"รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ" ตอนที่ 21

Pat_Big

แม่ทำยังไงน่ะเหรอ...แม่ไม่ได้ทำอะไรเลยจ้ะ...แม่เพียงแต่คิดว่า มันเป็นโชคชะตาของแม่กับชานนท์ ที่ต้องดำเนินไปแบบนี้ แม่แก้ไขอะไรไม่ได้ เพียงแต่แม่ต้องไม่ยอมแพ้ และอดทนรอ หากเรามีวาสนาต่อกันจริง แม่คิดว่า ยังไงซะเราก็ต้องได้พบกันอีก และได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข หากแต่ว่า แม่กับชานนท์ทำบุญร่วมกันมาแค่นั้น แม่ได้มาเจอกับพ่อของลูก เพราะพรหมลิขิต ในตอนแรกแม่รู้สึกอย่างรุนแรงว่ามันไม่ยุติธรรม มันไม่สมควรเป็นแบบนี้ แต่เมื่อแม่พิจารณาดี ๆ แล้ว พ่อของลูกรักแม่มาก ที่ทำไปทุกอย่างก็เพราะอานุภาพแห่งรัก แม่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่พ่อเค้าทำน่ะถูกต้องนะจ๊ะ แม่เพียงแต่เห็นในความพยายามของพ่อของลูก และเมื่อแม่มีหนู ลูกสาวคนแรกของแม่กับพ่อ แม่ถึงได้รู้ว่า แม่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดกับเรื่องชานนท์มานานแล้วสินะ 
แล้วแม่ไม่คิดถึงคุณอาชานนท์เหรอคะ นั่นรักแรกของแม่ไม่ใช่เหรอคะ 
คิดถึงสิจ๊ะ แต่จะทำยังไงได้ โลกแห่งความจริงน่ะอาจจะโหดร้ายกับเรานะจ๊ะลูก แต่ว่าธรรมชาติก็มักจะสร้างสิ่งทดแทนมาให้เราเสมอจ้ะ เมื่อแม่มีลูก แม่ก็ได้รู้ว่านี่แหละคือสิ่งที่มาทดแทนความอยุติธรรมทั้งหมด แม่รู้ตัวว่าแม่รักพ่อของลูกมากก็ตอนที่มีลูกนี่ล่ะจ้ะ แต่ความรักที่มีต่อชานนท์ก็ไม่ได้ลดลงนะจ๊ะ เพียงแต่ว่ามันแปรเปลี่ยนไปเป็นความรักแบบอื่นแทน แบบที่แม่ไม่ต้องเจ็บปวด และไม่รู้สึกผิดต่อพ่อของลูกไงล่ะจ๊ะ 
พัชกอดภัทราแน่น เธอยิ้มให้กับแม่ของเธอ และภัทราก็ยิ่มตอบกลับไปอย่างยินดี...
แม่คะ...แม่ว่าตอนนี้บิ๊กเค้าอยู่ที่ไหนสักแห่งใช่ไหมคะ 
ภัทราสะท้อนในหัวใจ เธอสงสารพัชเหลือเกิน เธอฝืนยิ้มให้ลูกสาวอย่างอ่อนโยน พลางบอกว่า...
จ้ะ และแม่ก็คิดว่า เค้าคิดถึงลูกสุดหัวใจเช่นกัน เค้าเหมือนชานนท์มากนะ 
พัชมีน้ำตาเอ่อล้นขอบตา ภัทราซึ่งสังเกตเห็นรีบบอกกับพัชว่า
ปล่อยให้มันไหลออกมาเถอะจ้ะลูก ไม่ต้องเก็บมันเอาไว้คนเดียว รู้ไหมว่าแม่ทรมานแค่ไหน ที่ปล่อยให้ลูกร้องไห้คนเดียวมาแสนนาน แม่เข้าใจว่าหนูเจ็บปวดแค่ไหน แม่เองก็เคยพรากจากคนที่แม่รักมากที่สุด แม่เข้าใจ แม่หวังเพียงให้ลูกเชื่อในสิ่งที่ลูกคิดมาตลอด สิ่งที่ลูกบอกกับพวกเราว่า ลูกจะรอคอยบิ๊กอย่างมีความหวัง และเข้มแข็ง แม่เชื่อว่าบิ๊กเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน แม่ไม่สามารถรู้ได้ว่าระหว่างหนูกับเค้าใครจะเจ็บปวดมากกว่า ในเมื่อหัวใจของหนูกับเค้าเป็นดวงเดียวกันแบบนี้ 
นาทีนั้นพัชรู้สึกว่าแม่ของเธอรักเธอมากเพียงใด...แม่รับรู้มาตลอดว่าเธอเจ็บปวดมากเพียงใด แม้แม่จะไม่ได้มองเห็นด้วยตาของแม่เอง...พัชคิดว่าภัทรา แม่ของเธอ คือคนที่เข้าใจเธอมากที่สุดในตอนนี้...เธอจึงกล้าที่จะบอกความรู้สึกของตัวเองที่เก็บเอาไว้ตลอดสองปีที่ผ่านมา...
แม่คะ พัชพูดพลางปล่อยน้ำตาไหลลงมาอาบแก้มช้า ๆ 
ภัทราลูบศีรษะพัชไปมา เธอแสดงให้พัชรับรู้ว่าเธอกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่พัชกำลังพูดอยู่ และที่พัชจะพูดต่อจากนี้ไป
พูดออกมาเถอะลูก 
พัช พัชคิดว่าบิ๊ก บิ๊กเค้าคงไม่ คงไม่ ไม่กลับ กลับมาแล้วค่ะ พัชพูดตะกุกตะกัก น้ำเสียงของเธอปวดร้าวและขาดเป็นห้วง ๆ ภัทราไม่ได้แสดงทีท่าตระหนกตกใจกับความคิดนี้ของลูกสาว เธอยิ้มอย่างอ่อนโยนให้พัช
แต่แม่ไม่คิดแบบนั้นนะจ๊ะ แม่เชื่อว่า สักวันลูกกับบิ๊กต้องได้พบกันอีกแน่ มันเป็น ลิขิตสวรรค์ จ้ะ ตอนนี้คนบนฟ้าอาจจะแค่ทดสอบความมั่นคงและกล้าหาญของจิตใจของลูกกับเค้าเท่านั้นเอง การรอคอยมันเป็นเรื่องที่แสนทรมานและเจ็บปวด ใช่ แม่ไม่ปฏิเสธหรอก แต่ถ้าลูกมองดี ๆ ลูกก็จะเห็นว่า การรอคอยสอนอะไรให้ลูกบ้าง และแม่ก็เชื่อว่าลูกมองเห็นมันได้จ้ะ 
แต่นี่สองปีผ่านไปแล้วนะคะ เรายังไม่ได้แม้แต่ข่าวที่บอกว่า บิ๊กยังมีชีวิตอยู่ แล้วพัชจะมั่นใจได้ยังไงคะว่าพัชจะได้เจอเค้าอีก พัชทราบค่ะว่าพัชสัญญากับเค้าไว้ว่าพัชจะเข้มแข็ง แต่แม่รู้ไหมคะว่า พัชเคยแอบคิดบ่อย ๆ ว่าเค้าคงไม่กลับมาแล้ว เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว จนกระทั่งนาทีนี้ พัชก็คิดแบบนั้น พัชคิดว่า พัช พัชกำลังจะยอมแพ้ น้ำตาอีกมากมายไหลเอ่อออกมาจากดวงตาแสนเศร้าของพัช 
แม่รู้จ้ะ แม่รู้ แต่แม่อยากให้ลูกเชื่อในอะไรก็ตามที่บิ๊กบอกกับลูกไว้ก่อนที่จะจากกัน แม่เชื่อว่าเค้าต้องรักษาสัญญา
แต่เค้าไม่ได้สัญญากับพัชนี่คะ ว่าเค้าจะกลับมาหาพัช จริงๆตอนนั้นพัชไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะต้องจากกันแบบนี้ เค้าเอาแต่พูดว่าให้พัชเข้มแข็ง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ขอให้พัชจำไว้ว่าเค้ารักพัช และเค้าขอให้พัชสัญญาว่าชาติหน้าให้เราเกิดมาคู่กัน ไม่พรากจากกันอีก อะไรทำนองนั้น มันหมายถึงอะไรได้ล่ะคะ มันไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกเอาไว้เลยนี่คะว่าเค้าจะกลับมาหาพัช พัชพูดพลางเช็ดน้ำตา
ภัทราซึ่งฟังพัชพูดอย่างตั้งใจฟังทุกคำพูดนั้น มีสีหน้าซึ่งยากจะเดาได้ว่า เธอรู้สึกอย่างไรกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่
บิ๊ก เค้าบอกกับลูกแบบนั้นเหรอจ๊ะ ภัทราถามย้ำ
ค่ะ เค้าบอกพัชแบบนั้น 
พัชจ๊ะ แม่ว่าตอนนี้ลูกไปพักผ่อนหน่อยดีกว่านะจ๊ะ เราจะคุยเรื่องนี้กันอีกได้ทุกเวลาที่ลูกต้องการแม่จ้ะ สิ่งที่ลูกต้องการตอนนี้คือการนอนหลับนะจ๊ะ 
แม่คะ พัชขออนุญาตไปทุ่งหญ้าค่ะ พัชไม่ต้องการนอนหลับค่ะ เอ่อ ขอโทษค่ะ พัชหมายความว่า พัชยังไม่อยากนอนค่ะ แม่เข้าใจพัชนะคะ
แน่นอนจ้ะ แม่เข้าใจ ดูแลตัวเองนะจ๊ะ ภัทราดึงพัชเข้ามากอด พัชหอมแก้มแม่ของเธอเบา ๆ ก่อนจะผละจากไป
ภัทรามองตามร่างของลูกสาวไปจนลับตา ความหวาดหวั่นหลั่งไหลเข้ามาโจมตีหัวใจของเธออย่างช่วยไม่ได้เลย เธอกำลังคิดถึงประโยคที่บิ๊กบอกกับพัช ที่พัชเพิ่งเล่าให้เธอได้ฟังก่อนออกไป ประโยคที่ว่า...ชาติหน้าขอให้เค้าทั้งสองได้เกิดมาคู่กันและอย่าได้พรากจากกันอีก...เด็กหนุ่มคนนั้น...บิ๊ก...เค้าคิดจะทำอะไรนะ ตอนนี้เค้ายังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม เค้าคงไม่ได้...ไม่นะ...ถ้าเค้าทำแบบนั้น...ป่านนี้ต้องมีใครรู้แล้วสิ...แต่นี่มันหมายความว่ายังไง สองปีผ่านไปโดยไร้ข่าวคราวใด ๆ...ภัทรานั่งลงอย่างอ่อนแรง เธอถอนหายใจ คิดแค่ว่า ทำไมนะ เรื่องแบบนี้จึงต้องเกิดขึ้นกับลูกสาวของเธอ...ทำไมกัน...
พัชค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ...ลืมตาจากความทรงจำ และ อดีต ที่ฝังอยู่หัวใจ...สองปีมาแล้ว สองปี ที่พัชรอเค้าอยู่ตรงนี้...ตรงที่ความทรงจำที่แสนดีมากมายเกิดขึ้น...และความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เค้าตั้งใจให้เธอจดจำก็ยังฝังอยู่ ณ ที่นี้...จนถึงทุกวันนี้...เธอก็ยังมีแค่เค้าอยู่ในหัวใจ...แล้วเค้าล่ะ...จะเป็นเหมือนเธอบ้างไหมนะ...
พัชวางดอกกุหลาบขาวไว้ ณ ตรงที่ ๆ เธอฝังศพของเจ้าโมโม่เอาไว้...เธอเลือกที่จะฝังร่างไร้วิญญาณของเพื่อนคู่ใจ คู่ทุกข์ คู่ยาก ที่จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับไว้ตรงนี้...ทุ่งหญ้าแห่งนี้...
พัชกลับก่อนนะจ๊ะโมโม่...เอาไว้พรุ่งนี้พัชจะมาหาเหมือนเดิมนะ พัชวางกุลาบไว้แล้วค่อย ๆ ปาดน้ำตาที่รินไหล
โมโม่...อย่าคิดว่าพัชเหลวไหลเลยนะ...ถ้าโมโม่เจอบิ๊กที่นี่ละก็...ถ้าเผื่อบิ๊กหวนกลับมาที่นี่ล่ะก็...โมโม่ต้องรีบไปบอกพัชนะ...อย่าลืมนะ พัชพูดกับหลุมฝังศพของโมโม่อย่างเลื่อนลอย...
พัชนั่งสงบนิ่งอยู่กับหลุมศพโมโม่ครู่หนึ่ง...เธอก็ค่อย ๆ ลุกขึ้น และก็เดินลับหายไปจากทุ่งหญ้า พร้อม ๆ กับแสงอาทิตย์สุดท้ายที่เพิ่งลับหายไปจากขอบฟ้า...อีกไม่นาน แสงอาทิตย์ก็จะกลับมาทำให้โลกนี้สว่างสดใส...เติมพลังให้กับทุกชีวิตอีกครั้ง...อีกไม่นาน...
แสงสว่างแรกของวันนี้...โผล่พ้นจากขอบฟ้าได้ไม่นานนัก...เสียงผู้คนจ้อกแจ้กจอแจรับเช้าวันใหม่ดังก้องออกมาจากไร่...เป็นเสียงของคนงานที่คุ้นเคยกันดี...พวกเค้าเริ่มงานตั้งแต่เช้าตรู่...งานในไร่กุหลาบนี้ถือได้ว่าเป็นงานที่พวกเค้ารัก...เพราะเจ้าของไร่นั่นเอง...ที่ทำให้คนงานทุกคนรู้สึกรักเค้า รักไร่ของเค้า และทุ่มเทให้กับงานเหมือนกับว่า ทุกคนเป็นเจ้าของไร่ร่วมกัน...ทุกคนจึงเต็มใจอยู่ที่นี่ ที่ ๆ ห่างไกลจากแสงสี และความเจริญต่าง ๆ ที่พรากความงดงามออกไปจากจิตใจของคนเรามากขึ้นทุกวัน...
White Roses 
ป้ายที่แขวนอยู่บอกเป็นความหมายได้ว่า...ไร่แห่งนี้...เป็นไร่กุหลาบขาว...มีหลายครั้งที่มีคนถามว่า ทำไมไม่ตั้งชื่อไร่ให้เป็นเรื่องเป็นราวล่ะ คนงานที่นี่ก็ได้แต่ยิ้ม...และได้แต่บอกว่า...เจ้าของไร่บอกว่า ไม่สามารถหาชื่อไร่ที่ถูกใจได้น่ะครับ...White Roses...จึงเป็นชื่อไร่แห่งนี้ที่ทุกคนเรียกขานกันไปโดยปริยาย...
นายชิต...วันนี้ตัดกุหลาบได้เยอะไหม เสียงชายวัยกลางคนถามขึ้น เค้าเดินมาทักทายคนงานทุก ๆ เช้า และก็ช่วยพวกคนงานตัดดอกกุหลาบเป็นกิจวัตร
เยอะครับคุณชานนท์...ตอนนี้ออกดอกงามมากครับ ไม่ทราบว่าคุณภัคนนท์ไปได้ปุ๋ยดีอะไรมาเหรอครับ นายชิตตอบพลางยิ้มอย่างอยากรู้
ชานนท์หัวเราะเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะปุ๋ยดีอะไรหรอกนายชิต เพราะคนงานทุกคนที่นี่ช่วยกันดูแลเอาใจใส่ต่างหาก และอีกอย่าง พักนี้ฉันรู้สึกว่า ไอ้เจ้าลูกชายฉันเนี่ยขยันเหลือเกิน รู้สึกว่าจะทำงานหนักเกินไปแล้วด้วยซ้ำ
นั่นน่ะสิครับคุณชานนท์ ผมเห็นคุณภัคนนท์ไม่เคยหยุดทำงานเลย ไม่ว่าจะฝนตก แดดออก เอ...แบบนี้อาจจะทำให้ไม่สบายได้นะครับ นายชิตเห็นด้วยกับชานนท์ พลางออกปากด้วยความเป็นห่วงนายน้อยของเค้า...
นั่นน่ะสินะ พักหลังนี่เจ้าบิ๊กดูทุ่มเทกับงานมาก มากจนเกินความจำเป็นนะฉันว่า ชานนท์เริ่มกังวลว่าลูกชายของเค้าอาจจะคิดอะไรขึ้นมาอีกแล้ว...
เพราะเรื่องนั้นหรือเปล่าครับ นายชิตแย้มถาม
เรื่องอะไร อ้อ...เรื่องหนูพัชสินะ...ฉันว่าก็อาจจะมีส่วนนะ ไม่หรอก มีส่วนอย่างมาก และก็คงเป็นเรื่องเดียวที่ทำให้จิตใจของลูกชายฉันหวั่นไหวได้น่ะนะ 
คุณชานนท์คิดว่า คุณพัชเธอเป็นลูกสาวของคุณจริงหรือเปล่าครับ นายชิตเอ่ยเกรง ๆ 
ไม่เป็นไร ฉันไม่ว่าอะไรหรอกชิต ถ้านายจะพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าจริงไหม ภัทราคนเดียวเท่านั้นแหละที่รู้ดีกว่าใคร ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ๆ ก็นับว่า เด็กสองคนนี้น่าสงสารมากทีเดียว ฉันหวังว่าคงจะไม่ใช่นะ ฉันอยากให้ลูกชายของฉันไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากไปกว่านี้แล้ว 
แล้วคุณชานนท์ไม่คิดจะกลับไปถามความจริงจากคุณภัทราเหรอครับ 
จริงด้วยสินะ ทำไมฉันไม่เคยคิดได้มาก่อน ขอบใจมากนะชิต พูดจบแล้วชานนท์ก็เดินออกไปจากไร่ทันที ทำเอานายชิตมองตามอย่างมึนงงเล็กน้อย
บทจะใจร้อน ก็เหมือนกันเลยแฮะ ทั้งพ่อทั้งลูก นายชิตเอ่ยยิ้ม ๆ เค้าอยู่กับชานนท์และภัคนนท์มาเป็นระยะเวลานาน เค้าจึงซื่อสัตย์และจงรักภักดีกับครอบครัวนี้มาก...
อ้าวพี่ชิต คุณชานนท์เธอออกไปไหนน่ะ มะลิน้องสาวของพิชิตถามขึ้น เธอถือดอกกุหลาบช่อโตที่เพิ่งตัดมา
ไปตามล่าหาความจริงล่ะมั้ง นังมะลิ เอ็งจะรู้ไปทำไมวะ ทำงานของเอ็งไปเถอะน่า 
แหม พี่ก็ ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ ไม่ได้ตั้งใจจะสอดรู้เรื่องเจ้านายสักหน่อย ทำเป็นบ่นไปได้ 
เออ ๆ ว่าแต่เอ็งตัดดอกกุหลาบไปให้ใครวะ เยอะขนาดนี้น่ะ นายชิตถามด้วยความสงสัย
อ๋อ ก็คุณแบมน่ะสิพี่ ปกติฉันไม่เห็นเธอจะชอบกุหลาบขาวนะ แต่วันนี้บอกให้ฉันตัดไปให้เยอะ ๆ แปลกดี เธอคิดจะทำอะไรของเธอนะ 
เอาน่า คุณเค้าบอกให้ตัดไปก็ตัดไปเถอะ จะเอาไปทำอะไรก็เรื่องของคุณเค้า เออ ว่าแต่ถ้าเอ็งเสร็จเรื่องคุณแบมแล้วก็ตามคุณภัคนนท์มาให้พี่หน่อยนา พี่จะให้คุณเค้ามาดูอะไรนี่หน่อย 
ได้ ๆ จ้ะพี่ ฉันเอาดอกกุหลาบไปให้คุณแบมก่อนนะ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน