เสียงโทรศัพท์มือถือดังมาครู่ใหญ่แล้ว เสียงริงโทนเพลงสนุกสนานของค่ายเพลงยักษดังขึ้น แต่ใจผมยังไม่มีอารมณ์สนุก งานอีกตั้งพะเรอเกวียน ผมเฝ้ามอง นิ่งฟังกำลังตัดสินใจว่าจะรับดีใหม แต่มือที่จะเอื้อมไปหยิบกลับชะงัก แล้วชักกลับมาดังเดิม ......................................................... เสียงโทรศัพท์หยุดไปตั้งนานแล้ว นานเท่าใหร่แล้ว ที่ผมไมได้ติดต่อกลับใปหาทั้งที่รู้ว่าเธอ คงจะเจ็บปวด แต่ผมต้องตัดใจ ก็ผมกำลังกำลังก้าวหน้าในชีวิต จะมามัวจมปลักกับบ้านป่าอย่างนั้นได้อย่างไร ช่วงนี้งานผมกำลังเร่ง หาก Project นี้สำเร็จ ย่อมหมายถึงความก้าวหน้าในชีวิตครั้งใหญ่ ผมคาดหวังกับมันไว้มาก ไม่เป็นไร ปิดมือถือไปก่อน รู้สึกปวดหัวข้างซ้ายหนึบ มันจะเป็นอย่างนี้ทุกทีที่โหมงาน แต่โอกาสอย่างนี้มีไม่บ่อยหรอก จำไว้ . . ตอนนี้ มือถือเปิดแล้ว แต่ไม่มีใครโทรเข้ามาเสียที ผมหันไปมองทัศนียภาพข้างๆ ที่กำลังวิ่งสวนทางกับผมไป ฝนตกเห็นหยดน้ำพรำลงบนกิ่งใบตามรายทาง ผมไม่ได้เห็นบรรยากาศอย่างนี้มากี่ปีแล้วนะ ตั้งแต่เข้ามาค้นหาชีวิตใหม่ สิ่งที่ผมเรียกมันว่า ความก้าวหน้า โดยละทิ้งปลักไว้เบื้องหลัง .. ความก้าวหน้าเหรอ การแก่งแย่งแข่งขันกันซะมากกว่า ใครมีเส้นสายมากกว่า ก็ได้ดีไป ทั้งที่ ถ้าเทียบงานกันแล้ว ผมเชื่อมั่นว่าของผมดีกว่า แต่เดี๋ยวนี้ ค่าของคน อยู่คนของใคร ถ้าผมขยันเข้าไปคลุกคลี หรือไปเสนอหน้ารับใช้เล็กๆน้อยๆอย่างเจ้านั่นบ้าง Project นี้ก็คงไม่หลุดไปอยู่ในมือเจ้านั่น 1 อาทิตย์กว่าๆก่อนเสนอ Project กับลูกค้า หัวหน้าตัดสินใจให้เจ้านั่นรับช่วงงานนี้ต่อจากผมไปแทน(ทำไม ไม่ให้เจ้านั่นทำเอง เริ่มใหม่ ตั้งแต่ต้นละ ถ้าเก่งจริง อะโธ่ ) โดยให้เหตุผลที่ฟังดูดี คุณยังมีอนาคตอีกไกล และอยากให้คุณผ่อนคลายบ้าง ผมว่านะ ช่วงนี้คุณเครียดกับงานมากไป โถ จะบอกว่า จะดันคนสนิทของตัวเองมากกว่ามั้ง แค่นี้ ทำไมต้องเฉไฉพูดให้ดูดีไปทำไม หยุดคิดดีกว่า........... ลางานกลับบ้านทั้งที หลับดีกว่า กว่าจะถึงบ้าน คงหลับได้เต็มที่ นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้หลับเต็มอิ่ม ........................................... . ผ้าเย็นคะ เสียงนี้ปลุกขึ้นมา ตอนเช้า แสดงว่าใกล้ถึงบ้านแล้วสิ ผมคงได้กลับไปเจอเธอเสียที เห็นหลังคาบ้านเธอมาแต่ไกล รู้สึกทรุดโทรมลงไปมาก ตั้งแต่ที่เห็นครั้งสุดท้าย นานมาแล้ว ทำไมผมไม่รู้สึกปวดหัวหนึบเลย ตั้งแต่ลางานมา บ้านปิดเงียบเชียบ ไม่มีใครอยู่ คงออกไปใหนละมั๊ง รออีกสักพักคงมา นั่งรอตรงแคร่ รู้สึกไม้ไผ่กรอบแกรบยังไงไม่รู้ คงไม่ค่อยมีใครดูแลให้ดีเท่าไหร่ นั่น มีคนเดินมาแต่ไกล น้ามีที่อยู่ข้างบ้านเธอนั่นเอง . . กระเป่าหล่นตุบ !!! น้ำตาร่วงมาไม่ขาดสาย น้าโทรฯ จากตู้สาธารณะไปวันก่อน จากเบอร์เอ็งทีแม่แกวานให้น้าโทรไปหา เหมือนครั้งก่อนๆ โทรไปหลายครั้ง