:::เมืองผี:::

ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

เมืองผี
เรื่องสั้น โดยก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์
	5 แยกที่ตัดกันกลางป่าเต็งรังค่อนข้างทึบ ไม่มีป้ายบอกว่าเส้นไหนจะไปออกที่ไหน    เว้นแต่เส้นทาง 60 กิโลเมตรที่เพิ่งผ่านมาและไม่อยากย้อนกลับไปอีกเท่านั้นที่ผมรู้จัก
	ตะวันลาลง  แสงฟ้าลับแล้ว  ความมืดขมุกขมัวคลี่คลุมป่าที่เริ่มเย็น   รถเครื่องของผมครางเหมือนหมาแก่ที่หนาวและหนังเป็นเวิงเรื้อน   ถ้ารถเป็นอะไรไปอีกผมก็คงต้องกินข้าวลิงแถวนี้เป็นแน่
	มีทางลัดใกล้กว่าที่คุณจะอ้อมภูลูกนั้น.. คนท้องถิ่นบอกทางแก่ผมตอนก่อนค่ำ ไปกลางค่ำกลางคืนอย่างนี้พวกบนภูจะตีเอารถนะผมบอกไว้ก่อน     คุณลัดไปทางนี้เถอะ  หมู่บ้านแม้จะห่างก็ยังพออุ่นใจ
	ผมมีทางเลือกไม่มากนัก  จะย้อนกลับก็ไม่มีที่จะหวังอันใดอีก   หมู่บ้านเวิ้งลากรรม เท่านั้นที่ผมอาจจะพอจะฝากหัวใจร้าวได้   ผมเคยได้ยินจากพ่อว่าญาติห่าง ๆ ของเราคนหนึ่งหักร้างถางพงทำไร่อยู่ที่นั่น
	ผมเลือกเส้นทางขวามือซึ่งค่อนข้างแคบเมื่อเทียบกับอีก 4 ทางที่เหลือ ตามคำของคนบอกทาง  ความไม่คุ้นทำให้ผมผ่อนคันเร่งลงไม่เกิน 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง   ฟ้าหน้ารถยังทำงานได้ดีแต่ก็ไม่แน่ใจว่ามันจะดีอยู่กี่มากน้อยเพราะบางหนมันก็เคยดับลงไปเฉย ๆ    
รถห่าง 5 แยกมาไม่มากนักหูของผมก็ได้ยินเสียงกระดึงคอควายและยิ่งชัดขึ้นเหมือนพวกมันวิ่งไล่กันใกล้เข้ามา   อ้าวเฮ้ย..หลบ ๆ เว้ย  ความตกใจทำให้กำเบรกและบิดคันเร่ง  เสียงเครื่องรถเร่งแรงหากไม่ขยับ ล้อหลังจึงเบนออกขวา   เงาตะคุ่มของควายที่พรวดออกมาอย่างน้อยคงสี่ห้าตัวจากสุมทุมข้างทางวิ่งไปตามทางแคบ ลับหายไปกับความมืด เมื่อจะออกรถอีกครั้งเครื่องยนต์ก็ดับลงกระทันหัน สตาร์ทใหม่อย่างไรก็ไร้แวว   รายรอบมีแต่ความมืด สงัด ดาวดวงเล็กๆแลเห็นริบหรี่ที่ปลายไม้ไกล   นอกจากเสียงเปรี๊ยะแตกของสะเก็ดจากกองไฟที่เพิ่งเห็นทางขวามือห่างออกไปไม่มากก็แทบไม่ได้ยินเสียงใดอื่นอีก
เมื่อหมดความหวังที่จะบังคับให้รถเคลื่อนไปด้วยแรงของมันผมก็ล้มเลิกความตั้งใจที่จะฝ่าความมืดไปในที่ไม่รู้  กองไฟที่เห็นเป็นที่หวังที่ยังเหลือ
แสงจากกองไฟที่พวยขึ้นเป็นครั้ง ๆ ทำให้มองเห็นได้ว่ารอบ ๆ นี้เป็นที่เกือบโล่ง  มีไม้ใหญ่ขึ้นรายรอบ และบ้านชาวบ้านก็น่าจะไม่ไกลจากนี้นัก  ผมมัวแต่สังเกตรายรอบไม่ทันได้มองเห็นว่ามีใครนั่งเหมือนผิงไฟอยู่
มาตามควายรึ  เมื่อกี้ลุงเห็นมันไล่กันไปทางโน้น น้ำเสียงนั้นเจืออารีฟังอุ่นใจ
เปล่าหรอกครับ ผมจะไปหาญาติ  เมื่อกี้ผมก็เกือบชนควายแหละครับ  เบรกทันแต่เครื่องรถก็ดับมันสตาร์ทไม่ยอมติด
ลุงมานอนเฝ้าสวน  บ้านของลุงอยู่ข้างในโน้น  ชายแก่บอกเหมือนรู้ว่าจะถามอะไร  ผมเดินเข้าไปใกล้ชายเจ้าของเสียงที่นั่งอังมือเหมือนเอาอุ่น
แล้วลุงรู้จักบ้านเวิ้งลากรรมไหมล่ะครับ  อยู่ห่างจากนี่มากไหม 
โห้ย  รู้จักดี  เอ้า..นั่งลงผิงไฟสิ  ข้าเอ็งก็มาจากนั่นก่อนมาเอาเมียอยู่ทางนี้  ว่าแต่จะไปทำอะไรที่นั่น ถามจริงๆ  พวกหนีคดีมาหลบอยู่นี่ทั้งนั้น หรือว่าเอ็งก็หนีอะไรมา     เออ..มันก็ข้ามเนินแบบนี้ไป 2 ลูกก็ถึงล่ะ
เออจะว่าหนีก็หนีแหละครับผมค่อยนั่งลง ชายที่นั่งอยู่ก่อนหันมาทางผม แสงจากกองไฟทำให้เห็นได้ว่าแกไว้หนวดเครายาวแต่ไม่ถึงกับรกรุงรัง  ลุงรู้จักความขมขื่นไหมล่ะครับ  ผมหนีมันมาแหละ  ไม่ต้องคดีอะไรหรอกลุงสบายใจได้
เอ็งว่าน่ะตลกดี  เอ็งชื่อไรล่ะ  เป็นคนที่ไหน
ผมบอกชื่อเสียงเรียงนาม  ชื่อพ่อชื่อแม่  ชื่อบ้านเกิดและชื่อญาติที่จะไปหาแก่ชายแก่จนครบถ้วนตามที่แกถาม  
เอ็งมาไกลนี่หว่า   ถ้าเอ็งง่วงก็ไปนอนก่อนข้าได้เลย  จะแขวนเปลนอนก็ได้  ข้าสุมควันตะไคร้ไล่ริ้นยุงแต่หัววันแล้ว นอนได้สบาย
ไม่สิ้นเสียงของชายแก่ดีผมก็รู้สึกง่วงงุนเสียเต็มประดา ลุกเดินตามแกอย่างว่าง่ายไปที่กระท่อม หลับไปทั้งรองเท้าอย่างนั้นมารู้สึกตัวอีกทีแสงตะวันก็แยงตายิบ ๆ แล้ว
อา..นี่มันเถียงนาร้างข้างป่าช้านี่   และกองไฟกองนั้นแท้จริงเป็นกองฟอนที่ศพเพิ่งไหม้หมดตอนหัวค่ำนั่นเอง  ผมเย็นหลังวาบ  คำแผ่เมตตาว่าไปโดยอัตโนมัติ  ขอบคุณคุณลุงเคราดกที่ดูแลผมอย่างดี				
comments powered by Disqus
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    14 พฤศจิกายน 2547 11:44 น. - comment id 79007

    หักแนวไปเลย จากเรื่องรักเป็นเรื่องผี
    รออ่านตอนต่อครับ
    
    
  • วิจิตร ภู่เงิน

    14 พฤศจิกายน 2547 15:21 น. - comment id 79015

    ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะเตือนเด็กๆเสมอว่า อย่าไปเล่นแยกทางแพร่ง..
    
    .........
  • มาดามมด

    14 พฤศจิกายน 2547 20:48 น. - comment id 79028

    ชอบเรื่องของคุณมาก มากเลย
    จะคอยติดตามนะคะ
    เขียนให้จบด้วยนะคะ
    จะรออ่าน
    +++++++++++++++
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    14 พฤศจิกายน 2547 21:01 น. - comment id 79029

    สวัสดีครับคุณวิจิตร ที่คุณว่าผมก็คล้ายๆ เคยได้ยิน
    
    สวัสดีครับคุณมาดามมด ขอบคุณครับที่คลิกมาทักทาย
  • มัดหมี่ค่ะ

    15 พฤศจิกายน 2547 10:49 น. - comment id 79035

    มัทไม่เคยเจอแบบนั้น
    แต่ในใจไม่เคยคิดกลัวผีเลยนะคะ
    
    
    คิดว่าผีไม่มีจริงค่ะ
    คนเรากลัวตัวเองมากกว่าสิ่งใด
    
    แต่หากผีมีจริง ๆ มัดหมี่คงวิ่งป่าราบค่ะพี่พงษ์...อิอิ
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    15 พฤศจิกายน 2547 17:01 น. - comment id 79043

    ผีป่าน่ารัก  ผีเมืองน่ากลัวครับ
  • violetsnow

    16 พฤศจิกายน 2547 15:02 น. - comment id 79076

    เรื่องผี ๆ เพิ่งอ่านตอนแรก ยังไม่วิจารณ์ดีกว่าน๊ะคะ เอาเป็นว่ามาให้กำลังใจละกัน
  • ก่อพงษ์ พงษพรชาญวิชช์

    17 พฤศจิกายน 2547 20:17 น. - comment id 79126

    ขอบคุณครับผม

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน