รอวัน ปาฏิหาริย์ ฉันรักเธอ ตอนที่ 8
Pat_Big
วันเวลาระหว่างเค้าและเธอผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเค้าผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย จนทำให้ได้รู้จักตัวตนของกันและกันลึกซึ้งมากขึ้นไปในทุกๆวัน...พัชหลงรักบิ๊กจนหมดหัวใจ และดูเหมือนว่าบิ๊กเองก็สัมผัสได้กับความรู้สึกของเธอ โดยที่เธอไม่เคยต้องบอกว่าเธอรักเค้า แต่ทุกๆสิ่งที่เธอปฏิบัติต่อเค้านั้น มันอธิบายได้มากกว่าคำพูด แต่เธอไม่เคยรู้ว่า สำหรับเค้า บางครั้ง คำพูดก็สำคัญ....ไม่แพ้การกระทำ...
สำหรับพัช เธอไม่เคยรู้เลยว่า จริงๆแล้วบิ๊กรู้สึกอย่างไรกับเธอ เธอได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ เพราะเธอกลัว กลัวว่าเธอจะคิดไปเอง และจะต้องเจ็บปวดถ้าหากบิ๊กรู้ว่าคนที่เค้าไว้ใจไม่บริสุทธิ์ใจกับเค้าและรู้สึกกับเค้าอย่างไร เธอกลัวจับใจว่าจะต้องเสียเค้าไป เสียคนที่ไว้ใจให้เธอเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของเค้า....
ในชีวิตของพัช เธอไม่ได้รู้สึกว่าถูกรักมากนัก เพราะว่าเธอเติบโตมากับสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แล้ววันนึงพอเธออายุได้ 5 ขวบ ก็มีพ่อแม่บุญธรรมที่แสนใจดีมารับเธอไปอุปภัมภ์ แต่เธอไม่เคยได้รู้ว่าท่านทั้งสองเป็นใคร ท่านเพียงแต่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูให้เธอ แล้วให้เธออยู่กับพี่เลี้ยงคนนึง ซึ่งปัจจุบันนี้พี่เลี้ยงคนนี้ก็ยังอยู่ และรักพัชเหมือนกับว่าพัชเป็นลูกของเธอเอง
เมื่อตอนเด็กๆ พัชโหยหาความรักจากพ่อและแม่ของเธอยิ่งนัก เธอไม่เข้าใจว่าเธอทำอะไรผิด พ่อกับแม่ถึงไม่ต้องการเธอ แล้วปล่อยเธอไว้แบบนี้ แต่คนอย่างพัชมองโลกในแง่ดีเสมอ ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกเศร้าใจเพียงใด ไม่นานนักเธอก็กลับมาปลอบใจตัวเองได้ตามประสาคนที่มองโลกในแง่ดีและก็กลับมายิ้มร่าเริงได้อีก
ป้านิ่มซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของพัช แปลกใจนักว่า ทำไมนะเด็กผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งตั้งแต่เกิด ต้องอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ถึงได้เป็นคนที่มองโลกในแง่ดีได้ขนาดนี้ เพราะป้านิ่มไม่แน่ใจนักว่า จะมีสักกี่คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับที่พัชเจอ แล้วจะยังยิ้ม มองโลกในแง่ดี ปลอบใจตัวเอง และไม่เคยหมดหวังได้อย่างพัชบ้าง
ป้านิ่มจึงทั้งรักและสงสารพัชมาก ป้านิ่มพยายามเลี้ยงพัชมาให้เป็นเด็กหญิงที่มองโลกในแง่ดีตามแบบที่เธอเป็น และป้านิ่มเป็นคนนำเจ้าโมโม่มามอบให้กับเธอ เพื่อหล่อหลอมให้เธอเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตา และป้านิ่มอยากให้เธอมีเพื่อนเล่นจึงได้นำเจ้าโมโม่มาให้เธอเลี้ยง
ป้านิ่มรับเจ้าโมโม่มาจากพ่อแม่อุปภัมภ์ของพัชน่ะเอง..ท่านทั้งสองตั้งใจนำมาให้พัชได้เลี้ยงไว้ ทันทีที่พัชเห็นหน้าเจ้าโมโม่ เธอก็รักมันทันที และเลี้ยงมันเป็นอย่างดี ไม่ว่ามีอะไรพัชจะเล่าให้เจ้าโมโม่ฟังทุกอย่างเหมือนกับว่ามันเป็นพี่น้องของเธอ และเจ้าโมโม่เองก็รักเธอมากเช่นเดียวกัน
ไม่ว่าจะไปไหน จะทำอะไร ทั้งคู่ต้องไปด้วยกัน ทำด้วยกันเสมอ จนป้านิ่มแซวว่ารักหมามากกว่าป้า เมื่อพัชเติบโตเป็นหญิงสาว หลายครั้งที่เธอสังเกตว่าป้านิ่มเหมือนมีอะไรในใจที่อยากจะบอกกับเธอ แต่ก็บอกไม่ได้ เธอเคยถามป้านิ่มเหมือนกัน แต่ป้านิ่มก็ได้แต่ตอบว่า แล้วสักวันป้าจะเล่าทุกอย่างให้หนูฟังเองนะลูก
พัชเชื่อว่าป้านิ่มต้องบอกตามที่สัญญา แต่เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่คุณสมบัติอีกข้อที่ติดตัวพัชมาตั้งแต่เด็กๆ ก็คือ ความอดทน เธอรู้จักรอคอย และไม่ได้รบเร้าอยากรู้จนกว่าจะถึงเวลาอันสมควร เรื่องนี้ก็เช่นกัน แม้ว่าเธอจะอยากรู้แทบแย่ว่าป้านิ่มมีอะไรจะบอกเธอ และเธอก็ตั้งตารอเวลานั้น โดยไม่ได้เซ้าซี้ป้านิ่มอีกเลย
อีกเรื่องที่เธอค้างคาใจก็คือ พ่อแม่อุปภัมภ์ของเธอเป็นใคร ทำไมพวกท่านถึงได้ไม่ยอมมาให้เธอได้พบหน้าบ้างเลย เธออยากจะขอบคุณพวกท่านเหลือเกิน แต่ป้านิ่มก็บอกให้เธออดทนรออีกตามเคย เธอจึงทำอะไรมากไปกว่าการรอคอยไม่ได้
เธอรอคอยที่จะได้เจอพ่อแม่อุปภัมภ์ของเธอด้วยใจเปี่ยมไปด้วยความหวัง จนแล้วจนรอดจนกระทั่งตอนนี้เธออายุได้ 21 ปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่ได้เจอหน้าพวกท่านเลย แต่เธอก็คงยังรอต่อไป...เธอไม่เคยสิ้นหวังอะไรง่ายๆ...