แต่เอ็งไม่ได้รับสาย คงยุ่งอยู่ละสิ ไม่งั้นเอ็งคงกลับมาได้เร็วกว่านี้ แกล้มตอนลุกมาเข้าห้องน้ำกลางคืน กว่าจะมีใครรู้ก็เช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากแกเสียไปแล้ว ผมเหลือบไปมองตู้โทรศัพท์ริมถนนใหญ่ เห็นเป็นกล่องเล็กเพราะอยู่ไกลลิบเป็นตู้สาธารณะที่ใกล้บ้านที่สุด บ้าน ที่ผมเคยเรียกมันว่าปลัก และพยายามลืมๆไป ว่าเคยคลุกดินคลุกเลนตอนเด็ก ทำไม ตอนนั้น ผมถึงไม่รับสาย แม่แกบ่นถึงเอ็งตลอดเลย ว่าอีกหน่อย เอ็งคงมีงานมีการ มีหน้ามีตา แล้วว่างๆจากงาน เอ็งก็คงมาเยี่ยมแก ผมเคยตามเธอไป ทำไร่ไถนา ในทุ่ง แต่คงไม่มีอีกแล้ว รู้สึกเค็มปร่า กับน้ำที่ไหลเข้าตามริมฝีปาก ตอนนี้ผมไม่ต้องคลุกเลน เล่นปลักควายอีกแล้ว แต่ผมยังคงจมกับปลักในใจ ที่ทำยังไงก็คงแก้ไขไม่ได้อีกแล้ว อาการปวดหัวหนึบ กลับมาอีกแล้ว............................
10 มกราคม 2549 21:40 น. - comment id 88950
อ่านเรื่องนี้แล้วอยากร้องไห้ค่ะ มีบางสิ่งทำให้จุกที่คอหอยจนตีบตันแล้วค่ะ
11 มกราคม 2549 23:27 น. - comment id 88957
พี่พุดมาอ่านอีกรอบค่ะ หลังจากแนะนำใครบางคน ให้ มาตามอ่านผลงานงาม พร้อมมาฝากเพลง ที่มีค่าคำล้ำล้นในดวงใจค่ะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/song162.htmlกลิ่นโคลนสาบควาย มนูญ เทพประทาน อย่าดูหมิ่น ชาวนาเหมือนดั่งตาสี เอาผืนนาเป็นที่ พำนักพักพิงร่างกาย ชี วิตเอย ไม่เคยสบาย ฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย ไล่ควายไถนาป่าดอน เหงื่อรินหยด หลั่งลงรดแผ่นดินไทย จนผิวดำเกรียมไหม้ แดดเผามิได้อุธรณ์ เพิง พักกายมีควายเคียงนอน กลิ่นโคลนสาบ ควายเคล้าโชยอ่อน ยามนอน หลับแล้วใฝ่ฝัน กลิ่นโคลนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาว แห่งชาวบ้านนา ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์ หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวัน กลิ่น กระแจะจันทร์ หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา อย่าดูถูก ชาวนาเห็นว่าอับเฉา มือถือเคียวชันเข่า เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา ชี วิตคนนั้นมีราคา ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา บูชา กลิ่นโคลนสาบควาย อย่าดูถูก ชาวนาเห็นว่าอับเฉา มือถือเคียวชันเข่า เกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา ชี วิตคนนั้นมีราคา ต่างกันแต่ชีวิตชาวนา บูชา กลิ่นโคลนสาบควาย...
11 มกราคม 2549 23:30 น. - comment id 88958
ฝากเรื่องนี้ให้อ่านนะคะ http://www.thaipoem.com/forever/ipage/poem80597.html ชื่อเรือนบัวค่ะ จากหลายร้อยเรื่องรจนาค่ะ ด้วยรัก
13 มกราคม 2549 19:12 น. - comment id 88991
แต่ได้ดีแล้วหละ แต่บรรยากาศท้องนาและชนบทมันสวยงามเยอะ น่าจะนำมาผู้เรื่องบ้างน่าจะดี ลองๆๆไปเรื่อยๆ หละ ชเอว่านายทำได้