ตะลอนไปไหว้พระ 9 วัด

บัณฑิตนพฯ

     
วัดพนัญเชิงฯโดดเด่นเป็นสง่า			
ดูด้วยตาสวยงามตามสมัย
อยู่ริมน้ำแลสง่ามาแต่ไกล			
ดูวิไลยิ่งใหญ่ให้แปลกตา
 มองดูโบสถ์ใหญ่โตมโหระทึก			
ทำให้นึกสนใจใคร่ค้นหา
รูปก่อสร้างแทนร่างพระศาสดา			
แปลกจริงหนาใหญ่ยิ่งกว่าสิ่งใด
 ซำปอกงคงชื่อเลื่องลือนาม			
ทั่วเขตคามนับถือลือไฉน
ทุกตรุษสาร์ทไทยจีนทั่วถิ่นไกล			
มากราบไหว้หลวงพ่อโตซำปอกง
วัดหน้าพระเมรุเป็นวัดเก่า			
มีเรื่องเล่าพม่ามาตั้งค่าย
จึงโชคดีไม่มีที่ทำลาย				
สิ่งสูญหายก็ไม่มีดีเหลือทน
องค์พระประธานดูสง่าน่าชมนัก		
องค์ลงรักปิดทองไม่หมองหม่น
ดูระยิบแวววาวราวต้องมนต์				
ใครได้ยลใจจับประทับใจ
ที่ด้านข้างตัวโบสถมีโบสถ์น้อย		
ดูไม่ด้อยเก่าแก่แลเลื่อมใส
หลวงพ่อหินเป็นประธานอยู่ด้านใน			
น่าเลื่อมใสแก่เก่าเล่ามานาน
        
 กราบไหว้แล้วไม่อยู่สู่อ่างทอง			
เลาะลำคลองไปเรื่อยๆไม่เฉื่อยฉาน
ดูท้องนานกน้อยพลอยสำราญ			  
ใจสนานบานชื่นรื่นหัวใจ
       
 สองข้างทางเขียวชอุ่มดูชุ่มชื่น			
สองข้างยืนด้วยต้นข้าวพราวไสว
สบายตาสดชื่นอกไม่รกใจ				
จิตสดใสคลายหมองดูต้องตา
         
เลี้ยวซ้ายเข้าวัดนามว่าท่าสุทธาวาส		
แลพิลาส-มาดหมายใคร่มองหา
ภาพผนังงามล้ำไม่ซ้ำตา				
เกินวาจาจะเอ่ยเย้ยเป็นกลอน
          
พระเทพฯโปรดจิตรกรผู้สอนวาด		
มาประกาศฝีมือไว้ใช่ฝึกสอน
ด้วยลายเส้นสีสวยด้วยทองมอญ			
เส้นโค้งงอนเด่นชัดไม่ขัดตา
          
 ดูภายนอกมีพลับพลาชลาศัย			
ที่เก็บไว้ด้วยของเก่าที่เฝ้าหา
เป็นสมบัติตกทอดรอดพ้นมา			
เนิ่นนานมาเก็บไว้ให้คนชม
           
พอตรงไปข้ามแม่น้ำไม่ช้ำจิต			
ตรงไปนิดวัดป่าโมกข์ไม่โศกสม
วัดแห่งนี้มีเรื่องเล่าไว้เข้าชม			
แต่นานนมพระไสยาสน์ไม่คลาดคลา
            
เขาเล่าว่าท่านลอยชลดลมานี่			
ประชาชีช่วยฉุดชักพักขึ้นหนา
ไว้ริมฝั่งยั้งไว้ใกล้คงคา				
พระราชาทรงให้เลื่อนเคลื่อนเข้าไป
            
สร้างวิหารให้ท่านอยู่คู่กับวัด			
ไม่ให้พลัดจากไปไว้หนไหน
ให้ประชากราบไหว้ทั้งใกล้ไกล			
ต่างเลื่อมใสความศักดิ์สิทธิ์ฤทธิรณ
            
ครั้งสงครามไทยพม่ามาแต่ก่อน		
ทัพไทยรอนแรมมาวัดวานี้
องค์นเรศวรและองค์ขาวจ้าวชีวี			
ต่างได้มีสักการะองค์พระนอน
            
