. . ผั ด ฉ่ า . . ตอนที่ [ 7 ] ปูลม..
เสือยิ้มมุมปาก
แลไปไกลลิบๆสุดสายตามองเห็นหาดทรายสีขาวสะอาดตา อันที่จริงหาดทรายที่ผัดฉ่าคิดไว้ ก็คล้ายๆกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า เพียงแต่ ณ ปัจจุบันกาล กลับมีรายละเอียดปลีกย่อย..โดยเฉพาะเมื่อก้มลงมองบนผืนทราย เห็นรูเล็กๆเต็มผืนทราย แลราวกับมีใครมือดีนำทราบมาปั้นเป็นก้อนแล้วโปรยลงบนทรายเรียบๆ แท้ที่จริงแล้ว เป็นฝีมือของปูลม เรื่องนี้ผัดฉ่าไม่ได้รู้เองหรอก แต่น้าศิลป์เป็นคนบอกเธอ สักครู่หนึ่งน้าศิลป์ก็เปรยเกี่ยวกับโรคของแม่ผัดฉ่า...เธอไม่เบื่อจะฟัง..อยากจะรู้ให้กระจ่าง
มันมีหลายชื่อนะ น้าเองก็ยังสับสนเลย ถ้าเป็นทางอเมริกันเรียก เอ แอล เอส ถ้าเป็นผู้ดีอังกฤษก็เรียก เอ็ม เอ็นดี ส่วนถ้าฝรั่งเศสก็เรียก มาลาดี เดอ ชารฺโก
...ปูลมวิ่งลงรูไปต่อหน้าต่อตา...น้าศิลป์ถามลอยๆว่า วิ่งแข่งกันไหม .. ไม่ต้องรอคำตอบ ผัดฉ่าวิ่งนำหน้าไปแล้ว .. สายลมปนไอร้อนที่ลอยขึ้นจากพื้นทรายกระทบกับลมหายใจของผัดฉ่า เธอวิ่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าปะทะสายลมแรง เธออยากจะวิ่งไปให้ถึงขอบฟ้าข้างหน้า เท้าสัมผัสทรายเนียนละเอียดอย่างที่แม่เคยทำ .. ผัดฉ่าเคยขี่คอ แต่ตอนนี้แม่ทำไม่ได้ .. ผัดฉ่ายกมือขึ้นปาดน้ำตา ของง่ายแม่ก็ทำไม่ได้แล้ว..แต่แม่เคยทำได้..แต่แม่เคยทำได้..แต่แม่เคยทำได้ .. ผัดฉ่าตะโกนดังก้องขอบฟ้า .. อยากให้ผู้อื่นรับรู้
เธอวิ่งไปเรื่อยๆ จวบจนเมื่อเข่าอ่อนเปลี้ยนหมดแรง เธอทรุดนั่งลงบนพื้นทราย เหงื่อไหล่โทรมกาย ปลายขาสั่นระริกตามจังหวะสะอึกสะอื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลริน เธอร้องไห้อย่างไม่อายใคร ใครคนนึงเดินมาโอบไหล่เธอ พร้อมกับใครอีกคนนึงที่ลูบคลำศีรษะของเธออย่างอ่อนโยนและเอ็นดูยิ่ง
ฉ่าเอ้ย..น้ำตาท่วมรูปูกันพอดี
ใช่ๆ ตาก็ว่างั้นแหละ ฮ่าๆๆ
...ถ้ามองจากบนโรงแรม ก็จะเห็นคนสามคนเดินเรียงหน้ากระดาน โดยอีกคนหนึ่งขี่คอ..แกว่งขาสลับไปมาอย่างมีความสุข