" รู้สึกดี...เพราะมีเธอ (1)"

..ชาเย็น..

1.
ติ๊ดๆๆๆ...ติ๊ดๆๆๆ...
เสียงนาฬิกาปลุกเริ่มทำงาน... แต่แล้วเสียงก็เงียบหายไป หลังจากถูกมือของใครบางคนสั่งให้มันหยุดร้อง 
...เจ้าของนาฬิกายังคงนอนหลับอย่างสบายใต้ผ้าห่มผืนหนาบนเตียงนุ่มๆ นั้น 
ไม่นานนักจิตใต้สำนึกก็สั่งให้เธอตื่นจากนิทราที่แสนหวาน เพียงเพราะวันนี้เป็นวันแรกที่เธอต้องไปฝึกงาน...
เธอค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงอย่างงัวเงีย เดินไปหยิบผ้าเช็ดตัว แล้วตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อชะล้างทำความสะอาดร่างกาย ซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวันที่มนุษย์ทุกคนพึงกระทำ
น้ำอุ่นไหลผ่านร่างกายหญิงสาว อากาศตอนเช้ากับการได้อาบน้ำอุ่นๆ ทำให้เธอรู้สึกสบายยิ่งนัก หากไม่มีเสียงของผู้เป็นมารดาแว่วมา... เธอเอื้อมมือหมุนปิดฝักบัว แล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันกาย ก่อนจะเดินไปเปิดประตู
 แพรว... โสเค้ามารอแล้วนะลูก มัวทำอะไรอยู่เดี๋ยวก็พากันสายหรอก  เพ็ญแขบอกลูกสาว เพราะรู้นิสัยลูกตนเองดี ถ้าไม่คอยเร่งแพรวรรณจะต้องสายอีกตามเคย ถึงแพรวรรณจะคอยบอกอยู่เสมอว่าเธอโตแล้ว แต่ก็แน่ล่ะที่ผู้เป็นแม่ทุกคนย่อมเห็นว่าลูกตนเองเป็นเด็กอยู่เสมอ
แพรวรรณโผเข้าหาผู้เป็นมารดา ก่อนจะทำท่าประจบ  แม่บอกให้โสรอแพรวก่อนนะคะ เดี๋ยวแพรวแต่งตัวเสร็จแล้วจะรีบลงไปเลย นะคะ...
 โตแล้วนะเรา... ต้องมีความรับผิดชอบได้แล้วนะ  เพ็ญแขสั่งสอนลูกก่อนที่จะเดินจากไป
 ทราบแล้วค่ะ...ท่านแม่  แพรวรรณรับคำ ปิดประตูห้องแล้วเริ่มจัดการกับเสื้อผ้าที่เตรียมไว้อย่างรีบร้อน 
สักพักหญิงสาวในชุดนักศึกษาก็รีบพาร่างตัวเองลงบันได แล้วตรงเข้าไปหาเพื่อนที่ห้องรับแขกทันที ในขณะที่โสภิตากำลังนั่งคุยอยู่กับมารดาของเธอ 
 โส ไปกันเถอะ  เธอดึงมือเพื่อนสนิทให้ลุกขึ้น แล้วเข้าไปหอมแก้มมารดาก่อนจะเอ่ยลา  แพรวไปก่อนนะคะแม่ สวัสดีค่ะ  โสภิตาเดินตามเพื่อนสาวหลังจากที่ได้ลามารดาของเพื่อนเรียบร้อยแล้ว
เสียงรถแล่นออกจากบ้าน โสภิตาเป็นเพื่อนกับลูกสาวของตนตั้งแต่เรียนอยู่มัธยม เพื่อนลูกสาวของเธอคนนี้เป็นเด็กเรียบร้อยหัวอ่อน และขี้เกรงอกเกรงใจเป็นอย่างมาก ทุกๆ วันโสภิตาจะขับรถมารับและส่งลูกสาวตน เพราะบ้านของโสภิตาอยู่ทางเดียวกับบ้านของเธอ ทางบ้านของโสภิตาเรียกได้ว่ามีอันจะกินเลยทีเดียว ต่างจากเธอซึ่งมีฐานะไม่ถึงกับร่ำรวยแต่ก็ไม่ขัดสน เธอเองก็เป็นแค่หญิงหม้ายคนหนึ่งที่สามีเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ พ่อของแพรวรรณเป็นทหารอากาศ แพรวรรณมีนิสัยเหมือนพ่อไม่มีผิด ความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ออกจะหัวรั้น ทำให้เธอค่อนข้างเป็นห่วงลูกสาวคนนี้มาก แต่แพรวรรณก็ไม่เคยทำให้เธอต้องผิดหวังเลย เพ็ญแขหวังว่าลูกสาวของเธอจะพบแต่เรื่องที่ดีในชีวิต พบกับคนที่ดีที่รักและเป็นห่วงลูกสาวของเธอไม่ต่างไปจากเธอ
