Butterfly

k_b13029

เรื่องมานก็มีอยู่ว่า... แกลอรี่เล็กๆ ถูกตกแต่งอย่างน่ารักและดูอบอุ่น ชายหนุ่มวัยทำงานหยุดมองภาพเขียนสีน้ำที่คล้ายกับจิตรกรไม่เต็มใจวาดนัก เพียงแต่ตวัดปลายพู่กันเป็นลายเส้นให้สีแตกกระจายทว่ากลับทำให้นางพญาผีเสื้อปีกบางใหญ่ สีสวยในภาพดูมีชีวิตชีวาราวกับจะบินได้อย่างนั้นแหละ
	ชายคนเดิมชะงัก คล้ายคิดอะไรขึ้นมาได้ นึกสงสัยว่า ทำไมรูปที่เห็นนี้จึงได้สะดุดใจนัก
	ลิน
	วริศร์อุทานเบาๆ ผู้หญิงคนนี้เองที่ทำให้เขาสะดุ้งกับรูปนี้ เธอเคยยื่นกระดาษสีหวานรูปผีเสื้อแผ่นหนึ่งให้ในตอนเย็นวันหนึ่งหลังจากที่กลับจากดูหนัง และบอกขอให้กลับไปอ่านที่บ้าน เธอไม่ว่าอะไรพยักหน้ารับโบกมือบ๊ายบายแล้วเข้าบ้านไป
	วริศร์มองดูรูปนั้นอีก เขายังจำข้อความบนกระดาษแผ่นนั้นได้ดีทีเดียว ข้อความที่ว่า
		ไม่เคยมองเห็นกัน ไม่เคยมีใจให้
		เพราะฉันไม่ใช่ใครที่เธอควรคู่
		แค่หนอนตัวเล็กไม่น่าดู
		ผีเสื้อตัวผู้ไม่เคยสนใจ
		วันนี้มีปีกใสกางบ้าง
		หนอนข้างทางกลายเป็นผีเสื้อตัวใหม่
		เธอกลับมาดูว่าสวย ชื่นชมกว่าใคร
		อยากได้ไปบินคู่เคียงกัน
	บอกไม่ถูกเลยว่า ผมควรจะรู้สึกอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้เธอต้องการตัดพ้อผม ตัดพ้อเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา เด็กหนุ่มคิดถึงอารมณ์ตัวเองตอนที่อ่านข้อความจบ
	แปลกแฮะ แค่เห็นภาพเขียนนี้ก็หวนคิดถึงวันเก่าได้เป็นเรื่องเป็นราว วริศร์พึมพำกับตัวเอง
	ที่จริง เรื่องมันคงจะจบลงด้วยความสุขไปนานแล้ว ถ้าเขาเปิดใจให้โอกาสตั้งแต่แรก แต่นั่นก็อาจไม่ได้ทำให้เขารู้จักความต่างของคนที่เรารักกับคนที่รักเรา
	ลลินเป็นสาวมั่นคนหนึ่ง แม้ว่าจะน่ารักในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดีอย่างเขาแล้ว เธอก็แค่ผู้หญิงที่ธรรมดามากๆคนหนึ่ง ไม่มีอะไรน่าสนใจ เว้นซะแต่ว่ามั่นใจ กล้าแสดงออกที่ทำให้เขาได้เห็นเธอได้บ่อยๆ
	วริศร์ เป็นแฟนลิน
	เธอมักจะแนะนำเขากับใครๆแบบนี้ หรืออะไรทำนองนี้เสมอๆ แน่ล่ะว่าชายผู้เป็นเจ้าของความเสียหายย่อมรู้สึกไม่พอใจเท่าไหร่ แต่ก็ต้องยิ้มแสดงท่าทีว่าสนุกไปกับเรื่องที่เธอพูด เพื่อให้หล่อนไม่หน้าแตก เป็นการรักษาน้ำใจ
	ลลินเริ่มก้าวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเด็กหนุ่มมากขึ้นทุกวันๆ เธอมีความสามารถในการติดตามใครสักคนได้ดีอย่างเหลือเชื่อ หากแต่ว่าเขาไม่ต้องการ วริศร์มีผู้หญิงที่เขาหมายปองไว้อยู่แล้ว ข้อนี้ลลินเองก็รู้ดี
