เรื่องสั้นชุด บ้านทุ่งของผม

พหุวัฒ

สราญรมชมชายทุ่ง
เรื่องราวแห่งความทรงจำเมื่อวัยเยาว์ผุดขึ้นท่ามกลางเมืองหลวงแห่งความสับสนวุ่นวาย เสียงครวญของเครื่องยนต์ดังผสมผสานท่ามกลางกลุ่มควันที่พวยพุ่งกันออกมาอย่างไม่กำหนดเรื่องราวของกาลเวลา ตึกสูงใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแข่งกันผุดเหมือนกับดอกเห็ด ผู้คนมากหน้าหลายตาต่างสาระวนกับวิถีของตัวเองโดยไม่คิดถึงคำว่า เอื้อเฟื้อ เมตตา การุณา สังคมมีแต่งการแก่งแย่งแข่งขัน
ฉันมองฉันคิดถึงเรื่องราวเก่าๆ ในอดีตอันเป็นเสมือนกับรากที่ทำให้ฉันแผ่กิ่งก้านสาขาและดำรงอยู่ได้ในแนวทางของสังคมที่เหมือนกับกรอบที่วางไว้ให้ชีวิตเราต้องเดินตามไปกับมัน แล้วทำไม่เราไม่หนีไปจากกรอบนี้ละ ฉันคิด ฉันคิด พรุ่งนี้ ฉันต้องกลับไปสู่ที่เดิม ที่ฉันถือกำเนิดแห่งเรื่องราวของความเป็นจริง ชีวิตที่ติดดิน ชีวิตที่มีแต่ความเอื้อเฟื้อ ชีวิตที่มีแต่ความสุข นี้คือเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้น ณ. บัดนี้
                 ฉึกฉัก ฉึกฉัก ฉึกฉัก เสียงของล้อรถไฟที่นำฉันมาสู่ดินแดนทักษิณ ถิ่นสะตอ กำลังเทียบชานชลา ซึ่งบัดนี้ไม่เหมือนเก่า จากเมื่อครั้งอดีตชานชลาแห่งนี้พลุกพล่านไปด้วยแม่ค้าขายอ้อยควั่น กาแฟกระป๋องที่เมื่อถือกันเป็นพวงและแม่ค้ากำลังจะส่งให้ผู้โดยสารเสียงของมันกระทบกันดัง กริ๊งกรั้ง เสียงแม่ค้าขายข้าวเหนียวไก่ทอด รสเด็ดอันเป็นสูตรที่มีเฉพาะถิ่นนี้ส่งกลิ่นหอมหวลชวนกิน สิ่งเหล่าได้กลายเป็นฝันไปแล้ว บัดนี้สถานีแห่งนี้มีซุปเปอร์มาเก็ตที่ทันสมัยตั้งขึ้นมาแทนที่ แม่ค้าและเสียงโหวกแหวกในการขายของไม่มีแล้ว ตราบใด ณ. สถานที่ใดก็ตามเมื่อมีความเจริญเข้ามาแทนที่ ณ. ท้องถิ่นนั้น ๆ เรื่องราวแห่งอัตลักษณ์ที่เคยมีอยู่ก็จะกลมกลืนกับปัจจัยที่นำเข้ามา ใช่ซิแล้วใครเล่าจะอยู่ในรูปแบบเก่าๆ ใช่ซิก็เพราะเงินที่ได้มากขึ้นจากการปรับเปลี่ยนในการค้าขายใครละจะไม่ต้องการ นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งมันเป็นแค่อนูแต่ไม่แน่ต่อไปมันจะกลายเป็นมหัพภาคก็ได้ใครจะไปรู้ละนอกจากคนถิ่นนั่นเอง				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน