ในกาลครั้งหนึ่งมีเจ้าหญิงพระองค์หนึ่งชื่อราณี อาศัยอยู่ในปราสาทอันใหญ่โตและมีเสื้อผ้าอาภรณ์ที่สวยงาม
และราคาแพงที่สุด เจ้าหญิงราณีกำลังจะแต่งงานกับเจ้าชายคงคา แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อมังกรไฟ
บุกรุกเข้ามาในปราสาทของเธอ นอกจากมันจะพ่นไฟเผาเสื้อผ้าที่สวยงามจนกลายเป็นเถ้าถ่านหมดแล้ว
มันยังลักพาเอาตัวเจ้าชายคู่หมั้นของเธอไปด้วย
เจ้าหญิงจึงตัดสินใจที่จะติดตามเจ้ามังกรไฟเพื่อไปช่วยเจ้าชายกลับคืนมา เธอมองหาอะไรสักอย่างสำหรับสวม
ใส่เพื่อปกปิดร่างกาย แต่ทุกอย่างถูกไฟของมังกรเผาไหม้จนหมดสิ้น เหลือเพียงสิ่งเดียวที่ยังไม่ไหม้คือ
ถุงกระดาษ
เจ้าหญิงราณีจึงไปหยิบเอาถุงกระดาษมาฉีกตรงมุมสองข้างสำหรับแขนและฉีกก้นถุงให้ทะลุสำหรับสวมใส่
เมื่อเสร็จแล้วเธอก็สวมเสื้อถุงกระดาษและออกติดตามเจ้ามังกรไฟ
การติดตามเจ้ามังกรไฟก็เป็นไปอย่างง่ายดายเพราะมันทิ้งร่องรอยไว้คือป่าที่ถูกไฟไหม้เป็นทางและกระดูก
ของม้าที่มันกินเป็นอาหาร
ในที่สุดเจ้าหญิงก็เดินทางมาถึงถ้ำของเจ้ามังกรไฟซึ่งมีบานประตูขนาดใหญ่มหึมาพร้อมที่เคาะประตูอันเบ้อ
เริ่มห้อยอยู่ เธอใช้แรงยกที่เคาะประตูขึ้นแล้วปล่อยให้มันกระทบกับบานประตูอย่างแรงเพื่อเคาะเรียกเจ้า
มังกรที่อยู่ในถ้ำ
เจ้ามังกรไฟได้ยินเสียงเคาะก็โผล่หัวแง้มประตูออกมาดูแล้วก็พูดขึ้นว่า
“อ๋อ! เจ้าหญิงหรอกเรอะ…ข้าชอบกินเจ้าหญิงเป็นอาหารนะ แต่วันนี้ข้าเพิ่งกินคนมาจนหมดเกลี้ยงทั้งปรา
สาท ท้องข้าไม่มีที่ว่างแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกลับมานะ”
พูดเสร็จมันก็รีบปิดประตูปังทันทีจนเกือบจะหนีบจมูกเธอ
เจ้าหญิงราณีก็พยายามยกที่เคาะประตูอันเขื่องนั้นขึ้นแล้วปล่อยให้มันกระแทกบานประตูเคาะเรียกเจ้ามังกร
อีกครั้ง
เจ้ามังกรไฟก็ยื่นหัวออกมาอีกพลางก็พูดขึ้นว่า
“ไปเสียให้พ้น ข้าชอบกินเจ้าหญิงเป็นอาหารหรอกนะ แต่วันนี้ข้าเพิ่งกินมาจนหมดเกลี้ยงทั้งปราสาท ท้องข้า
ไม่มีที่ว่างแล้ว พรุ่งนี้ค่อยกลับมาอีกนะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ” เจ้าหญิงราณีตะโกน
“เป็นความจริงหรือที่ว่ามังกรองอาจที่สุดและร้ายกาจที่สุดในโลก”
“ใช่แล้ว” เจ้ามังกรตอบ
“เป็นความจริงหรือ ที่ว่าท่านสามารถเผาผลาญได้ถึงสิบป่าด้วยการพ่นไฟจากปากของท่าน” เจ้าหญิงราณี
ถามขึ้น
“โอ! ใช่แน่นอน” เจ้ามังกรพูดขึ้นพร้อมกับตะเบ็งลมแล้วพ่นเป็นไฟออกมาเผาผลาญป่าไม้มากถึงห้าสิบ
ป่า
“โอ้โฮ! มหัศจรรย์จริงๆ” เจ้าหญิงอุทานขึ้น เมื่อได้ยินเช่นนั้นเจ้ามังกรก็ยิ่งตะเบ็งลมแล้วพ่นไฟออกมา
เผาผลาญป่าได้มากขึ้นอีกถึงหนึ่งร้อยป่า
“โอ้โฮ! ยิ่งใหญ่มหัศจรรย์เหลือเกิน” เจ้าหญิงอุทานอีกครั้ง เจ้ามังกรก็เพิ่มแรงตะเบ็งลมพ่นออกมาอีกที
แต่คราวนี้ไม่มีไฟเหลือให้แลบออกมาเลย เจ้ามังกรไฟไม่มีไฟเหลืออยู่ในตัวแม้แต่จะเพียงแค่ย่างปลาหมึก
แห้งก็ไม่พอ
เจ้าหญิงราณีจึงถามต่ออีกว่า
“ท่านมังกร เป็นความจริงหรือที่ว่าท่านสามารถบินรอบโลกได้ภายในเวลาเพียงแค่สิบวินาที”
“ใช่สิ ทำไมล่ะ” เจ้ามังกรรีบตอบพร้อมกับ กระโดดทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้วบินรอบโลกเพียงในเวลาสิบ
วินาที เจ้ามังกรดูอ่อนเพลียเมื่อมันกลับมา แต่เจ้าหญิงก็ตะโกนขึ้นว่า
“โอ้โฮ! ช่างมหัศจรรย์จริงๆ ลองทำอีกสักครั้งซิ”
ได้ยินดังนั้นเจ้ามังกรก็กระโดดขึ้นท้องฟ้าแล้วบินรอบโลกอีกครั้งหนึ่ง แต่คราวนี้ใช้เวลานานขึ้นคือยี่สิบวินาที
เมื่อมันกลับมาถึงมันก็เหน็ดเหนื่อยอย่างมากจนพูดไม่ได้ แล้วก็ล้มพับลงนอนและไม่ทันไรมันก็หลับผล็อยไป
เลย
เจ้าหญิงราณีจึงไปกระซิบเบาๆ
“นี่ๆ ท่านมังกร” เจ้ามังกรก็ไม่กระดุกกระดิกแม้แต่น้อย
เธอจึงจับใบหูของมันกางออกแล้วมุดหัวของเธอเข้าไปข้างในหูของมันแล้วตะโกนจนสุดเสียง
“เฮ้ย! ไอ้มังกร!” เจ้ามังกรก็ยังไม่กระดุกกระดิกเลยแม้แต่น้อย
เจ้าหญิงราณีจึงเดินผ่านเลยเจ้ามังกรไปแล้วเปิดประตูเข้าไปในถ้ำ
เจ้าชายคงคาอยู่ในนั้น พอเขาเหลือบเห็นเจ้าหญิง เจ้าชายก็พูดกับเธอว่า
“นี่ราณี เธอดูยังกับขยะแน่ะ! กลิ่นก็เหม็นเหมือนขี้ ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงแถมยังนุ่งถุงกระดาษเก่าๆที่สกปรกอีก
ด้วย ไปแต่งชุดเจ้าหญิงอันแท้จริงก่อนแล้วค่อยกลับมาให้ฉันเห็นนะ”
“นี่คงคา” เจ้าหญิงพูดขึ้นบ้าง
“เสื้อผ้าอาภรณ์ที่เธอสวมใส่ก็ดูสวยงามจริงๆ ผมเผ้าก็ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย เธอดูราวกับเจ้าชายเลยทีเดียว
แหละ แต่ตัวเธอน่ะกลับเป็นคางคกนะ”
ท้ายที่สุดเขาทั้งสองก็ไม่ได้แต่งงานกัน เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้