โดน..
กุ้งหนามแดง
สินิทรา...เพื่อนรัก..
เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วตั้งแต่จบมอหก เอ็งจำได้ไหม น่าจะจำได้น่ะ มันเป็นเรื่องของเอ็งกับข้า..(หวังว่าคงชินน่ะ ขอเรียกสรรพนามอย่างเดิม มันได้อารมณ์ดี..)
ย้อนไปปี 25xx..
เหตุเกิดในห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ในชั่วโมงหนึ่งของการสอน อาจารย์ประจำวิชาเข้ามาด้วยมาดนุ่มเช่นเคย ด้วยชุดกากีสีซีดจางที่เห็นจนชินตา.. เริ่มต้นด้วยการรับการคารวะจากนักเรียน (พวกเราไง) นักเรียนเคารพ ไอ้ปอหัวหน้าชั้นพูดเสียงดัง พวกผู้หญิงนั่งไหว้อยู่ที่โต๊ะ ส่วนผู้ชายยืนคำนับ พร้อมกล่าวคำ สวัสดีครับ/ สวัสดีค่ะ คุณครู ...เป็นเสียงเดียวกัน..
อาจารย์คำนับตอบ แล้วเริ่มการสอนด้วยการเขียนกระดานดำ นำเรื่องการทดลองของวันนั้น บรรยายวัตถุประสงค์พร้อมทั้งแนะนำอุปกรณ์ที่ต้องใช้...ว่ามีอะไรบ้าง เท่าที่จำได้น่ะ..มีปรอทวัดอุณหภูมิ ตะเกียงแอลกอฮอล์ ขาตั้งหนีบหลอดทดลอง หลอดแก้วฯ ในห้องเรียนจัดโต๊ะชนกัน โดยให้พวกเราหันหน้าเข้าหากัน (อิอิ เหมือนโฆษณาเบียร์ตอนนี้เลยว่ะ..) แบ่งได้ ทั้งหมดหกกลุ่ม ส่วนอุปกรณ์อยู่ในตู้ ยังไม่ได้นำออกมาเลย ซึ่งเป็นปกติทุกครั้ง อาจารย์ ต้องนำเรื่องก่อนแล้วจึงจัดอุปกรณ์ทีหลัง ..(นับว่าโชคดีอีกหนึ่งเอ็งว่าไม๊....ยังนึกไม่ออกละสิ ปูนนี้แล้วข้าไม่โทษเอ็ง...ข้าก็เป็น..)
ก่อนที่อาจารย์ตาหวาน (ฉายานี้ไม่รู้ใครตั้งให้ว่ะ.. จำไม่ได้) จะกล่าวอะไรต่อ ตอนนั้นเราสองคนคุยจ๊อกแจ๊กเพราะติดพันไง ก่อนที่ตาหวานจะเข้ามา มันเป็นเรื่องกีฬาสีเดือนหน้า ซึ่งต้องทำให้ดีที่สุด เอ็งเป็นประธานสีตองอ่อน จะต้องรับผิดชอบหลายอย่างอยู่ทั้งทำหมวกทำพู่ ทำอัฒจรรย์ไม้ไผ่ อย่างพี่หวัน (ประธานคนเก่า) ทำเมื่อปีที่แล้ว ต่อน่ะ..จัดหานักกีฬา จำได้เอ็งชวนข้า เดินไปจิกตามห้องเลย...แต่เอ็งไม่ค่อยเลือกเวลาคุยเลยผ่าเถอะ.. (ขอตำหนิเอ็งนิดนึง อย่าโกรธกันน่ะ) อาจารย์ชำเลืองมองหลายครั้งเหมือนเป็นการตักเตือน เราสองคนก็ยังไม่หยุด ตาหวานฯ แกก็พูดไปเรื่อยๆ เหมือนไม่สนใจเรา แกเดินไปที่แปรงลบกระดาน บรรจงลบเนื้อหาที่แกเขียนไว้เต็มไปหมด อย่างใจเย็น เมื่อเห็นว่าลบไม่ค่อยจะออก เพราะแปรงเกาะชอล์กเต็มที่แล้ว แกก็เคาะสักที โป๊ก โป๊ก ฝุ่นร่วงกราว...แกเอามือปิดจมูกด้วยน่ะ
ฉับพลัน โดยไม่มีใครคาดคิด แกหันกลับมาที่เป้าหมาย ก็จะใครซะอีกล่ะ เราสองคนน่ะสิ ว่าแล้ว แกก็ เขวี้ยงหรือขว้างดี? ..แปรงมาที่กลุ่มเรา..แปรงสัมผัสกับพื้นโต๊ะดังโป๊ก ข้า ไม่มีใครทันสังเกตว่าส่วนไหนลงก่อน ควันสีขาวกระจายฝุ่นคลุ้ง ก่อนที่แปรงกันนั้นจะกระดอนลงพื้นแล้วม้วนตัวอีกหลายตลบ ทุกคนในห้องมองมาเป็นจุดเดียวกัน สลับกับมองหน้าตาหวานว่าจะทำอะไร เพิ่มเติมอีกไหม เช่นด่าประกอบ แต่แกไม่ยักกะทำ เอ็งกับข้าหยุดพฤติกรรมจ้อทันที สำรวจร่างกายว่ามีอะไรบกพร่องไหม.....ไอ้หมึกหยิบแปรงลบกระดานเก็บเข้าที่ ไม่กล้าสบตาแก ไอ้ ..(ใครว๊า ผมบ๊อบนึกก่อน ที่เรียบร้อยๆ น่ะ )ไปหยิบผ้าขี้ริ้วที่ตากอยู่ข้างอ่างล้างอุปกรณ์มาช่วยกันเช็ดที่โต๊ะและพื้น ที่แปรงนั้นแสดงแสนยานุภาพ ต่างก้มหน้าก้มตาเงียบ...แกก็ไม่ว่าอะไร เหมือนว่าไม่เคยเกิดเหตุการณ์ใดๆ ยังคงสอนจนจบ ในขณะที่ใจของพวกเราตุ๊มๆ ต๋อมๆ..จนหมดคาบเรียน..
- พวกเราไม่โทษตาหวาน...ที่อารมณ์ไม่หวานเหมือนดวงตา..
- พวกเราไม่โทษกันและกัน...ข้าเห็นใจเอ็งว่ะ ต้องรับผิดชอบเยอะแยะ ใน สถานการณ์อย่างนั้น..ข้าคงลืมเรื่องเวลาเหมือนกัน..เอ็งก็อยากทำให้ดีที่สุดทุกหน้าที่ที่รับผิดชอบ นี่ข้ายังนึกไม่ออกเลยว่าตอนนั้นเอ็งเอาเวลาตอนไหนไปอ่านหนังสือ เอ็นทรานซ์..
- พวกเราจำได้ถึงทุกวันนี้...ว่าครั้งหนึ่งเราเคยเจอแปรงลบกระดานบินได้.. Amazing (ตอนนั้นใช้ คำว่า หยองว่ะ) วันก่อนข้าเจอไอ้แป๋ว ถามมันมันบอกว่าติดตาว่ะ..
- โชคดีที่ไม่มีใครต้องไปห้องพยาบาลในวันนั้น....เนอะ มหาโชคเลยเอ็งว่าไม๊ ที่ตาหวานแกไม่ขว้างตอนจุดตะเกียงแล้ว..ไม่งั้นเรื่องยาว..
- โชคดีที่ไอ้หมึก มันไม่เป็นหิด จากเหตุที่มันเป็นคนเอาแปรงลบกระดานไปเก็บ..ข้าฯ นับถือมันจริงๆ ..
- โชคดีที่ไอ้แป๋ว (นึกได้แล้ว...:) ) มันเคลียร์พื้นที่ก่อนที่พวกเราบางส่วนจะไปย่ำให้มันเลอะห้อง มันจะเดือดร้อนถึงไอ้พวกทำเวรตอนเย็น...ซึ่งเราก็คงต้องไปช่วยเหลือมันอยู่ดี.. แต่ตอนหลังมันมาขอสบู่จากข้า ข้าเลยสละให้มันไป (ก็ไอ้ก้อนที่เราเอามาล้างหน้ารักษาสิวกันไง..) มันบอกว่าเอาไปล้างมือกับไอ้หมึก..(อ้อ! เหตุนี้เอง ไอ้หมึกมันเลยไม่เป็นหิดด้วยกัน.. ไอ้ข้าก็ลืมไป..ไม่รู้เอ็งรู้หรือเปล่า ข้าแอบจัดการไปว่ะ ..ไม่ได้บอกเอ็ง)
สรุปว่า ..มันอีกบทหนึ่งที่ทำให้เราจดจำได้มากกว่าน้ำเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศา ซึ่งเป็นหัวข้อที่อาจารย์เขียนบนกระดานดำตัวโต๊ โต....
ด้วยรักและคิดถึง
ปิ่น..ผู้รับฟังสิ .. ซำเหมอ..
ปล.ข้าเขียนเรื่องนี้ เพราะตอนนี้ลูกสาวข้า กำลังได้เป็นประธานสีเหมือนเอ็งว่ะ....
.....................................................................................................................
ขอเขียนเป็นกลอน..เพราะตอนนี้ข้า..ได้ข่าวว่าเอ็ง ชอบเขียนกลอน ข้าเลยลองมั่ง เผื่อมีแวว...ถ้าเอ็งเห็นว่าควรแก้ไข..แนะนำข้าด้วย เพราะข้าเพิ่งหัดเขียนว่ะ แบบนี้เขาเรียกว่ากาพย์สุรางค์นางค์ 28 ใช่หรือเปล่า ข้าเห็นชื่อมันเพราะดี เลยลองเขียน ดูให้ข้าด้วย..โทรฯ กลับมาก็ได้..
คาบวิทยาศาสตร์....ครูเดินอาดอาด....ประสาทวิชา
นักเรียนทั้งหมด....เปิดบทที่ห้า....ครูยืนอยู่หน้า....ตั้งท่าเขียนกระดาน
บททดลองนี้....จุดประสงค์มี....สี่ห้าข้ออ่าน
นักเรียนแบ่งกลุ่ม....สาวหนุ่มแตกพาน....ปฏิบัติการ....ทดสอบความร้อน
เราสองจุ๊กจิ๊ก....กระดุกกระดิก....ยุ๊กยิ๊กครูค้อน
พูดคุยไม่ฟัง....ครูยังเฉยก่อน....ตั้งใจจะสอน....ตอนต้นชั่วโมง
ครูหันหลังให้....ลบเพื่อเขียนใหม่....พูดไปผูกโยง
เคาะแปรงเบาเบา....ฝุ่นเก่าหลุดโล่ง....ในใจลุกโพลง....เด็กโกงลองดี
จำต้องลงโทษ....หรือครูจะโกรธ....ประโยชน์คงมี
ขว้างแปรงสั่งสอน....หยุดก่อนพาที....นับว่าโชคดี...ไม่มีอันตราย
ทิ้งรอยฝุ่นเขรอะ....พื้นห้องเปื้อนเปรอะ....เลอะเทอะฝุ่นขยาย
หยุดพฤติกรรม....สุดช้ำอับอาย....เพื่อนไม่ดูดาย....คลี่คลายเกื้อกูล
ตราไว้อีกบท....ดังเกิดสดสด....มิลดฤาสูญ
จุดเดือดของครู....เรียนรู้เพิ่มพูน....จำได้สมบูรณ์...ยิ่งกว่าทฤษฏี
..