เมื่อวันที่หนึ่งที่ผ่านมา , วันหยุดปีใหม่ได้พาลูกชายสี่คนที่วัดไปเที่ยวเขาดิน ได้ไปเห็นอะไรๆ ที่ทำให้นึกถึงเพลงนี้ . มาๆร้อมวงกันเข้ามา จะเล่าเรื่องให้ฟัง " วันนั้นพาเจ้าลิงสี่ตัวไปหาเพื่อนมันที่เขาดิน ใจเดิมอยากจะพามันไปในที่ๆดีกว่านี้ ... ติดอยู่เรื่องเดียว เรื่องเงินของพ่อเสือเอ็งมีไม่มากหว่ะ วันนั้นให้เจ้าเบิ้มนึ่งข้าวเหนียวไปจากวัดครึ่งกิโล ทอดหมูหมักไปอีกกล่องย่อมๆ แถมท้ายด้วยกระเพราะปลาแห้งผัดฉ่าของป้าศรีนวลที่กรุณาให้มาอีกถุงเบิ้อเลิ่ม วันนั้นคนเต็มเขาดินไปหมด มองแล้วแทบอยากมุดกรงเข้าไปนั่งกินเหล้ากะคุณเห็นดง ... พ่อคุณแม่คุณไม่รู้ว่ามาจากไหนกันมากมาย ผมเองเป็นโรคกลัวสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน เก็นคนเยอะๆไม่ได้ มันผวา แต่พอได้เห็นเจ้าจุ่น กะบักเสือน้อยตื่นตาตื่นใจกะอะไรที่ได้เห็นทั้งลิงค่าง สางเสือ ... เอาวะ นานได้พาพวกมันออกจากวัดเสียทีหนึ่ง เด็กสี่คนนี่ชะตากรรมไม่ต่างจากผมเท่าไร ผลผลิตของพ่อแม่ที่ทำเป็นแต่เลี้ยงไม่เป็นเหมือนกัน เดินดูโน่นดูนี่กันจนเที่ยงเห็นว่าท่าทางจะเหนื่อยกันแล้วเลยพาลูกๆไปหาที่นั่งปิคนิคกันที่หลังร้านไก่ทอดผู้พันพุงโล ที่ใกล้ๆกะสระน้ำนั่นแหละครับ คนเต็มหมดจนหาที่นั่งดีๆไม่ได้ เลยเอาหนังสือพิมพท์ที่ติดมาปูนั่งกันใต้ต้นฉำฉา ข้างๆที่คนนั่งโต๊ะกินไก่กัน กินกันได้ซักพัก มีเสียงเด็กโมโหที่พ่อแม่ขัดใจอยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องลูกอยากไปดรีมเวิลด์ แต่พ่อแม่อยากให้กินอะไรรองท้องก่อนแล้วค่อยไป (ท่าทางจะเป็นลูกชายคนเดียว) ... ทั้งโอ๋ทั้งปลอบ เป็นอย่างนั้นอยู่พักนึง ไม่มีทีท่าว่าหมอนั่นจะเย็นลงเลย มีแต่ดังขึ้นๆ คะเนเอาว่าคงจะรุ่นเจ้าหล้าของผม 11-12 ปี พักเดียวเท่านั้นได้เรื่อง โนเกียเอนเกจท์เฉียดหูผมไปดังวิ้ววววว ... ไก่ที่เป็นชิ้นเหลี่ยมๆเต็มกล่องปริบ ผมไม่แน่ใจว่าเค้าเรียกนัคเกทรึเปล่าข้ามหัวผมลงมาตกกลางวงปิคนิคคนยากพอดี กระจายเกลื่อนสิครับ เหลียวไปมองเห็นแก้วน้ำกะลังจะตามมา ดีว่าแม่เค้าคว้าไว้ได้ก่อน ไม่งั้นได้เป้นเสือเคลือบโค๊กแหงๆ เจ้าเสือน้อยสี่ขวบเศษไวกว่าเพื่อน คว้าไก่ชิ้นนั่นเขาปากไม่หือไม่อือเลย หันมาเห็นกะลังคาปากตุ่ย สั่นหน้าให้มันเห็นเลยคายออกมาแล้วเก็บใส่กล่อง หยิบมือถือพร้อมแล้วให้เจ้าเบิ้มเอาไปคืนเค้าที่โต๊ะ .... เจ้าเสือน้อยเดินตามต้อยไปด้วย ไม่รู้มันไปเป็นเพื่อนพี่มันหรือว่ามันเสียดายไก่คนมีตังค์กันแน่ ขากลับมาเจ้าเสือน้อยถือไก่กล่องนั้นกลับมา ... มันบอกว่า ป้าเค้าให้น้อยกิน พี่น้องครับ มันแน่นอก มันพูดไม่ออก ไม่ใช่ว่าผมอาย ไม่ใช่ว่าผมมีศักดิ์ศรีอะไรค้ำคอ ผมไม่ได้หน้าบางขนาดนั้น ... แต่ที่มันแน่น มันเป็นห่าอะไรไม่รู้มัน มองเจ้าสี่ตัวนั่นแล้วหันไปมองเด็กคนนั้น มันต่างกันขนาดนี้เลยเหรอ ... สี่ลิงของผมไม่มีแม้แต่คนจะห่มผ้าให้ตอนหลับ สมัยผมยังเท่าพวกมัน วันที่หลวงตาไม่ได้ออกวัด ไข่ต้มสองฟองใส่น้ำปลาสองคนกะพี่มาร์คได้สามมื้อ เจ้าสี่ตัวนี่ถึงคราวที่ผมไม่อยู่กรุงเทพฯ ... มันก็ไม่ต่างกันนัก ... เจ้าเบิ้มขายเรียงเบอร์ตั้งแต่อยู่ป.4 ... เสือน้อยสี่ขวบ กินข้าวไม่เคยเหลือติดจานซักเม็ด ... คนเรานี่ ทำให้คิดถึงคำที่เขาว่ากัน มีมากก็ลืมนึกถึงตอนหมด อิ่มมากก็นึกไม่ออกว่าหิวมันเป็นยังไง " ...........จากบันทึกของนายเสือ ......................2006-01-03 20:01:53]
25 มกราคม 2549 15:18 น. - comment id 89196
อยากรู้จังว่าเมือ่อ่านแล้ว คุณมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง เชิญน่ะค่ะบอกเล่าความรู้สึกคุณได้
25 มกราคม 2549 15:25 น. - comment id 89197
หน่านานา น้านา น้านา นานา หน่านานา น้านา น้านา นานา คุณครูสั่งให้เขียน เรียงความเรื่องแม่ฉัน บอกว่าส่งให้ทัน วันพรุ่งนี้ มันยากจัง ทำไม่ไหว หนูแม่ไม่มี แล้วจะเขียนให้ดียังไง เป็นห่วงก็ไม่รู้ ดูแลก็ไม่คุ้น กอดแม่อุ่นจริงๆ มันจริงไหม พร้อมหน้ากันทานอาหาร เคยมีแค่ฝันไป ไม่มีเพลงกล่อมใดไม่มี ห่มผ้าไม่เคยอุ่นเลย กอดหมอนไม่เคยอุ่นใจ นอนหลับไปอย่างเดียวดายทุกที ไม่มีอะไรจะเขียน ให้ครูได้อ่านพรุ่งนี้ วันแม่ก็ได้แต่นับน้ำตา ถ้าแม่ฟังอยู่ ไม่ว่าแม่อยู่ไหน ไม่ว่าแม่เป็นใคร ช่วยส่งรักกลับมา ถ้าแม่ฟังอยู่ คิดถึงหนูหน่อยหนา หนูขอสัญญาว่า ....หนูจะเป็นเด็กดี
25 มกราคม 2549 16:27 น. - comment id 89200
ชีวิต ผู้คน แตกต่าง หนทาง หลากหลาย วิถี มี-จน ฐานะ ต่างมี ร้ายดี คละเคล้า ธรรมดา เศรษฐกิจ พอเพียง เพียงพอจิต ไม่ฟุ้งคิด เกินตน ดีเลิศหนา พระองค์ท่าน ทรงมากล้น ด้วยเมตตา ประทานมา ให้ประชา เป็นแนวทาง