กาลครั้งนั้นยังมีผีร้ายตนหนึ่งชื่อกองกอย มันมีรูปร่างป้อมๆและอ้วนเดินกระโผกกระเผกและมันยังมีฟันที่ยาว
บิดเบี้ยวยังกับขนมแท่งเคลือบน้ำตาล เจ้าผีกองกอยมันอาศัยอยู่ในปราสาทอันใหญ่โตพร้อมพรั่งด้วยบริวาร
หรือทาสรับใช้ของมันมากมาย พวกทาสรับใช้ก็จะทำหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดปราสาท หุงหาอาหารให้เจ้า
ผีกองกอยกิน นอกจากนั้นยังต้องทำงานในไร่นารวมทั้งต้องคอยดูแลฝูงแกะและวัวควายของมันอีก
ถึงแม้ว่าพวกทาสรับใช้จะทำงานอย่างหนักแสนหนักเพียงใดก็ตามแต่เจ้าผีกองกอยก็ไม่เคยจ่ายค่าแรงให้แก่
พวกเขาแม้แต่สตางค์แดงเดียว ทั้งนี้ก็เพราะว่าเจ้าผีกองกอยมันมีอำนาจวิเศษ อำนาจนั้นก็คือถ้าหากมันทำ
ให้ใครก็ตามมีความโกรธ คนๆนั้นก็จะกลายเป็นทาสรับใช้ของมัน และยอมเชื่อฟังมันทุกประการ
คราวนี้เจ้าผีกองกอยก็มีทาสรับใช้ทุกประเภทตามที่มันต้องการเว้นแต่อย่างเดียวที่ยังไม่มี คือมันยังไม่มีทาส
หญิงที่ซักผ้าได้ขาวสะอาดหมดจดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เสื้อผ้าของมันจึงมักจะสกปรกอยู่บ่อยๆและยับยู่ยี่
เพราะรีดไม่ดี
วันหนึ่งมันเดินผ่านเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ไกลจากปราสาทของมัน วันนั้นเป็นวันจันทร์ขณะที่มันเดินผ่าน
กระท่อมหลังหนึ่งซึ่งเต็มไปด้วยเสื้อที่ขาวสะอาดที่สุดที่มันเคยเห็น เสื้อผ้าเหล่านั้นขาวปานหิมะปลิวไสวตาก
ไว้ให้ลมโกรกอยู่กับราวตากผ้าที่โยงอยู่ระหว่างต้นแอปเปิล
เจ้าผีกองกอยจึงตัดสินใจที่จะไปเอาตัวยายเจ้าของกระท่อมมาเป็นทาสเพื่อช่วยซักเสื้อผ้าให้มัน วิธีการก็ง่ายนิด
เดียวเพียงแต่มันทำให้ยายคนนั้นรู้สึกโกรธมันก็จะได้นางมาอยู่ในอำนาจของมันทันที
ดังนั้นในเช้าวันจันทร์ เมื่อราวตากผ้าเต็มไปด้วยเสื้อผ้าที่ซักแล้วอย่างขาวสะอาด มันจึงใช้มีดตัดเชือกซึ่งขึง
ไว้เป็นราวตากผ้านั้นให้ขาดลง ทำให้เสื้อผ้าที่ขาวปานหิมะร่วงลงมากองกับพื้นอันสกปรก ด้วยเหตุนี้จะต้อง
ทำให้นางโกรธอย่างแน่นอน
เมื่อคุณยายมาเห็นเข้าว่าอะไรเกิดขึ้น นางก็รีบวิ่งออกมานอกกระท่อม แต่แทนที่นางจะโกรธนางกลับพูดขึ้นมา
เบาๆว่า
“ดีแล้ว ดีแล้ว! เช้าวันนี้ควันไฟออกจะมากซะด้วย มันคงจะรมเสื้อผ้าให้เปื้อนอยู่ดี ฉันซักผ้าอีกเที่ยวหนึ่งก็ดี
เหมือนกันนะ โชคดีแล้วที่เชือกตากผ้ามันขาดในเช้านี้แต่ไม่ขาดในวันอื่น”
ดังนั้นนางจึงรวบรวมเอาเสื้อผ้าเปื้อนที่หล่นอยู่กับพื้นจนเต็มมือแล้วก็เดินกลับเข้าไปซักใหม่ในบ้านพลางก็ฮัม
เพลงอย่างอารมณ์ดี
เจ้าผีกองกอยจึงโกรธมากพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอันยาวเฟื้อยของมัน แต่แล้วมันก็คิดได้ว่าจะทำให้นาง
โกรธอย่างไร
ในวันอังคารเจ้าผีกองกอยจึงไปที่กระท่อมของคุณยายอีกครั้ง มันเห็นว่านางเพิ่งรีดนมวัวมาใส่ไว้ในหม้อใหม่ๆ
หากมันทำให้นมวัวสดนั้นบูดเสีย นางจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
เมื่อคุณยายมาพบว่านมวัวสดที่เก็บไว้ในหม้อนั้นบูดเสียแล้ว นางก็พูดขึ้นว่า
“ดีแล้ว ดีแล้ว! ฉันจะทำนมเปรี้ยวนี้ให้เป็นเนยครีมซะเลยจะได้เก็บไว้ให้หลานๆกินแกล้มน้ำชาเพราะพวก
เขาชอบรับประทานขนมราดเนยครีมซะด้วย โชคดีแล้วที่นมมาบูดในวันนี้แต่ไม่บูดในวันอื่น”
เจ้าผีกองกอยจึงโกรธมากพร้อมกับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอันยาวเฟื้อยของมัน แต่แล้วมันก็คิดได้อีกว่าจะทำให้นาง
โกรธอย่างไร
ในวันพุธมันก็ไปที่กระท่อมของคุณยายอีกครั้ง มันได้กระทำให้ดอกไม้ซึ่งมีสีสันอันสวยงามทั้งสวนของยาย
กลายเป็นดอกไม้ป่าสลับสีปะปนกันไปหมด คุณยายเคยภาคภูมิใจกับสวนดอกไม้อันสวยงามของนาง เหตุนี้จะ
ต้องทำให้นางโกรธอย่างแน่นอน
“ดีแล้ว ดีแล้ว! นางพูดขึ้นเมื่อเห็นดอกไม้ป่าขึ้นแทนดอกไม้บ้านที่ปลูกไว้
“ฉันตั้งใจว่าจะเก็บดอกไม้สวยๆที่ปลูกไว้ไปฝากเพื่อนในวันเกิดของเธอสักช่อ แต่คราวนี้คงจะต้องเก็บดอกไม้
ป่ามาปักร้อยลงกับผ้าแล้วแต่งเป็นช่อแทน”
ดังนั้นนางจึงปักร้อยด้วยดอกไม้ป่าลงกับผ้าและตกแต่งให้เป็นช่ออย่างสวยงามราวกับดอกไม้จริงจากสวนเลย
ทีเดียว
“โชคดีแล้วที่ฉันสังเกตเห็นดอกไม้ป่าเสียก่อนในวันนี้แต่ไม่ไปเห็นในวันอื่น”
เธอพูดขึ้นขณะที่นั่งปักร้อยดอกไม้ลงกับผืนผ้า
เจ้าผีกองกอยจึงโกรธมากและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอันยาวเฟื้อยของมัน แต่แล้วมันก็คิดได้อีกว่าจะทำให้นางโกรธ
อย่างไร
ในวันพฤหัสบดี มันจึงไปขึงเชือกตรงบันไดทางเดินของคุณยาย โดยคาดหวังว่าเมื่อคุณยายเดินลงบันไดก็จะสะ
ดุดเชือกที่ขึงไว้นั้นแล้วล้มลงหัวคะมำ เหตุนี้นางจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
คุณยายได้ล้มลงหัวคะมำจริงๆ และบาดเจ็บที่หัวเข่าจนต้องเดินกระย่องกระแย่งด้วยขาข้างเดียวเพื่อไปรีดนมวัว
“ดีแล้ว ดีแล้ว! คุณยายพูดขึ้น
“ฉันคงไม่สามารถทำงานบ้านได้แล้ววันนี้ คงจะขอนอนเหยียดยาวบนผ้านุ่มๆที่โต๊ะรับแขกแล้วล่ะ ช่างเป็น
การเปลี่ยนแผนที่วิเศษอะไรเช่นนี้ ฉันเกือบจะเสร็จธุระทุกอย่างแล้วไหมล่ะ โชคดีนะที่ฉันสะดุดล้มในวันนี้
แต่ไม่เกิดขึ้นในวันอื่น”
เจ้าผีกองกอยจึงโกรธมากและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอันยาวเฟื้อยของมัน แต่แล้วมันก็คิดได้อีกว่าจะทำให้นางโกรธ
อย่างไร
ในวันศุกร์ มันจึงไปที่กระท่อมของคุณยายอีกครั้ง มันเห็นนางกำลังเดินไปเก็บไข่ไก่ที่เล้าไก่พอดี นางมีแม่ไก่
สีขาวสามตัวแต่ละตัวก็กำลังวางไข่ ขณะที่นางเดินผ่านต้นแอปเปิล มันจึงเหนี่ยวกิ่งแอปเปิลแล้วก็ปล่อยไป
ปะทะใบหน้าของนางจนเสียหลักทำให้ขันที่ใส่ไข่มานั้นหลุดจากมือของนางและตกลงกับพื้นจนไข่แตกหมด
ด้วยเหตุนี้นางจะต้องโกรธอย่างแน่นอน
“ดีแล้ว ดีแล้ว! คุณยายพูดขึ้น
“คราวนี้ฉันจะได้ทำไข่เจียวไว้รับประทานทั้งตอนเที่ยงและตอนเย็นเลยล่ะ แถมไข่เจียวก็ยังเป็นอาหารจาน
โปรดของฉันซะด้วย โชคดีแท้ๆที่ไข่มาแตกในวันนี้แต่ไม่แตกในวันอื่น”
คราวนี้เจ้าผีกองกอยจึงโกรธมากและขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอันยาวเฟื้อยของมัน แต่แล้วมันก็คิดได้อีกว่าจะทำให้
นางโกรธอย่างไร ความคิดของมันจึงสุดแสนจะเลวร้ายเพราะว่ามันโกรธอย่างมากเลยจริงๆ
ในวันเสาร์ มันจึงจัดการใช้ไฟเผากระท่อมของคุณยายทันที เพราะมันหวังว่าจะต้องทำให้นางโกรธอย่างแน่
นอน เปลวไฟได้เผาผลาญเริ่มจากผนังกระท่อมลามไปจนถึงหลังคา
“ดีแล้ว ดีแล้ว! นางพูดขึ้น
“ถึงวาระสุดท้ายของกระท่อมโทรมๆของฉันล่ะสิคราวนี้ ฉันรักกระท่อมหลังนี้มากเหมือนกันแต่ว่ามันก็ผุพัง
แล้ว เวลาฝนตกหลังคาก็รั่วซ้ำร้ายพื้นก็ยังเต็มไปด้วยรู”
ครั้นเจ้าผีกองกอยเดินเข้ามาดูว่ายายโกรธไปแล้วรึยัง มันก็กลับพบว่ายายกำลังง่วนอยู่กับการปิ้งหัวมันฝรั่งใน
ถ่านไฟที่กำลังร้อนแดงแล้วก็แจกจ่ายหัวมันฝรั่งที่ปิ้งสุกแล้วให้กับเด็กๆในหมู่บ้านไปกินกันอย่างเอร็ดอร่อย
“กินหัวมันฝรั่งด้วยกันสิ” นางพูดกับเจ้าผีกองกอย พร้อมกับจับไม้เสียบและยื่นหัวมันฝรั่งไปให้มัน
กลิ่นหัวมันฝรั่งปิ้งหอมน่ากินมากทำให้เจ้าผีกองกอยรีบคว้ามาใส่ปากทันทีหมดทั้งหัวเลย เพราะความตะกละใน
การกินของมันทำให้หัวมันฝรั่งบางส่วนไปอุดหลอดลม มันถึงกับตาค้างเหลือกถลนทั้งหายใจไม่ออกและทั้ง
ความร้อนของหัวมันฝรั่งที่เพิ่งออกจากถ่านไฟใหม่ๆทำให้ท้องมันพองขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วก็แตกราวกับลูก
โป่งแตก
ปรากฎว่าหลังจากตัวมันแตกแล้วไม่มีอะไรเหลือเลยนอกจากคราบชิ้นส่วนผิวหนังเหี่ยวๆสีเขียวของมัน พวก
เด็กๆเห็นเข้าก็นึกว่าผ้าขี้ริ้วจึงจับโยนเข้าใส่กองไฟแล้วมันก็ถูกเปลวไฟสีเหลืองเผาผลาญเสียหมดสิ้น
ในขณะเดียวกันผู้คนเกือบทั้งหมู่บ้านก็มาเข้าแถวรอรับหัวมันฝรั่งปิ้งจากคุณยายและระหว่างที่รอพวกเขาก็หา
รือกันว่าจะช่วยเหลือคุณยายอะไรได้บ้าง
“ฉันจะสร้างรั้วให้ใหม่” คนหนึ่งพูดขึ้น
“ฉันจะทำหลังคากระท่อมให้ใหม่” อีกคนพูดขึ้นบ้าง
“ฉันจะใส่หน้าต่างให้”คนที่สามพูดอีก
“ฉันจะติดผนังด้วยกระดาษสวยๆให้” คนที่สี่พูดเสริมขึ้น
“พวกเราจะให้ พรมปูพื้น ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม และถ้วยโถโอชามทั้งหลายแก่คุณยาย”
พวกผู้หญิงในหมู่บ้านต่างก็พูดขึ้น หลังจากที่ปิ้งหัวมันฝรั่งสุกแล้วคุณยายก็ได้แจกให้ทุกๆคนที่มารอได้กินกัน
อย่างเอร็ดอร่อยและพวกเขาก็ได้บอกกับคุณยายว่าจะนำสิ่งของทุกอย่างที่คุณยายจำเป็นสำหรับกระท่อมหลัง
ใหม่มาให้
ในที่สุดกระท่อมหลังใหม่ก็สร้างเสร็จ มันไม่เก่าโกโรโกโสเหมือนหลังเก่าเลยแต่มันดูน่าอยู่อย่างสะดวกสบาย
ขึ้นเยอะแถมยังมีที่นั่งตากอากาศนอกกระท่อมอีกด้วย แม่วัวนมของคุณยายก็ได้คอกใหม่มีหลังคาอย่างดี เจ้า
หมาของคุณยายก็มีซุ้มนอนอันใหม่ จะผิดหวังหน่อยก็แต่เจ้าแมวเหมียวเพราะไม่มีหนูให้ไล่จับเลย ทั้งนี้ก็
เพราะว่ากระท่อมหลังใหม่ของคุณยายไม่มี่รูพอที่จะให้หนูหลบอยู่อาศัยแม้แต่น้อย เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้