หลังจากถูกมรสุมทำร้ายซะชีวิตสะบักสะบอม แต่โชคดีที่ยังมีเพื่อนๆคอยเป็นกำลังใจให้
จึงได้ผ่านวันร้ายๆไปได้อีกวันนึงๆ
ซึ่งตอนนี้ใช่ว่าพายุจะหมดไป
แต่การทำใจให้อยู่กับมรสุมให้ได้มันสำคัญกว่า
ช่วงหลังๆจะอาศัยธรรมะเข้าช่วย
ซึ่งทำให้มีสติบ้าง
แต่บางช่วงก็เสียศูนย์เกือบเสียสติ สิ้นสติทีเดียว
ซึ่งเพื่อนๆกลุ่มนี้รู้ดีที่สุด รวมทั้ง ยกป.เป็นที่พึ่งทางใจ ได้เป็นอย่างดี..
ทุกปีเรามีสัญญาใจกันว่าจะออกไปเที่ยวกันทุกปี
เท่าที่พอจำได้ หาดทรายแก้ว- อัมพวา-เกาะเกร็ด-หัวหิน-เกาะเสม็ด
และเจอกันบ้างประปราย ตามตะเข็บชายแดน กทม.
หรือที่บ้านเฌอมาลย์ นั่นเอง
ปีนี้เราเล็งเกาะล้านกันไว้ ล่วงหน้านานมาก
บอกให้จองที่พักล่วงหน้าเลยเดี๋ยวไม่มีที่พักลำบาก
กานต์ก็ดำเนินหน้าที่หาที่พัก
จับจองไว้ล่วงหน้าเป็นเดือนๆ
หาข้อมูลห้องพัก ที่ไหนสวยๆน่ารักก็มาช่วยๆกันลงมติ
สุดท้ายเราเลือกจะพักที่บ้านเฉลียงลม ห้องเรือนผกา
ทีแรกเราตกลงกันว่าจะค้างสองคืน
แต่บังเอิญเฌอมีปัญหา
ก็ขอลดเวลา เหลือ 1คืน ทุกคนก็ตามใจ
การท่องเที่ยวปีนี้ของเราไม่เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมาจะตื่นเต้นกันมาก
จะใส่ชุดอะไรกันดี ธีมไหน แต่ปีนี้จะถึงวันเดินทางทุกอย่างยังคงเงียบกริบ
จน แมงกุ๊ดจี่ถามว่า ตกลงจะไปกันไหม
กานต์กับแมง ปรึกษาว่า
ถ้าไม่มีใครไปเขาสองคนจะไปกันเองนอนคนละห้อง
หิ้วกิ๊กหล่อๆขนาบข้างไปกัน555+
พอถึงวันเดินทาง จอมเบี้ยวยังคงรักษาคอนเซปของตัวเองไว้อย่างแน่นเหนียว
เบี้ยวไม่ไปซะงั้น เราบอกต้องปรับสองเท่า หยีต้องจ่ายมาสองพันบาท
นี่ฐานกรุณาลดให้ครึ่งนึงนะ
แต่เราเป็นคนมีน้ำใจกับมิตรสหายเสมอ
เราเลยไม่เอาเงินจอมเบี้ยว
แต่เราจะให้หยีเลี้ยงเรา 1 มื้อใหญ่ ดีไหมพรรคพวก 555
.........
ตอนนี้เฌอสะดวกมากขึ้นเวลาไปพัทยา ไม่ต้องเข้าไปขึ้นรถ ที่ กทม.
มีรถตู้วิ่ง ลพบุรี-พัทยาเลย
แต่มีวันละ ไม่กี่รอบ
แต่คำนวนเวลาเดินทางแล้ว ไปขึ้น กทม.ดีกร่าไปช้อปปิ้งด้วย คริๆ
ถึงวันนัดหมาย เฌอออกเดินทางไปค้างกับแมงกุ๊ดจี่ก่อน 1 คืน
นอนเมาท์มอยกันเกือบเช้า เรานัดคุณรีไว้ที่อนุเสารีย์ 9.00 น.
แต่เรากร่าจะยุรยาตรออกจากห้องก็เกือบเวลานัดหมายแล้ว
เราเรียกแท๊กซี่บึ่งไปทันที แต่แปลก ยิ่งรีบ เหมือนยิ่งช้า
ไอ้แท๊กซี่บ้านี่คงตะลึงในฟามงามของเราสองคนเป็นแน่แท้
ถึงได้ขับเตลิดเลยทางลง
ไปลงพระราม9 มั้ง เอาละสิ เวงแระ รถก็ติด
แมงก็แอบเหน็บโชเฟอร์เป็นระยะๆ
เฌอก็ฉุน บอกแกลงไปฉันขับเองเลยนี่ อิอิ
แต่เขาลดราคาค่ามิเตอร์เตลิดไป สามสิบกว่าบาทมั้ง เสียเวลาจิงๆเล้ย
พอเรารวมตัวครบขึ้นรถบึ่งไปลงที่มิโมซ่าทันทีเลย
เพราะเพียงพลิ้วรอที่นั่นอยู่แล้ว
วันนี้คุณเพียงเขาใส่หมวกแดงเด่นมาก ชุดเขียว ออร่ามาแต่ไกลเลยค่ะ..
งานนี้คุณกานต์เขาเตรียมวอดก้ามาให้คุณรีเมาเต็มที่ด้วยค่ะ
ก็สมใจชี ชีว้ากกกกสมใจอยาก อิอิ
เราก็ทักทาย หาอะไรกิน เดินถ่ายรูปพอหอมปากหอมคอ
แล้วก็เหมารถไปที่ท่าเรือแหลมบาลีฮายทันที
มุ่งหน้าสู่เกาะสวาทหาดสวรรค์ เราจะมาเติมพลังชีวิตที่นี่
พอไปถึงรถของที่พักก็มารับเรา รถเปิดประทุนชั้นดีศรีซาเล้ง
เขาจะเอาพวกเราไปชั่งกิโลขายหรือป่าวนะ นั่งกันไป กรี๊ดกันไปเพราะ
ถนนหนทางบนเกาะนี้แคบมาก
ซิ่งได้ใจลงเนิน เจอแยก เรียกเสียงกรี๊ดของเราได้เป็นระยะ
ป่านนี้คนขับขี้หูแฉะไปแล้วมั้ง อิอิ
พอเช็คอินเข้าห้องพัก ต่างก็กรี๊ดกันลั่น คว้ากล้องมาถ่ายแชะๆๆกันเป็นมือระวิง
ห้องสวยมาก บรรยากาศเริ่ด หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย
เรานอนเกลือกกลิ้ง
แล้วเราก้ออกลาดตระเวนหาอะไรกินกัน
ถ่ายรูปกัน
วันที่สองไปเที่ยวหาดตาแหวน คนพลุกพล่านมาก
แล้วพวกเราก็ถ่ายรุปกระโดดกันจนหาดทรายแทบทรุด
ครั้งนี้แมงหิ้วขาตั้งกล้องไปด้วยเพราะชีแค้น
ชีไม่มีรุปกับใครเขาเท่าไรเพราะมัวแต่เป็นตากล้อง555
ตอนนี้เฌอบรรลุแล้ว ไม่พกกล้องไปให้หนัก
อาศัยช่วงชุลมุนเข้ากล้องเขาสบายกว่ากันเยอะเลยว่าไหมจ๊ะคุณรี คริๆๆ
พอวันที่สอง สาวๆก็ถามเฌอว่าจะกลับเลยไหม หรือจะนอนต่ออีกคืน
เฌอก็ติดใจบรรยากาศ ขอนอนต่ออีกสักคืนเถอะ เหนื่อยมาเยอะแล้ว
ก็จะขอพักห้องเดิมต่อ แต่เขาว่าไม่ว่าง
เราเลยต้องย้ายไปอีกห้องนึง
คือห้องชวนชม
ซึ่งก็สวยงามไม่แพ้กันเลย
ห้องเรือนผกาจะแต่งโทนสีฟ้า
ส่วนห้องชวนชมที่พักออกแนวชมพูสวยเก๋ดีค่ะ
พอถึงวันกลับ เราทุกคนต่างก็ไม่อยากกลับเลย
เบื่อที่ต้องกลับไปเจอชีวิตที่ยุ่งเหยิง วุ่นวายอีกแล้ว
แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป
เรากลับถึงฝั่งโดยสวัสดิภาพ
คุณรีกับแมง ซื้อตั๋วรอขึ้นรถที่ท่าเรือเลยได้คิวที่ 8
ส่วนเฌอนั้นตอนนี้มีรถตู้วิ่งพัทยา-ลพบุรีแล้ว
คุณกานต์ก็เลยเหมารถมาส่งที่วินเลย
พอมาถึงอยากจะกรี๊ด
เขาบอกรถเที่ยวบ่ายสอง วันนี้ไม่วิ่งค่ะ รอห้าโมงเย็น
เฌอไม่รอแระ กลับ กทม.ดีกว่า โบกรถมาลงที่ท่ารถตู้อีกท่านึง
คนรอแน่นเอี๊ยดดด แต่ก็ต้องรอแหละทำไงได้ ทุลักทุเลทัวร์จิงๆ
โชคดีที่อาศัยฟามไว เลือกที่นั่งสบายหลับมาตลอดทางถึง กทม.
ลงมาช้อปอีกหน่อย หาก๋วยเตี๋ยวเรือกิน แล้วตีตั๋วกลับลพบุรีเลย
ส่วนแมงกับคุณรีก็โทรมาว่าเพิ่งถึงอนุเสาวรีย์กำลังแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมัน
เฌอนั่งรถตู้มารถติดมากๆๆๆๆคนขับก็ซิกแซก
ออกหมู่บ้านโน้น เข้างานวัดนี้ มั่วไปหมด บอกว่าเป็นทางลัด
จนมาถึงลพบุรีโดยสวัสดิภาพ
เราโทรหากันว่าถึงบ้านแล้วนะ
แล้วเราจะพบกันอีก แน่นอน
มิตรภาพเป็นสิ่งสวยงาม หล่อเลี้ยงชีวิตที่ท้อแท้
ทำให้ชีวิตนี้ไม่ถึงกับมืดมนซะทีเดียวหรอกนะขอบคุณเพื่อนๆทุกคนนะจ๊ะ
ปล.อ้อ มีข่าวท่อน้ำมัน ปตท.รั่ว ที่เกาะเสม็ด
เราคิดว่าดีนะที่ปีนี้เราไม่ได้ไปเสม็ด หันมาเกาะล้านแทน
เฌอถามกานต์ว่าน้ำมันรั่วมาถึงเกาะล้านไหม
กานต์บอกว่ามาไม่ถึงค่ะ...เราเลยโล่งอก นิดนึง
คิดกลัวสารปนเปื้อนในอาหาร กลัวเวลาเล่นน้ำ
ปีนี้เราเลยลงเล่นแค่หัวเข่า 555
เรากระโดดกัน จนหมดแรง แบบไม่แคร์สายตาชาวไทย และชาวเทศ