	ครั้งหนึ่งเพื่อนสนิทของเขาเคยเซ้าซี้ถามเรื่องความรู้สึกที่มีต่อลลิน เขาปฏิเสธและยืนยันว่าลลินไม่ใช่เสป็ค ผู้หญิงตัวเล็ก หน้าสวย เรียบร้อยคนนั้นต่างหาก ที่เขาอยากคบด้วย เพื่อนคนเดิมขอจีบลลิน โดยให้วริศร์เป็นพ่อสื่อช่วยอีกแรง เด็กหนุ่มไม่ขัดข้อง ดีเหมือนกัน บางทีถ้าเจ้าเพื่อนรักนี่จีบติด เจ้าหล่อนจะได้เลิกยุ่งกับชีวิตเขาสักที
	ต่อมาเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการนัดเจอระหว่างเขากับเธอ งานไหนงานนั้นจะต้องมีชานนท์ติดสอยห้อยตามไปเป็นก้างขวางคอด้วยเสมอ วริศร์รู้สึกได้ถึงความขัดเคืองใจที่ลลินมีต่อเขา และชานนท์ แต่ช่างเถอะ ทุกอย่างมันเป็นไปตามทางที่มันควรจะเป็นอยู่แล้วและตอนนั้นเขาก็มีหน้าที่เชียร์เพื่อน
	ลลินตัดบทปฏิเสธชานนท์ในคืนหนึ่งที่เขาถือวิสาสะโทรมาหาเธอที่บ้าน
	วริศร์มันไม่เห็นเธอในสายตาหรอกนะ ดื้อไปก็เปล่าประโยชน์
	เราไม่สนหรอก ถ้าเราไม่ได้ คนอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน น้ำเสียงเชิดหยิ่ง มั่นใจเกินไปอย่างนี้ไงเล่าที่ไม่ใช่แบบที่วริศร์ชอบ เขาต่างหากที่ชอบ
	ริศร์ตกลงเป็นพ่อสื่อให้เรา
	เหมือนก้อนอะไรจุกอก ความรู้สึกวูบไป วริศร์ไม่เพียงแค่ปฏิเสธความรักที่เธอมีต่อเขา แต่เขายังผลักใสเธอไปให้คนอื่น
	นนท์ ถ้าไม่ใช่ริศร์ ลินไม่ต้องการใคร เราเป็นเพื่อนกันน่ะดีแล้ว
	ใจความสำคัญคืนนั้นมีเท่านี้ ลลิน ชานนท์ และวริศร์ ทักทายกันตามปกติ เรื่องนี้อาจบั่น
ทอนความรู้ดีๆ ลงไปบ้าง แต่ไม่ได้ทำให้เธอเลิกชอบวริศร์ เด็กสาวตั้งใจแน่วแน่ว่า จะทำให้วริศร์รู้ซึ้งให้ได้ว่าระหว่าง คนที่เรารัก กับคนที่รักเรา มันแตกต่างกัน
	เย็นวันฝนตกขณะที่วริศร์ยืนหลบฝนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ ลลินวิ่งข้ามถนนมาหลบฝนป้ายเดียวกัน เขาแกล้งทำเป็นไม่เห็น ในที่สุดลลินก็เป็นฝ่ายทักก่อน
	อ้าวริศร์ ทำไมวันนี้กลับเย็นล่ะ
	อยู่ห้องสมุดน่ะ หาหนังสือทำรายงาน
	เด็กหนุ่มสังเกตเห็นลลินเปียกฝน เขาขยับที่ให้เด็กสาวเข้ามาหลบฝน ลลินเข้ามาด้านใน วริศร์ยีผมเธอเบาๆ
	ดูซิเปียกเป็นลูกหมาตกน้ำเลย
	ปกติทั้งคู่ต้องต่อรถที่อนุสาวรีย์แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่วันนี้ฟ้าฝนดูเหมือนจะเป็นใจแกล้งให้ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน ฝนกระหน่ำตก ขืนไปยืนรอตอนนี้ก็มีแต่จะเปียกไม่เป็นท่า
	หาอะไรกินรอให้ฝนซาก่อนดีไหม วริศร์เอ่ยปาก เขาชี้ไปที่ร้านอาหารกึ่งผับใกล้ๆ ร้านกาเซ่ละกัน
	ผมเอาโฮเซ่ เควโว่
	ลลินพลิกเมนูหน้าเครื่องดื่ม โคโรน่า เอกซ์ตร้า เบียร์ละกันค่ะ
	ครู่หนึ่ง พนักงานเสิร์ฟก็นำเครื่องดื่มมาวางที่โต๊ะให้ วริศร์เอื้อมมือหยิบแก้วใบเล็ก รินเตกีล่าใส่แก้วทิ้งไว้ก่อน หันไปเลียเกลือเพื่อกระตุ้นน้ำลายให้ออกมาเจือจางเหล้า ก่อนยกดื่มรวดเดียวหมด แล้วหยิบมะนาวซีกมากัดพอเปรี้ยวคอ เพื่อลดความร้อนแรงของเหล้าตอนดื่มลงไป
	ลลินหันมาจัดการเครื่องดื่มของเธอบ้าง เธอใช้นิ้วดันมะนาวซีกที่เสียบมาบนปากขวดให้หล่นไปในขวด แล้วจับขวดคว่ำให้นิ้วโป้งอุดปากขวดไว้ แล้วกลับขึ้นโดยเร็ว อย่างชำนาญ วิธีนี้จะทำให้เบียร์ได้รสชาติมะนาวทั่วถึง ลลินกระดกดื่มจากปากขวด นี่ล่ะสไตล์การดื่มของโคโรน่า เอกซ์ตร้า ที่เธอติดใจเป็นพิเศษ นอกเหนือจากปกติที่คลั่งไคล้เบียร์เม็กซิกันอยู่แล้ว
	เด็กสาวแลบลิ้นสีชมพูเลียริมฝีปาก แล้วเม้มปาก วริศร์นั่งพิงเก้าอี้ เลิกคิ้วหลี่ตาดูลลิน รอยยิ้มน้อยๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
	สองปีมาแล้ว วริศร์พบลลินในห้องคอมฯ เขากำลังเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่คนเดียว เธอเข้ามานั่งเล่นเครื่องข้างๆ และเป็นฝ่ายเปิดฉากสนทนา
	ชื่อวริศร์ ใช่ป่ะ?
	ใช่ครับ
	ชื่อลิน เธอยกมือทาบอก แนะนำตัวเองอย่างมั่นใจ
	รู้จักเราได้ไง
	อ้าว ชอบก็ต้องสืบสิ ลินถือว่าเรารู้จักกันแล้วนะ เธอสรุปเอง หมุนเก้าอี้เอี้ยวตัวมาจ้องหน้าเด็กหนุ่ม พลางถาม ริศร์มีแฟนหรือยัง 
	ยัง
	งั้น เราเป็นแฟนกันนะ!
	เธอสรุปเอาไว้แค่นั้น ยื่นกระดาษโน้ตเล็กๆรูปตัวหนอนสีเขียว ด้านหลังเขียนอีเมลล์ของตัวเองไว้ แล้วลุกจากไป
	ตอนนี้ วริศร์มองหน้าเด็กสาวอีก ขณะที่ยกแก้วเหล้ากรอกเข้าปากรวดเดียวหมด เขานั่งพิจารณาเธอโดยไม่ให้เจ้าหล่อนรู้ตัว ผมของเธอซอยสั้นรับกับหน้า แต่สีผมออกจะทองๆ ส้มๆ นี่มันขัดตาพิกล ริมฝีปากสีชมพูสว่างด้วยลิปสติก เขาไม่ชอบผู้หญิงแต่งหน้าเอาซะเลย ผิวขาวสะอาดดี ท่าทางร่าเริงในทุกอากัปกริยา แต่ร่างอวบไปนิด ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยอย่างนี้อีกหน่อยไม่พ้นอ้วนเป็นหมูแหง ผิดกันลิบลับกับผู้หญิงที่เขากำลังตามจีบอยู่ รายนั้นบอบบาง สวยใสธรรมชาติ อ่อนโยน น่าทะนุถนอม แต่ก็ด้วยคุณสมบัติเพียบพร้อมนี่แหละ ทำให้เขามีคู่แข่งมากมาย ด้วยความที่มีอัธยาศัยดีกับทุกคน ทำให้บางทีก็เผลอคิดไปว่าหล่อนมีใจให้แล้ว ทั้งที่สิ่งดีๆ ที่เขาได้รับ คนอื่นก็ได้จากเธอด้วยเช่นกัน แท้จริงแล้วเขาก้ไม่ได้วิเศษไปกว่าคนอื่นเลย
	ริศร์เหม่อเชียว กลับกันหรือยัง ฝนหยุดตกแล้ว ลลินพูด
	แหม คืนวันศุกร์ทั้งที ว่าจะดื่มให้เต็มที่สักหน่อย ปากก็ว่าอย่างนั้น แต่ก็โบกมือเรียกพนักงานเช็คบิล
	วริศร์รอจนส่งลลินขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยขึ้นสะพานลอยข้ามไปรอรถที่ป้ายรถเมล์อีกฝั่งบ้าง
