ถึงเพื่อนที่แสนดีของฉัน
มีนาดา
วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม 7.00 AM ฉันจะได้รับการผ่าตัดที่ไขกระดูก มีอาการ 50-50 เพราะฉันเป็นขั้นสุดท้ายแล้ว ฉันรู้ว่ามันไม่มีผล แต่ฉันก็ยังหวังว่า ฉันจะเป็น 1 ใน 100 ที่หายขาด
ตอนนี้ฉันได้แต่ทำใจค่ะ ว่าอะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด ครั้งแรกที่รู้ว่าตัวเองไม่รอดแน่ ฉันรู้สึกเสียใจมาก หดหู่ใจ แทบบ้า แต่ไม่กล้าบอกใคร กลัวทุกคนจะเป็นห่วง แม้แต่พ่อแม่ และ เขา
เขาเป็นคนๆหนึ่งที่ฉันไว้ใจค่ะ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันคนหนึ่งในชีวิตเลย ฉันไม่เคยเจอเขาหรอก เราคุยกันแค่ใน MSN ตั้งแต่กรกฎาเห็นจะได้ แลกกันแต่รูป ฉันบอกเขาเสมอว่าจะกลับไปประเทศไทยแน่นอน (ฉันอยู่ต่างประเทศค่ะ) แต่วันนี้ ฉันเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ว่าฉันจะได้ไปเมืองไทยอีกไหม
วันที่ 10 ฉันผ่าตัด และวันที่ 10 เขาก็ไปสิงคโปร์เหมือนกัน ฉันอยากคุยกับเขามากค่ะ แต่ก็ไม่เจอ ตอนนี้เลยได้แต่ Foewardmail ไว้ เผื่อฉันไม่กลับมา เขาจะได้อ่าน
ตอนนี้ ทุกคนกำลังเข้าภาวะเงียบ ตกใจ ไม่มีการพูดจาใดๆทั้งสิ้น มันทำให้ฉันหดหู่ใจมาก ฉันมีแต่เขา เขาที่คอยบอกให้ฉันสู้ สู้เข้าไว้ สู้จนถึงที่สุด เขาบอกฉันว่ามันเป็นแค่เชื้อโรค คำพูดเล็กๆ แต่เขาจะรู้มั่งไม๊ว่าในตอนนี้มันทำให้ฉันรู้สึกมีกำลังใจมากขึ้นเป็นกอง ฉันได้แต่บอกว่าขอบคุณนะ แต่ใจจริงแล้วฉันอยากจะทำอะไรอย่างอื่นบ้างเผื่อเขา
เขาถามฉันค่ะ ว่ามีอะไรที่เขาจะช่วยฉันได้ไหม บอกเขาได้เลย มันเป็นอะไรที่พูดไม่ออกนะ ฉันรู้สึกตื้นตันจนบอกไม่ถูกเลย น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัวเหมือนกัน
Forwardmail ฉบับนี้ ฉันอยากจะให้ส่งไปถึงเขา เพราะฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาหรือไม่ แต่ฉันรับความเป็นจริงได้แล้วหละ ว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้คุยกันอีก ได้แต่หวังว่า Forwardmail ฉบับนี้ จะเป็นที่ระลึกสุดท้าย ที่ฉันจะมอบให้เขา และฉันก็ขอบคุณนะ ขอบคุณหน้าจอสี่เหลี่ยมนี้ ที่ทำให้ฉันได้พบคนดีๆแบบนี้
ถ้าแกเจอ Forwardmail นี้ จะรู้ไหมว่าเป็นฉัน ฉันคิดถึงแกนะ ก็แค่อยากจะทำอะไรก่อนไปก็เท่านั้นเอง ฉันอยากเป็นเพื่อนกับแกให้มากกว่านี้ อยากให้แกเป็นที่ 1 ของฉัน อยากให้แกเป็นเพื่อนรักฉันของฉัน อยากให้ฉันกับแกเดินหน้าไปเจอความสำเร็จพร้อมๆกัน อยากให้แกเป็นทุกๆอย่าง แต่วันนี้ แกก็เห็นใช่ไหมว่ามันเป็นยังไง... ! มันเป็นไปแทบไม่ได้เลย แกคงรู้นะ แต่แกไม่อยากพูด ฉันเข้าใจ