ทรงสักการะพระไสยาสน์พิลาศล้ำ		
ให้ดลนำชนะชัยในสมรฯ
ภายหลังนั้นท่านยกทัพขับรณรอน			
เข้าต่อกรยุทธหัตถีจนมีชัย
             
วัดต้นสนอยู่ในเมืองแสนลือเลื่อง		
พระศรีเมืองฯอยู่ในโบสถ์ดูสดใส
ศรีเมืองทองนามนี้ที่ยิ่งใหญ่			
ต่างกราบไหว้ให้คุ้มตัวคุ้มหัวตน
              ประชาชนต่างศรัทธามากันมาก		
ถึงลำบากไกลใกล้ก็ไม่สน
ต่างประสงค์มากราบไหว้ให้ตัวตน			
มีมงคลมีสุขคลายทุกข์ตัว
              
ที่ท่าน้ำฝูงมัจฉามากันมาก			
หนีทุกข์ยากมาอาศัยดูไปทั่ว
รออาหารที่ทำทานกันมืดมัว				
ไม่นึกกลัวคนใจบาปแสนหยาบใจ
              
อันวัดม่วงล่วงไปใกล้วิเศษฯ			
มีฝูงเปรตสร้างไว้ให้ใจหมาย
สิ่งก่อสร้างทั้งสวรรค์บันดาลใจ			
ฝูงผีร้ายในนรกยกให้กลัว
              
ท่านสร้างไว้เตือนใจยึดในศีล			
ไม่โกงกินปล้นจี้มีความชั่ว
แดนสวรรค์เมืองคนดีที่ไม่กลัว			
ไม่ใจมัวทำความดีเป็นศรีตน
               
มีกวนอิมพันมือชื่อลือเลื่อง			
อยากรุ่งเรืองไร้โรคโชคมาสน
ต้องกราบไหว้ให้ท่านช่วยบันดล			
ช่วยให้ตนรุ่งเรืองเลื่องลือไกล
                
วัดขุนอินทรฯถิ่นนี้ที่สงบ			
ได้มาพบพระไสยาสน์ประหลาดไหม
แต่ก่อนเก่าเขาเล่าเจ้าเลอไท			
ทรงโปรดให้ก่อสร้างทิ้งร้างนาน
              
 ครั้นต่อมายุคกรุงศรีมีขุนนาง			
อยู่ที่บางตำบลนี้มีสถาน
ได้พบเห็นจึงเลื่อมใสใคร่ก่อการณ์			
สร้างสถานแห่งนี้ดีจำเริญ
                
จึงนำทรัพย์ส่วนตนขนมาสร้าง			
ไม่ให้ร้างทิ้งไปให้สรรเสริญ
ใช้ทรัพย์สินส่วนตนจนหมดเงิน			
ส่วนที่เกินจึงยอกยักลักบัญชี
                 
ครั้นต่อมาองค์ราชามาตรวจพบ		
ได้ประสบทุจริตคิดหลีกหนี
เบียดบังเอาอากรซ่อนเงินปี				
ทำไม่ดีเลยประหารผลาญชีวัน
                 
ขุนอินทรประมูลคือชื่อของท่าน		
ที่เรียกขานเป็นนามวัดเพราะจัดสรร
เจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ฯออกโอษฐ์พลัน			
ชื่อวัดนั้นใช้นามท่านเรียกขานกัน
                  
 เพราะทรงทราบท่านเบียดบังเอาจังกอบ	
คิดมิชอบเพราะใฝ่ใจไม่แปรผัน
โกงเงินทองมาสนองศาสนากัน			
ที่เดียดฉันท์ก็ลดน้อยถดถอยลง
	
วัดต่อไปวัดไชโยฯใหญ่โตนัก		
ได้ประจักษ์โบสถ์ใหญ่ให้ใหลหลง
ที่สถิตย์หลวงพ่อใหญ่ไว้บรรจง			
ยั้งยืนยงเมื่อ ร.4 มีโองการ
	
สมเด็จฯโตในอดีตประดิษฐ์ร่าง		
ได้ก่อสร้างพระองค์ใหญ่ไว้สิบศาสน์
ประดิษฐ์ไว้ที่วัดนี้โบราณกาล			
เป็นหลักฐานศาสนาสืบต่อมา
	