แพรวรรณและโสภิตาก้าวเท้าลงจากรถที่จอดสนิท พวกเธอกำลังจะได้เข้าไปหาประสบการณ์ในบริษัทโฆษณาที่ถือได้ว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งมีประธานบริษัทเป็นเพื่อนกับบิดาของโสภิตา ทำให้เธอทั้งสองแทบจะไม่ต้องมาติดต่ออะไรมากมาย และนี่ก็เป็นวันแรกที่พวกเธอได้เข้ามาในที่แห่งนี้
แพรวรรณเดินเข้าไปหาประชาสัมพันธ์เพื่อสอบถามถึงจุดมุ่งหมายของเธอและเพื่อน  ขอโทษนะคะ...จะมาติดต่อคุณภควัฒน์ค่ะ  
 ติดต่อเรื่องอะไรคะ  ประชาสัมพันธ์สาวถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
 เรื่องฝึกงานค่ะ  แพรวรรณตอบกลับไปพร้อมรอยยิ้มเช่นกัน
 อ๋อ..ค่ะ..เชิญที่ชั้น 14 เลยค่ะ พอออกจากลิฟท์แล้วเลี้ยวซ้ายห้องสุดท้ายเลยนะคะ  ประชาสัมพันธ์อธิบายอย่างเป็นกันเอง
 ขอบคุณนะคะ  แพรวรรณและโสภิตากล่าวขอบคุณพร้อมกัน ก่อนที่จะพากันขึ้นลิฟท์ไปยังห้องของคนที่มีหน้าที่รับผิดชอบการฝึกงานของพวกเธอครั้งนี้  
เขาคงจะมีอายุห่างจากพวกเธอหลายปี และคงจะเป็นคนที่สำอาง ก็มีพ่อเป็นถึงประธานบริษัทโฆษณาที่มีชื่อเสียงขนาดนี้ ไม่ต้องทำอะไรก็ได้เป็นถึงรองประธาน 
แพรวรรณคิดได้ไม่นาน เธอและเพื่อนก็มาถึงห้องของเขา ซึ่งมีเลขาฯ อยู่หน้าห้อง และเป็นผู้ที่พาพวกเธอเข้าไปในห้องที่เป็นที่อยู่ของรองประธานบริษัทแห่งนี้
 เชิญนั่งก่อนครับ  คำพูดประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากเขา ในขณะที่เจ้าของเสียงก้มหน้าก้มตาจัดการกับเอกสารที่อยู่ตรงหน้า ทำให้แพรวรรณยิ่งอยากเห็นหน้าเขาชัดๆ ขึ้น แต่ไม่ทันที่เธอจะทำอะไรเพื่อสนองความต้องการของตนเอง เขาก็เงยหน้าขึ้นเพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบการฝึกงานของนักศึกษาที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา คิ้วเข้มได้รูป ดวงตาสีน้ำตาลเข้ม จมูกและริมฝีปากรับกับใบหน้า ผิวพรรณที่ดูสะอาด ท่าทางเขาดูไม่ใช่หนุ่มเจ้าสำอางอย่างทีเธอคิด ก็เหมือนกับผู้ชายทั่วๆ ไป จัดได้ว่าเป็นผู้ชายที่หล่อมากเลยทีเดียว แต่หน้าตากับนิสัยอาจจะไปกันคนละทางเลยก็ได้
 แพรว... โสภิตาสะกิดเพื่อน เพื่อที่จะให้ยกมือไหว้ผู้ที่มีอาวุโสมากกว่า ทำให้แพรวรรณสะดุ้งทำหน้าเหรอหรา เป็นเหตุให้เขายิ้มนิดๆ ที่มุมปาก  ยังไม่ทันไรเธอก็ทำเรื่องเปิ่นๆ ให้เขาเห็นแล้ว แล้วเรื่องอะไรที่เขาจะต้องมาขำเธอด้วยล่ะ เก๊กต่อไปก็ได้นี่ ...
