ปรัชญาชีวิต
ชิวหลินทง
ชีวิตเปรียบเสมือนอารมณ์ หาความแน่นอนมิได้ บางครั้งก็ดี บางครั้งก็เลวอย่างคาดไม่ถึง คุณค่าของมันขึ้นอยู่กับการกระทำ การกระทำที่ขีดเส้นทางเดินแก่ชีวิต สรรพสิ่งจะยังคงหล่อหลอมรวมกับชีวิตซึ่งจะดำเนินอยู่และคงจะดำเนินต่อไป ตราบจนวาระสุดท้ายของมันจะมาถึง
ชีวิตดำเนินไปตามทาง ทางที่บ้างก็มืดมิดบ้างก็อับจน ทางที่มีทั้งอุปสรรคและความสมหวัง ความหวังและจิตวิญญาณยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ชีวิตสามารถดำรงอยู่
มนุษย์เรา บ้างก็ยึดติดกับชีวิต บ้างก็ปล่อยชีวิตให้ดำเนินไปอย่างไร้จุดหมายไร้ความหวัง เปรียบได้กับคนตาบอดที่แม้กระทั่งไม้เท้านำทางยังไม่มี สิ่งเหล่านี้ไยมิใช่บันดาลให้มนุษย์ บางคนรวย บางคนจน บางคนทุกข์ แต่บางคนกลีบมีความสุข สิ่งหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเราแตกต่างกัน มิใช่ความร่ำรวย ความยากจน หากแต่เป็นความคิด ความคิดเป็นสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล มันสามารถก่อเกิดสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้นคือความเข้าใจ และปัญญา
การเสริมสร้างคุณค่าของชีวิตนับว่ามีความสำคัญ ชีวิตที่ขาดคุณค่าไม่อาจนับเป็นชีวิต ชีวิตที่มีคุณค่าจึงนับว่าเป็นชีวิตที่แท้จริง แต่คุณค่าของชีวิตจะมีความหมายไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับการมองมันในแง่มุมไหน แต่จะเป็นการมองอย่างไรก็ตาม คุณค่าของชีวิตจะต้องมีองค์ประกอบร่วมกันอย่างหนึ่ง นั้นคือ คุณค่าของชีวิตจะเกิดก็ต่อเมื่อมันได้ทำประโยชน์แก่ตัวเอง สังคม และเพื่อนมนุษย์ ในความหมายของคำว่าเพียงพอ....
" แก่นแท้ของชีวิตคือความว่างเปล่า
แต่ชีวิตที่เราเห็นเกิดจากการแต่งเติม "
" คนผู้หนึ่งหากเข้าใจว่าตนเองเข้าใจบ้างสิ่งดีแล้ว
คนผู้นั้นก็คือคนที่ไม่เข้าใจอะไรเลย "
" มาตรแม้พระอาทิตย์จะไม่ส่องแสง
จันทราจะไม่สว่างไสว
ดาวเดือนจะลับไป
แต่ชีวิตจะยังคงกระจ่างใสอยู่ตลอดกาล"
" ผู้ที่เริ่มเข้าใจชีวิตจะไม่บ่นเมื่อมีอุปสรรค
จะไม่ดีใจจนลืมตัวเมื่อสมหวัง
แต่จะยังคงดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีจุดมุ่งหมาย "
ชิวหลินทง (เด็กอัจฉริยะแซ่ชิว)