พัช ออกมานั่งทำอะไรตรงนี้ล่ะลูก อากาศมันเย็นมากนะ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก ป้านิ่มเดินออกมาตามหญิงสาวที่สวนหลังบ้าน พัชนั่งลูบหัวเจ้าโมโม่ที่หลับไปบนตักของเธอ
คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะค่ะป้า ว่าแต่ป้าเถอะค่ะ อากาศเย็นแบบนี้ แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อหนาๆล่ะคะ เดี๋ยวป้าไม่สบายไป พัชจะอ้อนใครล่ะคะ ป้านิ่มนั่งลงและลูบศรีษะพัช
ป้านิ่มมองหญิงสาว รู้สึกสงสารเธอจับใจ ความจริงป้านิ่มอยากจะบอกกับเธอเหลือเกินว่า พ่อแม่ของเธอเป็นใคร ตัวเธอมีที่มาที่ไปอย่างไร เธอไม่ได้เป็นเด็กที่พ่อแม่ไม่รักแล้วนำไปทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่มันมีอะไรมากมาย มากเหลือเกิน
ระหว่างเธอกับบิ๊ก มีอะไรบางอย่างที่ป้านิ่มต้องบอกให้เธอรู้ แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้ ไม่ใช่ ป้านิ่มได้แต่รอ รอเวลา เวลานั้นเมื่อไหร่จะมาถึงนะ ป้านิ่มสงสารพัชเหลือเกิน พัชควรจะได้รับรู้ทุกอย่าง เป็นอยู่แบบนี้ มันไม่ยุติธรรมเลย
ป้านิ่ม ป้านิ่มคะ เฮ้ คิดถึงใครอยู่เหรอคะ เอ๊ะ รึว่าป้าเรามีความรัก นั่นแน่ ใครน๊า เป็นหนุ่มผู้โชคดี พัชทำหน้าทะเล้นใส่ป้านิ่มที่ดูเหม่อลอย
ป้านิ่มหยิกแก้มพัชด้วยความเอ็นดู นี่แน่ะ ป้าอายุปูนนี้แล้วไม่คิดหรอกจ้ะเรื่องนี้ ว่าแต่หนูพัชของป้าเถอะวันนี้ไปออกไปทุ่งหญ้ากับพ่อหนุ่มแสนดีของหนูเหรอจ๊ะ ป้านิ่มหมายถึงบิ๊ก
พัชแก้มแดงเพราะเขินที่ถูกแซว ไม่ไปหรอกค่ะ บิ๊กเค้าไม่อยู่น่ะค่ะป้า เห็นบอกว่าจะกลับไปบ้านเก่า
หนูพัชของป้าก็เลยต้องมานั่งเหงาอยู่กับเจ้าโมโม่แบบนี้ อืม ดูเค้าเป็นคนดีนะลูก ว่าแต่หนูคิดยังไงกับเค้า ป้านิ่มลองหยั่งเชิง ทำไมป้านิ่มจะไม่รู้ว่าหญิงสาวที่เธอเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ รู้สึกยังไงกับชายหนุ่มคนนั้น
ไม่เอา ไม่คุยกับป้านิ่มแล้ว พัชไปทำเค้กดีกว่า บอกบิ๊กว่าจะทำไปให้ชิม ว่าแล้วพัชก็ผลุนผลันออกไป จนเจ้าโมโม่ตกใจตื่น และเห่าไล่หลังเธอ
เจ้านายเราน่ะ รักเค้าหมดหัวใจรู้มั้ยโมโม่ เฮ้อ คุณพีรวิชญ์กับคุณรินลดาก็ช่างใจแข็งเหลือเกิน ไม่รู้จะจดจำแต่ความหลังไปถึงไหน ป้านิ่มพึมพำกับเจ้าโมโม่ มันซบหัวลงตรงตักป้านิ่ม คล้ายๆแสดงความเห็นใจ ป้านิ่มมองตามหญิงสาวที่เธอเลี้ยงมาด้วยสายตาที่ทั้งรักและสงสาร
ฉันอยากจะบอกหนูพัชเหลือเกินโมโม่เอ๊ย ฉันทนแบกความลับความหลังบ้าๆนี่มานานตั้งแต่หนูพัชยังไม่เกิดจนตอนนี้ดูสิ หนูพัชของฉันเป็นสาวอายุ 21 แล้ว ทำไมพวกเค้ายังต้องรออะไรอีก รอให้สายเกินไปรึไงนะ ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ป้านิ่มถอนหายใจ เจ้าโมโม่นิ่งฟังเหมือนกับว่ามันเข้าใจที่ป้านิ่มพูด มันได้แต่ซบหัวลงกับตักของป้านิ่ม คล้ายๆจะปลอบใจ
กริ๊งงงงงงงงงงงงงงง เสียงกริ่งหน้าประตูบ้านของพัชดังขึ้น ป้านิ่มรีบออกมาเปิดประตู เมื่อเดินออกมา ป้านิ่มก็ได้พบกับ