ฉันอยากเห็นแกยิ้ม แต่ตอนนี้ฉันได้แต่หวังว่า แกคงยิ้ม และ ประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งความฝันที่แกกำลังทำอยู่ และความหวังในเรื่องของครอบครัวรวมทั้งเรื่องอื่นๆด้วย ฉันจำได้ที่แกว่าบอกแกไหล่ไม่ดี แต่ฉันเข้าใจว่าความฝันของแกมันหยุดไม่ได้จริงๆ อยากให้แกดุแลตัวเองเยอะๆนะ และวันไหนที่แกปวดไหล่ แกล้า เหนื่อย ท้อใจ เสียใจ ไม่มีใครเข้าใจ อย่าลืมฉัน นึกถึงฉันก็พอ ฉันยังอยู่ข้างแกเสมอ สู้นะ สู้เข้าไว้ แกบอกฉันออกจะบ่อยไปคำนี้
ความรัก ความปรารถนาดีที่มอบให้ในช่วงระยะเวลาสั่นๆนี้ มันสูงค่า เกินกว่าที่จะแปรเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ รู้แค่ว่า ฉันเป็นห่วงแกก็พอ และขอบใจที่แกเป็นห่วงฉัน ค่อยบอกคอยเตือนสติ และอารมณ์ฉันมาตลอด ฉันนี่สิ...ไม่เคยเอาเรื่องดีๆให้แกรับรู้เลย
ต่อแต่นี้ไป ฉันคงไม่อยู่กวนใจแกแล้วนะ จะไม่มีใครถามว่า ทำไมนอนดึกวะ.....
ทำไมไม่นอนซักที.....
จะบ้าเหรอ.....
โชคเป็นไงบ้าง.....
มันจะไม่มีอีก จะไม่มีคนมาด่ามากัดกับแกอีกแล้วนะ
ชิน ฉันอยากจะขอโทษแก แกคงโกรธฉันสินะที่เป็นแบบนี้
ฉันขอโทษที่ฉันไม่เคยบอกแกเลย
ฉันขอโทษที่ฉันไม่อยู่สารภาพว่าฉันไม่อยู่แล้ว
ฉันขอโทษที่อยู่ให้แกมาหาฉันไม่ได้
ฉันขอโทษที่ฉันไม่อยู่ให้แกเลี้ยงข้าว
ฉันขอโทษที่ไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนกินเหล้าแก
ฉันขอโทษที่ฉันไม่ได้อยู่เชียร์แก ไม่ได้อยู่กรี้ดเวลาที่แกแข่ง
ฉันขอโทษ ที่ฉันไม่มีลูก เอาไว้ให้แกสอนเขาให้เขาเป็นแบบแก
และ ฉัน ขอโทษที่ฉัน มีเวลาอยู่ได้เท่านี้ ฉันขอโทษ ขอโทษจากใจจริง
สุดท้ายนี้ฉันขอให้แกมีความสุข ประสบความสำเร็จในทุกๆสิ่ง เจอแต่เรื่องดีๆเข้ามาในชีวิต เดินไปข้างหน้าอย่างภาคภูมิ ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าและมีเกียรติ รักครอบครัว รักไอ้อายมันเยอะๆ ดูแลคนที่เรารักและรักเรามากๆ เพราะแกไม่รู้นี่..ว่าข้างหน้าต่อไปจะเป็นยังไง (เพราะแกไม่ใช่หมอดูใช่ไหม) อย่าเป็นแบบฉันก็พอ เพราะฉันไม่อยากให้คนที่ฉันรักเป็นทุกข์และเจ็บปวด และอย่าลืม ดูแลตัวเอง รักตัวเองมากๆนะชิน
(เราทราบมาว่า คนที่ Forwardmail ฉบับนี้ ได้เสียชีวิตแล้ว เราขอแสดงว่าเสียใจด้วย เราชอบ Forwardmail ของเขามากเลย ขอให้คุณชิน อ่านเจอด้วย เราเป็นกำลังใจให้)