเช้ามาก็ต้องเตรียมประจำที่ ข้าวปลาอาหารก็ไม่เคยได้รับครบห้าหมู่ แด.. (ขอโทษนะมีอารมณ์แล้วเริ่มพูดไม่เพราะว่ะ) เห็ด เสียจนจะขาดสารอาหารอย่างอื่นไปหมดแล้ว แถมวันๆ ยังต้องมาเสี่ยงภัยแบบเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ อยู่ทุกวัน ไม่มีวันจบสิ้น เดี๋ยวเก็บเห็ด เก็บดาว ชนอิฐ เก็บเหรียญ เก็บดอกไม้ กระโดดข้ามท่อ ลงท่อ ปีนเสา ชิงธง เข้าถ้ำ กระโดดข้ามเหว หลบปลาหมึก กระทืบเต่า โอ๊ยยยย ... สารพัดสารพันอุปสรรคแสนจำเจ แค่คิดฉันก็พานจะอ้วกแล้วว่ะ ไม่ไหวเอียนเหลือเกิน น่าเบื่อหน่ายมากๆ ไม่มีอะไรใหม่ๆ ให้ตื่นเต้น ให้ค้นหาอีกแล้ว แกไม่สังเกตหรือไงว่าช่วงหลังๆ เวลาถึงตาฉันน่ะ มันจะมีอะไรแปลกๆ ผิดปกติเสมอ แฮ่ๆ ฝีมือฉันเองแหละ อย่างตอนนั้นเขาสั่งให้ฉันเก็บเห็ดเพื่อจะได้ขยายร่างให้โตขึ้น พอเขาเผลอฉันก็แกล้งเตะไอ้เห็ดเวรนั่นให้ไปโดนไอ้ตัวประหลาดขาสั้นๆ นั่น ปรากฎว่ามันโตขึ้นแต่ขามันสั้นเท่าเดิมว่ะ ฮ่าๆๆๆ ขำชะมัดเลย หรืออย่างตอนนั้น ในฉากที่ฉันต้องเดินผ่านห่วงไฟในถ้ำมังกร ฉันก็แอบเอาเห็ดขยายร่างอะไรนั่นมาเผาไปด้วย อร่อยดีนะ ไม่เชื่อแกลองถามเจ้ามังกรพ่นไฟในถ้ำดูสิ ฉันกับมันแบ่งกันกินอย่างเอร็ดอร่อยทีเดียว เจ้ามังกรยังบอกเลยว่ารู้อย่างนี้ออกจากถ้ำไปพ่นไฟใส่เห็ด ยางปลาหมึกดีกว่าดักดานอยู่แต่ในถ้ำเสียตั้งนานแล้ว เห็นไหม? เจ้ามังกรยังเบื่อชีวิตในโลกของเราเลย ฉันตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ขออยู่กับแก ในโลกแห่งนี้อีกแล้ว แม้แกจะบอกฉันอยู่เสมอว่าโลกแห่งความจริงนั้นโหดร้ายกว่าโลกของเราหลายร้อยเท่า แต่ฉันก็ยังปรารถนาที่จะเดินไปค้นพบมันด้วยตัวเอง ฉันตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่า จะออกไปจากดินแดนแห่งความหลอกลวงนี้เสียที มาริโอ ฉันไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ฉันก็ไม่ถอยหลังแน่ๆ แกก็รู้เกมของพวกเราไม่อนุญาตให้ใครถอยหลัง ก็คงเหลือแต่แกผู้เดียว พี่ชาย, จงอยู่ในโลกที่แกเชื่อมั่นต่อไปเถิด จงทำเพื่อความรักต่อไปเถิด จงใส่ชุดอันน่าขันนั้นต่อไปเถิดมาริโอผู้ตาบอด ส่วนฉันขณะที่แกอ่านจดหมายนี้อยู่ ก็คงโลดแล่นอยู่ ณ ที่ไหนสักแห่งในโลกอันแสนกว้างใหญ่ แกไม่ต้องออกมาตามหาฉันนะ เพราะตามไปอย่างไรก็ไม่มีวันได้เจอน้องชายคนเก่าของแกอยู่ดี ก็อย่างที่บอกฉันโกนหนวดแล้ว ชุดปัญญาอ่อนนั่นฉันก็ทำผ้าขี้ริ้วไปหมดแล้ว ฉันเอาเหรียญที่เก็บมาทั้งหมดไปซื้อเสื้อผ้าใหม่แล้วด้วย เท่ดูดีมีสไตล์มากๆ (แกคงไม่รู้จักแฟชั่นสินะ) สุดท้ายนี้ ฉันจะเขียนอีเมล์มาหาแกทันทีที่ได้ลิ้มลองรสชาติของซูชิ, พิซซ่า, แมคโดนัลด์ และชาเขียวนะว่ามันอร่อยเอร็ดเด็ดกว่าเห็ดของเราแค่ไหน ดูแลตัวเองก็แล้วกัน เหรียญที่เหลืออยู่ฉันยกให้ และฝากคืนไอ้ปลาหมึกด้วย ฉันเป็นหนี้มันอยู่ สวัสดีปีใหม่ , ไม่รักแต่คิดถึง ลุยจิ น้องผู้ตาสว่าง .. จักรพันธุ์ ขวัญมงคล .. หนังสือชื่อ .. นิทานสันดานเสีย ..
22 มีนาคม 2549 21:32 น. - comment id 90153
ตายก่อนทุกที ด่านแรกก็เดี้ยงแล้วเน้อ..หลบเต่าไม่ทัน สงสัยมาริโอ..มันจะซึมซับวัยของผู้เล่นเข้าไปด้วย..อิอิ..
22 มีนาคม 2549 23:14 น. - comment id 90154
ออกมาจากเจ้าหน้าสี่เหลี่ยมเถอะ เห็นมันทีไรจับไข้ทุกที มากินแจ่วบองบ้านข้อยเพี๊ย
23 มีนาคม 2549 00:13 น. - comment id 90156
บัดนั้น จอมเขมือบพักตร์เหลี่ยมใจเหี้ยมหาญ ประกาศก้องเสียงหลงคงยืนกราน จะยึดบ้านครองบุรีที่ทำกิน เจ๋งดี.....
23 มีนาคม 2549 01:32 น. - comment id 90157
สงสารมาริโอโง่เหมือนเราเลย