นิยายรักเรื่องหนึ่ง
พระจันทร์สีชมพู
สาวน้อยรู้สึกอายและงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เธอจึงขอตัวกลับบ้านก่อนโดยมีนายตำรวจคนสนิท
ผู้กองกฤษณ์เพื่อนร่วมงานของเธออาสาไปส่งที่บ้าน สาวน้อยรู้สึกเจ็บในใจไม่น้อยเพราะเธอเองก็เริ่มรู้สึกชอบนายตำรวจหนุ่มอยู่เหมือนกัน..แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นเธอก็ได้แต่ทำใจและเก็บงำความรู้สึกไว้ข้างในใจอย่างมิดชิด
นายตำรวจหนุ่มเคลียร์ปัญหากับแฟนสาวและขอให้เธอกลับไปก่อน แต่สาวเปรี้ยวดื้อรั้นเธอไม่ยอมกลับและจะไปอาละวาดใส่สาวน้อยให้ได้ นายตำรวจหนุ่มอธิบายให้เธอฟังว่าเขาและสาวน้อยไม่ได้เป็นอะไรกันแต่สาวเปรี้ยวดูจะไม่เชื่อนัก..แต่สุดท้ายเธอก็อ่อนข้อลง ก่อนจากไปเธอยื่นคำขาดเพียงว่าหาก นายตำรวจหนุ่มไม่ยอมตกลงหมั้นหมายกับเธอ เธอจะเลิกคบกับเขา
ทันทีที่จัดการปัญหาและส่งแฟนสาวกลับเสร็จสับ นายตำรวจหนุ่มก็รีบกลับเข้ามาในงานเพื่อจะมาขอโทษสาวน้อยหากแต่ว่าตอนนี้เธอไม่อยู่เสียแล้ว หลังจากงานเลิกเขากลับไปนอนครุ่นคิดอย่างนักว่าจะตัดสินใจอย่างไร ประเด็นสำคัญของการปฏิเสธการหมั้นในครั้งนี้คือเขายังคงรักชีวิตวัยหนุ่มที่เป็นอิสระ ไม่อยากให้ใครมาผูกมัดหรือจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางจิตใจของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้นเหตุการณ์เมื่อคืนกลายเป็นประเด็นสนทนาไปทั่วโรงพัก งานนี้ผู้กองกฤษณ์กลายเป็นฮีโร่เข้ามาปกป้องสาวน้อย ส่วนนายตำรวจหนุ่มกลายเป็นคาสโนวาที่เจ้าชู้จนเกิดเรื่อง ทุกคนต่างพากันเข้าใจว่า
ผู้กองกฤษณ์และสาวน้อยชอบพอกันด้วยความที่ทั้งคู่ทำงานร่วมกันและไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้งทั้งที่จริงแล้วสาวน้อยกำลังทำหน้าที่แม่สื่อผสานรักระหว่างพี่มุกเจ้าหน้าที่เทศบาลคนสวยกับผู้กองกฤษณ์อยู่ต่างหาก ในขณะที่นายตำรวจหนุ่มไม่ค่อยสบายใจนักที่ทำให้สาวน้อยต้องเดือดร้อนเพราะเขา
นายตำรวจหนุ่มพยายามโทรหาสาวน้อยแต่ก็ไม่มีคนรับสายเพราะเธอกำลังโกรธที่เขาปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับเธอ ตลอดทั้งวันนั่งเฝ้ามองหน้าโรงพักเพราะคิดว่าบางทีเธออาจจะมารับงานจากท่านผู้กำกับฯ เวลาผ่านไปจนบ่ายแต่เธอก็ไม่มา นายตำรวจหนุ่มตัดใจแล้วรีบกลับไปอาบน้ำที่บ้านพักเพื่อเตรียมตัวมาเข้าเวรตอน 4 โมงเย็น
เวลา 5 ทุ่มเศษขณะที่เขากำลังนั่งครุ่นคิดปัญหาเดิมๆ อยู่ตลอดเวลาแต่ก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้อยู่นั้น เสียงวิทยุตำรวจจากสภ.อ.เมือง ก็ดังขึ้นแจ้งว่ามีเหตุลักพาตัวลูกสาวผู้มีอิทธิพลของจังหวัดกำลังมุ่งหน้ามายังเส้นทางในเขตรับผิดชอบของโรงพักนี้ นายตำรวจจึงเรียกลูกน้องตำรวจอีกกว่า 10 นายออกตั้งด่านสกัดจับคนร้าย..ถึงเขตรอยต่อระหว่างท้องที่ของโรงพักเขาและสภ.อ.เมือง นายตำรวจหนุ่มสังเกตเห็นรถยนต์คันที่ก่อเหตุกำลังมุ่งหน้ามาด้วยความเร็วและแหกด่านไป..เขาจึงสั่งให้รถตำรวจขับตามประกบและเบียดให้รถคนร้ายหมดทางหนี รถคนดังกล่าวเสียหลังพุ่งชนต้นไม้ข้างทาง คนร้าย 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที่แต่อีก 2 คนที่นั่งเบาะหลังไม่เป็นอะไรมาก..รวมทั้งตัวประกันยังปลอดภัย คนร้ายใช้ปืนจี้คอเด็กสาวเป็นตัวประกัน และเรียกร้องให้ตำรวจจัดรถยนต์คนใหม่มาให้ไม่งั้นจะยิงตัวประกันเสีย นายตำรวจหนุ่มให้ผู้หมวดศุภกรซึ่งเป็นผู้สันทัดด้านการเจรจามาต่อรองกับคนร้าย เพื่อถ่วงเวลาและหาจังหวะเข้าชาร์ท
นายต้องการอะไร..พูดกันดีๆ และอย่าทำอะไรตัวประกันนะ
เอารถมาให้กู ไม่งั้นอีนี่ตายแน่
รถจะจัดรถให้นายแต่นายต้องปล่อยตัวประกันไว้ที่นี่..
ปล่อยกูก็ตายนะสิ..ตำรวจอย่างคิดว่าโจรอย่างพวกกูจะโง่นะโว้ย..ไปเอ้ารถมา..เร็ว..
คนร้ายตะโกนแล้วกระชากตัวเด็กสาวให้กระชับเข้ามา ในขณะที่ผู้หมวดศุภกรกำลังถ่วงเวลาคนร้ายอยู่นั้น นายตำรวจหนุ่มและลูกน้องได้อ้อมไปทางด้านหลังเพื่อเตรียมเข้าชาร์ท เขารอจนได้จังหวะก็บุกเข้าชาร์ทคนร้ายทันที ผู้หมวดศุภกรรีบช่วยตัวประกันออกมาอย่างรวดเร็ว ในขณะที่สองคนร้ายก็ต่อสู้ขัดขืนอย่างสุดกำลัง ตำรวจเพียง 3 นายกับคนร้าย 2 คน ดูจะเป็นงานที่หนักเกินไป คนร้ายคนหนึ่งดิ้นหลุดจากมือของนายตำรวจหนุ่มแล้วรีบคว้าปืนอีกกระบอกที่เหน็บอยู่ที่เอวยิงใส่นายตำรวจหนุ่มทันที่ โชคดีที่เขาไหวตัวหลบได้ทันกระซุนจึงถูกเข้าที่แขนขวาเท่านั้น นายตำรวจหนุ่มยิงตอบโต้คนร้ายจนได้รับบาทเจ็บในขณะที่กำลังเสริมที่เหลือก็เข้ามาช่วยกันจับตัวคนร้ายได้ทัน...
ในเหตุการณ์ครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาทเจ็บ 4 นาย คนร้ายบาดเจ็บ 2 คนและเสียชีวิตอีก 2 คน ส่วนตัวประกันลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังผู้มีอิทธิพลอย่างกว้างขวางในจังหวัดสุพรรณบุรี นายประสิทธิ์ ทรงอิทธิได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย
แนนได้ทราบข่าวจากพ่อในคืนนั้นก็รีบโทรศัพท์ไปบอกเป้ยให้ทราบทันที สาวน้อยรู้สึกเป็นห่วงนายตำรวจหนุ่มอย่างมาก เธอได้ทราบข่าวเพิ่มเติมว่าหมู่โจพี่ชายบ้านใกล้เรือนเคียงของเธอก็ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ พอรุ่งเช้าเธอรีบรุดไปเยี่ยมนายตำรวจหนุ่มและหมู่โจที่โรงพยาบาลพร้อมกันแนนทันที
สาวน้อยแวะไปเยี่ยมหมู่โจ เพื่อนบ้านคนสนิทของเธอก่อนจะเดินไปยังห้องของนายตำรวจหนุ่ม เธอลังเลอยู่นานว่าจะเข้าไปเยี่ยมนายตำรวจหนุ่มดีหรือไม่ แนนซึ่งยืนมองเพื่อนสาวของเธอครุ่นคิดอะไรอยู่จึงพูดขึ้นเตือนสติเพื่อน
เป้ย..ถ้าแกเป็นห่วงเค้าแกก็เข้าไปสิ มันไม่ใช่เรื่องไม่ดีอะไรแค่แกมาเยี่ยมเขาในฐานะคนรู้จัก
แต่เค้ามีแฟนแล้วนะแนน
แล้วแกเลิกเป็นห่วงเค้าได้มั้ยล่ะ...เอาเถอะน้า..แกบอกว่ามาเป็นเพื่อนฉันก็ได้
แนนเปิดประตูเข้าไปแล้วกล่าวทักทายนายตำรวจหนุ่มและผู้หมวดศุภกรหวานใจของเธอ
สวัสดีค่ะ...เป็นไงบ้างคะพี่ดล..งานนี้เป็นพระเอกเลยน้า...
ก็ไม่เป็นอะไรมากล่ะครับเจ็บแผลบ้างนิดหน่อย..สงสัยว่าพระเอกจะแย่ซะแล้วเพราะขาดคนดูใจ
นายตำรวจหนุ่มพูดกระเซ้าแล้วมองมายังสาวน้อย
จะตายอยู่แล้วยังจะมาทำปากดีอีก สาวน้อยบ่นอุบอิบ
อ้าว..คุณ..ไม่เป็นห่วงกันก็อย่างมาแช่งกันอย่างนี้สิครับ..
ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย
ฮั่นแหน่..เป็นห่วงผมเหมือนกันใช่มั้ยล่ะ...
ฉันไม่ใช่แฟนคนสวยของคุณซะหน่อยจะเป็นห่วงคุณเรื่องอะไรนายตำรวจหนุ่มถึงกับอึ้งที่โดนสาวน้อยสวนกลับ
ฉันกับแนนขอตัวไปซื้อโจ๊กมาให้นายก่อนนะ ข้าวต้มโรงพยาบาลคงจะไม่อร่อย..นายสองคนคุยกันไปก่อนละกัน ผู้หมวดศุภกรและแนนรีบขอตัวเพื่อเปิดโอกาสให้ทั้งคู่ได้คุยกัน
อะไรกันล่ะ..พี่กรแล้วจะให้เป้ยอยู่กับนายหมอเนี่ยนะ..เป้ยไม่ได้มาเยี่ยมเค้าซะหน่อย..ไปด้วยสิ.. สาวน้อยโวยวายก่อนจะเดินออกไป แต่นายตำรวจหนุ่มเอื้อมมือคว้าข้อมือเธอไว้ก่อน
..........................โปรดติดตามตอนต่อไป...................................