	ปิดเทอมนี้ไม่สนุกอย่างที่คิด ออกจะน่าเบื่อด้วยซ้ำ เด็กหนุ่มกลับมาช่วยงานบ้านที่ต่างจังหวัด เขามีหน้าที่คอยขับรถให้บรรดาญาติๆ เวลาที่พวกเขามีธุระ หรือต้องการเข้ากรุงเทพฯ
	คืนนี้ฝนตกหนัก วริศร์เข้าห้องนอนเร็วกว่าปกติ เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร เขานึกถึงเย็นวันฝนตกที่เข้าไปหลบฝนกับลลิน ยอมรับว่าเด็กสาวคนนี้ดูแลเขาดีทีเดียว ทำให้เขาประทับใจไม่น้อย วริศร์เดินไปหยิบลังกระดาษใบหนึ่งหลังตู้เสื้อผ้าออกมา มันเป็นกล่องใส่บรรดาจดหมายสีหวาน การ์ดน่ารัก และกระดาษโน้ตเล็กๆ มากมายที่ลลินส่งให้ไม่ขาดสาย ในกล่องใบใหญ่ยังมีของฝากกระจุกกระจิก ชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกมากมาย ที่เธอมักจะนึกถึงและซื้อมาฝากเวลาไปเที่ยวไหน ของแต่งห้องหลายชิ้นก็ล้วนแต่เธอหามาทั้งนั้น บ้างก็เป็นงานแฮนด์เมด ซื้อโน่นซื้อนี่มาให้ บ้างก็เป็นของแปลกๆที่หาซื้อตามร้าน ล้วนแต่แสดงออกถึงความเป็นคนสร้างสรรค์ เป็นตัวของตัวเองของผู้ให้
	ใช่แล้ว! เธอเป็นผู้หญิงแปลก แปลกกว่าที่ผมเคยพบมา ทั้งที่ถูกปฏิเสธอยู่เสมอเธอก็ยิ่งคงความจริงใจ หวังดี มีน้ำใจให้ตลอดมา ทำไมนะ ผมถึงไม่เปิดโอกาสให้เธอบ้าง หลังจากที่หยิบกระดาษชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่อ่านเสร็จแล้ว หย่อนกลับใส่ลังเหมือนเดิม เขาอุ้มลังไปวางไว้ที่หลังตู้ที่เดิม
	วริศร์ตัดสินใจแล้วว่า พรุ่งนี้หลังจากเสร็จธุระที่กรุงเทพฯแล้วเขาจะโทรชวนเธอไปดูหนังทันที
	.............................................
	ชายหนุ่มวัยทำงานชื่อวริศร์ จ้องดูภาพเขียนสีน้ำมันรูปผีเสื้อ ทุกสิ่งเกิดขึ้นมานานแล้ว และลลิน เด็กสาวคนนั้น ก็เพิ่งจะกลายเป็นเจ้าสาวของชายผู้โชคดีคนหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ วริศร์เองก็มีโอกาสได้ไปร่วมแสดงความยินดีกับเธอเช่นกัน
	เขาจำได้ว่าเมื่อปิดเทอมปลายภาคตอนปีสาม เขาขับรถจากบ้านต่างจังหวัดเข้ากรุงเทพฯ เพื่อทำธุระให้ป้า บ่ายๆวันนั้นเขาโทรหาเธอเพื่อดูหนัง ลลินไม่ปฏิเสธ เขาดูออกว่าเธอดีใจมากที่สุดที่เขาเป็นฝ่ายติดต่อมาหาเธอเอง และชวนเที่ยว
	พระเจ้า! ไม่เจอกันเดือนกว่า ลลินดูดีกลายเป็นคนละคน เธอผอมลงสังเกตได้ชัด เสื้อผ้าเข้ารูปที่สวมยิ่งขับให้รูปร่างดูเพรียวสมส่วน ผมซอยสั้นทรงใหม่ สีผมน้ำตาลอ่อนธรรมชาติ ดูเข้ากันได้ดีกับผิวขาวบางใส ไม่อยากเชื่อ ลลินดูน่ารักขึ้นเป็นกอง เธอยังคุยสนุกสนานร่าเริงไม่เปลี่ยน เปลี่ยนที่ความรู้สึกเขาเอง ที่คล้ายๆหัวใจจะเต้นแรง และพร้อมจะหยุดเต้นเอาทุกเมื่อ
	จากวันนั้นวริศร์กับลลินมีโอกาสไปเที่ยวกันตามลำพังอีกสองสามครั้งก่อนเปิดเทอม เธอทำให้เขารู้สึกได้ถึงความต่างว่า ความสุขที่เราได้จากคนที่เรารัก มันไม่เหมือนกันสักนิด วริศร์เริ่มดีกับลลินมากขึ้น
	กระทั่งเย็นวันหนึ่ง หลังจากที่ไปดูหนังกัน วริศร์ไปส่งลลินที่บ้าน เธอหยิบกระดาษสีหวานแผ่นหนึ่งส่งให้ ก็เพียงแค่มองว่าเป็นรูปผีเสื้อกางปีกใหญ่ มีข้อความด้านหลัง เขารับมาพับเก็บใส่กระเป๋าเสื้อขอเอากลับไปอ่านที่บ้าน เพราะกลัวจะตื่นเต้นจนเธอรู้ ลลินมองเขาด้วยสายตาชาเฉย ชินมานานกับภาพที่เขาไม่ค่อยดูจริงจังกับเธอเท่าไหร่ จึงเพียงแต่โบกมือลา แล้วเดินเข้าบ้านไป
	นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่คนทั้งสองได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง หลังจากเปิดเรียนได้ไม่นาน ลลินก็ขาดการติดต่อ ส่วนตัวเขาหลังจากอ่านจดหมายฉบับนั้น ก็ไม่กล้าคุยกับเธออีก ไม่รู้ควรวางตัวอย่างไร กระทั่งจบปีสี่ วริศร์ฝากช่อลิลลี่ไปให้ลลินตอนเธอรับปริญญา ส่วนตัวเขายังต้องเก็บรายวิชาที่ดร๊อปไว้อีกสามตัวในปีห้านี้ จึงจะรับปริญญาพร้อมรุ่นน้องในปีถัดไป
	ชายหนุ่มวัยทำงานยิ้มเมื่อนึกถึงวันที่เขารับปริญญา ลลินหอบกุหลาบขาวช่อโตมาแสดงความยินดี ไม่เจอกันปีนึง เธอยังน่ารักสดใส เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ผิดจากเดิมไปนิดตรงบุคลิกที่ดูนุ่มนวล เรียบร้อยขึ้น ลลินเล่าว่าเธอได้งานเป็นนักเขียนประจำอยู่สำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง เขาดีใจกับเธอด้วย นั่นเป็นงานที่เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว ก็ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เหรอที่ชอบเขียนโน่นเขียนนี่ให้เขาเป็นประจำ จนเขาสามารถรวบรวมใส่กล่องกระดาษโตๆได้ใบหนึ่งทีเดียว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะโชว์ฝีปาก (กา) ฝากไว้บนการ์ดเล็กๆ ที่แนบมากับช่อดอกไม้
	กุหลาบขาวช่อนี้ ผู้ชายอย่างเธอคงมองว่า สวยบริสุทธิ์ อย่างหาที่ติไม่ได้
	แต่สำหรับผู้หญิงอย่างฉัน มันจะงามยามที่เป็นดอกไม้แห้ง
	ถ้าเธอชอบความสวยของมัน ก็โยนมันทิ้งเสียเถิดเมื่อเวลาเฉามาถึง
	แต่ถ้าอยากเห็นความงามที่แท้จริง ก็จงเก็บไว้เพื่อรอเวลาได้เห็นตัวตนจริงๆของมัน
	แล้ววันหนึ่งที่ไม่คาดฝันก็มาถึง มีจดหมายจ่าหน้าซองด้วยลายมือที่คุ้นเคยส่งมาหาที่บริษัท บริษัทที่มีชื่อว่า วริศร์ เป็นเจ้าของกิจการ ลลินส่งการ์ดแต่งงานมาให้ สองอาทิตย์หลังจากนั้นเขาก็ไปร่วมงานแต่งงานของเธอ
	แน่นอนที่สุดไม่มีผู้หญิงคนไหนในงานจะสวยและน่ารักเท่ากับผู้หญิงที่สวมชุดขาว เธอเด่นที่สุดในงานด้วยชุดเจ้าสาว ผมยาวรวบสูง เหมาะเจาะกับรูปหน้ารูปไข่ ขาวผ่องงามดั่งรูปเขียน ท่าเดินสง่าราวหงส์ก็ไม่ปาน และเหนืออื่นใด ไม่มีผู้ชายคนไหนเหมาะสมที่จะเป็นเจ้าบ่าวเท่าผู้ชายคนนี้อีกแล้ว เว้นแต่ยังไม่รวมผมเท่านั้น วริศร์แอบคิดในใจ
	ผู้คนจำนวนมากเดินทอดน่องอยู่หน้างาน บ้างถ่ายรูปกับบ่าวสาว บ้างเกาะกลุ่มคุยกัน วริศร์เดินเข้าไปเซ็นชื่อที่โต๊ะลงทะเบียนหน้างาน นิ้วเรียวเล็กบาง สวมถุงมือลูกไม้ขาวสะอาดยื่นบางอย่างส่งให้
	ของชำร่วยจ้ะ เจ้าสาวพูด ดีใจมากๆที่เธอมา ถ่ายรูปด้วยกันหน่อยนะ เธอกวักมือเรียกช่างภาพ
	เจ้าบ่าวในงานในชุดสูทสีดำ เดินเข้ามาโอบเอวหล่อน
	นี่วริศร์ เป็นเพื่อนชายที่ลินประทับใจมาตลอด ตั้งแต่เข้ามหาลัยจนวันนี้ เธอแนะนำวริศร์ให้เจ้าบ่าวเธอรู้จัก ส่วนนี่ปรีดิ์ ผู้ชายที่ดีที่สุดในชีวิตของลิน เขารักทุกสิ่งที่เป็นลินไม่ว่าลินจะเป็นอย่างไร
	นี่แหละลลินตัวจริงล่ะ! คารมคมคาย แสบคันนัก ช่างภาพคนเดิมขอถ่ายรูปคนทั้งสามอีกครั้ง เจ้าสาวอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยชายหนุ่มทั้งสอง สำหรับวริศร์เขาคิดว่า ไม่มีรูปไหนในโลกสวยเท่ากับภาพแรกที่เขาถ่ายคู่กับเธอได้เลย มันช่างเป็นภาพที่ดูเหมาะสมกันราวกับกิ่งทองใบหยกมากกว่าเจ้าบ่าวซะอีก ในมือกำของชำร่วยไว้แน่น ตุ๊กตาเซรามิคตั้งโต๊ะรูปผีเสื้อ ที่มั่นใจได้ว่าเจ้าสาวเป็นคนเลือกแน่นอน
	วริศร์ยังคงจ้องภาพสีน้ำ เขาพอใจที่จะทำให้ภาพของสิ่งเล็กๆเพียงสิ่งเดียวตรงหน้านี้จุดประกายความหลังดึงลิ้นชักความทรงจำออกมา
	ป่านนี้เธอคงมีความสุขกับฮันนีมูนอยู่สินะ แม่ผีเสื้อปีกบาง
	อยากรู้นัก หล่อนจะน้ำตาคลอบ้างไหมนะ หลังจากที่เปิดกล่องของขวัญของเขาออกดู งานแฮนด์เมดชิ้นแรกในชีวิตที่สื่อความในใจทุกอย่างเกี่ยวกับเธอ กรอบรูปไม้ไผ่สองรูปสองใบ ใบหนึ่งถ่ายท่ามกลางกองจดหมายล้อมรอบด้วยของขวัญชิ้นแรกยันชิ้นสุดท้ายที่เธอให้ อีกใบเป็นรูปชายหนุ่มวัยทำงานคนเดิม อุ้มช่อกุหลาบขาวที่กลายเป็นดอกไม้แห้งไปเรียบร้อยแล้ว หลังรูปถ่ายเขียนไว้ว่า
	ผมเลือกที่จะเห็นความงามที่แท้จริงจึงเก็บไว้เพื่อรอเวลาได้เห็นตัวตนจริงๆของมัน
	น่าเสียดายที่เขารู้จักหัวใจตัวเองช้าไป แต่อย่างน้อยเขาก็เคยได้สัมผัสความรักจากคนที่เขารักและรักเขา เธอนี่ล่ะที่สอนให้เขารู้ว่าอย่ารักใครแค่เปลือกนอกที่มองเห็นว่าสวย
	ดอกไม้สวยใช่จะงามได้ตลอดไป เมื่อถึงเวลาเหี่ยวแห้ง ก็คงเหลือแต่เพียงความจริงปรากฏ ตัวหนอนยึกยือที่น่าเกลียดต่างหาก วันหนึ่งจะกลับกลายเป็นผีเสื้อตัวงาม 				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน