กว่าจะถึงวันที่เธอบอกรัก.......2

wanmangrux

เรือนแก้ว ลืมตาขึ้นช้าๆ แม้เธอรู้สึกหนังตาหนักอึ้ง ภายในร่างกายบัดเดี๋ยวร้อนบัดเดี๋ยวหนาว ภาพแรกที่เห็น คือใบหน้าที่เธอคุ้นเคย ใบหน้าของคนที่เธอรักแสนรัก 
ทานโจ๊กก่อนนะคะ จะได้ทานยา ไข้คุณยังไม่ลดลงเลย น้ำเสียงห่วงใย ทำให้ คนฟัง พยุงตัวขึ้น ปาล์มประคับประคองเรือนแก้ว ราวกับเธอเป็นเด็กที่บอบบาง 
หล่อนตักโจ๊กในถ้วย ค่อยๆ ป้อนให้เรือนแก้ว พลางพูดปลอบเหมือนพี่กล่อมน้องน้อย 
ทานเยอะๆนะคะ คุณจะได้หายไวๆ  
หลังจากคนป่วย รับประทานโจ๊กและ ยาเสร็จแล้ว ปาล์มจับมือของเรือนแก้วเพื่อถ่ายทอดความอบอุ่น ความรู้สึกให้กับ ฝ่ามือที่ร้อนผะผ่าวคู่นั้น 
รู้สึกดีขึ้นมั้ยคะ คุณคงต้องหยุดอีกหลายวันกว่าจะได้ไปสอน 
เป็นห่วงเด็กจ้ะ ถ้าพรุ่งนี้ดีขึ้นคุณอาจจะเข้าไปสอน 
อย่าดื้อสิคะ รอให้หายดีก่อนดีมั้ยคะ สายตาวิงวอนมองดูหล่อนอย่างขอร้อง 
เรือนแก้วยกมือลูบใบหน้า ปาล์มอย่างแผ่วเบา สัมผัสอันอ่อนโยนนี้ หากเป็นยามปกติ ปาล์มคงอดไม่ได้ที่จะกอดอีกฝ่ายด้วยความรัก 
เหนื่อยบ้างมั้ยจ๊ะปาล์ม ดูเหมือนจะซูบไปนะจ๊ะ ดูแลคุณมาหลายวัน แถมต้องเรียนอีก งานพิเศษก็ต้องทำ คุณไม่เป็นอะไรมากมายจ้ะ อย่าลืมห่วงตัวเองบ้างนะจ๊ะ 
ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณแก้ว คุณต่างหากที่ปาล์มเป็นห่วง คุณทำงานหนักกว่าปาล์มมาก ทั้งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ทั้งอาจารย์ที่ต้องดูแลนักศึกษาป.โท และไหนจะตำรับตำราที่คุณต้องเขียนอีก บางทีปาล์มยังรู้สึกเหนื่อยแทนคุณเลยนะคะ ปาล์มยิ้มอย่างอ่อนโยน 
ปาล์มไปอาบน้ำ ก่อนดีมั้ยคะ ดูสิเสื้อผ้า ยังไม่ได้เปลี่ยนเลย คุณเบื่อจังที่ต้องนอนพักแบบนี้  
ถ้าคุณไม่ดื้อ คุณก็จะหายป่วยไวๆ ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณแก้ว ปาล์มโน้มตัวจูบหน้าผากของเรือนแก้วอย่างแผ่วเบา เป็นปกติที่เธอทำเสมอ 
ปาล์มกลับมาที่ห้องของเธอ แม้ทั้งสองจะอยู่บ้านหลังเดียวกัน แต่ก็มีห้องที่แยกกันอยู่ ทั้งสองรู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว เพราะบ้านของเรือนแก้ว และบ้านของปาล์มอยู่ติดกัน ปาล์มจำได้ดี เมื่ออายุ สิบขวบ ข้างบ้านพึ่งมีคนย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ เป็นผู้หญิงท่าทางใจดี คุณแม่ของปาล์มบอกกับเธอว่า 
คุณเรือนแก้วจ้ะลูก เธอเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัยจ้ะ  
ชื่อเพราะจังนะคะคุณแม่ เด็กหญิงตัวน้อยมองดูมารดาด้วยดวงตากลมโต แม่ที่อยู่ดูแลเธอตั้งแต่เด็ก คุณพ่อเสียไปตอนที่ปาล์มอายุ สองขวบ ดังนั้น แม่จึงเป็นทั้งพ่อและแม่ เธอจำหน้าตาของพ่อไม่ได้ นอกจาก มีรูปของพ่อเหลือไว้ให้ดูต่างหน้าเท่านั้น 
ปาล์มมีสีผิวและดวงตาเหมือนแม่ แม่เป็นผู้หญิงแกร่งในสายตาของปาล์ม บ้านของปาล์มไม่ได้ร่ำรวยมากมาย ฐานะทางครอบครัวอยู่ในระดับปานกลาง แม่ของปาล์มเป็นครูสอนที่โรงเรียนประถมของรัฐ ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ แม่จะทำขนมขาย ซึ่งปาล์มเองก็จะช่วยแม่ทำ... ฝีมือทำขนมและกับข้าวของปาล์มได้รับมาจากแม่แทบทั้งสิ้น 
ช่วงเย็นๆ เวลาเลิกเรียนกลับมา ปาล์มชอบออกมานั่งที่ชานเรือน เธอมักจะนั่งมองไปอีกบ้านหนึ่ง บ้านที่ต่างจากบ้านเธอ ทั้งฐานะ และความเป็นอยู่ บ้านของคุณเรือนแก้วปลูกต้นไม้มากมาย เย็นๆ คุณเรือนแก้วมักอยู่ในสวนรดน้ำต้นไม้ โดยมีปาล์มนั่งมองดูเงียบๆ เหมือนเป็นกิจวัตรของเธอ เธอเองรู้สึกเพลิดเพลิน 
คุณเรือนแก้ว อยู่คนเดียว แม่เพียงแต่บอกว่า พ่อแม่ของคุณเรือนแก้วเสียไปเมื่อสี่ปีก่อน เธอจึงย้ายมาอยู่ที่นี่ ปาล์มมีโอกาสได้คุยกับคุณเรือนแก้วเพียงตอนที่ แม่ให้เธอนำอาหาร และขนมที่แม่ทำ ไปให้หล่อน แม่เคยปรารภว่า 
สงสารเธอ คงจะคิดถึงพ่อถึงแม่ 
ปาล์มเข้ามาในบ้านก่อนสิจ๊ะ เรือนแก้วชวนเด็กน้อย ที่ดูท่าทางยังเกรงใจเธอมาก เด็กคนนี้ไม่ค่อยกล้าพูดกับเธอมากนัก แต่มักชอบมอง หล่อนเองก็รู้ว่า ปาล์มชอบนั่งมองเธอ เวลาที่เธอรดน้ำต้นไม้ในบ้าน 
อาจจะเหงา ไม่เห็นมีเพื่อนเล่นสักคน  เรือนแก้วคิด เธอเองบ่อยครั้งที่รู้สึกเหงา นึกถึงพ่อแม่ กระทันหันเหลือเกิน กับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับพวกท่าน เธอจึงบินไปอยู่อังกฤษสองปีหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น เมื่อกลับมาเมืองไทย จึงตัดสินใจมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ สมัครเป็นครูสอนมหาวิทยาลัยที่มีชื่อที่เสียงที่สุดในจังหวัดนี้ 
ปาล์มชั่งใจชั่วครู่ ก่อน เดินตามเจ้าบ้านเข้าไปในบริเวณบ้าน ไม่ใช่ยืนอยู่ริมรั้วแบบทุกๆครั้ง สวนในบ้านตกแต่งได้งดงามและร่มรื่น มีโต๊ะและม้านั่งสำหรับ อ่านหนังสือ หรือ นั่งพักผ่อน ปาล์มยื่นถุงขนมฝีมือแม่ให้คุณเรือนแก้ว 
ฝากขอบคุณแม่ของปาล์มด้วยนะจ๊ะ  
ปาล์มนั่งก่อนนะจ๊ะ อย่าพึ่งกลับนะคะ อยู่คุยกันก่อน เดี๋ยวพี่เอาขนมมาเลี้ยงบ้าง 
เรือนแก้วมองดู ท่าทางเกรงๆ ตอนที่ปาล์มทานขนม เธอยิ้มอย่างเอ็นดู 
ไม่อร่อยเหรอจ๊ะ ปาล์ม ดูทานสิ เหมือนกลัวมันจะหมดอย่างงั้นแหละจ้ะ 
อร่อยมากค่ะ คุณแก้ว ปาล์มไม่เคยทานขนมที่อร่อยแบบนี้มาก่อนเลยนะคะ เสียงตอบด้วยความซื่อ ทำให้ เรือนแก้วนึกเอ็นดูเด็กคนนี้กว่าเดิม ปาล์มไม่เคยเรียกเธอว่า พี่ เด็กคนนี้เหมือนรู้จักเจียมตัว แม้หล่อนเองไม่ได้คิดอะไร แต่ก็ไม่ได้ห้ามกับสรรพนามที่ปาล์มเรียกเธอ 
ปาล์มมาเที่ยวบ้านพี่ได้นะจ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกจ้ะ ดีเสียอีกพี่เองจะได้มีเพื่อนคุย  
ค่ะ ปาล์มรับคำอ้อมแอ้ม ถึงอย่างไร เธอรู้สึกเกรงใจอยู่ดี 
หลังจากนั้น ความสัมพันธ์ที่เริ่มก่อตัว ระหว่างเพื่อนบ้าน ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ บ่อยครั้งที่ทั้งสองบ้านเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ต่างไปมาหาสู่กันเสมอ และดูเหมือนเพื่อนต่างวัยคู่นี้จะติดกันแจ ปาล์มเป็นเด็กที่โตเร็ว พออยู่ขึ้นมัธยมปลาย สูงเกือบจะเท่ากับเรือนแก้ว ทั้งคู่สนิทกันมาก เหมือนเพื่อนรู้ใจ เวลาปาล์มมีปัญหาไม่สบายใจอะไร เธอมักมาพูดคุยกับเรือนแก้วเสมอ และยามใดที่เรือนแก้วรู้สึกอ่อนแอ เหนื่อยล้า ปาล์มก็เหมือนกับคนที่เป็นกำลังใจให้เธอ เป็นความรู้สึก และความสัมพันธ์ที่ค่อยๆสั่งสมมาตามกาลเวลา นับวันความผูกพันและมิตรภาพยิ่งเหนียวแน่น 
แต่แล้ววันหนึ่งชีวิตของปาล์มก็เปลี่ยนไป พอปาล์มอยู่ม.5 แม่ของปาล์มถูกรถชนเสียชีวิตตอนที่เดินข้ามถนน ในเย็นวันหนึ่ง ก่อนกลับบ้าน คนขับอยู่ในสภาพที่เมาเหล้า คงเป็นวันที่ปาล์มรู้สึกสูญเสียทุกอย่างในชีวิต เธอร้องไห้ในอ้อมกอด ของผู้หญิงเช่นเรือนแก้ว 
เรือนแก้วเองก็ร้องไห้ เธอเข้าใจความรู้สึกของปาล์มดี เธอเองครั้งหนึ่งไยมิใช่สูญเสียบุพการีไปพร้อมกันถึงสองคน คุณเรือนแก้วจัดการทุกอย่างในงานศพของแม่ และ ขอเป็นคนอุปการะปาล์ม ตอนแรกปาล์มไม่ยอมหากคุณเรือนแก้วให้เหตุผลว่า 
เราไม่เหลือใครแล้วนะจ๊ะปาล์ม ต่างเป็นกำพร้าทั้งคู่ ปาล์มยังมีอนาคตอีกยาวไกล จะอยู่คนเดียวได้ยังไง อายุเท่านี้ ไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรทั้งนั้น พี่จะรับผิดชอบชีวิตปาล์มเอง ตอนนี้เหลือเพียงเราสองคนนะคะ ที่เป็นเพื่อนกัน 
ในความรู้สึกของปาล์ม เรือนแก้ว เหมือนผู้มีพระคุณ เหมือนนางฟ้าที่แสนดี ปาล์มบอกตัวเอง ถ้าเธอโตขึ้น เธอจะปกป้องคุณเรือนแก้ว ดูแลคุณเรือนแก้ว และจะไม่ทำให้คุณเรือนแก้วเสียใจ หล่อนเองไม่ได้คาดคิดว่า วันหนึ่งความรู้สึกนี้ ที่ถูกบ่มเพาะทีละน้อยจะกลับกลายเป็นความรักที่บริสุทธิ์อันลึกซึ้ง				
				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน