ลำน้ำที่ทอดสายคดโค้งไปตามพื้นที่ลุ่ม แผ่ความสมบูรณ์ไปยังสองฝั่งฟากให้ชอุ่มเขียวด้วยพันธุ์ไม้ สัตว์ต่างๆพากันอาศัยพฤกษ์ไพรเหล่านี้ยังชีพตามความเหมาะสม ดินแดนราบลุ่มแหล่งใดที่มีความสมบูรณ์มาก ...ก็จะมีบ้านเรือนมนุษย์มาปลูกสร้าง และดำเนินกิจกรรมของชีวิตไปตามความต้องการ ..จวบจนกระทั่งกลายเป็นวิถีชีวิตของชนชายน้ำที่ต่างกันไปในแต่ละพื้นเพ และในปัจจุบันได้กลายมาเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เดินทางไปทัศนาจรเพื่อดื่มด่ำกับวิถีชีวิตเช่นนี้อย่างตื่นตาตื่นใจ เรือลำน้อย....จึงล่องลอยออกจากท่าพร้อมด้วยแรงแห่งความปรารถนา ต้องการที่จะสัมผัสความเป็นไปเหล่านั้น ต่างวาดหวังที่จะพบในบางสิ่ง และเห็นในบางอย่างที่แปลกตา ในเวลาบ่ายคล้อยใกล้สนธยา .. ลำเรือที่ลอยอยู่เหนือผืนน้ำต่างก็ลอยเลื่อนไปอย่างแช่มช้าด้วยฝีพายที่วาดเป็นจังหวะ ทำให้หลายคนชื่นชมในความสงบของลำน้ำที่พลิ้วระลอกในยามที่ต้องลมสัมผัส และลืมเลือนที่จะถามตนเองไปเสียสนิทว่า ..อันตรายจะมีในเบื้องหน้าหรือไม่ ต่างสนใจในภาพลักษณ์ที่ปรากฏของสองฟากฝั่ง ฝั่งหนึ่งปรากฏกลุ่มไม้ที่เขียวชอุ่มที่ให้ความสดชื่นแก่สายตา และนำความสงบมาสู่ใจ ส่วนอีกฝั่งหนึ่งที่ห่างกันไม่ไกลนักกลับตั้งบ้านเรือนเพื่อค้าขาย ผู้คนเดินไปมาอย่างขวักไขว่ มีทางแยกเป็นลำคลองสายเล็กๆที่จอแจไปด้วยเรือสินค้าของชาวบ้าน ส่งเสียงเซ็งแซ่ขายสินค้าเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินตราจำนวนมากๆ ณ ท่ามกลางบทบาทของการเป็นผู้ดูละครชีวิตอยู่บนเรือลำน้อยนี้ ทำให้ชัดเจนในความแตกต่างระหว่างฝั่งแห่งความสงบกับฝั่งแห่งการไขว่คว้าแก่งแย่ง หากเมื่อใดที่ชีวิตมีความเพียงพอแล้ว ... ความสงบและเยือกเย็นก็จะเกิดขึ้น ไร้ความเคลื่อนไหวเพื่อช่วงชิง ดุจดังไพรพฤกษ์ที่ให้ความร่มเย็นแก่ตน และผู้ที่พบเห็น แต่หากเมื่อใดที่ชีวิตยังมีความขาด ..ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ความเคลื่อนไหวที่ร้อนรนก็จะเกิดขึ้นมาก และมากไปตามปริมาณของความต้องการที่มีอยู่ในจิตใจ .. เพราะความไม่มี...จึงต้องแสวงหา และเพราะความไม่พอ...ก็ยิ่งต้องแสวงหาแม้ว่าจะมีแล้วก็ตาม เมื่อยามราตรีเข้าครอบคลุมลำน้ำจนมืดมิด ฉากแห่งการพิจารณาได้เปลี่ยนทิศไปเพื่อการทัศนาธรรมชาติริมฝั่ง เพราะความมืดมิดมิใช่สิ่งงดงามที่ควรเพ่งมอง แต่ความสว่างต่างหากเล่าคือสิ่งที่น่าปรารถนาในทามกลางความมืด หิ่งห้อย...จึงเป็นเสน่ห์อีกบทหนึ่งของลำน้ำยามค่ำคืน แสงไฟที่กระพริบอยู่ในลำตัวอันเนื่องมาจากการหายใจของหิ่งห้อยนั้น ก่อให้เกิดความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวทั้งหลาย นั่นก็เพราะว่า...แต่ละคนที่มาล้วนไม่มีไฟเรืองแสงในตนเองเช่นหิ่งห้อยเหล่านี้ จึงมองเห็นการมีแสงไฟเป็นสิ่งที่แปลก และต้องเดินทางมาหามาดูในสิ่งไม่มีในตน แต่ถ้าหากมนุษย์สามารถนำความสว่งนั้นมาให้เกิดขึ้นในตนได้แล้ว การเสาะแสวงหาเพื่อชมความงามในแสงสว่างของผู้อื่นก็จะหมดลงไปโดยปริยาย เมื่อพิจารณาโดยนัยแห่งการดำเนินชีวิต ความสว่าง...จึงเป็นสิ่งที่มนุษย์ค้นหามาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟ หรือไฟฟ้าก็ตาม ไม่มีมนุษย์คนใดที่ไม่ต้องการความสว่างในช่วงชีวิตของตน แม้ความสว่างที่กล่าวถึงนี้จะเป็นเพียงแสงภายนอก ...ก็ยังเป็นที่ค้นหาและต้องการของทุกชีวิต จึงควรที่มนุษย์ผู้ไม่ชื่นชอบความมืดทั้งหลาย จะใส่ใจสร้างแสงสว่างให้เกิดขึ้นในตนด้วยการศึกษาพระธรรรมให้เกิดความเรืองแสงแห่งปัญญา เพื่อเป็นที่พึ่งแห่งตน และในบางคราวก็เป็นที่พึ่งของผู้อื่นได้เช่นกัน... ซึ่งในที่สุดก็จะหยุดการเดินทางเพื่อทัศนาจรไปยังถิ่นต่างๆ เพื่อแสวงหาด้วยความอยากได้ใคร่ดี และสงบงามได้ดังฟากฝั่งแห่งไพรพฤกษ์ที่ไร้การดิ้นรนไขว่คว้านั่นเอง เลียบเรือน้อยลอยชลยลฝั่งคลอง มุ่งหมายมองความงามตามพฤกษา เห็นโพงพางกางกั้นชั้นชลา บ่งวิธีจับปลาของชาวคลอง ล่องลอยไปหัวใจกลับสงบ เมื่อได้พบความหมายในฝั่งสอง หนึ่งนั้นพลุ่งพล่านไปในครรลอง ที่หมายปองขายค้าเพื่อหากิน ชนมากมายวุ่นวายแข่งขันเสียง ตะเบ็งเถียงราคาค่าทรัพย์สิน เรียกตลาดขายขาดเป็นอาจิณ หลายชีวินคร่ำเคร่งเก็งราคา อีกหนึ่งฝั่งยังเรือนเหมือนต้นไม้ สงบกายไร้พล่านขานโทสา มีไม้ใหญ่ให้ร่มบ่มธารา ไร้แสงสีร้านค้ามาเลียบเคียง สองฝั่งคลองมองไปใจตรึกตรอง ฝั่งที่ซ้องเซ็งแซ่ด้วยสรรพเสียง ไม่ต่างจากชีพเราที่ร้อยเรียง สร้างเสบียงโลกีย์ธรรมจนช้ำใจ อีกฝั่งหนึ่งเปรียบซึ่งผู้หยุดคว้า มีปัญญานำตนพ้นวิสัย ทิ้งโลกีย์ไว้อีกฟากฝั่งไกล สันโดษในความพร้อมย้อมจิตตา ด้วยความปรารถนาดี พี่ดอกแก้ว 7 พฤศจิกายน 2547
8 พฤศจิกายน 2547 21:08 น. - comment id 78886
อ่านแล้วเศร้าๆค่ะ
9 พฤศจิกายน 2547 00:16 น. - comment id 78893
เศร้าจังแต่เพราะมากค่ะ อยากร้องไห้แงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ คิดถึงเสมอค่ะ
9 พฤศจิกายน 2547 21:13 น. - comment id 78915
ทำไงกานต์จะเข้าใจอะไรๆได้เท่าผู้ใหญ่บ้างคะพี่ดอกแก้ว พี่ดอกแก้วเข้าใจเขียนจังนะคะ หิ่งห้อยกับลำคลอง กับคนมองหิ่งห้อย กานต์ก็ชอบมองหิ่งห้อยค่ะ
10 พฤศจิกายน 2547 10:59 น. - comment id 78929
อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ สองฟากฝั่ง ของลำคลอง มีครรลองชีวิต ลำน้ำแห่งชีวิต ดีจังค่ะ....อากาศหนาวรักษาสุขภาพนะค่ะ
10 พฤศจิกายน 2547 23:17 น. - comment id 78944
เศร้าาาาาาาาาานะคะ
23 พฤศจิกายน 2547 20:47 น. - comment id 79303
ขอบคุณน้องๆทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
19 กรกฎาคม 2548 19:40 น. - comment id 83257
Romantic mak mak chob kub.
19 ตุลาคม 2550 17:31 น. - comment id 98084
อ่านแล้วเศร้าจังค่ะ แต่ชอบค่ะ