แต่แล้วองค์พระได้ทลายลง			
ไม่มั่นคงด้วยฐานรากมากปัญหา
องค์ ร.4 จึงได้โปรดโองการมา			
ให้จัดหามาก่อสร้างแทนร่างเดิม
	
เอาแบบอย่างวัดกัลยาฯมาก่อสร้าง		
ตามแบบอย่างที่งดงามตามส่งเสริม
จนงดงามตามอย่างช่างแต่งเติม			
สวยกว่าเดิมดูสง่าน่ายินดี
	
ที่ริมน้ำมีวิหารอาคารหรู			
ที่ตั้งอยู่ภายในให้สุขขี
องค์สมเด็จฯโตประดิษฐ์ไว้ภายในมี			
เป็นสักขีที่ท่านอยู่คู่วัดงาม
	
สิงห์บุรีมีชื่อที่ลือเลื่อง			
อันเป็นเมืองวีระชนคนสยาม
บางระจันบ้านคนกล้ามาลือนาม			
คนงดงามปลาช่อนดีศรีเมืองไทย
	
หลวงพ่อแพท่านโด่งดังยังเมืองนี้		
ท่านปราณีพัฒนาวัดวาใหญ่
สร้างสะพานและพระพุทธสุดวิไล			
เพื่อจะให้สืบเนื่องประเทืองบุญ
	
ใกล้ตัวเมืองมีวัดงามนามไพเราะ		
ชื่อก็เหมาะเป็นวัดดีที่เกื้อหนุน
ทั่วเขตขามมากราบไหว้ใคร่เจือจุน			
มาทำบุญเพราะมีดีเป็นศรีงาม
	
มีพระนอนที่งดงามนามก็เพราะ		
ชื่องามเหมาะว่าจักร์สีห์ศรีสยาม
มีพระพักตร์แลดวงเนตรเกศงดงาม			
ทั่วเขตคามนับถือเลื่องลือไกล
	
ย้อนกลับมาเมืองสุพรรณสถานศรี		
เมืองคนดีของขุนแผนแสนสดใส
ณ.ถิ่นนี้ที่เคยมีนายกฯไทย				
เมืองไฉไลเพราะท่านด้วยช่วยพัฒนา
	
ถนนสวยธรรมเนียมดีสาลี่หวาน		
คนชื่นบานปลาม้าเยี่ยมไร้เทียมหนา
ไปตรงไหนก็ไม่ไกลใกล้วัดวา			
นี่แหละหนาเมืองคนดีศรีสุพรรณ
	
อันวัดป่าเลไลยก์ใครๆรู้			
เป็นวัดคู่บ้านเมืองประเทืองฐาน
หลวงพ่อโตทรงนั่งเป็นพระประธาน			
สาธุการสาธุชนคนนิยม
	ที่ข้างหน้าด้านข้างมีช้างอยู่			
เอางวงชูถวายอ้อยคอยสุขสม
อีกด้านหนึ่งมีรูปลิงยิ่งชื่นชม				
เอาหน้าก้มส่งรวงผึ้งให้ซึ้งใจ
	
ห่างไม่ไกลจากวัดนี้มีสถาน			
เป็นประธานของจังหวัดที่จัดไว้
ศาลหลักเมืองแห่งนี้เป็นศรีไทย			
คนใกล้ไกลมาบูชาสถาพร
	
เป็นศาลจีนมีหินอยู่สองก้อน			
มีรูปค่อนออกจะกลมสมสมร
ก้อนหนึ่งรูปสลักพักตร์สี่กร			
ฤทธิรอนองค์ณารายณ์ไม่วายชม
	
อีกก้อนหนึ่งเป็นองค์อินทร์บดินทร์เดช		
องค์เทเวศน์โปรดสัตว์ไม่ขัดขม
คนจีนเรียกเจี๊ยะปึ้งเถ๊าเฝ้านิยม			
ต่างสุขสมมากราบไหว้ให้คุ้มครอง
	
ทั้งหมดนี้ทุกปีไหว้ให้คลายจิต		
เพื่อชีวิตใจสดใสได้สนอง
ทุกๆปีที่ขอไว้ท่านก็ให้ดั่งใจปอง		
ท่านคุ้มครองให้รุ่งเรืองประเทืองเอยฯ