สำหรับผู้ที่รักตนเองมากและรักอย่างถูกต้อง เขาก็จะรักผู้อื่นและปรารถนาดีต่อผู้อื่นอย่างมากด้วย เพราะเขาทราบดีว่า ....ทุกชีวิตต่างมีความทุกข์ ชีวิตของเขาต้องการความสุขความสมหวังอย่างไร ชีวิตของผู้อื่นก็มีความต้องการที่ไม่แตกต่างกัน ชีวิตของเขาไม่ต้องการความทุกข์ความผิดหวังอย่างไร ชีวิตของผู้อื่นก็เป็นดุจเดียวกัน ดังมีคำกล่าวไว้ว่า ...ตนเองนั้นค้นหาไปทั่วทุกทิศ ก็ไม่พบว่าใครจะเป็นที่รักไปมากกว่าตน ..ชีวิตของคนอื่นทั้งหลายก็เป็นที่รักมากของเขาเหมือนกันอย่างนั้น ..เพราะเหตุนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น ฉะนั้น ผู้ที่รู้จักรักตนเองอย่างถูกต้องแล้ว จึงไม่ตระหนี่ไมตรีที่จะมอบให้แก่ผู้อื่น ทั้งไม่รอคอยหรือร้องขอเพื่อจะรับจากผู้ใด แต่มุ่งจะมอบให้ผู้อื่นด้วยความเมตตาอย่างเต็มใจ ความเมตตาจึงเป็นดุจน้ำเย็นที่ชะโลมร่างคนทุกข์โศกให้คลายความเร่าร้อนลงไป ความเมตตาไม่ต้องอาศัยทรัพย์สิ่งของมาเป็นสื่อในการแสดง แต่สามารถแผ่ออกจากใจได้ทันที ..แม้เพียงความคิดว่า ขอให้เขาเป็นสุข...ก็จัดว่าเป็นความเมตตาแล้ว ท่ามกลางสังคมที่ร้อนระอุไปด้วยการแก่งแย่งชิงดี และภัยทั้งหลาย ตลอดจนภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในขณะนี้... ยิ่งเป็นบททดสอบความเมตตาที่มีอยู่ในใจของแต่ละคน เคยหรือไม่ที่ประสบทุกข์ร้อนแล้วเอาแต่คิดอาฆาตพยาบาทต้องการแก้แค้นหรือเอาคืน? เคยหรือเปล่าที่ยินดีเมื่อทราบว่าเกิดความวิบัติแก่คนที่เราไม่ชอบ? เคยหรือไม่ที่ไม่เคยให้โอกาสหรือให้อภัยใครเลย? หากความรู้สึกนึกคิดอย่างนี้มีเกิดขึ้นมาก ความสงบร่มเย็นในการอยู่ร่วมกันก็จะลดน้อยลง ...เหตุการณ์ยกพวกตีกัน ตะลุมบอนต่อสู้กันอย่างไม่คำนึงถึงภัยที่ตนเองและผู้แวดล้อมจะได้รับ รวมทั้งการเอารัดเอาเปรียบกันด้วยวิธีการต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงความทุกข์สุขของผู้อื่น สิ่งเหล่านี้นับวันก็จะมีปริมาณมากขึ้นในสังคมไทย ... แม้จะมีเหตุการณ์ร้ายผุดขึ้นอย่างมากมายตามภาพข่าว แต่ยังนับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย ที่ยังมีสถาบันแห่งความเมตตาเกิดขึ้นเพื่อให้ความสงเคราะห์แก่ผู้คนที่ได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อน เช่น มูลนิธิในพระบรมราชูปถัมภ์ มูลนิธิที่พระบรมวงษานุวงศ์ทรงอุปถัมภ์ มูลนิธิของหน่วยงานราชการ และมูลนิธิของเอกชนต่างๆ เป็นต้น ทุกคราวที่มีภัยพิบัติเกิดขึ้น ...สายธารแห่งความเมตตาเหล่านี้ก็พรั่งพร้อมหลั่งไหลไปเกื้อกูล แปรเปลี่ยนเสียงสะอื้นไห้กลายเป็นเสียงหัวเราะ อานุภาพแห่งความเมตตานี้นอกจากจะดับเพลิงร้ายในใจลงได้แล้ว ยังสามารถชุบความชุ่มชื่นให้เกิดแก่จิตใจของผู้อื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ เพราะความเมตตา คือ ภาวะของจิตที่มีไมตรีมีเยื่อใยคิดเกื้อกูลให้ผู้อื่นได้รับความสุข ปราศจากความอาฆาตพยาบาทนั่นเอง และอย่าว่าแต่กับคนภายนอกเลย บุคคลในครอบครัวนั้นก็จะเปี่ยมด้วยความสุข ..ความเมตตาจึงเป็นรากฐานของรอยยิ้มที่สวยงาม รากฐานของความสุขสงบ ดังมีพุทธภาษิตแสดงไว้ว่า "โลโกปตฺถมฺภิกา เมตตา เมตตาเป็นธรรมเครื่องคุ้มครองโลก" ดุจเกราะแก้วกันไฟใจเร่าร้อน ช่วยผันผ่อนเรื่องร้ายคลายทุกข์เข็ญ คิดกูลเกื้อเผื่อแผ่ไปให้ร่มเย็น ประดุจเป็นธารเมตตาพาสุขเอย ด้วยความปรารถนาดี พี่ดอกแก้ว
4 ตุลาคม 2547 20:36 น. - comment id 77726
อ่ะนะคนอะไรแต่งกลอนก็เก่งก็เพราะสวยงาม ยังแต่งเรื่องสั้นได้ดิอีกอุ้ยน่าอิจฉาคนเก่งจริงๆคิกๆๆๆล้อเล่นเจ้าค๊าเขาชื่นชมต่างหากละคะคิกๆๆๆเก่งจริงพี่สาวเราหุหุหุไปแล้วค่ะทำอาหารตั้งไว้ที่เตาเดียวไหม้คิกๆๆคิดถึงนะคะ
5 ตุลาคม 2547 04:03 น. - comment id 77731
อ่านแล้วสุนทรียดีเหลือเกิน แต่เจอหนูน้ำหวานมาคิกคัก เลยกลายเป้นกินแยมด้วยนิดหน่อย ค่ะ อิอิ
6 ตุลาคม 2547 07:34 น. - comment id 77781
..เรนขออนุญาต ..ก๊อปปี้ .. ติดไว้ที่ ..สมุด ..สีฟ้า.. ..ตอนพักเที่ยง ..จะเปิดกางหรา.. ให้ทุกคนมาอ่าน .. เพราะเป็นงาน .. ที่มีคุณค่า ..ที่สุดเลยคะ.. ..เรน..อยากให้ ทุกคน..ในโลก..ได้อ่านจัง..
6 ตุลาคม 2547 16:09 น. - comment id 77795
@...น้องหวาน เพราะรัก... อย่าอิจฉาเลยค่ะน้องหวาน.. พี่ดอกแก้วพยายามจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ...เพราะเวลาในการทำงานของพี่ดอกแก้วต้องถูกเบียดบังไปเพราะความเจ็บป่วยอีกแล้วค่ะ
6 ตุลาคม 2547 16:11 น. - comment id 77796
@...คุณทิกิ... เป็นงานที่เขียนลงที่เวปบ้านจอมยุทธน่ะค่ะ..เดือนละครั้ง ...ซึ่งเปลี่ยนแนวไปเขียนเป็นร้อยแก้วบ้าง เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้อ่าน ขอบคุณที่มาให้กำลังใจนะคะ
6 ตุลาคม 2547 16:13 น. - comment id 77797
@...เรนน้อย... ตามสบายเลยจ้ะ.. แม้พี่ดอกแก้วจะไม่เคยได้พบน้องเรน แต่ก็มั่นใจว่า น้องเรนเป็นคนที่ยิ้มง่าย... และไม่หวงรอยยิ้ม...
10 ตุลาคม 2547 18:06 น. - comment id 77940
แวะมาอ่านนะครับ พี่ดอกแก้วแต่งได้เพราะมากเลยนะครับ
13 ตุลาคม 2547 22:08 น. - comment id 78050
ขอบคุณค่ะอิงฟ้า...สบายดีนะคะ