ของขวัญจาก...เพื่อน (4)
ศพเดินได้
เข้าสู่วันที่ 5 เมษายน วันนี้เป็นวันเกิดผมเป็นวันครบรอบอายุ 8 ปีของผม กิจกรรมในวันนี้ช่างวุ่นวายเหลือเกิน ผมต้องตื่นนอนแต่เช้าเพราะในวันนี้ทุกคนจะไปเที่ยวห้างสรรพสินค้ากันหมด ผมจึงต้องไปด้วย วันนี้ผมคงไม่ได้ไปที่สวนนั่นทั้งวัน
อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ.กินข้าวซะสิ พี่น้ำพูดหลังจากที่ผมออกมาจากห้องน้ำ ผมเดินไปที่โต๊ะอาหารมีแม่ผมนั่งอยู่
วันนี้วันเกิดเรา อยากได้อะไรหรือป่าวจ้ะ แม่พูด
ไม่ครับ
เหรอ. วันนี้แม่จะแวะซื้ออาหารซะหน่อยไว้ทำอาหารที่ลูกชอบในงานวันเกิดคืนนี้ไง
ขอบคุณครับ ผมเงียบสักครู่จึงหันมาพูดกับแม่ แม่ครับ.ผมขออยู่ที่นี่ถึงสิ้นเดือนนี้เลยได้ไหม
อ้าว?? ทำไมล่ะ
ผมยังไม่อยากกลับบ้าน.ผมอยากอยู่ที่นี่ ได้มั้ยครับ
อะไรของลูกเนี่ย.หือ?. มาวันแรกก็บอกไม่อยากมา คราวนี้กลับบอกว่าไม่อยากกลับบ้าน
ได้มั้ยล่ะฮะ
คงจะไม่ได้หรอกจ้ะ เพราะลูกต้องมีเรียนปรับพื้นฐานนะจ้ะ ผมเงียบถอนหายใจเบา ๆ เพราะรู้ว่าพูดต่อไปคงไม่มีอะไรดีขึ้นมา.ผมไม่รู้สึกดีใจที่วันนี้เป็นวันเกิดผม ผมเสียใจมากกว่าที่ต้องไปจากที่นี่ในไม่นานนี้.
ความแออัดที่ห้างสรรพสินค้ามันทำให้ผมปวดหัวผมบอกได้เลยว่าอยู่ที่นี่ เซ็งมาก
เป็นอะไรหรือ นพ ?? พ่อผมเอ่ยปากพูดกับแม่
ไม่รู้เหมือนกัน. สงสัยคงงอนที่แกต้องกลับกรุงเทพนั่นล่ะ
อ้าว ก็ก่อนมาเห็นบ่นไม่อยากมา ทำไมคราวนี้ถึงได้อยากกลับซะล่ะ??
นั่นนะสิ . ลูกคนนี้เข้าใจยากจริงจริ้ง ผมทำหน้าเมินประมาณว่า เข้าใจยากก็ไม่ต้องมาเข้าใจผมหร้อก ผมคิดในใจ
นี่ แม่คะเราแวะร้านนั้นหน่อยดีมั้ย
ดีเลยแหละ น้ำ เราไปที่นั่นก็ดีนะ
อือ. ไปสิ ผมเดินตามแม่ที่จูงมือผม ให้ตายสิกลัวผมจะหลงหรือไง .แต่ในใจผมตอนนี้มีแต่สวนแล้วก็ใบฝ้าย คิดถึงใบฝ้ายแล้วก็นึกถึงแมลงเต่าทอง
นึกถึงแมลงเต่าทองก็เห็นแมลงเต่าทอง เป็นแมลงเต่าทองตัวเล็กที่ทำจากอะไรสักอย่าง
แม่ครับผมขอไอ้นั่นได้มั้ย แม่มองตามนิ้วไปที่แมลงเต่าทอง
ได้สิ แค่นั้นคิดว่าคงไม่แพงมาก ใบฝ้ายบอกว่าแมลงเต่าทองเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและความโชคดี ถ้าผมจะมีเก็บไว้เป็นสมบัติบ้างคงจะดี
เมื่อได้ดูภาพยนต์ในห้างแล้วถูกใจมาก ในเรื่องมีธรรมชาติที่งดงามนึกแล้วก็นึกถึงสวนหย่อมที่โรงเรียนเหลือเกิน ผมชักอยากจะกลับเสียแล้ว อยากกลับไปอยู่เล่นกับเพื่อน ๆ ของผม
ล่วงเข้าสู่ 6 โมงเย็นของวันนี้ทุกคนกลับมาที่บ้านต่างก็ช่วยกันทำอาหาร ขนมนมเนยสารพัดอย่างไว้สำหรับงานวันเกิดผม เมื่อผมกลับมาถึงบ้านก็ไม่ได้ไปที่สวนนั่น(แม่ไม่ให้ออก)ผมจำต้องอยู่ในห้องนอน มองไปยังหน้าต่างชื่นชมสวนหย่อมอยู่ไกล ๆ อย่างเงียบเหงาและอ้างว้างผมคงจะร้องให้เพราะความเหงาที่ไม่มีเพื่อน ๆ มาในงานวันเกิดของผมเช่นเดียวกับทุกปี.ทุกปีเลยทีเดียวที่ผมต้องร้องให้คนเดียวและในปีนี้ก็คงเป็นอย่างนั้น ถึงผมจะพูดกับใบฝ้ายไปว่า ชินแล้ว ก็ตามมันก็เป็นแค่การอวดดีเท่านั้น ในใจจริงแล้วสิมันช่างเย็นชาเหลือเกิน
อาหารเสร็จแล้วจ้ะ. ทุกคนรอฉลองวันเกิดเราอยู่ ลงมาเร็ว พี่น้ำเปิดประตูโดยไม่ได้เคาะทำเอาผมสะดุ้ง
ครับ.พี่น้ำลงไปก่อนเดี๋ยวผมลงไป
ได้จ้ะ เร็ว ๆ นะ เอาล่ะมันก็คงเป็นอย่างนี้ต่อไปละนะ ถึงแม้ใบฝ้ายเพื่อนที่รักของเราจะมางานเราไม่ได้ แต่ยังไงเสียเราก็ยังมีเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา ผมปลอบใจตัวเองแล้วลงไปข้างล่าง เมื่อผมลงไปข้างล่าง รอบ ๆ ดูมืดไปหมด เมื่อใครก็ไม่รู้เปิดไฟสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าก็คือเค้กชิ้นใหญ่ อาหารนับสิบ ๆ จานและของขวัญที่ทุกคนมอบให้ผม
สุขสันต์วันเกิดจ้ะ นพ. พี่น้ำพูดมือค้างอยู่ที่สลักไฟเธอคงเป็นคนเปิดไฟ
มาเถอะ.เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาจุดเทียนวันเกิด ร้องเพลงอวยพรให้นพดีกว่า แม่จุดไม้ขีดไฟแล้วจ่อที่ชนวนของเทียนตามจำนวนอายุของผม แล้วไฟก็ปิดลงอีกครั้ง เสียงเพลงอวยพรวันเกิดของผมดังขึ้นจากเสียงร้องของคนที่อยู่ในห้อง ตรงกลางเค้กมีไฟดวงเล็ก ๆ 8 ดวงสว่างจ้าสั่นไหวไปมาผมยื่นหน้าเข้าเปลวไฟแล้วเป่าเบา ๆ จนดับหมด แสงไฟจากหลอดไฟบนเพดานก็เข้าแทนที่ งานก็ดำเนินไปเหมือนทุกปีเพียงแต่ปีนี้ไม่เหมือนเดิม
การฉลองวันเกิดในคืนนี้ช่างมีความสุขเหลือเกิน จบลงด้วยความเปรมปรีอย่างเอ้อล้น ทุกคนมีความสุขและผมเองก็เช่นกัน ซึ่งมันก็คงไม่เป็นเช่นนั้น หากผมไม่ได้รับความอบอุ่นจากเธอผู้มาเยือน จึงขอเล่าย้อนไปสักชั่วโมงก่อน ในงานวันเกิดผมขณะที่ผมกำลังเบื่อ มีเสียงเรียกชื่อผมจากนอกบ้าน ป้าลีออกไปดูว่าใครมาเรียกสักพักเธอก็กลับเข้ามา
นพจ้ะ ดูสิว่าใครมา เธอเผยหน้าออกมาอยู่หน้าประตูห้อง สวัสดีจ้ะ นพ
ใบฝ้าย!!เธอมาที่นี่ได้ยังไง ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
รบกวนความสุขของเธอหรือเปล่า
ไม่หรอก.ฉันดีใจที่เธอมา เธอบอกว่าเธอมาไม่ได้นี่
งานเลิกไวกว่าที่คิด ฉันเลยบอกให้แม่รีบกลับมาในงานวันเกิดเธอ
ขอบใจที่เธอคิดถึงฉัน
นพ.ฉันละอายใจที่ไม่สามารถมีของขวัญให้เธอ แต่เพื่อนของเธอมีของขวัญจะให้เธออยู่
อะไรหรือ
ไปเถอะเดี๋ยวเธอก็รู้เอง
น้าคะ. ฝ้ายขอพานพไปเล่นที่บ้านฝ้ายนะคะ
ได้สิจ้ะ.แต่อย่ากลับดึกนักล่ะ
ค่ะ. เราไปกันเถอะ เธอจูงมือผมวิ่งออกไปยังสวน อยากรู้จังของขวัญนั่นคืออะไร??
ผมและเธอเดินออกมาข้างนอก กายสัมผัสกับลมที่พัดมาอย่างเย็นสบาย
คืนนี้โชคดีนะ พระจันทร์เต็มดวง อากาศเย็นสบาย เธอพูดพลางประกบมือถูกันไปมา
ขอร้อง บอกฉันที อะไรคือของขวัญที่ฉันจะได้จากที่แห่งนี้ ผมตื้อจะเอาคำตอบให้ได้ แต่เธอยังไม่ทันตอบแสงสว่างสาดส่องเข้าที่หน้าผม ผมหันไปมองอย่างสนใจแต่สิ่งที่พบคือ แสงนั่นมีแสงพุ่งมาจากพื้นข้างล่าง แต่เมื่อผมสังเกตดูดี ๆ มันเป็นแสงจากพระจันทร์ที่กระทบกับพื้นน้ำที่นิ่งราวกับน้ำแข็ง แล้วสะท้อนแสงให้พุ่งพวยออกมาอย่างเจิดจรัส ความรู้สึกแบบนี้มันช่างอบอุ่นจริง ๆ เหมือนกับแสงที่นำพาไปสู่สวรรค์แสงแห่งความหวัง
รออีกสักเดี๋ยว ลมลูกใหญ่กำลังมา นพ. จงดูสิ่งที่จะเกิดต่อไปนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ จะเป็นของขวัญวันเกิดครบรอบอายุ 8 ปีจากธรรมชาติที่เธอรักและรักเธอ เธอพูดแล้วหันมาสายตาประกบกับผมนัยตาของเธอสะท้อนภาพของผมอย่างเห็นได้ชัด. เพราะเหตุใดไม่ทราบน้ำตาของผมแทบจะเอ่อล้นออกมา ในที่สุดผมก็รู้ทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ผมประจักษ์แล้วในทุกสิ่งทุกอย่าง เธอเธอ ผมรักเธอคนนี้ เธอคือเพื่อนที่ผมรักเช่นเดียวกับที่แห่งนี้ บัดนี้ในแววตาผมไม่ได้มีแววความเศร้า เหงาและโดดเดี๋ยวอีกแล้ว น้ำตาทีเอ่อล้นออกมาเป็นน้ำตาแห่งความอบอุ่น
ตายแล้ว!!!เธอร้องไห้
ขอโทษนะ ฉันเป็นคนตาแพ้แสงสว่าง(โกหก) ผมพูดเสร็จ เสียงของลมลูกใหญ่พัดเข้ามาแทนที่ ผมเช็ดน้ำตาออกด้วยแขนเสื้อ ทำให้ผมเห็นภาพชัดขึ้น สิ่งแรกที่ผมสัมผัสได้คือ เสียง เสียงลมที่พัดผ่านสอกแทรกทุกอณูของต้นไม้กิ่งไม้ให้เสียดสีกัน เสียงของจักจั่นที่ร้องประสานเสียงอย่างไพเราะ มันคือเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดของผม กลิ่นดอกไม้นับสิบชนิดทูกลมตี พัดนำเอากลิ่นดอกไม้กระจายทั่วสวน ผมหลับตาและสูดรับเอาอย่างเต็มปอด นั่นคือ คำอวยพรวันเกิด
นพ. ฉันหาของขวัญให้เธอไม่ทันฉันขอมอบสิ่งที่ฉันรักให้เธอ เธอปลดสร้อยคอออกจากลำคอที่ขาวเนียน มันเป็นสร้อยคอที่มีแมลงเต่าทองอยู่ในกรอบ
ฉันรับไม่ได้หรอก มันเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับเธอไม่ใช่หรือ
ใช่จ้ะ มันเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับฉันและฉันก็ไม่เสียดายที่จะมอบสิ่งมีค่านี้ให้กับคนที่มีค่าสำหรับฉัน ผมทราบซึ้งกับคำที่เธอพูดออกมา ชั่วชีวิตนี้จะมีสักกี่คนที่รู้สึกแบบนั้นกับเรา ผมคงจะรับไว้อย่างเดียวเท่านั้น ผมเพียงแต่กล่าวคำพูดเพียงประโยคเดียวว่า ขอบคุณ แล้วเราก็จากกันสำหรับคืนนี้ และความคิดที่ผมเคยรู้สึกเมื่อก่อนนี้คืออะไรตอนนี้ผมรู้แล้ว ในโลกนี้มีสิ่งที่ผมรักเพียงสองอย่างคือ ใบฝ้ายและธรรมชาติ เหตุการณ์ในวันนี้มันเป็นเหตุการณ์ที่จะตราตรึงอยู่ในหัวใจของผมไปตลอดกาล
*********************