ฉันเป็นเพียงผู้หญิง ดิน ดิน ... ที่ถูกตัดสินให้โบยบินขึ้นฟ้า ... แต่ในสำนึกมิเคยลืมถิ่นที่มา ... สองเท้าสองขายังคงเรี่ยระติดดิน ... เขาเอาปีกมาติดที่หลังฉัน ... ผลักดันสร้างฝันให้โผผิน ... ระหกระเหินจากแผ่นพื้นผืนแผ่นดิน ... ออกโบยบินสู่เหนือพสุธา ... ปีกที่เขามอบให้ ... สีสวยใสแต่หาใช่ปีกนางฟ้า ... มันเป็นปีกคู่แข็งแกร่งแห่งปักษา ... สู้ ทน ฟัน ฝ่า ลม ฝน ... ลำพัง ... ฉันออกทะยานโลดแล่น ... ยามใดขาดแคลนสิ้นความหวัง ... แม้เหนื่อยล้าจวนเจียนหมดกำลัง ... ฉันคงยังต้องบินต่อมิอาจท้อใจ ... หวังไว้วันหนึ่ง ... วันซึ่งบินถึงจุดหมาย ... สุดกำลังใจกำลังกาย ... ณ ปลายฟากฟ้าฝั่งฝัน ... ผู้หญิง ดิน ดิน ... หมดสิ้นหน้าที่แห่งฉัน ... ที่เฝ้าอดทนฟันฝ่าโรมรัน ... คงถึงวัน ปลดเปลื้องปีก..เปลือกเสียที ... ฉันก้มลงมองเท้าตัวเอง .. รอคอยเสมอ .. รอคอยวันที่จะได้กลับไปลิ้มรสชาติยามเท้าสัมผัสผืนดิน .. รอคอย ..วันนั้น .. ฉันสลัดความฟุ้งซ่านออกจากสมอง .. ตอนนี้ .. ฉันควรต้องละความต้องการในหัวใจ .. ปฎิบัติพันธกิจให้เสร็จสิ้น .. กระแสลมกรรโชกรุนแรง .. ขนปลายปีกแทบหลุดร่วง .. เจ็บเหลือเกิน .. ถ้าฉันขยับปีกบินอ้อมไป..เสียเวลานิดหน่อย ..มันคงเจ็บน้อยลง .. แม้จะมีปีกคู่แกร่งเพียงใด .. ร่างกายฉันก็เป็นเพียงเลือดเนื้อ..เจ็บปวดเป็น .. ฉันตีปีกบินหลบแรงกรรโชกแห่งสายลม .. "จะไปไหน? .. ทำไมไม่บินในเส้นทางที่กำหนด ..!!!" เสียงเข้มดังกึกก้อง .. "เจ้าจะบินออกนอกเส้นทางไม่ได้ !!!.." "แต่ลมกรรโชกรุนแรงเหลือเกิน ..เราเจ็บ .." ฉันอธิบาย "เรามอบปีกให้เจ้าแล้ว..มันแกร่งพอจะบินฝ่าแรงลมได้ .. เรายังฝ่าไปได้..เหตุใดเจ้าไม่ทำ!!!" "แต่...." ฉันพยายามอธิบาย .. "ปีกนั้นเป็นของเรา..หากเจ้าไม่ทำตามคำสั่งเรา..เราจะเอาคืน .." เสียงตวาดกึกก้อง .. "หากเจ้าต้องการอยู่บนที่สูง..เจ้าต้องทำตามคำสั่งเราเท่านั้น.. หรือไม่ก็..ขาดกัน!!!..เจ้าจงคิด" แววตาดุดัน ..ยื่นคำขาด ฉันสบตาดุดันคู่นั้นแน่วแน่ .. หากฉันปลดปีกในตอนนี้.. ขณะกำลังถลากลางกระแสลมกรรโชกรุนแรง.. ..ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อจะตกต้องพื้นพสุธา..แหลกเหลวยับเยิน หากแต่.. ถ้าฉันมีปีก.. แต่ไร้ซึ่งอิสระ.. ปีกนั้นจะมีประโยชน์อันใดเล่า.. ฉันรู้.. พันธกิจที่พันผูกยังมิจบสิ้น.. และฉันทุ่มเทชีวิต..วิญญาณเพื่อพันธกิจนั้น.. หากแต่.. ถ้ามันเป็นไปเพียงเพื่อปรนเปรอการหลงเหลิงในอำนาจ.. ชีวิต..จิตวิญญาณของฉัน..มีค่าเพียงนั้นเองหรือ? .. "เจ้าจงคิด..คนเนรคุณ!!" ดวงตาดุดันสบตาฉัน ..คงไม่คิดว่าฉันจะทำอะไรโง่ๆ เพียงเท่านั้น .. ฉันเอื้อมมือปลดปีกคู่สวยกลางหลัง .. โยนมันขึ้นไปกลางอากาศ.. ก่อนที่ร่างกายฉันจะร่วงหล่นตามแรงดึงดูด.. ทันได้เห็นแววตาดุดันคู่นั้น..เรืองแสง.. ..เขาคงตัดสินใจผิดที่มอบปีกให้คนโง่เช่นฉัน.. ..ลาก่อน..ฉันไม่ต้องการเวลาคิด.. เพราะก่อนลงมือทำ..ฉันคิดถ้วนถี่แล้ว.. ฉันทอดสองแขนสองขาที่เหนื่อยล้ามานาน.. ปล่อยมันแน่นิ่งร่วงหล่นตามกระแส..ตามที่มันต้องเป็น.. ระหว่างร่างลอยละลิ่วกลางกระแสแห่งสายลม.. ฉันทบทวนสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมา.. ผิดบ้าง..ถูกบ้าง..ฝืนทนบ้าง.. เพราะคำเดียว..หน้าที่.. แต่อีกไม่นานแล้วสินะ.. ที่ฉันจะได้กลับไปลิ้มรสสัมผัสจากผืนดิน.. วันเวลาที่รอคอยมานานเหลือเกิน.. ปลดปีกที่ไม่เคยปรารถนา.. ถอดเปลือกที่ไม่เคยอยากได้.. เหลือเพียงเนื้อกายแท้..กับหัวใจดวงเดิม.. แล้วจะได้เริ่มต้นเดินตามทางของตัวเองเสียที.. สัญชาติคนบนดิน.. คุ้นเคยกลิ่นไอดิน.. แม้อาจเคยทะยานขึ้นสู่ฟ้า.. หากแต่..ไม่เคยลืมกลิ่นไอดิน.. ใกล้แล้วสินะ.. กลิ่นไอดินอันคุ้นเคย.. ฉันใกล้ถึงพื้นพสุธาแล้วสินะ.. อา..หอมจัง.. "พลั่ก!!!!!..." เสียงร่างกายที่เต็มเปี่ยมด้วยเลือดเนื้อตกลงสัมผัสพื้นดิน.. ฉันยิ้มรับความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านทั่วร่าง สุขล้ำ..อิ่มเอม.. แม้เจ็บปวด..หากแต่คุ้นเคย..เป็นสุข.. ฉันยังไม่อยากลุกไปไหน.. ขอรับสัมผัสจากผืนดินที่โอบอุ้มร่างให้สาแก่ใจก่อน.. อีกเดี๋ยว..ฉันจะลุก.. ผู้หญิง ดิน ดิน ... หมดสิ้นหน้าที่แห่งฉัน ... ที่เฝ้าอดทนฟันฝ่าโรมรัน ... คงถึงวัน ปลดเปลื้อง..ปีก..เปลือกเสียที ...
