ตลอดช่วงสามสัปดาห์ต่อมา ก้านเทียวไปเทียวมารับส่งต๋าทุกวัน บางวันหลังเลิกเรียน เราไปนั่งคุยกันในร้านไอศรีมปากซอย วันแรก ๆ ต๋าเขินกับสายตาคนอื่น ๆ แต่วันต่อมา ต๋าพยายามใส่ใจกับคนตรงหน้ามากขึ้น จนกระทั่งไม่แคร์อีกต่อไปว่าใครจะมองมา ในสายตาต๋า ก้านดูดีไปหมด ทั้ง ๆ ที่อยู่ในเครื่องแบบนักเรียน ต๋าฝันไกลไปถึงวันข้างหน้า ถ้าก้านยังคงดีต่อต๋าอย่างนี้ ต๋าคงมีความสุข ในยามค่ำคืน ต๋าเคยใช้เวลาก่อนนอนทบทวนการเรียน แต่มาวันนี้ ต๋าไม่มีจิตใจกับตำราเอาเสียเลย ต๋าเฝ้าคิดถึงเขา เขียนข้อความมากมายถึงเขา ต๋าสรุปเอาเองว่า เขาชอบต๋าและไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต๋าชอบเขามากแค่ไหน วันสอบก็ใกล้เข้ามาแล้ว แต่ต๋ายังผลัดวันประกันพรุ่งกับการทบทวนวิชาเรียน ต๋ามั่นใจว่าตัวเองไม่มีวันพลาด แม้บางขณะ ต๋าชักใจไม่ดีที่ทำการบ้านได้ไม่ถูกกต้องครบถ้วนอย่างเคย แต่เมื่อนึกถึงก้าน ความหวาดหวั่นต่าง ๆ ก็หายไป ก้านบอกต๋าว่า เขาจะชวนต๋าไปงานที่โรงเรียนของเขา ก่อนสอบตั้งสองอาทิตย์ ต๋ายังมีเวลาดูหนังสือทัน ตอนนี้ ต๋าคิดแต่ว่า ต๋าจะทำตัวอย่างไรเมื่อไปงานโรงเรียนก้าน เพื่อน ๆ ของก้านจะดีกับต๋าไหม พวกเขาจะวิจารณ์ต๋าอย่างไรบ้าง ต๋าว้าวุ่นใจจนทำอะไรไม่ถูกจริง ๆ งานที่โรงเรียนก้านจัดขึ้นในวันเสาร์ ต๋าพยายามเลือกเสื้อผ้าที่จะทำให้ตัวเองน่ารักที่สุด แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร ต๋าก็ยังเป็นต๋า ยังดูอ้วน ดูตลกอยู่อย่างเดิม ต๋าปลอบใจตัวเองว่า ก้านคงไม่คิดมากเรื่องนี้ ไม่งั้น เขาจะมาตามต๋าต๋าอยู่ทำไมตั้งนานสองนาน ก้านมารับต๋าตรงเวลา เขาแตะแขนต๋า ส่งยิ้มให้ตอนเจอหน้ากัน "ต๋าดูแปลกตานะ เวลาไม่ได้แต่งชุดนักเรียน น่ารักดี" ต๋าหน้าร้อนวูบ แต่ก็ดีใจที่ไม่ได้เสียเวลาเปล่าในการเลือกเสื้อผ้ามาตั้งแต่เมื่อคืน ระหว่างทาง ก้านบอกต๋าว่าพอถึงงาน ก้านอยากจะขออะไรต๋าสักอย่าง และจะไม่ยอมให้ต๋าปฏิเสธด้วย ต๋ารับปากเขา ใจเต้นตึกตักไปตลอดทาง เขาจะขออะไร ต๋าได้แต่เดาไปเรื่อย คิดถึงภาพในหนังตอนพระเอกขอความรักนางเอกอะไรทำนองนั้น ต๋าเพิ่งรู้ว่า ก้านจะเล่นดนตรีในงานนี้ด้วย เขาพาต๋าไปหลังเวที แนะนำให้รู้จักเพื่อนร่วมวงของเขา ทุกคนยิ้มแย้มทักทายต๋า แต่มีอะไรบางอย่างที่ต๋าบอกไม่ถูกในท่าทางของพวกเขา ต๋านั่งอยู่ท่ามกลางกองสัมภาระหลังเวที ในขณะที่ก้านกับเพื่อน ๆเตรียมขนเครื่องดนตรีออกไปหน้าเวที เมื่อจัดทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก้านเดินมาหาต๋า "จำได้มั้ยที่ผมบอกจะขออะไรสักอย่างน่ะ" ต๋าพยักหน้า ใจเต้นแรง "ผมขอให้ต๋าช่วยร้องเพลงในงานนี้หน่อย ผมส่งเทปเดโมดนตรีไปให้ค่ายเทป เขาจะมาดูของจริง แต่เขาขอให้มีคนร้องด้วย" ใจต๋าแฟบไปทันที เรื่องแค่นี้เอง ทำไมก้านต้องทำงุบงิบด้วยก็ไม่รู้ ร้องก็ร้องกันซี เรื่องเล็กจะตาย มาทำให้ต๋าหวั่นไหวอยู่ได้ ต๋าตอบรับ ก้านดูดีใจมาก เขาจับมือต๋าเขย่า แล้วพึมพำขอบคุณ แปลกจริงก้านนี่ ต๋าไม่ได้ทำให้ผู้ชมผิดหวังกับเสียงเพลงในวันนั้นเลย และโดยเฉพาะกับก้านและเพื่อน ๆ การแสดงในวันนั้นสมบูรณ์แบบ ทั้ง ๆ ที่ต๋าไม่ได้ซ้อมเพลงร่วมกับวงมาก่อนเลย พวกเขาเลือกเพลงที่ต๋าร้องประจำในงานต่าง ๆ มาเล่น ทุกอย่างจึงจบลงด้วยเสียงปรบมือกระหึ่มห้องประชุม ต๋าเห็นก้านจับมือกับตัวแทนค่ายเทปที่หน้าเวทีหลังการแสดง ต๋าดีใจที่ทำให้ก้านมีความสุข ตั้งแต่นี้ ก้านคงจะดีกับต๋ามากขึ้น ต๋าเลี่ยงไปหลังเวทีเพื่อล้างหน้าให้สดชื่น ต๋าอยากดูดีเวลาอยู่กับก้านท่ามกลางคนอื่น ขณะที่ล้างหน้าตรงอ่างล้างหน้าด้านหลังเวทีซึ่งมีฉากกั้นสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า ต๋าได้ยินเสียงใครคุยกันแว่ว ๆ อีกด้านของฉากกั้น "ตกลงค่ายเทปเขาสนใจ ไอ้ก้านมันกำลังโทรไปบอกเพ็ญ" "แล้วยายเสียงใสที่ไอ้ก้านพามาล่ะ" "เฮ้ย นั่นมันตามจีบมาเพื่อร้องเพลงในงานนี้ เพ็ญมันกล่องเสียงอักเสบ ร้องไม่ได้ เลยแนะนำว่า ต้องได้ยายต๋านี่แหละ เลิศที่สุดเรื่องร้องเพลง เสียดายว่ะ หน้าตาสวย หุ่นดีเสียหน่อย เป็นนักร้องอาชีพสบาย" "อย่างนี้ ถ้าหลับตาฟัง คงเยี่ยม " "เออ พอดีไอ้ก้านมันไม่ได้ตาบอด มันบอกหมดงานนี้ คงโล่งอกเสียที หมดพลังไปเยอะ เพ็ญมันบอกว่า ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ไม่มีทางพามาได้แน่ งานหน้า เจ้าเก่าหายป่วยกลับมาร้องได้ ก็หมดปัญหาละ" คำพูดนั้นไม่ดังนัก แต่มันดังพอที่จะทำให้ต๋าตาสว่าง หัวใจวูบ ตารื้น ๆ แล้วตามมาด้วยความอับอาย ต๋าหน้าชา จนไม่รู้ว่าตัวเองควรออกไปเผชิญหน้าสองคนนั่นหรือเปล่า ความจริงกระจ่างกลางใจ เพื่อนทรยศคนหนึ่งกับผู้ชายคนหนึ่ง ต๋าบอกตัวเองว่าต้องสงบใจไว้ ต๋าจะทำเรื่องอับอายในที่สาธารณะอย่างนี้ไม่ได้ ต๋าออกมาจากฉากกั้น เดินผ่านเพื่อนของก้านไปโดยไม่ทักทาย คว้ากระเป๋า ลงจากเวที เหลือบเห็นก้านกำลังพูดโทรศัพท์ เขาโบกมือให้ แต่ต๋าหันหนี ต๋าเดินช้า ๆ กลับบ้าน ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย มีแต่น้ำตารื้น ๆ แต่หัวใจต๋าเจ็บช้ำ ไม่ได้หวังแล้วว่าจะมีเสียงใครเรียกมาจากด้านหลัง "หมดงานนี้ คงโล่งอกไปที" ต๋าทำให้ก้านหนักใจมากขนาดนั้นเชียวหรือ เพิ่งจะรู้ตัวเดี๋ยวนี้เองว่าช่างไร้เดียงสา อ่อนโลกอะไรปานนั้น ออกจะเรียนเก่ง รู้เรื่องทั่วโลกมากมาย แต่กับเรื่องแค่นี้ ทำไมไม่เข้าใจ ทำไมโง่นัก ต๋าไม่เคยระแคะระคายเลยกับการที่ก้านปฏิเสธจะเข้าบ้านต๋า ทั้ง ๆ ที่ต๋าพยายามชวน เพราะแม่คงไม่ปฏิเสธที่จะต้อนรับหนุ่มน้อยสักคนที่สนใจต๋า คืนนั้น ต๋าร้องไห้ ร้องให้มันสะใจกับความโง่ของตัวเอง ต๋าจะไม่เป็นอย่างนี้อีก ต๋าย้ำกับตัวเองเป็นร้อย ๆ ครั้ง ฉีกข้อความบ้า ๆ ที่เขียนถึงก้านเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ต๋ามีสิทธิ์ที่จะโกรธเกลียดเขา ต๋าอยากจะด่าเขา อยากจะทำอะไรก็ได้ที่สามารถลบความรู้สึกสูญเสียในครั้งนี้ได้ แต๋ต๋าคงไม่กล้าหาญขนาดนั้น คงทำได้เพียงจำไว้เป็นบทเรียน ต๋าเปิดกระเป๋า หยิบหนังสือเรียนมาวางตรงหน้า แล้วอ่านผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้รับรู้ข้อความใด ๆ อีกไม่กี่วันจะสอบ ถ้าต๋าสอบตก ใคร ๆ ที่รู้เรื่องของก้าน ใคร ๆ ที่เคยอิจฉาต๋า และแม้แต่ตัวก้านเอง คงจะหัวเราะเยาะต๋า อาจารย์จะไม่เชื่อถือต๋าอีกต่อไป ต๋าจะยอมให้ตัวเองสูญเสียมากไปกว่านี้ไม่ได้ ต๋าปิดหนังสือ แล้วลงมือร่างตารางการดูหนังสือ ต๋าจะต้องเพิ่มเวลาในช่วงกลางคืนให้มากกว่าเดิม น้ำตายังไม่เหือดแห้ง แม้จะเพียรเช็ดแล้วเช็ดอีก มันยังรินออกมา ในขณะที่หัวใจยังเจ็บ หน้ายังร้อนเพราะคำพูดที่ได้ยินที่หลังฉากวันนี้ ต๋าสาบานกับตัวเองว่า จะร้องไห้เพียงคืนนี้เท่านั้น พรุ่งนี้ ต๋าจะเริ่มดูหนังสือตามตารางที่กำลังเขียนอยู่ ตั้งแต่นี้ จะมีแต่ตำราเรียนเท่านั้นที่ต๋าจะหยิบออกมาดูมาท่อง หรือหยิบยื่นให้คนอื่น แต่หัวใจของต๋า ต๋าจะเก็บมันไว้ในซอกลึกที่สุดของกระเป๋า และจะไม่มีวันหยิบออกมา เพื่อเปิดโอกาสให้ใครมาทำให้ต๋าต้องมีสภาพอย่างวันนี้ นาทีนี้ อีกเป็นอันขาด จบแล้วจ้ะ
8 ตุลาคม 2548 10:12 น. - comment id 87148
งานที่โรงเรียนก้านจัดขึ้นในวันเสาร์ ต๋าพยายามเลือกเสื้อผ้าที่จะทำให้ตัวเองน่ารักที่สุด แต่ไม่ว่าจะแต่งตัวอย่างไร ต๋าก็ยังเป็นต๋า ยังดูอ้วน ดูตลกอยู่อย่างเดิม ต๋าปลอบใจตัวเองว่า ก้านคงไม่คิดมากเรื่องนี้ กานต์อยากร้องไห้จังเลยค่ะพี่จิ๋งจ๋า สงสารต๋า สงสารตัวเอง ถึงเวลาต้องเก็บหัวใจใส่กระเป๋าเหมือนต๋าแล้วมั้งคะ คิดถึงค่ะ
8 ตุลาคม 2548 10:35 น. - comment id 87151
น้องกานต์จ๋า ถ้าทุกคนในโลก ดูกันแค่เปลือกนอก โลกนี้คงไม่มีมนุษย์เหลืออยู่สักคน คนสองคนที่เกิดมาเพื่ออยู่ร่วมกันมิใช่ดูกันแค่ภายนอก แต่มีอะไรมากมายที่ทำให้เราเป็นสุขและเขาเป็นสุข เมื่ออยู่ใกล้กัน เชื่อพี่ไม๊ น้องกานต์เป็นคนอบอุ่น ช่างบริการ น่ารักนักในสายตาพี่ และคงสักวัน จะมีใครที่เขามีด้ายสีแดงผูกอยู่ที่นิ้วก้อยที่ปลายเชือกอีกด้านอยู่ที่นิ้วก้อยน้องกานต์ ดีใจที่มาอ่านจ้ะ
8 ตุลาคม 2548 10:49 น. - comment id 87153
ใจร้ายจัง ... ใจร้ายที่สุดในโลก ... ไม่สนใจความรู้สึกคนอื่นเลยอ่ะ ... ทำได้ไงฟะ ..... ... อ่านแล้วสงสารนางเอกในเรื่องจังค่ะแม่ ... เฮ่อ .....
8 ตุลาคม 2548 11:09 น. - comment id 87156
ตามมาอ่านตอนจบค่ะ ..... ต๋าอกหักยังไม่พอ ยังทำร้ายหัวใจคนอ่านด้วยอ่ะ ..ใจร้ายจัง... ...ชื่นชมค่ะ...
8 ตุลาคม 2548 14:14 น. - comment id 87159
พุดเคยชินกับการ เป็นกระโถนค่ะ สำหรับบางคนอิอิ และ มาตามติดค่ะ ที่จบได้ประทับใจพุดเหลือแสนค่ะ ................. ต๋าสาบานกับตัวเองว่า จะร้องไห้เพียงคืนนี้เท่านั้น พรุ่งนี้ ต๋าจะเริ่มดูหนังสือตามตารางที่กำลังเขียนอยู่ ตั้งแต่นี้ จะมีแต่ตำราเรียนเท่านั้นที่ต๋าจะหยิบออกมาดูมาท่อง หรือหยิบยื่นให้คนอื่น แต่หัวใจของต๋า ต๋าจะเก็บมันไว้ในซอกลึกที่สุดของกระเป๋า และจะไม่มีวันหยิบออกมา เพื่อเปิดโอกาสให้ใครมาทำให้ต๋าต้องมีสภาพอย่างวันนี้ นาทีนี้ อีกเป็นอันขาด .... เขียนอีกนคะ รักมากค่ะ
8 ตุลาคม 2548 14:47 น. - comment id 87161
หนูมองเห็นความรักฉาบฉวยที่มันเกิดเกลื่อนอยู่ตอนนี้ จนไม่รู้ว่า รักจริงๆ มันคืออะไร มาอ่านตอนจบนะคะ
9 ตุลาคม 2548 01:24 น. - comment id 87165
.. เรื่องใสวัยสะออน .. .. ..
10 ตุลาคม 2548 17:52 น. - comment id 87191
ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ ว่าง ๆ จะมาละเลงให้อ่านกันอีก
11 ตุลาคม 2548 12:34 น. - comment id 87215
เก็บใจไว้ในลิ้นชักให้ดีนะ อย่าให้ใครเอาไปโยนเล่นอีกล่ะ