Feeling part 5 : บอกรัก

จากความฝันสู่ความจริง

ตอนที่ 5 : บอกรัก
     ผมตื่นเช้ามากที่สุดก็คือวันที่ที่บ้านผมมีงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ แต่วันนี้ผมกลับตื่นเช้ากว่านั้นคือ ตี 3 ตื่นมาเพราะความฝันที่ผมกับปิ่นแยกทาง ความฝันนั้นทำเอาผมเหงือแตกพลักๆเลยเพียงเพราะผมยังไม่ได้บอกรักปิ่น พอผมตื่น ขึ้นมาก็คิดว่า มันก็จริงที่ผมไม่เคยบอกเลย แต่ทำยังไงดีละครับก็ผมไม่ค่อยจะกล้า บอกเลย แต่แค่ผมกับปิ่นอยู่ใกล้กันก็พอแล้ว แต่ก็นั้นแหละทำให้ผมกังวล แต่ผมก็ พยายามจะสลัดความคิดนี้โดยไปอาบน้ำ หาอะไรทำไปอ่านหนังสือแทนไปเห็นหนังสือ เรื่อง "กลอนสือรัก" ที่ผมซื้อมาจากร้าน พี่สินเมื่อ 2 อาทิตย์ก่อน มาอ่าน มีอยู่ 15 หน้า เป็นกลอนที่เขาเอาไว้ส่ง PAGER มันก็ดีหรอกนะ แต่ว่าปิ่นก็ไม่มี PAGER ซะหน่อย แต่ก็ดี
     ในหนังสือมีเกี่ยวกับนิยามรักมากมาย บางทีสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่เป็นคำตอบที่ต้อง ค้นหากันเอง ผมอ่านไปเรื่อยจนเวลาผ่านไป ชั่วโมงครึ่ง ผมก็ไปปลุกเจ้าชิดมัน เจ้าชิดทำหน้างั้วเงียและมองไปที่นาฬิกาและก็ทำหน้าแปลกใจ
     "ทำไมมึงตื่นเร็วจังวะ"
     "ไม่รู้วะแต่ตื่นได้แล้วเว้ย"
     "เออๆ เดี่ยวเราไปอาบน้ำก่อน"
     และผมก็เดินไปข้างล่างหาอะไรกิน ผ่านหน้าห้องติดต่อที่พัก เฮียสุชาติก็ออกมา พอดี
    "เอ้า อาเอก มีจดหมายถึงลื้อ"
     แล้วเฮียสุชาติก็ไปหยิบจดหมายมาจากโต๊ะทำงานของแก พอผมได้เห็นชื่อผู้ส่ง ผมก็ถึงกับประหลาดใจ เพราะคนที่เขียนจดหมายมาเป็นเพื่อนผมสมัยเรียนมัธยม คือเก๋ เก๋เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดี๋ยวในกลุ่มผม ซึ่งเก๋เป็นคนที่นิสัยแก่นๆหน่อย ซึ่งเก๋เป็นคนที่ช่วยใน ด้านประสานงานกับอาจารย์ที่ปรึกษา ผมจึงรีบเปิดซองจดหมายอ่านดู
ถึงเอกสิทธิ์
	สวัสดีจ๊ะเอก สบายดีไหมนี้ตอนนี้เรามาเรียนที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่นี้อากาศดี มากเลย  นี้ตอนแรกเราไม่รู้ว่าเธอไปพักหอ แต่พอเราโทรไปที่บ้านถึงได้รู้ที่อยู่นี้แหละ เป็นไงกับการเรียนที่ม.บูรพา สะดวกสบายดีไหม เราว่านะจะสบายดีนะเพราะอยู่ติดกับ ทะเล เจ้าชิดเป็นไงบ้านยังเป็นเสื้อผู้หญิงอยู่หรือเปล่า จากการคาดเดาเราเจ้าชิดยังเป็นอยู่ แน่ๆเลย เอกก็ค่อยห้ามๆมันบ้างแล้วกันนะ แล้วตอนนี้เอกมีคนที่รู้ใจหรือยัง ตอนที่เรียน มัธยมนายก็ดูไม่สนใจใครเลยนิ รีบๆหาเข้าไว้นะ จะได้ไม่เหงาเวลา
     ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว ก็ขอให้นายโชคดี เรียนได้ตลอดรอดฝั่ง นะ อย่าโดน retry ละ ถ้าโดน retry จะสมน้ำหน้าให้ดูเลย โชคดีนะ
รักเละคิดถึง
วรรณิสา
ป.ล. ว่างๆเอาน้ำทะเลมาฝากด้วยนะ
     ผมปิดจดหมายลง และก็เดินขึ้นไปบอกเจ้าชิด ซึ่งกำลังจะเดินออกจากห้องพอดีพอผมบอกเรื่องจดหมายจากเก๋ มันก็รีบเอามาอ่าน
     " อะไรวะ พูดถึงเราแค่นี้หรอ และยังมาพูดประชดอีก ไม่แฟร์เลยนิหว่า "
     " เก๋ไม่ได้ประชดหรอก เขาเป็นห่วงแกมากกว่าวะ"
     " แต่ก็น่าจะเขียนถึงเรายาวกว่านี้หน่อยแหละหน่า"
     แล้วมันก็ส่งจดหมายคืนมา ผมก็เอาไปเก็บที่ห้อง และก็ไปมหาลัยกัน ผมกับเจ้าเอกเดินไปเรื่อย เพราะวันนี้ไม่ได้รีบอะไร เจ้าชิดแวะที่ร้านขายขนม ซื้อพวกขนมขบเคี้ยว ไป
     "นายจะซื้อไปกินด้วยหรือไง"
     "เปล่า เราซื้อไปฝาก จ๋อม"
     นั้นสินะ ทำไมผมถึงไม่ซื้อไปฝากปิ่นบ้าง ก็คงจะดี แต่กำลังจะไปหาซื้อก็ได้ยิน เสียงเรียกมาจากข้างหลัง
     " เอก ชิด รีบขึ้นรถเร็ว"
     พอผมกับเจ้าชิดหันไป ก็เห็นเจ้าวิทย์ เรียกมาจากในรถของอาประวิทย์ ผมกับเจ้าชิดก็รีบวิ่งขึ้นรถไป
     " สวัสดีครับคุณอา "
     " เออๆ สวัสดี ตื่นแต่เช้าดีนิ ทั้งสองคน"
     "ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะตื่นเช้าหรอกครับ  แต่เจ้าเอกมันดันปลุกตั้งแต่ตี 3"
     "ตี 3 เลยหรอ" ประวิทย์ทำหน้าไม่เชื่อ "ทำไมตื่นเช้าขนาดนั้นเลยละ"
     "ไม่รู้เหมือนกัน คงฝันร้ายมั้ง" ผมพยายามตอบอย่างเลี่ยงๆ
     และพวกเราก็ไปถึงมหาลัยตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง หลังจากคุณอากลับไปแล้ว พวกเราก็เดินไปแถวๆ ตึกนิเทศศาสตร์ ตามคำชวนของเจ้าชิดมัน พอไปถึงเจ้าชิดก็ มองไปรอบหาจ๋อม และมันก็รีบเดินตรงเข้าไปที่กลุ่มของจ๋อม ซึ่งมีปิ่นและ นกนั่งอยู่ด้วย
     "สวัสดีจ๊ะ จ๋อม เรามีขนมมาฝาก"
     "อุ๊ย! ขอบใจมากชิด แต่วันหลังไม่ต้องซื้อมาก็ได้ เกรงใจ"
     และผมก็มองไปยังปิ่นซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาเขียนอะไรอยู่ก็ไม่รู้
     "สวัสดีนะ ปิ่น ทำอะไรอยู่หรอ"
     "อ้าว! เอก สวัสดี พอดีเรากำลังเขียน รายงานส่งอาจารย์นะ"
     "ส่งวันไหนหรอ"
     "ส่งสิ้นเดือนค่ะ"
     "โอ้โห จะส่งอาจารย์คนแรกเลยหรอ ขยันจัง"
     "อืม.." แล้วปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาเขียนรายงานต่อไป