22 กันยายน 2548 12:21 น. - comment id 86814
นึกว่าพี่ไม่ชอบอยู่ในโลกความฝันแต่งานพี่เยอะจัง งานพี่ฝันเฟื่องหรอ เห็นพี่นึกว่าอยู่ในโลกความจริงมากกว่าซะอีกนะ มัยถึงคิดงั้นละ โลกความจริง โลกความฝัน ก็นักกวีจะอยู่ในโลกสองใบไงคับ โลกความจริงสดใสไปอีกแบบ โลกความฝันอาจเศร้าซึ้งสุดหยั่ง ไม่รุ้สิ อาจจะจริงอย่างเราว่า แต่โลกความจริง มันหลายด้าน โลกความฝันก็หลายด้าน อืม ไปอ่านงานไหนของพี่มาล่ะ ถึงได้แอดมาเนี่ยน่ะ ก็หลายงานเลยคับ ชอบคนช่างฝันหรือไง 555555555 บางครั้งโลกความจริงมันเลวร้ายหลบไปนอนพักในโลกฝันก็เพลินดีนะ อีกบางครั้งโลกแห่งความจริงมันสุขเกินไป น่าเบื่อ หลบไปอยู่ในฝันร้ายซะบ้าง ชีวิตก็มีรสชาติดี แล้วหยุดลงซึมเซาใต้เงาไม้ แว่วยินคนร้องไห้เสียงไกลห่าง ฤาเสียงสนใกล้ใจไม่รู้จาง แล้วหลับพลางขบคิดชีวิตคน พอตื่นขึ้นแว่วไหวในใจว่า ถึงแรมรอนอ่อนล้ามิหมองหม่น จะก้าวเดินต่อไปในรอยตน เถิดจะฝ่าความสับสนพ้นโศกไป ขอบคุณมิตรภาพบน msn เช้าวันนี้ .. เราเตือนท่านแล้วว่าจะโดนแบล็คเมล์ 555
22 กันยายน 2548 21:59 น. - comment id 86820
ลาแล้วสิหนอฟากฟ้า พสุธามารับร่างฉัน อย่าให้แดดิ้น..สิ้นชีวัน เพียงฝันไออุ่นกรุ่นดิน ปีกนั้นของใครใครรับ โยนกลับสู่เจ้าของสินฯ โผพุ่งมุ่งสู่ผืนดิน ใจถวิลเพียงเจ้า..พสุธา มาให้กำลังใจครับ... อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลย... ตกลงมา..หาอะไรรองไว้หน่อยดีกว่านะครับ...
23 กันยายน 2548 11:39 น. - comment id 86826
หากจะต้องแลกด้วยอิสระภาพ...สู้ยอมเดินดิน..ไปซะดีกว่า อย่างน้อยเราก็มีความสุขที่ได้เดินบนลำแข้งของตัวเอง.. ก้าวแบบมั่นใจ ไปแบบเนิบๆ ..นึกถึงหนอนชาเขียวแล้วสิ..อิอิ แวะมาทักทายค่ะ...ตามสไตล์คนชอบฝัน.. แล้วจะคอยอ่านเรื่องต่อไปน่ะค่ะ.. :)
23 กันยายน 2548 12:32 น. - comment id 86832
คุณกี้ เป็นคนธรรมดา เดินดิน ดีที่สุดสำหรับเรา คนเคยคุ้นกับไอดิน... หลายต่อหลายครั้ง ที่พยายามจะทะยานขั้นไป ต่อก็คิดได้ว่า เราเป็นคนเดินดิน...... ขอบคุณ ความกล้าหาญที่คุณมี.....
25 กันยายน 2548 10:14 น. - comment id 86855
เรนชอบทุกงานบทกวี ของพี่กีกี้ ..นะคะ.. และเรนก็ฝันอยากจะเขียน ..และบอกความรู้สึกให้ด้แบบพี่กีกี้ด้วยดิคะ .. ..ปลด..เรนก็ชอบนะคะ ..
25 กันยายน 2548 16:24 น. - comment id 86862
คุณท่องเมฆา .. ขอบคุณสำหรับกำลังใจที่มอบให้ค่ะ .. แต่กี้คงไม่หาอะไรรองรับหรอกค่ะ .. เผื่อจะได้ปรึกษาคุณหมอกระดูก .. อิอิ .. คุณกุ้งหนามแดง .. ชักอยากเป็นหนอนชาเขียวเสียแล้วสิ .. คนชอบฝันพบคนช่างฝัน .. คงมันส์แน่ค่ะ .. ขอบคุณคุณแม่สี .. .. กี้ชอบนะเรื่องนั้น .. คุณแมงกุ๊ดจี่ .. ขอบคุณความเห็นของคุณค่ะ .. ถ้าเป็นคน .. ไม่มีธรรมดา .. ไม่มีพิเศษหรอก .. ยังไงซะก็คนเหมือนกัน .. ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวนี่ .. .. คุณน้องเรน .. ขอบคุณจ้ะน้องเรน .. พี่กี้แอบอ่านงานน้องเรนทุกทีแหละ .. น่ารักสมตัว .. เป็นงานที่ถ่ายทอดความรู้สึกได้น่ารักมากเลย .. (เรื่องจริงนา ) ขอให้น้องเรนฝัน .. และบอกความรู้สึกให้ได้ดีในแบบของน้องเรนน่ะแหละ ดีแล้ว .. นั่นน่ารักดีแล้ว .. เชื่อสิ ..