ตราบาป(ตอนจบ)

แมงกุ๊ดจี่

ตราบาป (ภาคสอง)
***********************ภาคสอง**********************
จากวันที่เกิดเหตุ......................    
วันเวลาหมุนช้าเสียจริง  ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
"ปริมประภัสณ์"  ไม่มีความสุขเสียเลย
เธอได้แต่วิตกกังวล  นับเดือนนับวัน  
ให้มันผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว 
เพื่อเธอจะได้ถูกปลดปล่อยให้เป็นอิสระเสียที
........2  เดือนพ้นผ่านมา
"คุณพ่อคะ  "
"ว่าไงยายหนู...."
"ปริมคงหนีตราบาปนี้ไม่พ้นเสียแล้ว" 
ปริมประภัสบอกบิดา  ด้วยความปวดร้าว 
อาดูรเสียยิ่งนัก  เธอปวดร้าวเหลือเกินกับคำตอบ
คำตอบที่เธอรออย่างใจจดจ่อ  
บิดาเธอเองก็เช่นเดียวกับเธอ จากวันเป็นสัปดาห์   
ผ่านมาเป็นเดือน   จนถึงวันนี้  ก็  2  เดือนแล้ว
"ปริม!   ไม่เป็นไรหรอกนะยายหนู  พ่ออยู่ข้างยายหนูนะลูก"
เศรษฐ์มองหน้าบุตรสาวด้วยความสงสาร 
แต่เขาไม่มีทางเลือกแล้ว  เขาต้องทำเพื่อเธอ
"คุณพ่อขา......ให้ลูกทำแท้งไม่ได้หรือคะ
คุณลุงหมอก็เก่งแล้วท่านก็รู้เรื่องดี
แล้วการทำแท้งเพราะลูก.......ถูกข่มขืน 
ไม่ผิดกฎหมายไม่ใช่หรือคะ"   
ปริมประภัสณ์  สะอึ้นในลำคอ 
 เธอเจ็บปวดเกินจะบรรยายให้ใครรับฟังได้
"พ่อเข้าใจยายหนูนะ  ก็จริงที่ยายหนูบอก"
"แล้วทำไม?   ลูกจะทำไม่ได้คะคุณพ่อ"
"ยายหนู   เด็กเขาไม่ผิดอะไรนะลูก
และเราก็มีศีลธรรมนะลูก  มันเป็นบาปนะลูก"
"ลูกเข้าใจแล้วคะคุณพ่อ"
"พ่อไม่ได้ผลักไสลูกหนูนะ   พ่อรักลูกหนูนะ
และ  "ภัสกร"  เขาก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะลูก
เขามีหน้ามีตา มีชาติตระกูล  และเขาก็เป็นคนดี
ที่เขารังแกลูกวันนั้น  เพราะเขาเมาไม่ได้สติ"
"ไม่ได้สติ  เหรอค่ะ  คุณพ่อ ลูกเลยต้องเป็นแบบนี้"
ปริมประภัสณ์ร้องไห้สะอื้น  ไม่ยอมหยุด 
เธอสับสนเหลือเกิน  เธอถูกเขารังแกเจ็บช้ำปานนี้ 
บิดายังจะผลักไสเธอให้ไปอยู่กับเขาอีกหรือ
เศรษฐ์เดินเข้าไปกอดลูกสาวเค้าไม่ได้จะผลักไสเธอเลย
เขาทำเพื่อรักษาเกียรติของเธอ และเพื่อเด็กที่จะเกิดมา
เมื่อตกลงกันกับลูกสาวเข้าใจดีแล้ว
เศษรฐ์จึงรีบส่งจดหมายไป  หา "ภัสกร"  ทันที 
"ถึงคุณ  ภัสกร  นฤเดชา   
	                   สิ่งที่ผมและลูกสาวกลัว  มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว   
	                   ผมปฏิเสธสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ไม่ได้    หวังว่า....
	                   คุณคงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับผม  และ ลูกสาว
	                   เธอเป็นภรรยาของคุณ  ทั้ง  พฤตินัย  และนิตินัย  
	                   เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว  คุณควรมารับเธอ
	                   ตามที่ได้สัญญากันไว้ 
				      
                                                                             เศรษฐ์              "
อ่านจดหมายจบแล้ว ภัสกร  หลับตา  นั่งนิ่งไปสักครู่  
เขาปฏิเสธได้เหรอ?  กับเรื่องที่เกิดขึ้น
มันเป็นเรื่องที่ต้องรับผิดชอบ  ทั้งที่ยังไม่ได้ตั้งตัว
ลูกผู้ชายเขาก็ต้องรับผิด  ในสิ่งที่ก่อขึ้น
เขาเองก็อดที่จะโทษตัวเองเสียไม่ได้
หากวันนี้มีสติ  สักนิด  เขาคงไม่ทำเรื่องเลวร้าย
ได้ถึงเพียงนี้   ชีวิตของเขาก็คงไม่ต้องเป็นแบบนี้
ภัสกรมาถึง  "ไร่ภูตะวัน  ไม่สายนัก  เพื่อมารับภรรยา
นึกแล้วเขาก็อดที่จะขำตัวเองเสียไม่ได้  นี่เขามีเมียแล้วหรือ?
"ยายหนู  ยายหนู   คุณภัสกรมาแล้ว"
"ทราบแล้วคะคุณพ่อ  คุณพ่อค่ะ   ลูกขอคุยกับเขาก่อนจะไดหรือไม่คะ"
เศรษฐ์มองหน้าลูกสาวแล้วพยักหน้าให้  
ปริมประภัสณ์นั่งชิงช้าแกว่งไกว  ไปมาอย่างคนใจลอย  
ไปถึงไหนต่อไหนแล้วไม่รู้  ภัสกรยืนสาวสวยเหม่อลอยยิ่งนัก 
ปริมประภัสณ์เธอไม่รู้  เขามายืนข้าง เธอเมื่อไหร่
"เอ่อ......"  ภัสกรส่งเสียงเพื่อให้เจ้าตัวรู้ว่ามีคนมา
ปริมประภัสณ์  หันหลังมามอง  ชายที่จมูกโด่ง 
ใบหน้าคมคาย  ผิวสะอ้าน  แต่งตัวดูภูมิฐาน   
เธอพิจารณา  ใบหน้าลักษณะของเขา
มองเข้าให้ชัด  ในวันเกิดเหตุเธอไม่ได้มองเขาด้วยซ้ำ
นี่หรือซาตาน  ที่รังแกเธอวันนั้น  
ทำไม?  เขาไม่เหมือนซาตาน  ที่ดุร้ายอย่างวันนั้น
เธอมองหน้าเขาแล้วเริ่มสนทนาอย่างรีรอต่อไป
"คุณภัสกร  ดิฉันขอคุยกับคุณก่อนเพื่อ
ที่ดิฉันจะได้ปลอดภัย   ระยะเวลาที่คุณและฉัน
อยู่ร่วมกัน  คุณต้องสัญญาว่าคุณจะไม่แตะต้องตัวฉันเป็นเด็ดขาด
เราจะอยู่ร่วมกันเพียงแต่ในนามเท่านั้น
แม้........เราจะ"    
เธอหยุดสักพัก  ภัสกรเมื่อรู้ทันเขาจึงพูดตัดบทไป
เพื่อไม่ให้เธอลำบากในการพอมันออกมา
"เราจะร่วมกันชดใช้ตราบาปนี้ร่วมกัน"  ภัสกรเอ่ยขึ้น
"ไม่ค่ะ  ไม่ใช่เรา........คุณคนเดียว"  น้ำตาปริมประภัสณ์ซึมออกมา
ทำให้คู่สนทนารู้ว่าเธอรู้สึกอย่างไร
"ครับ  ผมสัญญา  และผมจะดูแลคุณเป็นอย่างดี
และตามสิทธิ์ของภรรยาทุกประการ"
เมื่อทั้งสองคุยกันเข้าใจแล้ว  ภัสกรได้พา  ปริมประภัสณ์ 
ไปใช้ชีวิตอยู่บ้านที่กรุงเทพฯ   หรือจะเรียกว่า...
ปราสาท  ก็ย่อมได้
จากวัน  เป็นคืน  ผ่านไปเป็นเดือน
ภัสกรเขาดูแล  เอาใจใส่ปริมประภัสณ์  
อย่างดีที่สุด   ปริมประภัสณ์เธอก็เริ่มรู้สึกดีกับเขา
ปริมประภัสณ์  เธอเริ่มที่จะรักเขาแล้ว
จากการดูแลเอาใจใส่ของเขา  
ฝ่ายภัสกร  เองก็เริ่มมีความรู้สึกพิเศษ 
ที่อยากดูแลเอาใจ   และคอยมองภรรยาของตน
เขาก็เริ่มแปลกใจความรู้สึกนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน
ครบกำหนดคลอด  ก็ผ่านมาเดือนที่เก้า  แล้ว
ทั้งคู่ต่างก็รู้แก่ใจว่ารัก  และขาดกันแลกันไม่ได้
และพร้อมที่จะเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์
ทั้งสองได้ลูกสาว   
หน้าตาออกจะเหมือนพ่อ  
"ลูกจ๋า   ถึงแม้ลูกจะไม่ได้เกิดจากความรัก
ของพ่อกับแม่ก็ตาม   แต่ลูกจะเป็นสายใย
เชื่อมโยง  พ่อ กับ  แม่ไว้ด้วยกันนะลูก"
ปริมประภัสณ์เธอมองหน้า  ภัสกร  แล้วก็ยิ้ม
ภัสกร ยิ้มให้ภรรยา  แล้วเขาก็หันไปคุยกับลูกน้อย
วัยแรกเกิด  
"ถึงลูกจะไม่เกิดด้วยความรัก  ก็ตาม
แต่ลูก  เป็นคนทำให้พ่อรักแม่  ได้มากมายเหลือเกิน"
ภัสกร  สบตาลูกสาว
แล้วกล้มจูบลูกสาวแสนอ่อนโยน 
พร้อมทั้งจูมพิตที่หน้าผากภรรยา   อย่างแสนรัก..............
**************************อวสาน***************************
รีบจบไปหน่อยนะคะ    เพราะกลัวจะเป็นนิยายเรื่องยาว
เพราะแทนที่จะเป็นเรื่องสั้น  กับเป็นนิยายเสียนี่ ........				
comments powered by Disqus
  • keekie

    7 ตุลาคม 2547 15:49 น. - comment id 77830

    เริ่มได้เศร้า...
    
    แหม..ตราบาปแบบนี้...
    
    happy enging นะคะ...ชอบชอบ..
    
    เอาอีกอ่ะค่ะ....อิอิอิ...
  • เถ้าธุลี

    9 ตุลาคม 2547 10:57 น. - comment id 77879

    เฮ้อ..อ..อ
    
    อย่างนี้เค้าเรียกว่า ต้นร้ายปลายดี แต่ในชีวิตจริงคงจะเป็นไปได้ยาก
  • แมงกุ๊ดจี่

    11 ตุลาคม 2547 16:28 น. - comment id 77980

    ~_~  
    
    มันน้ำเน่าไปเหรอ?  ค่ะ
    ไว้เรื่องต่อไป  เอาแบบมันๆ  ท่าจะดีนะคะ
    
    ู^__^
    
    +++    อย่างไรก็  ขอบคุณที่อ่าน  นะคะ  +++
    +++       และขอบคุณที่ให้คำแนะนำ      +++
    
    
  • หนูชอบขึ้นดอยค่ะ

    25 ตุลาคม 2547 12:30 น. - comment id 78356

    สนุกดีนะคะ แต่งอีกนะ จะรออ่านค่ะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน