อัลมิตรา

แย่จัง ฉันไม่รู้ว่าฉันผล็อยหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ 
จำได้แต่ว่า มานั่งพักเหนื่อยที่ศาลาริมหน้าผา
เส้นทางนี้ค่อนข้างเปลี่ยว นี่ก็ยังไม่เจอ แมวซักตัว .. 
ด้วยความที่เหนื่อย บวกกับลมพัดตึงพอเหมาะ 
กะว่าจะหลับตาสักวูบ ปรากฏว่าวูบนานไปหน่อย
ตอนนี้น่าจะบ่ายสอง อาหารเที่ยงยังไม่ตกถึงกระเพาะเลย 
 ทานข้าวบ้างนะครับ   เสียงจากโทรศัพท์.. สั่งนักสั่งหนา  
อยากทานเหมือนกันนะ 
กระเพราะปลาหมึกราดข้าว + ไข่ดาว + กุนเชียงอีกสักเส้น
ก็ได้แต่คิด เพราะที่ถือติดมือมา พอแกะห่อแล้ว มันเป็นแค่ขนมปังไส้เผือก
เถอะน่า 
พอประทังชีวิต เดี๋ยวค่อยไปหาอะไรยาไส้ ที่หาดถ้ำพัง แถวนั้น ฉันไม่อดแน่
ฉันไปถึงถ้ำพังประมาณบ่ายสามกว่า ๆ 
เมฆครึ้มนะ แต่ฝนยังไม่ตก ดีจังไม่ค่อยมีแดด ไม่ดำแน่
เรื่องตัวดำน่ะ ไม่เท่าไหร่ 
แต่ตัวลอกนี่สิ ไม่ค่อยน่าดูนัก กว่าจะฟื้นสภาพได้ก็เป็นสัปดาห์เชียว
ที่ถ้ำพัง .. ซากเรือนั้น ยังอยู่ที่เดิม 
ฉันจำได้จุดที่เคยกางเต้นท์นอนฟังเสียงคลื่นและดูดาว
ฉันเดินเล่นอยู่ริมหาด ไม่ได้ลงเล่นน้ำทะเล 
เพราะเป็นห่วงสัมภาระที่พามา กลัวจะหาย
ฉันนั่งก่อปราสาททราย ซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเหมือนปราสาทสักเท่าไหร่
ฝีมือห่วยแตก ไม่ค่อยเอาไหนแฮะ
 พี่สร้างบ้านเหรอ  
เสียงของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง ทักมา เขานั่งยองๆอยู่ข้าง ๆ คงอยากหาเพื่อนเล่น
 ปราสาทนะเนี่ย แต่มันไม่ค่อยสวย  ฉันตอบ
 เหมือนขนมครก  เอาล่ะสิ ฉันควรจะดีใจไหม ที่ปราสาทของฉันเหมือนขนมครก
 ทำเป็นหรือเปล่า มาช่วยกันสิ ต้องมีกำแพงด้วยนะ เดี๋ยวจะสร้างสะพาน  
ฉันหลอกเด็ก หวังเอาเป็นเพื่อนเหมือนกัน
 พี่ต้องทำปืนใหญ่ด้วย  
เขาช่วยโกยทรายขึ้นมาโปะ แต่แล้ว ไอ้ที่เหมือนก้อนขนมครกก็แบนแต๋
 เพราะเขาโปะด้วยนำหนักตัวทั้งหมด
 วาว .. เบา ๆ หน่อยน้อง ปราสาทโดนยักษ์ถล่มแล้ว 
เสียงหัวเราะของเราดังประสานกัน เขาคงขำประโยคที่ฉันพูด 
ส่วนฉันขำที่ล้อเขาคืนว่าเป็น ยักษ์
 เต้ย มาเล่นน้ำกัน  
เสียงขอผู้ชายที่เล่นน้ำอยู่กับกลุ่มเด็ก ๆ อีก 4-5 คน ตะโกนมา
 พ่อ พ่อ เต้ยสร้างปราสาทอยู่  เขาตอบโดยที่ไม่หันไปมอง
 มานี่ลูก อย่าไปกวนพี่เขา มาเล่นน้ำดีกว่า 
 ยักษ์มาแล้วพ่อ ถล่มปราสาทพังเลย 
 เต้ย มาเร็ว มา..
 พ่อ เต้ยไม่เล่นน้ำ เต้ยว่ายน้ำไม่เป็น 
 จะกลัวอะไร พ่ออยู่นี่ ไม่ต้องกลัว มา เต้ย   
พ่อเขาคะยั้นคะยอ รวมถึงเด็กในกลุ่มก็โบกไม้โบกมือเรียกเขากันยกใหญ่
 เดี๋ยวมาเล่นกันใหม่นะ ไปหาพ่อก่อนเถอะ  ฉันบอกเขา
เขาทำหน้านิ่วดูเหมือนถูกขัดใจ 
แต่แล้วเขาก็ลุกขึ้นเอามือที่เลอะทรายปัดกับกางเกง
ฉันเพิ่งสังเกตุเห็นอะไรบางอย่าง..
ในขณะที่เขาวิ่งกระย่องกระแย่งไปหาพ่อเขาอีกทาง
เต้ย.. เป็นโปลิโอ ขาข้างขวาของเขาลีบ 
เหตุนี้เองที่ทำให้เขาไม่อยากจะลงไปเล่นน้ำ
ฉันมองเขาอย่างสะเทือนใจ 
ใบหน้าของเขา รอยยิ้มของเขาดูสดใส ยิ่งตอนที่หัวเราะร่วนกับฉัน
เขาหัวเราะอย่างเบิกบาน อวดฟันหน้าหลอ ๆ อย่างไม่ต้องปิดบัง 
พลอยทำให้ฉันมีความสุขไปด้วย
ฉันยังคงก่อปราสาททรายอย่างเดียวดายอีกครั้ง 
คราวนี้ฉันบรรจงกว่าเดิม ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ
สายตาของฉันมองไปยังกลุ่มของเต้ยบ้าง 
เขาเกาะหลังพ่อของเขาอยู่ เสียงเขาหัวเราะดังมาถึงที่นี่
ลูกบอลสีสด ถูกนำมาเป็นเครื่องเล่นให้เด็ก ๆ แย่งกัน ครั้งหนึ่งเขาแย่งได้ 
เขากระโดดตัวลอยเพื่อแตะลูกบอล .. 
เขาทำได้  ใช่ เขาคงไม่ยอมให้บางอย่างที่เป็นข้อด้อยของเขา
มาเป็นอุปสรรคอย่างแน่นอน
ฉัน .. ลงมือก่อกองทรายอีกครั้ง .. 
ในขณะเดียวกัน ฉันรู้สึกละอาย ฉันย่อมพ่ายแพ้จากสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดจะสู้				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน