“ระบบนิเวศน์กำลังล่มสลาย เรากำลังจะสูญพันธุ์ แต่พวกคุณกลับพูดถึงกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ
และผลเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร!”
นี่เป็นคำกล่าวสุนทรพจน์ของสาวน้อยมหัศจรรย์ เกรต้า ธันเบิร์ก (วีแก้น) นักเคลื่อนไหวด้านสภาวะ
โลกร้อนชาวสวีเดน ซึ่งในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 16 ปี เท่านั้น เธอกล่าวทุกถ้อยคำที่หนักหน่วงและ
ซีเรียสทุกประโยคราวกับสงครามโลกกำลังจะเกิดขึ้นท่ามกลางผู้นำโลกในการประชุม เรื่องสภาพภูมิอากาศ
(UN Climate Action Summit) ในเดือนกันยายน 2019 ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนิวยอร์ก
หลายคนมองว่าเธอมีอาการของแอสเพอร์เกอร์(กลุ่มหนึ่งของโรคออทิสติค) ที่จะหมกมุ่นกับการกระทำอะไร
ซ้ำๆ และมีปัญหาเรื่องการเข้าสังคม แต่เธอสวนกลับว่า “ใช่ ฉันเป็นแอสเพอร์เกอร์ นั่นคือการกระทำอาจ
แตกต่างจากคนทั่วไป แต่ถ้าหากเราใช้ความแตกต่างให้ถูก มันคือซูปเปอร์พาวเวอร์เลยล่ะ”
เธอเล่าว่า “เมื่อฉันอายุได้ 11 ขวบ ฉันป่วย ฉันรู้สึกซึมเศร้า ฉันหยุดพูด และฉันหยุดกิน ผ่านไปได้ 2
เดือนน้ำหนักฉันหายไป 10 กิโลกรัม ฉันถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม(Asperger's Syndrome) OCD (โรคย้ำคิดย้ำทำ ; OCD : Obsessive Compulsive Disorder) และ Selective Mutism (โรคไม่พูด
ในบางสถานการณ์) พูดให้ง่าย ฉันจะพูดก็ต่อเมื่อฉันคิดว่ามันจำเป็น และตอนนี้ฉันก็อยู่ในช่วงเวลานั้น”
ด้วยความกล้าหาญเหนือธรรมดาประกอบกับคำพูดที่ทรงพลัง อ่อนน้อม บริสุทธิ์จริงใจและจริงจังอยากแก้ไข
ปัญหาโลกร้อนของเธอ ทำให้ถ้อยคำของเธอจับใจผู้ฟัง จนสื่อมวลชนตั้งฉายาให้เป็น “Climate Icon” เกรต้า
ได้รับเชิญให้ไปพูดในอีเวนต์ต่างๆ ทั่วโลก ตั้งแต่ Ted Talk ที่สตอกโฮล์ม ตามด้วยงาน เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรัม
ที่เมืองดาวอส ในสวิตเซอร์แลนด์ และงาน EESC ที่บรัสเซลล์ ในประเทศเบลเยี่ยม ต่อด้วยไปพูดที่สภายุโรป
ในเมืองสตาร์บูร์กส์ ประเทศฝรั่งเศส
สาวน้อยชาวสวีเดนกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงไปแล้วทั่วโลกเพียงแค่ลุกขึ้นแสดงจุดยืนต่อสิ่งที่เธอเชื่อ
เธอได้รับการเสนอชื่อให้รับรางวัลโนเบล และได้เป็นบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ในปี 2018 ในเดือนสิงหาคม
2018 ตอนอายุ 15 ปี เกรต้า ตัดสินใจประท้วงไม่ไปโรงเรียนและเธอใช้เวลาหลายวันนั่งอยู่หน้ารัฐสภาของ
สวีเดนพร้อมกับชูป้ายแผ่นไม้ที่เขียนด้วยลายมือตัวเองว่า “ไม่ไปเรียนหนังสือเพื่อประท้วงโลกร้อน”
เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเห็นความสำคัญสูงสุดในการแก้ไขปัญหาโลกร้อน ด้วยการกระทำของเธอกลายเป็นข่าว
พาดหัวไปทั่วโลก เธอทำให้เกิดการรณรงค์ของเยาวชนที่คิดเหมือนกัน ด้วยพลังที่ยืนหยัดอย่างกล้าหาญ
ของเธอ ผู้คนเป็นล้านๆ ทั่วโลกต้องการประท้วงแบบเดียวกันกับรัฐบาลของตนให้ใช้มาตรการที่ตรงเป้าทันที
เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างรวดเร็ว
เกรต้า ได้พูดในที่ประชุม ซึ่งนำโดยเยาวชนบางกลุ่ม เพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลงนโยบายเรื่อง
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับที่ใหญ่ขึ้น ตามที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในเดือนสิงหาคม 2019
จำนวนผู้ประท้วงเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีถึง 3.6 ล้านคน ใน 169 ประเทศ สาวน้อยที่กล้าหาญ
ผู้นี้ก็ยังปราศรัยในที่ประชุมเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในปี 2018 ที่เรียกว่า
COP24 ในคาโตไวส์ ประเทศโปรแลนด์และได้เข้าพบกับเลขาธิการสหประชาชาติ นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส
เกี่ยวกับเรื่องที่เธอกังวล “ฉันอยู่ที่นี่เพื่อจะบอกว่า บ้านของเรากำลังไฟไหม้ และตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการพูด
อย่างสุภาพหรือมุ่งไปที่ว่าอะไรควรพูดหรือไม่ควร ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องพูดให้ชัดเจน การแก้ไขปัญหาวิกฤต
ทางสภาพภูมิอากาศเป็นเรื่องท้าทายที่ซับซ้อนและยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์ไม่เคยประสบมาก่อน อย่างไรก็ตามวิธี
แก้ปัญหานั้นง่ายมากที่แม้แต่เด็กเล็กก็สามารถเข้าใจได้คือ เราต้องหยุดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก” เกรต้ากล่าว
เกรต้าเป็นที่รู้จักในเรื่องการยึดหลักการ นอกจากการเป็นวีแกนที่ปลูกผักกินเอง เธอปฏิเสธที่ขึ้น
เครื่องบินเพื่อหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่โลก ในเดือนสิงหาคม 2019 เธอใช้เรือที่ปราศจาก
ก๊าซเรือนกระจกเดินทางจากยุโรปข้ามมหาสมุทรแอตแลนด์ติกมาที่นิวยอร์ก โดยใช้เวลาถึง 14 วัน
เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดระดับผู้นำโลกเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สหประชาชาติ ”ไอเดีย
ที่แพร่หลายบอกว่าเราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงครึ่งหนึ่งภายใน 10 ปี ข้างหน้า เพียงเพื่อให้เรา
มีโอกาส 50% ที่อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5 องศาเซลเซียส และความเสี่ยงในการนำไปสู่
กระบวนการที่ไม่สามารถย้อนกลับได้เหนือการควบคุมของมนุษย์ 50% คุณอาจยอมรับได้ แต่จำนวนเหล่านั้น
ยังไม่ได้รวมจุดผลิกผัน (Tipping points) วงจรสะท้อนกลับทั้งหมด และอากาศที่ร้อนขึ้นจากมลพิษต่างๆ
หรือด้านความเสมอภาคและความเป็นธรรมในด้านภูมิอากาศอีกหลายๆ ปัจจัยที่ถาโถม พวกเขายังหวังพึ่งพา
คนรุ่นใหม่ ในการลดก๊าซนับแสนล้านต้นจากชั้นบรรยากาศด้วยเทคโนโลยีที่ยังไม่มีอยู่จริง ความเสี่ยง 50%
จึงรับไม่ได้สำหรับเรา ที่ต้องมีชีวิตอยู่กับผลกระทบจากมัน”
เกรต้า ยังกล่าวในเวทีการประท้วงอีกว่า “ถ้าไม่มีใครที่จะลงมือทำ เราก็จะทำ มันไม่ควรเป็นแบบนั้น
เราไม่ควรเป็นคนที่ต้องต่อสู้เพื่ออนาคต แต่ถึงกระนั้นเราก็ยังอยู่ที่นี่ เราไม่ได้เป็นแค่เยาวชนที่หนีเรียนหรือ
ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ทำงาน แต่เราเป็นคลื่นแห่งการเปลี่ยนแปลง!”
วันที่ 10 ธันวาคม 2018 โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ได้รับสิทธิพิเศษให้สัมภาษณ์เกรต้า ธันเบิร์กในเวลาสั้น
ขณะที่เธอร่วมอยู่ใน COP24 ประเทศโปรแลนด์ดังนี้
นักข่าว : ฉันขอบคุณมากที่คุณเข้าไปดำเนินการมากมายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ คุณคิดว่าการ
แก้ปัญหาที่ดีที่สุดคืออะไร?
เกรต้า : เราต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก นั่นคือทางแก้
นักข่าว ; คุณคิดว่าการเป็นวีแก้นเป็นส่วนสำคัญที่สุดในนั้นไหม?
เกรต้า : ใช่ แน่นอนที่สุด
นักข่าว : คุณคิดว่าเราจะสามารถเรียกร้องให้เยาวชนมาเป็นวีแก้นมากขึ้นได้อย่างไร?
เกรต้า : ฉันคิดว่าแค่บอกความจริงกับพวกเขา เพราะถ้าเด็กๆ ไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็จะยังดำเนิน
ชีวิตตามปกติต่อไปเหมือนก่อน
นักข่าว : ทำไมคุณถึงเป็นวีแก้น?
เกรต้า : ฉันดูวิดีโอเห็นสัตว์ถูกระทำอย่างเลวร้ายทารุณ ดังนั้นเมื่อคุณรู้ และตระหนัก คุณจะเข้าไปจัดการ
ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้แก่เกรต้า ธันเบิร์ก ด้วยความรัก ความชื่นชม
และความปรารถนาดีที่สุดสำหรับความสำเร็จมากมายด้วยความเมตตาของพระเจ้า สำหรับการยืนหยัดอย่าง
กล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมทั้งความกล้าหาญที่เหนือธรรมดาของเธอในการ
เผชิญหน้ากับผู้นำโลกที่เพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในวันที่ 2 มีนาคม 2019
ท่านเขียนจดหมายถึงเกรต้า มีเนื้อความดังนี้
เกรต้าที่รัก
ด้วยความชื่นชมยินดีและซาบซึ้งใจอย่างมากที่เราได้มอบรางวัลวีรสตรีโลกจรัสแสงให้กับคุณ สำหรับ
การยืนหยัดอย่างกล้าหาญในการต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รางวัลนี้ได้มอบให้เพื่อยกย่องถึง
ความกล้าหาญเหนือธรรมดาของคุณที่เผชิญหน้ากับผู้นำระดับโลกเกี่ยวกับอันตรายของความเพิกเฉยไม่ลงมือ
ทำอะไรของพวกเขา เปรียบเสมือนดวงประทีปแห่งความหวังสำหรับการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืน ความพยายาม
อย่างจริงจังของคุณจะสร้างอนาคตที่สดใสกว่าให้กับมวลมนุษยชาติ นิตยสารไทม์ได้ประกาศชื่อของคุณให้
เป็นหนึ่งในผู้นำวัยรุ่นที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกในปี 2018 สำหรับการแสดงออกอย่างชัดเจนถึงความกังวล
เกี่ยวกับโลกของเรา และการแก้ไขปัญหาอย่างแน่วแน่เพื่อการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศน์ ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ตั้งแต่การเริ่มต้นอย่างโดดเดี่ยวของเด็กหญิงอายุ 15 ปี ที่นั่งอยู่บนทางเท้าหน้ารัฐสภาของสวีเดน ด้วยความ
เข้มแข็ง ความเชื่อมั่น และสติปัญญาของคุณสำหรับคนอายุน้อยที่ท้าทายความเชื่อ การศึกษาเกี่ยวกับ
ภูมิอากาศตอนอายุเพียง 9 ขวบ ประกอบด้วยหัวใจที่บริสุทธิ์และการกระทำเยี่ยงนักบุญ คุณได้ทำในสิ่งที่ยากยิ่งเสมือนการเคลื่อนย้ายภูเขาทีเดียวอย่างที่คุณกล่าวว่า “คุณไม่มีวันเด็กเกินไปที่จะสร้างความแตกต่าง” และอะไร
ที่แตกต่างคุณได้ทำมันไปแล้ว มันเหมือนกับคุณได้รับพลังจากบรรพบุรุษของคุณที่เป็นบิดาแห่งวิทยาศาสตร์
ด้านภูมิอากาศ ดร.สวานเต อาร์เฮเนียสให้สานต่องานอันสูงส่งต่อไป ตอนเริ่มต้นคุณเปลี่ยนเป็นวีแก้น
แล้วครอบครัวของคุณก็เปลี่ยนไปทานผัก การประหยัดไฟ และการหยุดขึ้นเครื่องบิน จากนั้นโรงเรียนของคุณ
ก็เข้าร่วมในการประท้วงกับคุณ ในที่สุดนักเรียนนับหมื่นๆ คนทั่วโลกกำลังรณรงค์เรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนแปลง
คุณคือแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นใหม่ คือผู้นำของอนาคต และนักเคลื่อนไหวที่ร่วมตัวกันมอบความหวังให้แก่
โลกของเราและโอกาสในการลดภาวะโลกร้อน สำหรับความพยายามอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและการกระทำที่
ไร้ตัวตนอย่างอุทิศตนเพื่อปกป้องโลกของเรา และสำหรับการเป็นแบบอย่างที่อุทิศตนด้วยบทบาทที่สูงส่ง
ด้วยประการฉะนี้ เราขอปรบมือและสรรเสริญการกระทำอย่างวีรบุรุษของเกรต้า ธันเบิร์ก ขอให้คุณได้รับการ
อวยพรมากมายสำหรับการอุทิศตนเพื่อความอยู่ดีของโลก
ด้วยความนับถือ ด้วยรักและด้วยพระพรในความเมตตาของพระเจ้าอย่างสูงสุด
อนุตราจารย์ชิงไห่
ติดตตามเรื่องของเกรต้า ธันเบิร์กได้ที่ :
https://suprememastertv.com/th1/v/91265103959.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503415.html
https://suprememastertv.com/th1/v/55457503397.html