     ผมมองไปยังเจ้าประวิทย์ ซึ่งยังยืนอย่างเก้ๆกังๆ ซึ่งนกก็ดูจะไม่ชอบท่าทางของ ประวิทย์เลย และสุดท้ายก็ทนไม่ได้
     " เราไปก่อนนะปิ่น เดี่ยวเจอกันที่ห้องเรียนนะ"
     และนกก็รีบเดินออกไป เจ้าวิทย์ได้แต่มองตามหลังของนก จนลับสายตาและก็หันมาถอนหายใจ
     เฮ้ย! เป็นอะไรหรอประวิทย์ ผมทัก
     นายชอบนกหรือไง ผมลองแหย่ๆดู
     เปล่า! เราไม่ได้ชอบซะหน่อย แล้วมันก็หันหน้าหลบกลับไป
     ดูเจ้าวิทย์ทำ มันโกหกไม่เก่งเลย พวกผมก็แทบจะรู้ถึงความคิดของเจ้าวิทย์ทุกอย่างแล้ว แต่เจ้าวิทยิ์ยังปฏิเสธเฉยเลย เฮ้อ! แล้วเมื่อไรความรักของเจ้าวิทย์จะสมหวังซักทีละเนี้ย 
     แต่ผมก็คิดถึงเรื่องของผมกับปิ่น เพราะผมยังไม่เคยบอกว่าชอบปิ่นเลยซะจริงๆ ตอนแรกผมก็เคยคิดว่า ไม่จำเป็นเลยกับคำว่ารัก ที่จะบอกใครที่เรารัก แค่ความรู้สึกดีๆก็น่าจะพอแล้ว แต่เมื่อไม่นานมานี้ พี่สินเคยบอกว่า หากเรารักใครก็ควรบอกไปเลย ไม่ควรจะเก็บไว้คนเดียว เพราะหากโอกาสที่เราจะบอกเขานั้น มันไม่ได้ตรงเวลาเหมือนรถไฟลอยฟ้า หรอก หากเราพลาดโอกาสนั้นไปแล้ว เราไม่สามารถจะย้อยเวลาได้อีกเลย ความรักชังลำบากใจจริงหนอ
      เอก........เอก...........เป็นอะไรไปหรอ
     ผมสะดุ้งจากเสียงที่ได้ยิน ปิ่นหยุดเขียนรายงานและมองหน้าผม
     เป็นอะไรไปหรือเอก นั่งมองหน้าเราแล้วหลับในหรือไง
     เปล่า! เราก็คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยนะ
     อืม......... แล้วปิ่นก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่อไปส่วนผมก็ยัง อดคิดไม่ได้ว่าจะพูดอย่างไรถึงความรู้สึกนี้กับปิ่นดี คิดไปคิดมา ก็มองนาฬิกา แล้วก็ต้องตกใจ เพราะเวลาผ่านไปเร็วมา จน 8.20 แล้ว เหลืออีก 10 นาที ผมต้องรีบไปเข้าเรียนแล้ว ผมก็บอกลาปิ่น และรีบวิ่งไปที่ห้องเรียน โดนอาจารย์ดุเอาชุดใหญ่เลย ว้า! ในที่สุดก็ยังไม่ได้บอกรักปิ่นซะที
                           ***********************************************				
comments powered by Disqus
  • [-Why-]

    30 ตุลาคม 2545 20:49 น. - comment id 66796

    อ่านแล้วรู้สึกเดค่ะ การที่เราจะบอกรักใครสักคน มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันก้อไม่ยากเกินไปนะคะ มันขึ้นอยู่กับว่า ถ้าเราได้ยินคำตอบแล้ว เราจาทำใจได้รึเปล่า เราจะรู้สึกยังไง ค่ะ อิอิ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน