DeViL ตอนที่ ๑ บทนำ
bMX
ท่ามกลางความมืดสนิทของราตรีกาล มีเพียงเสียงหวีดหวิวของสายลมโชยเอื่อย
กับแสงสีนวลเย็นตาพราวระยับ ยามนิทราที่เหล่าสิ่งมีชีวิตยามค่ำคืนกลางคืนต่างเริ่มออกหากิน
เวลาที่ควรอย่างยิ่งแก่การจมดิ่งสู่ห้วงนิทราของใครหลายคน
แต่ว่า...ที่สวนสาธารณะข้างๆ โรงเรียนประจำหมู่บ้านที่แสนสงบ กลับปรากฏร่างของเด็กวัยรุ่น
ราวๆ สิบคนรวมกลุ่มกันอยู่ ทั้งไม้หน้าสาม กระบอง มีด และอาวุธอีกหลากหลายชนิดในมือ
ดูก็รู้ว่าพวกเขาคงไม่ได้เตรียมไว้ไปโรงเรียนเป็นแน่
ไม่นานนักความเงียบสงบก็ถูกทำลาย ด้วยเสียงมอเตอร์ไซค์ที่ดังกระหึ่ม เรียกความสนใจ
จากพวกเขาได้เป็นอย่างดี เด็กหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มนั้นค่อยๆ ลุกขึ้นยืนเหมือนเป็นสัญญาณ
บอกทุกคนให้เตรียมพร้อมรับมือ พร้อมกับที่รถมอเตอร์ไซค์นับสิบคันที่พุ่งเข้ามาจอดเรียงราย
กันเป็นแถบล้อมพวกเขาไว้ ตามด้วยคนบนรถที่ลงมายืนประจันหน้า เป็นธรรมเนียมเดิมๆ
ที่มีให้เห็นแทบทุกครั้งเวลาที่ใครบางคนจะมีเรื่อง
ในกรณีนี้ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นการยกพวกตีกัน...
ความเงียบเกิดขึ้นเพียงชั่วอึดใจ ไม่มีแม้เสียงเจรจาที่เอื้อนเอ่ยให้ได้ยินเมื่อผู้มาเยือนที่กรูกัน
เข้ามาอย่างไม่ให้ได้ตั้งตัว ทำให้ต้องกระโดดหลบออกมาแทบไม่ทันออกมาแทบไม่ทัน
เมื่อใครที่ตั้งหลักได้ก็คว้าอาวุธขึ้นมาถือไว้กับตัวเตรียมจะบุกกลับ ถึงกระนั้นก็ยังไม่วายมีคนหลบไม่พ้น
ถูกไม้ฟาดเข้าเต็มๆ
"ไอ้ต๋อง!"
เสียงตะโกนดังมาจากเด็กชายร่างสูงอีกคนที่อยู่ใกล้ๆ ก่อนจะวิ่งมาดูอาการเพื่อน
เด็กหนุ่มผู้เคราะห์ร้ายเอามือกุมหัวไหล่ที่มีเลือดไหลเป็นทางแน่นพลางกัดฟันกรอดข่มความเจ็บ
แต่ก็ไม่อาจข่มความโกรธได้ ดวงตาสีน้ำตาลเข้มใต้กรอบแว่นวาวโรจน์
และแทบจะในทันทีที่มือหนาคว้าได้กับเหล็กดัดข้างตัว ร่างทั้งร่างก็พุ่งดิ่งเข้าไปหาคนที่
ทำร้ายตนอย่างรวดเร็วปานจรวด ก่อนจะฟาดเหล็กที่เต็มไปด้วยความโกรธเข้ากลางศีรษะ
คืนเดือนมืดที่ไร้เงาไม่อาจบดบังแววตาที่แข็งกร้าวคู่นั้นได้ พวกคนอื่นๆ ที่เหลือกระชับอาวุธ
ในมือที่ถืออยู่แน่นราวกับมันเป็นที่พึ่งพาเดียวความเย็นเยียบของบรรยากาศยามค่ำก็ไม่สามารถ
ดับความรุ่มร้อนราวกับจะมอดไหม้ในใจ แล้วทั้งสองฝ่ายก็วิ่งถลาเข้าหากัน...
ท่ามกลางความเงียบสงบแห่งราตรีกาล มีเพียงเสียงของอาวุธที่ฟาดฟัน และเสียงร้องครวญคราง
ด้วยความเจ็บปวด ระงมไปทั่วบริเวณ...
ชั่วอึดใจ ร่างของเด็กวัยรุ่นทั้งหลายฝืนกายขยับอย่างยากลำบาก พยุงทั้งตัวเองและเพื่อนที่บาดเจ็บ
ให้ลุกขึ้นยืน
พวกเขาหันหลังให้กับมอเตอร์ไซค์ที่ถูกฟันจนยับเยินและร่างกายที่โชกเลือดของกลุ่มผู้มาเยือน
ซึ่งสลบไป ก่อนที่ร่างของพวกเขาจะเดินหายไปในมุมมืด
โดยไม่อาจได้รู้ตัวเลยว่า ที่อีกมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ กำลังมีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องพฤติกรรม
ของพวกเขาอยู่ ด้วยความพอใจ...