 คุณเป็นนักศึกษาที่จะมาฝึกงานกับบริษัทเราใช่มั๊ย  ใบหน้าของเขากลับเข้าสู่สภาวะเดิม แพรวรรณก็ยังคงอายเขาอยู่ดี แต่ก็แกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนโสภิตาก็มัวแต่นั่งจ้องหน้าเขาเหมือนจะเก็บรายละเอียดไว้ให้มากที่สุดอย่างนั้นแหล่ะ
 ค่ะ ฉันชื่อโสภิตาค่ะ ส่วนนี่...แพรวรรณค่ะ  โสภิตาแนะนำตัวเองและเพื่อน 
 ผมภควัฒน์ครับ เป็นลูกคุณอภิวัฒน์ คุณพ่อให้ผมดูแลพวกคุณแทนท่านน่ะครับ  เขาเอ่ยอย่างเป็นกันเอง เพื่อให้พวกเธอไม่อึดอัดเวลาอยู่ต่อหน้าเขา 
 เรียกผมว่าวัฒน์ก็ได้นะครับ แล้วจะให้ผมเรียกพวกคุณว่ายังไงดี  เขามองหน้าแพรวรรณเพื่อรอคำตอบ 
 แพรวค่ะ  แพรวรรณตอบเสียงเรียบ
 แพรว  เขาทวนคำแล้วเบนสายตามาที่โสภิตา  แล้วคุณล่ะครับ 
 เรียกโสว่าโสก็ได้ค่ะ  โสภิตาตอบด้วยน้ำเสียงที่ผิดกับเพื่อนของเธอ 
โสภิตาท่าทางเรียบร้อย ต่างจากเพื่อนเธอ...แพรวรรณ ถึงแม้ว่าออกจะเปิ่นไปหน่อย แต่ก็เป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจในตัวเอง ผู้หญิงอย่างนี้แหล่ะที่เขาชอบ
เขาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่จะเอ่ยขึ้น  เดี๋ยววันนี้ผมจะพาพวกคุณไปแนะนำให้ทุกคนรู้จักในฐานะนักศึกษาฝึกงานนะครับ แล้วก็จะพาดูบริษัทโดยรวมก่อน... แล้วตอนบ่ายค่อยจัดให้พวกคุณไปอยู่ตามแผนก เชิญครับ...  เขาลุกขึ้นและก้าวเท้าเดินนำพวกเธอออกจากห้อง แล้วหันไปบอกกับเลขาฯ หน้าห้อง  เดี๋ยวผมจะเข้ามาอีกทีตอนบ่ายนะครับ  
แพรวรรณและโสภิตาเดินตามภควัฒน์ ผู้ที่ชื่อได้ว่าเป็นรองประธาน แต่เวลาที่เขาคุยกับพนักงานของเขา  เขาดูเป็นกันเองมาก ไม่วางอำนาจอย่างที่แพรวรรณคิด  และดูเหมือนว่า สาวๆ ในบริษัทจะคลั่งไล้เขามากเลยทีเดียว ก็เขาออกจะหล่อ แถมรวยอีกต่างหาก สมบูรณ์แบบขนาดนี้ผู้หญิงคนไหนก็ต้องหมายปองเป็นธรรมดา แต่เว้นเธอไว้คนหนึ่งแหล่ะ... เธอไม่ได้ดูคนจากภายนอก ผู้ชายที่เธอชอบต้องเป็นคนดี แล้วก็รักเธอด้วยความจริงใจ แต่โตจนป่านนี้แล้วเธอก็ยังไม่เจอคนๆ นั้นเลย
 ผมขอเลี้ยงมื้อเที่ยงพวกคุณเองนะครับ   เขาหันมาเอ่ยกับพวกเธอ หลังจากที่ได้พาพวกเธอไปดูงานในบริษัท และพูดดักก่อนที่แพรวรรณจะปฏิเสธ  ไม่ต้องปฏิเสธนะครับ เพราะเป็นหน้าที่ที่ผมจะต้องดูแลพวกคุณ  
 ขอบคุณนะคะ...โสกับแพรวคงต้องรบกวนคุณวัฒน์อีกเยอะเลยค่ะ  โสภิตากล่าวขอบคุณพร้อมกับโค้งตัวเล็กน้อย ทำให้แพรวรรณอดหมั่นไส้เขาไม่ได้  เชอะ! ใครเค้าอยากจะไปกินข้าวด้วยล่ะ 
 คุณวัฒน์เค้าดีเนอะ.. โสภิตาหันมามองหน้าเพื่อนนิดนึงก่อนที่จะหันไปขับรถต่อ
 อืม..ก็งั้นๆ แหล่ะ  แพรวรรณเบะปากพร้อมกับยักไหล่นิดๆ 
 งั้นๆ ที่ไหนกันล่ะ ดีมากเลยล่ะ หล่อก็หล่อ แถมนิสัยดีด้วยนะ  โสภิตายังคงปลื้มกับคนที่เธอพูดถึง
 อะไรกันโส นี่เธอเพิ่งเจอเค้าวันเดียวเองนะ รู้ได้ไงว่าเค้านิสัยดี ชอบเค้าหรือเปล่าเนี่ย  แพรวรรณถึงกับเบนตัวเข้ามาถามเพื่อนใกล้ๆ
 บ้า..ไม่ได้ชอบนะ ก็..ก็แค่ชื่นชม..ชื่นชมน่ะ  โสภิตาผลักแพรวรรณเบาๆ
 ค่อยยังชั่ว..นึกว่าชอบเค้าแล้วซะอีก แพรวเป็นห่วงโสน่ะ ของอย่างเนี้ยต้องดูกันนานๆ นะ  แพรวรรณสอนเพื่อน
 พูดไปถึงโน่น โสยังไม่ได้คิดไปถึงขั้นนั้นซะหน่อย ทำตัวเป็นแม่แก่ไปได้  โสภิตาหัวเราะคิกคัก ทำให้
แพรวรรณอดเขกหัวเพื่อนเธอคนนี้ไม่ได้ จนถูกเพื่อนเธอโวยกลับ  โอ๊ย..นี่โสขับรถอยู่นะ เดี๋ยวก็ปล่อยให้ลงตรงนี้ซะเลย 
 จะทิ้งคนน่ารักขนาดนี้ได้ลงคอเหรอจ๊ะ สาวน้อย  แพรวรรณออดอ้อน จนโสภิตาอดขำไม่ได้
 จ้า..แม่คนน่ารัก แล้วทำไมวันนี้แพรวขอทำงานออกแบบโฆษณาก่อนล่ะ  โสภิตาถามเหตุผลของเพื่อนที่เสนอตัวขอทำงานที่ว่านั้นก่อน หลังจากที่ภควัฒน์ให้เลือกระหว่างอยู่ฝ่ายออกแบบโฆษณากับเป็นเลขาฯ ให้เขา
 จะให้แพรวไปเป็นเลขาฯ เค้าเนี่ยนะ มีหวังเละให้โสเป็นก่อนแหล่ะดีแล้ว  โสภิตากลุ้มใจกับเพื่อนเธอคนนี้เสียจริง ท่าทางคงจะไม่ชอบหน้าเขาจริงๆ เธอรู้นิสัยเพื่อนเธอคนนี้ดี แต่ก็ดีเหมือนกัน เธอจะได้มีโอกาสอยู่ใกล้ๆกับเขามากขึ้น...				
comments powered by Disqus
  • blpn_09042530@thaimail.com

    7 พฤศจิกายน 2547 01:31 น. - comment id 78788

    อยากอ่านต่ออะคะ น่าจะหนุกดีนะคะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน